EP.1785 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ เจนทริ วิภาวดี THE GENTRY Vibhavadi
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo วันนี้เรามีโครงการพิเศษมาฝากกันค่ะ กับ Pool Villa สุดหรู THE GENTRY วิภาวดี จาก SC ASSET โครงการตั้งอยู่ในซอยวิภาวดี 62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ห่างจากถนนใหญ่วิภาวดี – รังสิต เพียง 400 เมตร เชื่อมถนนเส้นหลักได้ 2 เส้นทาง คือ ถนนพหลโยธิน และ ถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัช ถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีปทุม เพียง 3 กม. และ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีราชภัฏพระนคร เพียง 3.2 กม.
เป็นย่านที่ครบครันด้วยแหล่งชอปปิง, สถานศึกษา และโรงพยาบาล ทั้ง IT Square, Big C แจ้งวัฒนะ, The Avenue แจ้งวัฒนะ, Central แจ้งวัฒนะ, ม.เกษตรศาสตร์, ม.ศรีปทุม, รพ.วิภาวดี, รพ.เปาโล เกษตร และ ยังอยู่ใกล้แหล่งงาน ทั้ง ศูนย์ราชการฯ, กรมการกงสุล, สนามบินดอนเมือง และ Impact เมืองทองธานี อีกด้วยค่ะ
เดอะ เจนทริ วิภาวดี เป็น Pool Villa หรู 3 – 4 ชั้น สไตล์ Modern Luxury บนพื้นที่โครงการขนาด 3 – 3 – 87 ไร่ เป็นส่วนตัวเพียง 10 ยูนิต กับแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินขนาด 70 – 142.3 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 433 – 593 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 – 5 ห้องนอน, 5 – 7 ห้องน้ำ, สระว่ายน้ำส่วนตัว, Court Yard พร้อมลิฟต์ส่วนตัว*
ออกแบบจากแนวคิด Simplistic Design – High Taste เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วย ‘รสนิยม’ จนกลายมาเป็น Urban Sanctuary Villa วิหารใจกลางเมือง ซึ่งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ประกอบด้วย สวนพักผ่อน, Main Gate, CCTV รอบโครงการ, CCTV ภายในบ้าน, สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic, Video Door Phone, เข้า – ออกระบบ Smart Pass และ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ราคาเริ่มต้นที่ 27.9 – 72 ล้านบาท
24 – 25 ต.ค. นี้ เปิดจองวิลล่าหรูซีรี่ส์ใหม่ พร้อมสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว เอกสิทธิ์เฉพาะ 10 ครอบครัวเท่านั้น เริ่ม 27.9 ล้าน*
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ : https://bit.ly/32lQa1G
บ้าน THE GENTRY ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
THE GENTRY วิภาวดี
THE GENTRY พัฒนาการ
THE GENTRY เอกมัย-ลาดพร้าว
THE GENTRY สุขุมวิท
ชื่อโครงการ | เดอะ เจนทริ วิภาวดี THE GENTRY Vibhavadi |
เจ้าของโครงการ | เอสซี แอสเสท / SC ASSET |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 3 – 3 – 87 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 10 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 70 – 142.3 ตร.ว. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 433 – 593 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 – 5 ห้องนอน 5 – 7 ห้องน้ำ สระว่ายน้ำส่วนตัว และ court yard พร้อมลิฟต์ส่วนตัว* |
ที่จอดรถทั้งหมด | 4 ที่จอดรถ |
โซน | วิภาวดี |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยวิภาวดีรังสิต 62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน* |
ปีที่สร้างเสร็จ | โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 |
ราคา | เริ่มต้น 27.9 – 70 ล้านบาท* (ก.ย. 63) |
ค่าส่วนกลาง | 99 บาท/ตร.ว./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | The Gentry Vibhavadi พูลวิลล่าหรู 3 ชั้น เอกสิทธิ์พิเศษเพียง 10 ครอบครัว จากถนนใหญ่วิภาวดี – รังสิต เพียง 400 เมตร ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีชมพู ฟังก์ชัน 4 – 5 ห้องนอน, 5 – 7 ห้องน้ำ, สระว่ายน้ำส่วนตัว, Court Yard พร้อมลิฟต์ส่วนตัว* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซ.วิภาวดีรังสิต 62 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
พิกัด : https://goo.gl/maps/FhAj2dRFrF8mMLUp9
ทำเลที่ตั้ง โครงการ THE GENTRY วิภาวดี ตั้งอยู่ในทำเลย่านที่พักอาศัย เป็นส่วนตัวในซอยวิภาวดี – รังสิต 62 จากถนนวิภาวดี – รังสิต ฝั่งขาเข้าเพียง 400 เมตร สามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ (ซอยแจ้งวัฒนะ 1) และถนนใหญ่พหลโยธิน (ซอยพหลโยธิน 49/1) ได้ค่ะ ซึ่งจุดที่ตัวโครงการตั้งอยู่นั้น ยังเป็นทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้าและอยู่ใกล้ทางด่วน เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด
โดยตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีปทุม เพียง 3 กม. และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีราชภัฏพระนคร เพียง 3.2 กม. อีกทั้งอยู่ใกล้แหล่งงานและสาธารณูปโภคอย่างครบวงจร ทั้ง Central แจ้งวัฒนะ, ศูนย์ราชการฯ, สนามบินดอนเมือง รวมถึง เมืองทองธานี ที่นับว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญของย่านแจ้งวัฒนะเลยก็ว่าได้
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางหลัก ๆ สามารถใช้ได้ทั้ง ถนนวิภาวดี – รังสิต, ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนพหลโยธิน ค่ะ โดยถนนทั้ง 3 เส้นนี้ถือเป็นถนนเส้นหลักสำหรับการใช้เดินทางเข้าเมืองและออกเมือง
อย่างถนนวิภาวดี – รังสิตนั้นจะวิ่งคู่ขนานกับถนนพหลโยธิน แต่จะมีช่องการจราจรที่กว้างขวางกว่า และไม่มีแยกไฟแดง สามารถใช้วิ่งไปทางจตุจักร และตรงเข้าสู่อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้ไม่ยาก และเป็นทางหลักที่ใช้วิ่งไปรังสิต – อยุธยา อีกทั้งสามารถเลือกใช้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปเชื่อมกับทางด่วนสายอื่น ๆ ได้
ส่วนถนนแจ้งวัฒนะจะเป็นเส้นที่วิ่งผ่านศูนย์ราชการฯ ไปทางตะวันตกจนถึงปากเกร็ด เชื่อมต่อกับถนนชัยพฤกษ์ออกไปทางนนทบุรี ส่วนฝั่งตะวันออกจะวิ่งไปทางวงเวียนหลักสี่ เชื่อมต่อกับถนนรามอินทราออกไปทางมีนบุรีค่ะ
และมีอีก 2 ตัวช่วยในการเดินทาง นั่นก็คือ ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัช เพื่อหลบเลี่ยงการจราจรชั้นล่าง สามารถใช้วิ่งไปลงแถบพระราม 9 ได้ในเวลาราว ๆ ครึ่งชม. จะไปทาง สาทร, เอกมัย หรือ บางนา ก็สะดวกค่ะ
ทางด่วน โครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ เพียง 2.6 กม. เท่านั้นค่ะ โดยให้เราใช้ซอยแจ้งวัฒนะ 1 ไปออกถนนแจ้งวัฒนะ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดี – รังสิต
และยังอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ขั้นที่ 2 เพียง 7.7 กม. ใช้เวลาวิ่งไม่เกิน 15 นาทีก็ได้ขึ้นทางด่วนแล้ว
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการออกมาที่ถนนแจ้งวัฒนะ จะมีทั้ง รถเมล์, รถตู้สายต่าง ๆ รวมถึง วินมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ วิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา สามารถเรียกรถได้สะดวกมาก นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่ออำนวยความสะดวกได้ค่ะ
อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีปทุม เพียง 3 กม. และ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีราชภัฏพระนคร เพียง 3.2 กม. ถือว่าสะดวกพอสมควรสำหรับวันที่ต้องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยรถไฟฟ้า 2 สายนี้จะเชื่อมต่อกันที่สถานีวงเวียนหลักสี่/วัดพระศรีมหาธาตุ สามารถนั่งเชื่อมต่อไปถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต ต่อเข้าเมืองได้ใน 15 นาทีค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ นอกจากโครงการจะอยู่ในย่านที่สามารถเดินทางได้สะดวกแล้ว ยังอยู่ใกล้แหล่งงาน และมีสาธารณูปโภครองรับอย่างครบครันถึง 3 โซนเลยค่ะ ทั้งโซน แจ้งวัฒนะ, รามอินทรา และห้าแยกลาดพร้าว – รัชโยธิน
(ที่มาภาพ : https://www.wongnai.com, http://www.siamfuture.com, https://www.prachachat.net)
สำหรับเส้นแจ้งวัฒนะจะมีทั้ง Big C แจ้งวัฒนะ, The Avenue ที่อยู่ติดกัน เป็น Community Mall ภายในมีโรงหนังของ Major ด้วย, Tesco Lotus, Makro ตรงปั๊ม Shell และ Central แจ้งวัฒนะ ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้อีกจุดนึงก็จะอยู่ที่ เมืองทองธานี เพราะภายในมีทั้ง ศูนย์แสดงสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, โรงแรม,โครงการที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น Outlet, ตลาดเมืองทอง, ศูนย์อาหาร, Impact Arena และ Community Mall อย่าง Bee Hive ค่ะ
อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, ศูนย์ TOT, กรมการกงสุล, IT Square และสนามบินนานาชาติดอนเมือง อีกด้วย หรือถ้าขับไปตรงเส้นรามอินทราก็จะมี Central รามอินทรา, Foodland, Big C, The Promenade และ Fashion Island ก็อยู่ใกล้เหมือนกันค่ะ นับว่าสะดวกสบายพอตัว
ถ้าถนัดเดินห้างในโซนห้าแยกลาดพร้าว – รัชโยธินก็อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ จะมีทั้ง Major รัชโยธิน, Central ลาดพร้าว และ Union Mall ที่กระจุกตัวในแอเรียเดียวกัน
ถ้าเบื่อ ๆ จะขับไปย่านรังสิตก็ไปไม่ยากนะคะ ตรงนั้นจะมี Future Park รังสิต ภายในมีทั้ง Robinson และห้าง Zpell ในเครือ Central พ่วงมาด้วย ในบริเวณใกล้เคียงกันก็มี HomePro, Index Living Mall, Big C, Tesco Lotus และ Major Cineplex รังสิต ถัดลงมาหน่อยก็มีห้าง Zeer รังสิต ฝั่งตรงข้ามก็คือตลาดสี่มุมเมืองค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนรามอินทรา > ถนนแจ้งวัฒนะ > ถนนวิภาวดี – รังสิต > ซอยวิภาวดี – รังสิต 62 > THE GENTRY วิภาวดี
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนรามอินทราช่วง กม.2 ทางฝั่งขวามือจะมี Central รามอินทรา เป็นจุดสังเกตค่ะ
ให้เราชิดขวาและขึ้นสะพานยกระดับข้ามวงเวียนหลักสี่ไปทางปากเกร็ด
จากนั้นเราจะมาลงที่ถนนแจ้งวัฒนะค่ะ ขับตรงไปเรื่อย ๆ
ซอยแจ้งวัฒนะ 1 จะเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถใช้เดินทางเข้าโครงการได้ แต่วันนี้เราจะขอพาไปทางซอยวิภาวดี – รังสิต 62 ค่ะ
พอถึงสะพานยกระดับข้ามแยกหลักสี่ ให้เราชิดซ้ายเอาไว้เพื่อเข้าทางคู่ขนานวิภาวดี – รังสิต
ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนานวิภาวดี – รังสิตค่ะ
เราวิ่งบนทางคู่ขนานวิภาวดี – รังสิตไปสักพัก เราจะเห็นจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์อยู่ทางฝั่งขวามือค่ะ ให้เราชิดซ้ายเอาไว้
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวิภาวดี – รังสิต 62
จากทางคู่ขนานวิภาวดี – รังสิตเข้ามาภายในซอย 62 ประมาณ 400 เมตรก็จะเห็นโครงการ THE GENTRY วิภาวดี อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ
เราขับตรงเข้าไปในซอยวิภาวดี – รังสิต 62 บรรยากาศภายในซอยมีความเป็นส่วนตัว มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น 2 ข้างทางดูร่มรื่นน่าอยู่
ก่อนถึงโครงการทางฝั่งขวามือจะมี 7 – 11 อยู่ 1 สาขาค่ะ
ตรงไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ทางฝั่งขวามือก็คือโครงการ THE GENTRY วิภาวดี นั่นเอง
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โครงการ THE GENTRY วิภาวดี เป็น Pool Villa เอกสิทธิ์เพียง 10 ยูนิต บนพื้นที่โครงการขนาด 3 – 3 – 87 ไร่ ในซอยวิภาวดี – รังสิต 62 ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ด้วยบริบทโดยรอบส่วนใหญ่นั้นเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ และมีความสะดวกตรงที่พอเดินออกมาหน้าโครงการไปทางซ้ายมือก็เจอ 7 – 11 แล้ว
ตอนนี้เรามาอยู่ที่บริเวณหน้าโครงการกันแล้วค่ะ เดี๋ยวเรามาเดินดูบริบทโดยรอบโครงการกันสักหน่อยว่ามีบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง
จากหน้าโครงการหันไปทางฝั่งขวามือ ตรงเข้าไปในซอยวิภาวดี – รังสิต 62 จะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมดเลยค่ะ
บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบทีเดียว ส่วนใหญ่คนที่เดินทางเข้ามาก็จะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในทำเลนี้ ซอยทางฝั่งซ้ายมือนี้ (วิภาวดี – รังสิต 62 แยก 3)เป็นทางที่สามารถใช้ทะลุไปยังซอยแจ้งวัฒนะ 1 ออกถนนแจ้งวัฒนะได้ค่ะ
จากหน้าโครงการเราหันไปทางฝั่งซ้ายมือ เดินย้อนกลับไปที่ถนนวิภาวดี – รังสิต ข้างหน้าเรานี้เองจะเป็นสี่แยกค่ะ
ตรงนี้เองจะมี 7 – 11 อยู่ 1 สาขาเปิดตลอด 24 ชม. สามารถเดินมาได้สะดวกมาก ซึ่งซอยข้าง 7 – 11 นี้เอง (วิภาวดี – รังสิต 62 แยก 4) จะเป็นทางที่สามารถใช้ทะลุไปยังซอยพหลโยธิน 49/1 เพื่อออกถนนพหลโยธินได้
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ THE GENTRY วิภาวดี เป็น Pool Villa หรู 3 – 4 ชั้น สไตล์ Modern Luxury ออกแบบจากแนวคิด Simplistic Design – High Taste เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วย ‘รสนิยม’ ผสานความโมเดิร์น เพิ่มความคราฟต์ในดีเทลของวัสดุอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของหินอ่อน ที่หรูหราและหนักแน่นในเวลาเดียวกัน เปรียบดั่ง Urban Sanctuary Villa วิหารใจกลางเมือง
::: ทางเข้าโครงการ :::
ทางเข้าโครงการ THE GENTRY วิภาวดี เป็นซุ้มขนาดใหญ่ ออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury ใช้สีดำ โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบ Asymmetry และพื้นผิวของ Material ตกแต่งด้วยระแนงไม้ เส้นสายสี Rose Gold และ Lighting โดยแบ่งฝั่งขาเข้าฝั่งซ้าย ขาออกฝั่งขวา มีซุ้มรปภ. อยู่ตรงกลางพร้อมกล้อง CCTV
สำหรับการเข้า – ออกโครงการจะใช้ระบบ Smart Pass เปิด – ปิดรั้วเลื่อนอัจฉริยะแบบอัตโนมัติโดยใช้เทคโนโลยี RFID ค่ะ
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
จากทางเข้าเชื่อมต่อเข้ามาภายในโครงการเป็นถนนหลักขนาดใหญ่ตัดตรงเข้าไปภายในโครงการ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือนี้คือ Sales Gallery ค่ะ ทางโครงการเลือกใช้แบบบ้าน Hudson ขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยต้อนรับอยู่ สามารถ Walk In เพื่อชมบ้านตัวอย่างหรือทำการนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ https://www.scasset.com/th/house/the-gentry-vibhavadi/
หน้าตาแบบบ้าน HUDSON พื้นที่ใช้สอย 593 ตร.ม. Pool Villa หรูสไตล์ Modern Luxury ขนาด 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
อีกฝั่งหนึ่งคือแบบบ้าน TRIBECA พื้นที่ใช้สอย 433 ตร.ม. Pool Villa หรูสไตล์ Modern Luxury ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
กลับมาที่ถนนหลักค่ะ เราจะเดินไปบริเวณด้านหลังโครงการกันต่อ พื้นถนนภายในโครงการใช้ Stamp Concrete ทั้งหมดเลย สังเกตทางทั้ง 2 ฝั่งของถนนลงต้นไม้เพื่อให้ร่มเงาขนาดใหญ่ บรรยากาศดูร่มรื่นน่าอยู่ทีเดียว
ภายในโครงการมีบ้านเพียง 10 ยูนิตเท่านั้นค่ะ จะเห็นว่าโครงการนี้มีขนาดเล็กและเป็นส่วนตัวมาก
บริเวณท้ายโครงการเป็นส่วนของสวนพักผ่อนที่ลูกบ้านทั้ง 10 ครอบครัวสามารถมานั่งเล่นพักผ่อนได้
ภายในสวนก็จะมีทั้งศาลาพักผ่อน และม้านั่งรูปหินถูกจัดอยู่ตามมุมต่าง ๆ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
บ้านภายในโครงการเป็น Pool Villa สไตล์ Modern Luxury มีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงานจะพาท่านผู้อ่านไปชมรายละเอียดของบ้านตัวอย่าง HUDSON พื้นที่ใช้สอย 593 ตร.ม. กับฟังก์ชันขนาด 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 1 สวน+สระว่ายน้ำส่วนตัว 1 ลิฟต์ส่วนตัว 4 ที่จอดรถ และ TRIBECA พื้นที่ใช้สอย 433 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 1 สวน+สระว่ายน้ำส่วนตัว 3 ที่จอดรถ ไปชมกันเลยค่า
::: แบบบ้าน HUDSON ขนาด 593 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 หน้าบ้านส่วนแรกเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดรถได้ถึง 4 คันในร่ม เชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน ภายในบ้านส่วนแรกเป็น Foyer เชื่อมต่อกับพื้นที่โถง Living Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume Ceiling และ ห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยัง ห้องครัว, ห้องน้ำ (Powder Room), โถงบันได, โถงลิฟต์ และ ห้องนอน 5
ซึ่งในห้องครัวจะมีประตูสามารถเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านและห้องแม่บ้านได้ค่ะ นอกจากนี้ส่วน Living Area จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Outdoor ของบ้าน เป็นส่วนของสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัว
แปลนชั้น 2 ออกแบบให้เป็น Semi – Private Zone ส่วนแรกเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยัง ห้องนอน 3, ห้องนอน 4, ห้องนั่งเล่นชั้น 2 พร้อม Semi – Outdoor Party Court, ห้องน้ำ (Powder Room) และ Laundry
แปลนชั้น 3 ประกอบด้วย ห้องนอน 2, Master Bedroom, Mini Bar และ ห้องพระ ห้องนอนในบ้านหลังนี้ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ทั้งหมดเลยค่ะ
แบบบ้าน HUDSON ถูกออกแบบให้เป็น Pool Villa ที่ดูโอ่อ่า หรูหรา คงความทันสมัยด้วยรูปทรงและ Material ของบ้านสไตล์ Modern Luxury เน้นใช้สีขาว – เทา ตัดกับระแนงไม้สีน้ำตาลทำให้บ้านดูอบอุ่น
ส่วนแรกเป็นโรงจอดรถค่ะ สามารถจอดรถได้ในร่มทั้งหมดถึง 4 คันเลย พื้นเป็น Slab on Beam ปูกระเบื้องสลับแนวแบบลายอิฐ ฝ้าเพดานมีดวงโคมดาวน์ไลต์ติดมาให้ช่อง 4 ช่อง ช่องละ 3 ดวง นอกจากนี้ก็ยังมีตู้ติดบานเกล็ดสำหรับเก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถหรืออุปกรณ์ทำสวนมาให้ด้วย
โครงการได้ติดตั้งกล้อง CCTV มาให้กับตัวบ้านด้วยทั้งหมด 5 ตัวค่ะ โดยจะมีอยู่ที่ โรงรอดรถ, บริเวณสวน และพื้นที่ภายในบ้าน
จากโรงจอดรถเชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านขนาดใหญ่ พื้นปูด้วยกระเบื้องจาก Cotto Italia อย่างสวยงาม โดยเลือกผิวชนิดด้านเพื่อกันลื่น เพดานในส่วนเฉลียงนี้ออกแบบให้มีฝ้าสูงแบบ Double Volume ทำให้ทางเข้าดู Grand มากยิ่งขึ้น
ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเปิดคู่บานไม้สักดูภูมิฐาน ติด Digital Door Lock แบบ 2 ระบบ ใช้การสแกนลายนิ้วมือและการกด Password ของ Samsung ให้
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer Hall ค่ะ เป็นโถงต้อนรับก่อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถทำ Built – in ที่ผนังด้านข้างเพื่อเป็นตู้เก็บรองเท้า, ตู้เก็บร่ม และของใช้อื่น ๆ เพื่อให้สามารถหยิบก่อนออกนอกบ้านได้สะดวก โดยพื้นที่ส่วน Foyer จะมีระดับเดียวกับเฉลียงภายนอก ปูพื้นด้วยวัสดุแบบเดียวกัน
ในส่วน Foyer นี้ทางโครงการจะติด Video Call Phone และหน้าจอ Touch Screen ควบคุมสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic มาให้
จาก Foyer เชื่อมต่อกับ Living Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ดูหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนจาก Cotto Italia B.CHEZZA STATUARIO ผนังก่ออิฐ Q.con ฉาบปูนติดวอลล์เปเปอร์ และฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง โดยชั้นล่างนี้ฝ้าจะสูงถึง 3.2 เมตรเลยค่ะ โดยจะติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ทั้งหมด
มาดูส่วนแรกกันค่ะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีฝ้าเพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume ถึง 7.3 เมตร สร้างความโอ่อ่าให้กับพื้นที่ภายในบ้าน ประดับด้วย Chandelier สวย ๆ ก็จะทำให้บ้านดู Complete ได้สบาย ๆ
บ้านตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่ของห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่ทีเดียว สามารถจัดวางโซฟาได้หลากหลายรูปแบบ
ผนังฝั่งตรงข้ามสามารถทำ Built – in เป็นผนังตกแต่งสวย ๆ เป็นได้ทั้งตู้เก็บของและชั้นวางทีวี ด้วยพื้นที่ของบ้านเราสามารถใช้ทีวีจอขนาด 72 – 82 นิ้วได้เลยนะคะ เวลานั่งทานอาหารอยู่ด้านหลังก็ยังสามารถดูทีวีด้วยได้
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารแบบ Open Plan ค่ะ แต่ดูเป็นสัดส่วนด้วยฝ้าเพดานที่มีระดับต่างกัน
บ้านตัวอย่างจัดชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย เราจะจัดขนาด 10 ที่นั่งก็ยังทำได้
โดยออกแบบให้พื้นที่ฝั่งผนังทึบเป็น Counter Bar สำหรับเตรียมเครื่องดื่มและพักอาหารจากห้องครัวก่อนตักเสิร์ฟ บ้านไหนที่ชอบทำอาหารฝรั่ง หรืออยากเชิญ Chef Table มาจัดดินเนอร์ส่วนตัว ก็สามารถออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นครัวฝรั่งสวย ๆ ได้ค่ะ
จากห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นมีชุดประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียม Powder Coat ติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเปิดเชื่อมออกมายังสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัวได้
บ้านตัวอย่างจัดสวนน้ำตกพร้อมที่นั่งม้าหินมาให้ดูเป็นไอเดีย
สระว่ายน้ำของบ้านหลังนี้มีขนาด 2.5 x 7.45 เมตร เป็นสระระบบ Skimmer ระบบน้ำเกลือค่ะ
ข้างสระก็มีที่นั่งพักสำหรับแช่น้ำ พร้อม Jacuzzi ช่วยนวดตัว ส่วนนี้ทางโครงการออกแบบระแนงไม้ช่วยบังสายตาจากบริเวณโรงจอดรถเอาไว้ให้ เพื่อทำให้รู้สึกว่าดูไม่เปิดเผยจนเกินไปนัก
กลับเข้ามาภายในบ้าน อีกฝั่งหนึ่งของบ้านนั้นจะเชื่อมต่อไปยัง ห้องครัว, ห้องน้ำ, โถงบันได, โถงลิฟต์ และ ห้องนอนชั้นล่างค่ะ
ขนาดของห้องครัวสามารถทำเคาน์เตอร์รูป L Shape แล้วยังเหลือพื้นที่ในการเตรียมอาหารค่อนข้างกว้างขวาง สามารถใช้งานครัวได้สะดวก พื้นในห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ผนังฉาบเรียบทาสี ประตูทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเชื่อมออกไปยังลานซักล้างและห้องแม่บ้านที่อยู่หลังบ้านค่ะ
ตัวอย่างเคาน์เตอร์ครัวที่ตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย มีพื้นที่พอสำหรับใส่เตาอบและเครื่องล้างจานได้ โดยห้องนี้จะมีหน้าต่างบานเลื่อนเป็นช่องแสงและทางระบายอากาศขนาดใหญ่ 1 บาน ถ้าจะวางอ่างล้างจานจุดนี้จะเป็นจุดที่เหมาะสมค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับรองรับการใช้งานในพื้นที่ส่วนกลางและรองรับแขก ทั้งพื้นและผนังภายในห้องตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ดูเรียบหรูมีระดับ ผนังด้านหลังติดกระจกเงาบานใหญ่ให้เต็มผนัง พร้อมก่อ Lower Wall ให้สามารถวางของเพิ่มเติมได้ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดกระจกฝ้าเป็นช่องแสงและทางระบายอากาศ 1 บาน
สังเกตที่พื้นของห้องน้ำจะไม่ลดระดับหรือก่อธรณีขึ้นมา แต่มีการวางรางน้ำเสมอพื้นแทน เพื่อให้ปลอดภัยต่อการใช้งานทั้งเด็กและผู้สูงอายุ
สำหรับสุขภัณฑ์ที่ใช้ภายในห้องน้ำจะเป็นของ Kohler, Grohe และ American Standard ค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปพร้อมก๊อกน้ำ มีลิ้นชักสำหรับเก็บของใต้เคาน์เตอร์ได้
แน่นอนว่าบ้านระดับนี้ต้องใช้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติอยู่แล้ว โดยติดตั้ง Remote เอาไว้ที่ผนังด้านข้าง
หันมาอีกฝั่งหนึ่งของโถง เป็นส่วนของ ห้องนอนชั้นล่าง, โถงลิฟต์ และห้องเก็บของใต้บันได
สำหรับบ้านหลังนี้ห้องนอนชั้นล่างไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นห้องผู้สูงอายุเท่านั้นนะคะ เพราะว่าเขามีลิฟต์ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว จะดัดแปลงเป็นห้องอเนกประสงค์เพื่อใช้สำหรับทำงาน, ดูหุ้น, รองรับแขก หรือ อื่น ๆ ได้ตาม Lifestyle ของแต่ละครอบครัวค่ะ โดยพื้นของห้องนี้จะปูด้วย Engineering Wood หนา 20 มม.
หากต้องการจัดให้เป็นห้องนอน พื้นที่ของห้องสามารถรองรับเตียงนอน Queen Size ไปจนถึง King Size ได้เลยค่ะ
ภายในห้องสามารถทำ Walk – in Closet ได้ โดยจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินสีเทา ให้อารมณ์ที่ดูเรียบเท่ วัสดุและสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler และ Grohe ค่ะ
อ่างล้างมือแบบฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ
สำหรับโซนอาบน้ำทำพื้นลดระดับเพื่อกันน้ำไหลย้อน ตรงนี้เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้ค่ะ
ที่ผนังทำชั้นสำหรับวางพวกขวดสบู่ และติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ, จานวางสบู่ และก๊อกสนามมาให้ สังเกตที่ผนังมุมบนมีการเตรียมระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย
ลิฟต์ที่โครงการเลือกใช้เป็นลิฟต์แบบ Eco ของ Mitsubishi สามารถรองรับน้ำหนักได้ 250 กก./เที่ยว
เราขึ้นไปดูพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 2 กันต่อค่ะ เริ่มจากบันไดทางขึ้นใช้โครงสร้าง คสล. ปิดผิวอย่างสวยงามด้วยไม้มะค่า ราวบันไดฝังผนัง มือจับเป็นไม้มะค่าเช่นกัน สังเกตที่ผนังข้างบันไดมีการติดไฟเอาไว้ให้ตามขั้นบันไดด้วย
บริเวณชานพักบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ ช่วยทำให้บรรยากาศภายในโถงบันไดดูโปร่งมากขึ้น ส่วนบันไดอีกไฟลต์จะใช้ราวจับเป็นกระจกนิรภัยดูโมเดิร์น เรียบแต่หรู เราจะเห็นว่าโถงบันไดดูกว้างขวางเป็นพิเศษ เพราะมีความกว้างถึง 1.2 เมตร จึงสามารถเดินขึ้น – ลงสวนกันได้สะดวก
ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป พื้นบ้านจะปูด้วย Engineering Wood ทั้งหมดค่ะ ฝ้าเพดานก็ยังดีไซน์มาสูงถึง 3 เมตร ส่วนแรกที่เราเจอจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยัง ห้องนอน 3, ห้องนอน 4, ห้องนั่งเล่นชั้นบน, ห้องซักรัด และห้องน้ำ ออกแบบโถงทางเดินให้เปิดโล่งเชื่อมต่อกับ Living Area ของชั้นล่าง โดยใช้ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย
แม้ว่าเราจะอยู่ที่ชั้น 1 หรือชั้น 2 เราก็ยังสามารถเห็น Activities ที่เกิดขึ้นภายในบ้านของคนภายในครอบครัวได้ค่ะ
เราจะเดินไปดูฟังก์ชันทางฝั่งขวามือของโถงทางเดินกันก่อน เริ่มจากห้องนอน 4 ตามด้วยห้องนั่งเล่น
และแน่นอนว่าบ้านระดับนี้ พื้นที่ของห้องนอนทุกห้องจะต้องกว้างขวาง สามารถวางเตียง King Size ได้ลงตัว
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนและโต๊ะข้างมาให้ดูเป็นไอเดีย เห็นพื้นที่ใช้สอยโดยรอบห้องยังสบาย ๆ อยู่ค่ะ
ผนังบริเวณหน้าทางเข้าห้องน้ำสามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้
การวางแปลนของห้องน้ำมีการแบ่งส่วนแห้ง – ส่วนเปียกให้เหมือนเดิม สังเกตพื้นและผนังภายในห้องน้ำจะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติที่มีสีสันและลวดลายแตกต่างกันในแต่ละห้อง
ห้องน้ำชั้นบนจะอัปเกรดอ่างล้างมือให้เป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่
โถสุขภัณฑ์พร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน
โซน Shower พร้อม Hand Shower และราวปรับระดับ
ความพิเศษอย่างหนึ่งของบ้านหลังนี้ก็คือห้องนั่งเล่นชั้น 2 ขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะใช้เป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของครอบครัวได้แล้ว ยังสามารถรองรับการจัดปาร์ตี้ได้อีกด้วยค่ะ
ในวันปกติ ห้องนี้จะเป็นห้องพักผ่อนครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมาก เพราะพื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่ ดูจากขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งได้เลยค่ะ ผนังรองรับจอทีวีขนาด 82 นิ้วได้ แล้วแต่เลยว่าชอบดู Netflix จอใหญ่ขนาดไหน ส่วนวันที่จัดปาร์ตี้ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นมุมนั่งร้องคาราโอเกะได้ตามสบาย
สำหรับสาย Active จะจัดห้องนี้ให้เป็น Gym ส่วนตัวก็ทำได้ค่ะ โดยจากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับระเบียงขนาดใหญ่หรือ Semi – outdoor Party Court ได้
แน่นอนว่าการจัดปาร์ตี้นั้นต้องมาคู่กับการปิ้งย่าง BBQ ด้วยค่ะ พื้นที่ระเบียงส่วนนี้คือเหมาะมากเหมือนการอยู่ในพื้นที่ Outdoor เพราะมีฝ้าเพดานที่สูงถึง 6.5 เมตรเลย
เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ทางโครงการจึงออกแบบให้บ้านแต่ละส่วนยังสามารถ Connect ถึงกันเพื่อสร้างสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้ยังสามารถมองเห็นกันตลอดได้ อย่างพื้นที่ระเบียงตรงนี้ มองไปก็จะเห็นระเบียงของห้องนอนชั้น 2, ห้องนอนชั้น 3 รวมถึงพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำชั้น 1 คือถูกใช้เป็นวิวได้พอดีค่ะ
มีดีเทลเล็ก ๆ ที่น่าสนใจของระเบียงนี้ก็คือ Facade ที่สามารถเลื่อนเปิด – ปิดด้วยสวิตช์และ Remote Control วันไหนที่เราอยากได้ความเป็นส่วนตัว หรือต้องการจัดปาร์ตี้ไม่ให้ดูรบกวนเพื่อนบ้านมากเกินไปนัก ก็สามารถเลื่อน Facade ปิดแบบนี้ได้ค่ะ
กลับเข้ามาภายในโถงทางเดิน เราจะไปดูห้องทางฝั่งซ้ายของโถง เป็นห้องนอน 3, ห้องน้ำ และห้องซักรีด ค่ะ
พื้นที่ภายในห้องนอน 3 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องนอน 4 ประมาณหนึ่งค่ะ ส่วนแรกของห้องเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
โดยพื้นที่ส่วนนี้เราสามารถทำ Built – in เป็นตู้เสื้อผ้าได้พอดี
ห้องน้ำของห้องนอน 3 จะเหมือนกับห้องน้ำของห้องนอน 4 เลยค่ะ ต่างกันแค่กระเบื้องที่ใช้ในการตกแต่งและความกว้างของห้องเท่านั้น
โถสุขภัณฑ์ มี Lower Wall ด้านหลังและราวแขวนผ้าเช็ดตัวติดมาให้
โซน Shower จะมีชั้นวางสบู่เพิ่มขึ้นมาให้
จากโถงทางเดินเข้ามาภายในส่วนพักผ่อนที่อยู่ติดกับระเบียงฝั่งสวน
พื้นที่ห้องสามารถวางเตียง King Size และโต๊ะข้างได้ลงตัวค่ะ
ยังเหลือพื้นที่ใช้สอยรอบ ๆ ห้องสามารถวางโต๊ะทำงานเพิ่มได้
พื้นที่ข้างระเบียงก็เหมาะจะวางเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนสักตัว
ระเบียงของห้องนอน 3 มองออกไปก็จะเห็นทั้ง Semi – outdoor Party Court และพื้นที่สวนชั้นล่างได้ค่ะ
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
เดินผ่านหน้าห้องนอน 3 ไปจะมีโถงทางเดินไปยังห้องน้ำชั้น 2 และห้องซักรีด
เพื่อรองรับการใช้งานของห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือแขกคนสนิท ทางโครงการจึงออกแบบให้มี Powder Room อีก 1 ห้องบนชั้น 2 เพื่อความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเดินลงไปถึงชั้น 1 ค่ะ
อีกทั้งยังออกแบบให้ห้องซักรีดอยู่บนชั้น 2 เนื่องจากว่าห้องนอนส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้น 2 – 3 ไม่จำเป็นต้องขนเสื้อผ้าผ่าน Living Area ลงไปที่ลานซักล้างหลังบ้านให้ดูยุ่งยาก สังเกตว่าทางโครงการได้ออกแบบให้ห้องนี้มีช่องแสงขนาดใหญ่พิเศษแม้จะเป็น Service Area เพื่อให้สามารถตากผ้าภายในห้องได้
นอกจากนี้ยังเป็นส่วนที่เราสามารถทำ Pantry สำหรับการเตรียมอาหารหรือการเก็บล้างเพื่อรองรับการใช้งานห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 ได้อีกด้วย
เราขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ
ภาพจากโถงบันไดมองขึ้นไปยังโถงทางเดินบนชั้น 3
บนชั้น 3 นี้เป็นชั้นที่ Private มากที่สุดของบ้าน จะประกอบไปด้วย Master Bedroom, ห้องนอน 2, Mini Bar และห้องพระ เดี๋ยวเราไปดู Master Bedroom ที่อยู่ทางฝั่งขวามือของโถงกันก่อนค่ะ ตำแหน่งของห้องจะอยู่ตรงกับหน้าลิฟต์เลย
Master Bedroom ของบ้านหลังนี้ ถูกออกแบบให้มีความ Grand สมกับเป็นห้อง Master จริง ๆ ค่ะ เราเดินตรงเข้าไปภายในห้องจะเป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ ผ่าน Walk – in Closet และห้องน้ำในตัวก่อน
นอกจากนี้ภายใน Master Bedroom จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ติดตั้งหน้าจอ Touch Screen ของระบบ Magnetic มาให้
Walk – in Closet ที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย คิดว่าพื้นที่ขนาดนี้น่าจะถูกใจคุณผู้หญิงทีเดียว
ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่แบบ Full Function ค่ะ
มีอ่างล้างมือแบบ His & Her ฝังบนเคาน์เตอร์หินอย่างสวยงาม
อ่างล้างมือที่ได้เป็นของ Cotto ค่ะ ส่วนพวกอุปกรณ์ก๊อกน้ำเป็นของ Grohe
อ่างอาบน้ำวนของ Bathroom Design พร้อมชุดอุปกรณ์ก๊อกน้ำ – ฝักบัวครบชุด มีระบบ I – Command X สามารถสั่งการผ่าน Application บน Smartphone ได้
อีกฝั่งแบ่งโซนโถสุขภัณฑ์และโซน Shower ด้วยกระจกนิรภัยบานเปลือย
สำหรับโถสุขภัณฑ์ของ Master Bedroom นั้นอัปเกรดให้เป็นระบบอัตโนมัติของ Villeroy & Bosh
ชุด Rain Shower และ Hand Shower ใช้ของ Grohe ค่ะ ใช้ระบบ Thermostat
เข้ามาถึงส่วนพักผ่อนเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงสามารถแบ่งมุมจัดเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้ จะเห็นว่าห้องนี้มีช่องแสงขนาดใหญ่โดยเฉพาะฝั่งที่หันไปทางสวน เพื่อให้คนในครอบครัวสามารถมองเห็นกันได้ค่ะ
เตียงนอนขนาดที่เหมาะสมจะเป็นเตียง King Size ค่ะ สามารถวางโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่งได้สบาย
มุมห้องนั่งเล่นส่วนตัวค่ะ ถือว่ามีขนาดใหญ่ทีเดียว
ซึ่งจากมุมห้องนั่งเล่นก็จะสามารถเชื่อมต่อกับระเบียงได้ มองลงไปก็จะเห็นส่วน Semi – outdoor Party Court และพื้นที่สวนชั้นล่าง
เรามาดูฟังก์ชันที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือของโถงกันต่อค่ะ จะเป็น Mini Bar, ห้องพระ และห้องนอน 2
มุมห้องพระและมุม Mini Bar สำหรับเตรียมของว่างหรือเครื่องดื่มให้คนที่อาศัยอยู่บนชั้น 3 เวลาหิวน้ำก็ไม่ต้องเดินลงไปถึงชั้น 1
สำหรับห้องนอน 2 จะมีการวางแปลนแบบเดียวกันกับห้องนอน 3 ที่อยู่ตรงกันในชั้น 2 เลยค่ะ
บริเวณโถงทางเข้าห้องสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ได้ และส่วนนี้ก็จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำมีการวางแปลนและใช้สุขภัณฑ์เหมือนกันค่ะ แตกต่างกันแค่สีสันและลวดลายของกระเบื้องที่ใช้ตกแต่งในห้องน้ำ
จากโถงทางเดินเข้ามาภายในส่วนพักผ่อนที่อยู่ติดกับระเบียงฝั่งสวน
พื้นที่ห้องสามารถวางเตียง King Size และโต๊ะข้างได้ และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางเก้าอี้นั่งข้างระเบียง
อีกฝั่งหนึ่งสามารถวางโต๊ะทำงานได้เหมือนเดิมค่ะ
ระเบียงของห้องนอน 2 มองออกไปก็จะเห็นทั้ง Semi – outdoor Party Court และพื้นที่สวนชั้นล่างได้ค่ะ
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
::: แบบบ้าน TRIBECA พื้นที่ใช้สอย 433 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 หน้าบ้านส่วนแรกเป็นโรงจอดรถ สามารถจอดรถได้ 3 คันในร่ม เชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน ภายในบ้านส่วนแรกเป็น Foyer เชื่อมต่อกับพื้นที่โถง Living Area ขนาดใหญ่ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume Ceiling และ ห้องรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปยัง ห้องครัว, ห้องน้ำ (Powder Room), โถงบันได และโถงลิฟต์
ซึ่งในห้องครัวจะมีประตูสามารถเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้านและห้องแม่บ้านได้ค่ะ นอกจากนี้ส่วน Living Area จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ Outdoor ของบ้าน เป็นส่วนของสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัว
แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของบ้าน ส่วนแรกเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยัง ห้องนอน 4/ห้องพักผ่อนครอบครัว และ Master Bedroom
แปลนชั้น 3 ประกอบด้วย ห้องนอน 2, ห้องนอน 3, ห้องนั่งเล่นแบบ Semi – outdoor, Pantry และห้องพระ ค่ะ
แบบบ้าน TRIBECA ถูกออกแบบให้เป็น Pool Villa ที่ดูโอ่อ่า หรูหรา คงความทันสมัยด้วยรูปทรงและ Material ของบ้านสไตล์ Modern Luxury
ส่วนแรกเป็นโรงจอดรถค่ะ สามารถจอดรถได้ในร่มทั้งหมดถึง 3 คัน พื้นเป็น Slab on Beam ปูกระเบื้องสลับแนวแบบลายอิฐ ฝ้าเพดานมีดวงโคมดาวน์ไลต์ติดมาให้ช่อง 2 ช่อง ช่องละ 3 ดวง นอกจากนี้ก็ยังมีตู้ติดบานเกล็ดสำหรับเก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถหรืออุปกรณ์ทำสวนมาให้
จากโรงจอดรถเชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้าบ้านขนาดใหญ่ พื้นปูด้วยกระเบื้องจาก Cotto Italia อย่างสวยงาม
ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเปิดคู่บานไม้สัก ติด Digital Door Lock แบบ 2 ระบบของ Samsung
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer Hall เป็นโถงต้อนรับก่อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน พื้นที่ส่วนนี้เราสามารถทำ Built – in ที่ผนังด้านข้างเพื่อเป็นตู้เก็บรองเท้า, ตู้เก็บร่ม และของใช้อื่น ๆ ได้ โดยพื้นที่ส่วน Foyer จะมีระดับเดียวกับเฉลียงภายนอก ปูพื้นด้วยวัสดุแบบเดียวกัน โดยพื้นที่ Foyer จะติดตั้ง Video Call Phone และหน้าจอ Touch Screen ควบคุมสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic มาให้
จาก Foyer เชื่อมต่อกับ Living Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ดูหรูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนจาก Cotto Italia ผนังก่ออิฐ Q.con ฉาบปูนติดวอลล์เปเปอร์ และฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง โดยชั้นล่างนี้ฝ้าจะสูงถึง 3.2 เมตร โดยจะติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ทั้งหมด
มาดูส่วนแรกกันค่ะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีฝ้าเพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume ถึง 6.8 เมตร สร้างความโอ่อ่าให้กับพื้นที่ภายในบ้าน
นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่บ้านชั้น 1 และชั้น 2 ด้วย จะเห็นว่าพื้นที่ของห้องนั่งเล่นมีขนาดใหญ่ทีเดียว สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ และด้วยพื้นที่ของบ้านเราสามารถใช้ทีวีจอขนาด 72 – 82 นิ้วได้เลย
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหารแบบ Open Plan ค่ะ แต่ดูเป็นสัดส่วนด้วยฝ้าเพดานที่มีระดับต่างกัน
บ้านตัวอย่างวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่จริง ๆ แล้วสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 8 – 10 ที่นั่งได้เลย แล้วรอบ ๆ ยังทำครัวฝรั่งเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ
จากห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นมีชุดประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียม Powder Coat ติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเปิดเชื่อมออกมายังสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัวได้
สระว่ายน้ำของบ้านหลังนี้มีขนาด 2.0 x 7.5 เมตร เป็นสระระบบ Skimmer ระบบน้ำเกลือค่ะ
มุมพักผ่อนข้างสระว่ายน้ำที่เชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่น
กลับเข้ามาภายใน Living Area เรามาดูห้องน้ำและห้องครัวกันต่อค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับรองรับการใช้งานในพื้นที่ส่วนกลางและรองรับแขก ทั้งพื้นและผนังภายในห้องตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ผนังด้านหลังติดกระจกเงาบานใหญ่ให้เต็มผนัง พร้อมก่อ Lower Wall ให้ ส่วนสุขภัณฑ์ที่ใช้ภายในห้องน้ำจะเป็นของ Kohler, Grohe และ American Standard ค่ะ
สำหรับห้องครัวนี้จะมีหน้าแคบแต่ยาว จึงเหมาะสำหรับเคาน์เตอร์ครัวแบบ I Shape มากกว่าค่ะ แต่ขนาดที่สามารถทำได้ก็คือว่าใหญ่มากแล้ว เตรียมอาหารได้สะดวก
จากห้องครัวมีประตูทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเชื่อมออกไปยังลานซักล้างและห้องแม่บ้านที่อยู่หลังบ้านค่ะ
เดินมาบริเวณฝั่งทางเข้าบ้าน จะมีโถงทางเดินเชื่อมต่อกับโถงลิฟต์และโถงบันไดทางขึ้นชั้น 2
สำหรับแบบบ้านหลังนี้ ทางโครงการจะเว้นพื้นที่พร้อมเตรียม Pit ด้านล่างเอาไว้ให้ลูกบ้านสามารถติดตั้งลิฟต์เองได้ หากใครที่ไม่ต้องการใช้ลิฟต์ก็สามารถทำเป็นห้องเก็บของแทนได้ค่ะ
เราขึ้นไปดูพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 2 กันต่อค่ะ เริ่มจากบันไดทางขึ้นใช้โครงสร้าง คสล. ปิดผิวอย่างสวยงามด้วยไม้มะค่า ราวบันไดฝังผนัง มือจับเป็นไม้มะค่าเช่นกัน สังเกตที่ผนังข้างบันไดมีการติดไฟเอาไว้ให้ตามขั้นบันไดด้วย
บันไดอีกไฟลต์จะใช้ราวจับเป็นกระจกนิรภัย เราจะเห็นว่าโถงบันไดดูกว้างขวางเป็นพิเศษ เพราะมีความกว้างถึง 1.2 เมตร จึงสามารถเดินขึ้น – ลงสวนกันได้สะดวก
ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป พื้นบ้านจะปูด้วย Engineering Wood ทั้งหมดค่ะ ฝ้าเพดานก็ยังดีไซน์มาสูงถึง 3 เมตร ส่วนแรกที่เราเจอจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยัง ห้องนอน 4/ห้องพักผ่อนครอบครัว และ Master Bedroom (อยู่ข้างโถงลิฟต์) ออกแบบโถงทางเดินให้เปิดโล่งเชื่อมต่อกับ Living Area ของชั้นล่าง โดยใช้ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย
แม้ว่าเราจะอยู่ที่ชั้น 1 หรือชั้น 2 เราก็ยังสามารถเห็น Activities ที่เกิดขึ้นภายในบ้านของคนภายในครอบครัวได้ค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องนอน 4 กันก่อนค่ะ
พื้นที่ของห้องนั้นมีขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็นห้องนอนพร้อมเตียง King Size และเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ครบชุด แต่ถ้ายังมีสมาชิกในบ้านไม่เยอะ ก็สามารถจัดห้องนี้ให้เป็นห้องพักผ่อนครอบครัวหรือห้องอเนกประสงค์ได้ค่ะ
ห้องนี้จะมีระเบียงฝั่งสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัว มองออกไปก็ยังสามารถเห็นระเบียงของ Master Bedroom ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งได้
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
สำหรับวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำก็จะไม่แตกต่างกันเลยค่ะ การวางแปลนอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่มีการแบ่งส่วนแห้ง – ส่วนเปียกให้เหมือนเดิม
สำหรับ Master Bedroom ของบ้านหลังนี้ สามารถวางได้อย่างลงตัวไม่แพ้บ้านหลังใหญ่เลย เราเดินตรงเข้าไปภายในห้องจะเป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ ผ่าน Walk – in Closet และห้องน้ำในตัวก่อน
Walk – in Closet ที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย มีขนาดใหญ่เหมือนกันค่ะ
จาก Walk – in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำแบบ Full Function
เราได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ Villeroy & Bosh
ชุด Rain Shower และ Hand Shower ใช้ของ Grohe ใช้ระบบ Thermostat กั้นส่วนออกไปด้วยกระจกนิรภัยบานเปลือย
ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนของอ่างล้างมือแบบ His & Her ฝังบนเคาน์เตอร์หิน
และอ่างอาบน้ำวนของ Bathroom Design พร้อมชุดอุปกรณ์ก๊อกน้ำ – ฝักบัวครบชุด มีระบบ I – Command X สามารถสั่งการผ่าน Application บน Smartphone ได้ อยู่ข้างหน้าต่าง สามารถนอนแช่น้ำและชมวิวภายนอกได้
เข้ามาถึงส่วนพักผ่อนเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงสามารถจัดวางได้ทั้งเตียงนอน King Size และชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน
ให้สังเกตที่ Facade ฝั่งหน้าบ้านนะคะ จะเหมือนกับส่วน Semi – outdoor Party Court ที่สามารถกดสวิตช์หรือใช้ Remote Control เลื่อนเปิด – ปิดได้
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับระเบียง
และยังคงคอนเซปต์เดิมสำหรับการเชื่อมต่อพื้นที่บ้านแต่ละส่วนให้สามารถมองเห็นกันได้
เราขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 3 กันต่อเลยค่ะ
ภาพจากโถงบันไดมองขึ้นไปยังโถงทางเดินบนชั้น 3
บนชั้น 3 นี้จะประกอบไปด้วย ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน 2, ห้องนอน 3, Pantry และห้องพระ
พอขึ้นมาถึงชั้น 3 แล้ว ส่วนแรกเลยจะเป็นห้องนั่งเล่นแบบ Semi – outdoor ค่ะ โดยทางโครงการออกแบบให้หน้าต่างฝั่งสวนสามารถเลื่อนเปิดได้ทั้งหมด โดยจะมีราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยกั้นเอาไว้ให้ภายนอก
มองไปที่อีกฝั่งจะมีพื้นที่โถงหน้าห้องนอน 2 ที่เราสามารถจัดเป็น Pantry หรือ Minibar และห้องพระได้ค่ะ
สำหรับห้องนอน 2 ส่วนแรกของห้องเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่ได้
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ
จากโถงทางเดินเข้ามาภายในส่วนพักผ่อน สามารถวางเตียง King Size ได้สบาย ผนังทั้ง 2 ฝั่งเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ สามารถมองออกไปทางฝั่งหน้าบ้านและทางฝั่งสวนได้
และพื้นที่ปลายเตียงก็สามารถวางโต๊ะทำงานได้ค่ะ
สำหรับห้องนอน 3 นั้นจะอยู่ข้าง ๆ กับห้องนั่งเล่นชั้นบนค่ะ เข้าไปในส่วนแรกก็จะเจอโถงทางเดิน สามารถทำเป็น Walk – in Closet ได้เช่นกัน
โดยจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
และเชื่อมต่อกับส่วนพักผ่อน สามารถวางเตียง King Size ได้เช่นกัน
ฝั่งปลายเตียงเป็นจุดที่สามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังและวางโต๊ะทำงานได้ค่ะ
:::: ราคา (กันยายน 2563) ::::
24 – 25 ต.ค. นี้ เปิดจองวิลล่าหรูซีรี่ส์ใหม่ พร้อมสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว เอกสิทธิ์เฉพาะ 10 ครอบครัวเท่านั้น เริ่ม 27.9 ล้าน*
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ : https://bit.ly/32lQa1G
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ THE GENTRY วิภาวดี ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบในซอยวิภาวดี – รังสิต 62 เพราะล้อมรอบด้วยบ้านพักอาศัย จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนและการอยู่อาศัย สามารถเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี – รังสิตฝั่งขาเข้าได้เพียง 400 เมตร และยังเชื่อมต่อกับถนนแจ้งวัฒนะ – ถนนพหลโยธินได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียวและสายสีชมพู ใกล้ทางด่วน ใกล้แหล่งงาน รวมถึงใกล้สาธารณูปโภคถึง 3 โซนด้วยกัน ทั้งโซนแจ้งวัฒนะ, โซนรามอินทรา และโซนห้าแยกลาดพร้าว – รัชโยธิน ซึ่งเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้ง 3 โซน จึงถือว่าเป็นทำเลที่สามารถใช้ชีวิตได้สะดวกทีเดียวค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากโครงการสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่สายหลักทั้ง 3 เส้นได้สะดวก ทั้ง วิภาวดี – รังสิต, แจ้งวัฒนะ และพหลโยธิน มีทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัชให้ใช้งานได้ใกล้ ๆ จึงทำให้การเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะเข้าหรือออกเมืองนั้นง่ายไปหมด แต่ก็ต้องระวังในช่วงเวลา Rush Hour โดยเฉพาะช่วงเวลาเลิกงานของศูนย์ราชการค่ะ ช่วงนั้นรถจะติดเป็นพิเศษเลย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ที่ถนนแจ้งวัฒนะจะมีรถประจำทางวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา สามารถเรียกรถได้สะดวกมาก หรือจะใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่ออำนวยความสะดวกได้ค่ะ และโครงการยังอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีปทุม เพียง 3 กม. และ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีราชภัฏพระนคร เพียง 3.2 กม. วันไหนไม่ต้องการขับรถก็ยังสามารถเดินทางได้ง่ายอยู่ โดยรถไฟฟ้า 2 สายนี้จะเชื่อมต่อกันที่สถานีวงเวียนหลักสี่/วัดพระศรีมหาธาตุ สามารถนั่งเชื่อมต่อไปถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต ต่อเข้าเมืองได้ใน 15 นาทีค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมาก ๆ โครงการนี้ถือว่าตอบโจทย์เพราะมีบ้านภายในโครงการเพียงแค่ 10 ยูนิตเท่านั้น ได้ Pool Villa หรูสไตล์ Modern Luxury พร้อมเนื้อที่ดินขนาดใหญ่และไม่เหมือนใคร โดยฟังก์ชันภายในบ้านนั้นจัดเต็มแบบรองรับทุกกิจกรรมรวมถึงสายที่ชอบปาร์ตี้ จึงไม่จำเป็นต้องมีส่วนกลางภายในโครงการแล้วค่ะ บ้านสามารถรองรับครอบครัวใหญ่ได้ มีลิฟต์ภายในบ้านรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและการยกของหนัก ๆ เช่น กระเป๋าสำหรับเดินทางไปต่างประเทศได้
แม้จะเป็นโครงการที่เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ก็เน้นความสัมพันธ์ของคนภายในบ้านเช่นกัน เพราะว่าเกือบทุกจุดของบ้านนั้นสามารถ Connect และมองเห็นกันได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ส่วน Living Area ชั้น 1 แบบ Double Volume Ceiling, โถงทางเดินชั้น 2, สวนและสระว่ายน้ำส่วนตัว, ระเบียง Semi – outdoor Party Court และหน้าต่าง – ระเบียงห้องนอนเกือบทุกห้อง
สำหรับวัสดุที่ทางโครงการใช้ตกแต่งบ้านนั้นก็คือว่าสมเหตุสมผลกับราคาบ้านค่ะ เช่น กระเบื้องจาก Cotto Italia, Engineering Wood หนา 20 มม., ประตูทางเข้าบ้านบานไม้สัก, สุขภัณฑ์จาก Villeroy & Bosh/Bathroom Design/Grohe/Cotto/Kohler/American Standard, ราวกันตกกระจกนิรภัย, กล้อง CCTV 5 ตัวตามจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน, ประตู Digital Door Lock จาก Samsung, Video Call Phone และ สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic เป็นต้น
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย เนื่องจากโครงการมีบ้านเพียง 10 ยูนิตเท่านั้น จึงเน้นส่วนกลางเป็นการรักษาความปลอดภัยเป็นหลักค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีสวนหย่อมอยู่ท้ายโครงการที่ลูกบ้านทุกครอบครัวสามารถไปใช้พักผ่อนหย่อนใจได้
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1749
สำนักงานขาย : 098-247-3666
WEBSITE : https://www.scasset.com
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น