คอนโด THE ORIGIN ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
THE ORIGIN รัชดา-ลาดพร้าว
THE ORIGIN ราม 209 อินเตอร์เชนจ์
THE ORIGIN อ่อนนุช
THE ORIGIN สุขุมวิท 105
THE ORIGIN สุขุมวิท-สายลวด E22
THE ORIGIN รามอินทรา 83 สเตชั่น
THE ORIGIN พหล-สะพานใหม่
คอนโด ORIGIN Plug & Play ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
ORIGIN Plug & Play รามอินทรา
ORIGIN Plug & Play รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น
ORIGIN Plug & Play นนทบุรี สเตชั่น
ชื่อโครงการ
ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น The Origin Ramintra 83 Station
เจ้าของโครงการ
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน) / Origin Property PCL.
เนื้อที่ทั้งหมด
6-3-53 ไร่
จำนวนตึก
8 อาคาร
จำนวนชั้น
8 ชั้น
จำนวนห้อง
ห้องพักอาศัย 879 ยูนิต
ร้านค้า 3 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom : 22.5-27.0 ตร.ม.
1 Bedroom Smart Walk-in Closet : 26.0-27.0 ตร.ม.
1 Bedroom Plus : 30.0-34.5 ตร.ม.
2 Bedroom : 43.5-44.0 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
คิดเป็น 42%
จำนวนลิฟต์
2 ตัว/อาคาร
โซน
รามอินทรา
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา กม.9
ถนนรามอินทรา
ถนนกาญจนาภิเษก
มอเตอร์เวย์
ทางพิเศษฉลองรัช
ที่ตั้ง
รามอินทรา 83 ถนนรามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม.
กำหนดการ
เปิดลงทะเบียน (ส.ค.62)
ปีที่สร้างเสร็จ
คาดว่าแล้วเสร็จ Q4 ปี 2563
ราคา
เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* (ก.ค.64)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
เริ่มต้น ประมาณ 85,000 บาท/ตร.ม.* (ก.ค.64)
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.ม./เดือน
เงินกองทุน 450 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ
KFC Drive Thru : 70 เมตร
Lotus Express : 75 เมตร
ตลาดนัด, ตลาดมิ่งมิตร : 80 เมตร
Ichiba Station : 100 เมตร
Big C Market คู้บอน : 900 ม.
The Promanade : 1.4 กม.
Fashion Island : 1.7 กม.
Tesco Lotus นวมินทร์ : 3.2 กม.
Amorini Mall : 3.4 กม.
Jas Green Village : 3.5 กม.
Max Valu คู้บอน : 3.5 กม.
The Junction : 3.8 กม.
Chic Republic รามอินทรา : 3.8 กม.
Big C Market นวมินทร์ : 4.0 กม.
ตลาดถนอมมิตร : 4.1 กม.
Plearnary Mall : 4.1 กม.
ตลาดนัดเลียบด่วน : 4.9 กม.
ตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง : 5 กม.
Foodland : 5.4 กม.
ตลาดนายใหญ่ : 5.5 กม.
Chocolate Ville : 5.6 กม.
The Walk เกษตร-นวมินทร์ : 6.8 กม.
Big C Extra รามอินทรา : 7.1 กม.
Ease Park : 7.9 กม.
Central Plaza รามอินทรา : 8.1 กม.
Nawamin Festival Walk : 8.2 กม.
Nawamin City Avenue : 8.3 กม.
The Crystal : 8.7 กม.
Central Festival East Ville : 10.1 กม.
Home Pro เลียบทางด่วน : 10.3 กม.
CDC : 10.6 กม.
สถานศึกษา
รร.บดินทรเดชา 2 (สิงห์ สิงห เสนี) : 5.2 กม.
รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 5.5 กม.
รร.โสมาภาพัฒนา : 5.7 กม.
รร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ : 6.1 กม.
รร.โชคชัย ลาดพร้าว : 6.8 กม.
รร.โชคชัย หทัยราษฎร์ : 7 กม.
รร.เลิศหล้า ถนนเกษตร-นวมินทร์ : 7.3 กม.
รร.สตรีวิทยา 2 : 7.8 กม.
รร.สาธิตพัฒนา : 8.4 กม.
ม.เกริก : 8.4 กม.
รร.นานาชาติ Australian-ISB : 9 กม.
ม.เกษตรศาสตร์ฯ : 12.9 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.อินทรารัตน์ : 750 เมตร
รพ.สินแพทย์ รามอินทรา : 1.0 กม.
รพ.พญาไท นวมินทร์ : 2.9 กม.
รพ.นพรัตน์ราชธานี : 3.2 กม.
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
วัดคู้บอน : 2.7 กม.
สวนสยาม : 4.5 กม.
วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร : 4.6 กม.
เสถียรธรรมสถาน : 5.6 กม.
สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา : 5.9 กม.
Safari World : 7.6 กม.
สนามกอล์ฟนวธานี : 8.0 กม.
สนามกอล์ฟ Legacy Golf Club : 9.2 กม.
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
สิ่งอำนวยความสะดวก
1st FL.
Visitor Lobby Hall
Mail Room + Smart Locker
Sharing Service
Self Storage
Laundry Service
2nd-3rd FL.
Co-Living Space
Co-Working Space
Office Supply
Vending Machine
4th FL.
Co-Passion Room
Meeting Room
5-6th FL.
Co-Kitchen Room
Co-Dining Space
Private Dining Room
7-8th FL.
7-8th FL. (อาคาร E,F)
Library
Game Room
Theater Room
Rooftop
Sky Running
Sky Garden
Outdoor Charger
Landscape
จุดเด่นของโครงการ
THE ORIGIN Ramintra 83 Station คอนโดใหม่ลำดับที่ 5 จากแบรนด์ THE ORIGIN บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่รามอินทรา เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ถนนเส้นหลัก, จุดขึ้น-ลงทางด่วน และห่างเพียง 30 เมตร จากรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีสินแพทย์มาพร้อมกับส่วนกลางขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกกว่า 21 รายการ และ Sky Running บนชั้น Roof Top ที่เชื่อมต่อทั้ง 8 อาคาร
ที่ตั้งโครงการ
รามอินทรา 83 ถนน รามอินทรา แขวง รามอินทรา เขต คันนายาว กทม.
พิกัด : 13.835203, 100.666400
ทำเลที่ตั้งโครงการ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น ตั้งอยู่ติดถนนรามอินทรา ฝั่งขาออก ระหว่างซอยรามอินทรา 79/1 และซอยรามอินทรา 81 เยื้องกับ รพ.สินแพทย์ อยู่ในโซนรามอินทราช่วงกม.9 โซนนี้นับว่าเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low-Rise, ออฟฟิศ โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชนที่อยู่อาศัยค่ะ
จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อม ๆ มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, Hypermarket, Community Mall, Supermarket รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย
จากที่สังเกตดูก็คือ ย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการในแนวสูงหรือในแนวราบเพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะทำให้การสัญจรไป-มาสะดวกมากขึ้น และเพื่อรองรับพนักงานออฟฟิศที่เข้ามาทำงานในย่านนี้ จึงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกนะคะ จะเข้าหรือออกตัวเมืองก็ไม่ยาก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม วิ่งลงทางตอนใต้จะตัดกับถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนลาดพร้าว ซึ่งจะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน
วิ่งลงมาอีก จะมาตัดกับถนนพระราม 9 และสุดที่ถนนเพชรบุรี เข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) ได้สะดวก โดยมีตัวช่วยในการเดินทางคือทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนถนนรามอินทรา ถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะ ตัดกับถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต และผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี
นอกจากนั้นยังตั้งอยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอินหรือใช้วิ่งลงไปทางบางนา-สุวรรณภูมิก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย
ทางด่วน ช่วงที่ตัวโครงการตั้งอยู่จะอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงวงแหวนกาญจนาภิเษก เพียง 1.8 กม.เท่านั้นค่ะ พอวิ่งตรงไป 1 กม. จะมีทางแยกออกไปทางฝั่งบางปะอิน และทางฝั่งสุวรรณภูมิ
อีกจุดนึงที่สามารถเดินทางไปใช้ได้สะดวกก็คือ ทางพิเศษฉลองรัช หรือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ สะดวกมากเวลาที่ต้องการเข้าเมืองไปยังโซนพระราม 9 หรือเชื่อมต่อกับทางด่วนสายอื่น ๆ
แยกและถนนสำคัญรอบโครงการ
แยกรามอินทรา กม.8 : 550 ม.
ถนนนวมินทร์ : 650 ม.
ถนนคู้บอน : 700 ม.
ถนนปัญญาอินทรา : 1.1 กม.
ถนนรัชดา-รามอินทรา : 3.0 กม.
ถนนเกษตร-นวมินทร์ : 4.1 กม.
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 4.5 กม.
แยกวัชรพล : 4.6 กม.
ถนนเสรีไทย : 6.2 กม.
ถนนรามคำแหง : 7.5 กม.
ถนนพหลโยธิน : 9.4 กม.
ถนนลาดพร้าว : 10.7 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บนถนนรามอินทราจะมีรถสาธารณะผ่านตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถตู้, วินมอเตอร์ไซค์ และรถ Taxi มีป้ายรถเมล์อยู่เป็นช่วง ๆ ทั้ง 2 ฝั่งของถนน สามารถหารถได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ แนะนำให้ใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี บนเส้นรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรามอินทรา กม.9 ห่างจากโครงการเพียง 70 เมตร* เท่านั้นเอง ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีกำหนดคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2565 นี้
รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี สถานีรามอินทรา กม.9 ระยะทาง 70 เมตร*
ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณโดยรอบของตัวโครงการจะเป็นอาคารที่พักอาศัยในแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม และอาคารพาณิชย์ ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, Hypermarket, Community Mall, Supermarket ตลาดนัด, โรงพยาบาล, โรงเรียน และแหล่งท่องเที่ยว ในย่านนี้มีครอบคลุมทั้งหมด
ที่เด่น ๆ บนเส้นรามอินทรา ตรงช่วง กม.10 ก็คือห้าง Fashion Island และข้าง ๆ กัน The Promenade ซึ่งห่างจากตัวโครงการออกไปเพียง 1 กม. หรือ 1 สถานีเท่านั้น ภายในก็จะมีทั้ง Shopping Center, ห้าง Big C, ร้านอาหาร, โรงเรียนติวเตอร์, คลีนิกเสริมความงาม และ อื่น ๆ อย่างครบวงจร
ตรงช่วงรามอินทรา กม.2-4 มีทั้ง Central รามอินทรา, Big C Extra, Ease Park และ Food Land เส้นเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, Central Festival EastVille, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่
บนเส้นนวมินทร์ก็มีทั้ง Tesco Lotus, รพ.พญาไท นวมินทร์, Makro และ Big C Market มาอีกด้านบนเส้นเกษตร-นวมินทร์ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ มี Community Mall อย่าง Nawamin City Avenue, Nawamin Festival Walk, The Walk, Index Living Mall และยังมีร้าน Chocolate Ville ด้วย
ในระยะอุ่นใจก็มีโรงพยาบาลอยู่ใกล้หลายแห่ง อย่างที่ฝั่งตรงข้ามก็มี รพ.สินแพทย์ เดินข้ามสะพานลอยไปก็ถึงเลย เลยไปอีกหน่อยก็มี รพ.อินทรารัตน์, รพ.นพรัตน์ และบนเส้นนวมินทร์เองก็ยังมี รพ.พญาไท นวมินทร์ อยู่อีก 1 สาขาค่ะ
นอกจากนี้ ในย่านนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมอย่าง Safari World, สวนสยาม, สนามกอล์ฟปัญญารามอินทรา, สนามกอล์ฟนวธานี และ สนามกอล์ฟ Legacy Golf Club นับว่าย่านนี้ตอบโจทย์ได้ครบทุกรสชาติของการอยู่อาศัยเลยทีเดียว
ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ
KFC Drive Thru : 70 เมตร
Lotus Express : 75 เมตร
ตลาดนัด, ตลาดมิ่งมิตร : 80 เมตร
Ichiba Station : 100 เมตร
Big C Market คู้บอน : 900 ม.
The Promanade : 1.4 กม.
Fashion Island : 1.7 กม.
Tesco Lotus นวมินทร์ : 3.2 กม.
Amorini Mall : 3.4 กม.
Jas Green Village : 3.5 กม.
Max Valu คู้บอน : 3.5 กม.
The Junction : 3.8 กม.
Chic Republic รามอินทรา : 3.8 กม.
Big C Market นวมินทร์ : 4.0 กม.
ตลาดถนอมมิตร : 4.1 กม.
Plearnary Mall : 4.1 กม.
ตลาดนัดเลียบด่วน : 4.9 กม.
ตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง : 5 กม.
Foodland : 5.4 กม.
ตลาดนายใหญ่ : 5.5 กม.
Chocolate Ville : 5.6 กม.
The Walk เกษตร-นวมินทร์ : 6.8 กม.
Big C Extra รามอินทรา : 7.1 กม.
Ease Park : 7.9 กม.
Central Plaza รามอินทรา : 8.1 กม.
Nawamin Festival Walk : 8.2 กม.
Nawamin City Avenue : 8.3 กม.
The Crystal : 8.7 กม.
Central Festival East Ville : 10.1 กม.
Home Pro เลียบทางด่วน : 10.3 กม.
CDC : 10.6 กม.
สถานศึกษา
รร.บดินทรเดชา 2 (สิงห์ สิงห เสนี) : 5.2 กม.
รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 5.5 กม.
รร.โสมาภาพัฒนา : 5.7 กม.
รร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ : 6.1 กม.
รร.โชคชัย ลาดพร้าว : 6.8 กม.
รร.โชคชัย หทัยราษฎร์ : 7 กม.
รร.เลิศหล้า ถนนเกษตร-นวมินทร์ : 7.3 กม.
รร.สตรีวิทยา 2 : 7.8 กม.
รร.สาธิตพัฒนา : 8.4 กม.
ม.เกริก : 8.4 กม.
รร.นานาชาติ Australian-ISB : 9 กม.
ม.เกษตรศาสตร์ฯ : 12.9 กม.
ศูนย์การแพทย์
รพ.อินทรารัตน์ : 750 เมตร
รพ.สินแพทย์ รามอินทรา : 1.0 กม.
รพ.พญาไท นวมินทร์ : 2.9 กม.
รพ.นพรัตน์ราชธานี : 3.2 กม.
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
วัดคู้บอน : 2.7 กม.
สวนสยาม : 4.5 กม.
วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร : 4.6 กม.
เสถียรธรรมสถาน : 5.6 กม.
สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา : 5.9 กม.
Safari World : 7.6 กม.
สนามกอล์ฟนวธานี : 8.0 กม.
สนามกอล์ฟ Legacy Golf Club : 9.2 กม.
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Map : 13.835345, 100.666211
การเดินทางเริ่มจาก ทางพิเศษฉลองรัช ⇒ ทางออก 17 หลักสี่-วัชพล-มีนบุรี ⇒ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ⇒ ทางแยกต่างระดับวัชรพล ⇒ ถนนรามอินทรา ⇒ แยกรามอินทรา กม.8 ⇒ The Origin Ramintra 83 Station *ตรงข้าม รพ.สินแพทย์ รามอินทรา
ภาพประกอบการเดินทาง เราจะเริ่มจากทางพิเศษฉลองรัช โดยใช้ทางออก 17 ถนนรามอินทรา (หลักสี่-วัชรพล-มีนบุรี) มุ่งหน้าไปมีนบุรี
พอลงทางด่วนมาให้ชิดขวาขึ้นทางต่างระดับวัชรพล แล้วเบี่ยงซ้ายไปวัชรพล-มีนบุรี
เข้าสู่ถนนรามอินทรา มุ่งหน้าไปมีนบุรีค่ะ
ขับตรงไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีมพู โดยเราจะผ่านที่ตั้งสถานีวัชรพล
ผ่านสถานีรามอินทรา กม.6
ผ่านสถานีคู้บอน ให้ชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกคู้บอน และแยกรามอินทรา กม.8
พอลงสะพานมาให้เบี่ยงซ้ายไว้ค่ะ ผ่านโชว์รูมอีซูซุตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร* ถึงโครงการค่ะ โครงการจะอยู่ตรงข้าม ก่อนถึง รพ.สินแพทย์ รามอินทรา
ถึงโครงการ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น ซึ่งห่างจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา กม.9 เพียง 150 เมตร*
ถึงโครงการ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นถนนที่มีความคึกคักพอสมควรเลยค่ะ โครงการจะล้อมรอบด้วย บ้านพักอาศัยในแนวราบและอาคารพาณิชย์มากมาย
ใกล้เคียงโครงการในระยะเดินก็จะมีทั้ง ร้านอาหาร, ร้าน KFC, ตลาดนัดรามอินทรา กม.9, 7-Eleven, รพ.สินแพทย์, รพ.สัตว์ และโชว์รูมรถยนต์อีกหลากหลายแบรนด์
ทิศเหนือ ติดกับ หอพักอาศัย สูง 4 ชั้น และบ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินโครงการในอนาคต และอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น
ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินโครงการในอนาคต
ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนรามอินทรา
เราจะมาเดินสำรวจบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการก็คือโชว์รูม Mazda และ รพ.สัตว์อะไดจิมิ จะเห็นว่าตอนนี้บนถนนรามอินทรานั้นอยู่ระหว่างการก่อสร้างทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูกันอยู่
เราเดินมุ่งหน้าไปทางมีนบุรีกันก่อนค่ะ เดินตรงขึ้นมาจะเจอกับสำนักงานขายของโครงการ The Origin Plug&Play รามอินทรา
เดินตรงต่อมาจะเจอกับตึกแถวร้านค้า มีร้านรามอินทรา อะไหล่ยนต์ และ K81 Exchange
ตรงขึ้นมาจะเจอกับ KFC Drive Thru เปิดขายตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจนถึง 1 ทุ่มครึ่ง
มองไปฝั่งตรงข้าม เยื้อง ๆ กับโครงการจะเป็นโรงพยาบาลสินแพทย์
ด้านหน้านี้จะเป็นตัวสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู รามอินทรา กม.9 เปลี่ยนชื่อจากสถานีสินแพทย์นะคะ
ติดกับสถานีรถไฟฟ้า มี Lotus Express เปิด 24 ชม. ให้บริการ ด้านหน้ามีที่จอดรถรองรับลูกค้าให้แบบนี้
ติดกันเลยจะมีตลาดนัดรามอินทรา กม.9 และถัดไปมีตลาดขนาดใหญ่อีก 3 ตลาด เป็นแหล่งที่ชาวคอนโดอย่างเรา ๆ สามารถมาฝากท้องกันได้ ภายในแต่ละตลาดจะมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่เยอะมาก ๆ เลยนะ ทั้งของคาวของหวาน หรือจะเป็นกาแฟ ชานม น้ำปั่นเย็น ๆ ก็สามารถหาได้ที่นี่ และที่ด้านหน้าตลาดนี้เองก็จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย
ด้านหน้าตลาดมีป้ายรถเมล์ให้ได้ใช้งาน
ที่ด้านในตลาดนี้เองก็จะมี 7-11 อยู่ค่ะ
ตรงขึ้นมาจะเจอกับตลาดมิ่งมิตร
ติดกับตลาดมิ่งมิตร จะมีตลาดของกินขนาดใหญ่อย่าง Walking Market อีก 1 ที่
ตอนนี้จะมีโซน Ichiba Station เป็นตลาดนัดของกินบรรยากาศญี่ปุ่น เก๋ ๆ แบบนี้ค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น เป็นคอนโด Low-Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และเป็นส่วนหนึ่งใน “Origin Smart City Ramintra” ซึ่งเป็น Mega Project บนพื้นที่ประมาณ 13 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท*
ที่ประกอบไปด้วย Condominium The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น, Office, Community Mall, Hotel โดยเชนอันดับต้นของประเทศ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “BEYOND A LIVING PLATFORM” โลกแห่งสายพันธุ์อนาคต..กำหนดได้ที่นี่
“Origin Smart City Ramintra” นำโลกอนาคตมาอยู่ในปัจจุบัน ที่มาพร้อมพื้นที่สำหรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งยังเป็น Unicorns Lifestyle HUB แหล่งเพาะพันธุ์ Start-Up แห่งใหม่ที่รวมตัว Gen Z ผู้มี Passion อันแรงกล้าจากทั่วทั้งประเทศแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ใจกลางย่าน ‘‘รามอินทรา’’
โครงการ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น เป็นอาคาร Low rise สูง 8 ชั้น มีทั้งหมด 8 อาคาร บนเนื้อที่ 6-3-53 ไร่ มีห้องชุดพักอาศัยจำนวน 879 ยูนิต + ร้านค้า 3 ยูนิต
มีห้องพักเลือกแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Smart Walk-in Closet, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 22.5-44.0 ตร.ม.
โดยออกแบบมาเอาใจคน Gen Z “Work Life Smart” ด้วยดีไซน์ที่เรียบเท่ทันสมัยพร้อมเทคโนโลยีล้ำ ๆ อีกทั้งยังมีจุดเด่นอยู่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกถึง 8 ชั้นรวม 21 รายการด้วยกัน
นี่คือผังโครงการที่แสดงให้เห็น Lay Out ของทั้ง 8 อาคารค่ะ จะอยู่เรียงกันเข้าไปแบบนี้เลยไล่จากอาคาร A เข้าไปถึงอาคาร H ที่อยู่ด้านในสุด
ทางเข้า-ออกหลักของโครงการจะอยู่บนถนนรามอินทรา ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งป้อมรปภ., CCTV และระบบ Access Card Control พอเข้ามาภายในตัวโครงการจะเป็นส่วนของที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมด รวมแล้วสามารถจอดได้ถึง 42%
โดยทางเดินรถจะวนตามเข็มนาฬิกาแล้วกลับออกมาที่ทางเข้า-ออกเดิม ยกเว้นที่ใต้อาคาร A จะเป็นส่วนของ Visitor Lobby ซึ่งจะมีทางคนเดินเข้าจากด้านหน้าโครงการาถึงแยกให้อย่างเป็นสัดส่วน และด้านข้างตรงอาคาร A จะมีห้องนิติบุคคล, ร้านค้า 3 ยูนิต และ ที่จอดรถ EV Charger มาให้ด้วย
นอกจากนี้ที่ใต้อาคารทุกอาคารก็จะมี Lift Lobby แยกให้ทั้งหมด โดยจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูผ่านเข้าไป และที่ Court ตรงกลางระหว่างอาคารทุกอาคารจะมี Step Garden เป็นสวนพักผ่อนขนาดใหญ่
ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจะเป็น Typical Floor แปลน ซึ่งเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทุกอาคาร โดยแปลนแต่ละอาคารนั้นจะมีการวางผังเหมือน ๆ กันหมด แต่จะมีการ Mirror สลับกันไปมา
มาเริ่มดูจากหน้าโครงการเข้าไปก่อนนะคะ จากถนนรามอินทรา จะมีระยะ Setback เข้าไป ประมาณ 40 เมตร ช่วยให้รถยนต์ของลูกบ้านขับเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องไปจอดออกันบนถนนใหญ่ และด้านหน้าโครงการทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่จอดรถ Visitor ให้อีก 4 คัน (จากภาพทางฝั่งขวามืออยู่ระหว่างปรับปรุงจัดสวน และทำทางเดินเท้าใหม่ค่ะ)
ตรงเข้ามาจะเจอกับอาคาร A ที่ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของส่วนกลางเป็นอาคารแรก
ถัดมาจะเจอกับทางเข้า-ออกรถยนต์ ผ่านไม้กระดกอัตโนมัติ และมีป้อมรปภ. พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ผ่านเข้ามาจะเจอกับถนนเมนในโครงการ เดินรถแบบ 2 Way / ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด
ขวามือใต้อาคาร A จะเป็น Smart Locker ติดกันเป็นห้องนิติบุคคล และ มีร้านค้าให้ 3 ยูนิต
ตรงขึ้นมาจะเจอกับที่จอด EV Charger มีให้ 3 ช่องจอด รองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และ ด้านหลังจะเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์
ตรงขึ้นมาจะมีป้ายบอกทางไปยังอาคารต่าง ๆ ใครอยู่อาคารไหน ก็ขับรถไปจอดใกล้ ๆ อาคารที่อยู่กันได้ ซึ่งพอเราผ่านอาคาร A มาจะเปลี่ยนการเดินรถยนต์เป็นแบบ One Way แล้วนะคะ
ภายในที่จอดรถยนต์แบบในร่ม จะอยู่ที่ชั้น 1 ของทุก ๆ อาคาร
การเข้า-ออกในแต่ละอาคาร ผ่านระบบ Key Card Access แยก Lobby เล็ก ๆ เอาไว้ให้ โดยด้านในจะมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว และ กล่องจดหมาย
คอร์ทกลางที่ดินโครงการ จะมีที่จอดรถยนต์กลางแจ้ง ถัดเข้าไปเป็น Step Garden หรือ สวนพักผ่อนขนาดใหญ่
Step Garden ระหว่างอาคารทั้ง 8 อาคาร มีการจัด Landscape เอาไว้อย่างร่มรื่ม เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจมาก
บรรยากาศภายใน Step Garden จะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และสนามหญ้า ด้านในจะมีม้านั่งตัวยาว, Sunken Seat และ Pavilion จัดมาให้ด้วยค่ะ
ภาพมุมสูง Step Garden ที่ถ่ายจากดาดฟ้าลงมาค่ะ
อาคาร A พื้นที่อีกส่วนหนึ่งของอาคารทางฝั่งขวานั้นได้ถูกแบ่งออกไปเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็มดังนี้ค่ะ
1st FL. : Visitor Lobby Hall และ Smart Locker
2nd-3rd FL. : Co-Living Space, Co-Working Space, Office Supply และ Vending Machine
4th FL. : Co-Passion Room และ Meeting Room
5-6th FL. : Co-Kitchen Room, Co-Dining Space และ Private Dining Room
7-8th FL. : Fitness และ Swimming Pool
ภาพส่วนกลางด้านหน้าอาคาร A ที่เรียงตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไปจนถึงชั้น 8
ประตูทางเข้าส่วนกลางที่อาคาร A ได้เป็นประตูอัตโนมัติลดการสัมผัส ส่วนการจะเข้าไปยังชั้นพักอาศัยในแต่ละชั้น จะต้องผ่านประตู Key Card อีกที ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวนะคะ
อาคาร A (ชั้น 1) พอเข้ามาด้านในอาคารจะเจอส่วน Visitor Lobby Hall ก่อน ภายในจะออกแบบมาให้มีฝ้าสูงแบบ Double Volume Space ล้อมรอบด้วยผนังกระจกถึง 3 ด้าน มีชุดโซฟาสำหรับนั่งพักคอยจัดเอาไว้ให้หลายชุด
เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co-Living Space ที่ชั้น 2 ทำให้บรรยากาศภายในดูสว่างและโปร่งโล่ง จาก Visitor Lobby Hall จะสามารถเชื่อมสู่ชั้น 2 ได้ทั้งทางลิฟต์และบันไดค่ะ
ภายใน Visitor Lobby Hall ที่ออกแบบมาให้มีฝ้าสูงแบบ Double Volume Space ล้อมรอบด้วยผนังกระจกถึง 3 ด้าน เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co-Living Space ที่ชั้น 2 ทำให้บรรยากาศภายในดูสว่างและโปร่งโล่ง จาก Visitor Lobby Hall จะสามารถเชื่อมสู่ชั้น 2 ได้ทั้งทางลิฟต์และบันไดค่ะ
มองมาทางซ้ายมือจะเป็นบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 ถัดมาเป็นทางเข้าโถงลิฟต์, ห้องจดหมาย ส่วนโถงทางเดินด้านในสุดจะเชื่อมสู่ห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่าง แยกห้องชาย-หญิงไว้แยกกัน
ภายในโถงลิฟต์ตกแต่งทันสมัยดี ใช้พื้นและผนังลายหินอ่อนคุมโทนสีเบจ และสีดำ มีหน้าต่างช่องแสง และบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศติดมาให้ พร้อม CCTV ที่จับภาพรวมโถงชั้นนี้
กล่องจดหมายแยกแต่ละอาคารชัดเจน
ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น มีให้อาคารละ 2 ตัว
ขึ้นบันไดหรือขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 2 ก็ได้ เราจะเจอกับ Co-Living Space
อาคาร A (ชั้น 2) เป็นส่วนของ Co-Living Space ทั้งชั้นค่ะ เป็นพื้นที่สำหรับการนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ โดยจะมีชุดโซฟาจัดเอาไว้ให้หลายขนาด เพื่อรองรับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งการนั่งแบบคนเดียว หรือการนั่งกับแก๊งเพื่อนแก๊งใหญ่ๆ
โดยชั้นนี้จะเป็น Co-Living Space ขนาดใหญ่ มีโซฟารับรองจัดมาให้หลายชุด โดยจะแบ่งเป็นไว้ให้เป็นโซน ๆ ให้ใช้งานได้เป็นส่วนตัวขึ้น
อาคาร A (ชั้น 2-6) จะเป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัยน้อยมากที่สุดรวม 65 ยูนิต หรือมีจำนวนยูนิตพักอาศัยต่อชั้นอยู่ที่ 13 ยูนิต เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งของอาคารจะถูกแบ่งออกไปเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการค่ะ ภายในอาคารนี้จะมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนอยู่ที่ 1 : 33 เท่านั้น
อาคาร A (ชั้น 3-4) ตั้งแต่ชั้น 3 จะต้องใช้ลิฟต์โดยสารขึ้นมานะคะ ที่ชั้น 3 นี้จะเป็นพื้นที่ 24 hrs. Co-Working Space ขนาดใหญ่ มีชุดโต๊ะเก้าอี้จัดเอาไว้ให้หลายชุดสำหรับการนั่งทำงานอ่านหนังสือ รวมถึงมีชุดโซฟาขนาดใหญ่ และที่นั่งเป็น Step ขึ้นไปที่ชั้น 4 สำหรับนั่งพักผ่อน
ขึ้นไปที่ชั้น 4 ก็จะเป็นส่วนของ Meeting Room สำหรับใช้นั่งคุยงานกันแบบเป็นส่วนตัวหน่อย และมีห้อง Co-Passion Room เป็น Studio สำหรับการถ่ายภาพสินค้า รองรับผู้ที่ทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ นอกจากนี้ที่ชั้นนี้ยังมี Office Supply เป็น Printer และเครื่องถ่ายเอกสาร และมี Vending Machine ให้ใช้บริการอีกด้วยค่ะ
ขึ้นมาที่ ชั้น 3 และ ชั้น 4 จะเป็นส่วนกลางแบบ Double Space
โดยชั้น 3 จะเป็น Co-Working Space ขนาดใหญ่มาก ๆ เปิดให้ใช้งานได้ตลอด 24 ชม. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ภายในจะจัดมุมทำงานไว้หลากหลายรูปแบบ มีทั้งมุมทำงานแบบเดี่ยว, แบบคู่ และ แบบกลุ่ม
มีพื้นที่เล่นระดับแบบขั้นบันได พร้อมเบาะรองนั่ง และหมอนอิง เอาไว้นั่งอ่านหนังสือในบรรยากาศสบาย ๆ
โต๊ะทำงานมีให้หลายรูปแบบ เลือกใช้ได้ตามความต้องการ
มีมุมทำงานแบบเงียบ ๆ แยกมาให้ 2 ชุด
เคาน์เตอร์นั่งทำงานแบบเดี่ยวก็มีให้อีก 5 ที่นั่ง
Meeting Room บนชั้น 3 มีโต๊ะประชุมตัวยาว มุมนั่งแบบเดี่ยวแบบคู่ รองรับการใช้งานได้มากถึง 14 คน
ห้องน้ำส่วนกลาง แยกชาย-หญิง ไว้ให้อย่างลง 1 ห้อง
มีโซนนั่งเล่นด้านนอก พร้อมชุดโต๊ะสนามให้ด้วย
ภาพรวมจากโถงลิฟต์ชั้น 3
ขึ้นไปที่ชั้น 4 จะเป็นส่วนของ Meeting Room, Shooting Studio Room
ด้านหลังจะมีเก้าอี้พักผ่อนจัดไว้ให้ 6 ชุด
เดินตรงมาจะเจอกับมุมนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ จัดโซฟาเซ็ตไว้ให้ นั่งใช้งานได้ 4 คน
มีห้อง Shooting Studio Room พร้อมอุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพสินค้า รองรับคนที่ทำธุรกิจค้าขาย Online ได้อย่างลงตัว
ด้านในสุดจะเป็น Meeting Room สำหรับใช้นั่งคุยงานกันแบบเป็นส่วนตัว
อาคาร A (ชั้น 5-6) ที่ชั้น 5 จะประกอบด้วย Co-Kitchen Room เป็นพื้นที่สำหรับการประกอบอาหาร โดยจะมีอุปกรณ์สำหรับการเตรียมอาหารจัดเอาไว้ให้ เชื่อมต่อกับ Co-Dining Space เป็นพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารขนาดใหญ่
และยังมีชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนได้ และถ้าเดินขึ้นไปบนชั้น 6 ก็จะมี Private Dining Room เป็นพื้นที่ที่เหมาะมากสำหรับการจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ หรือนั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศสงบ ๆ เป็นส่วนตัวแบบคู่รักก็ได้
โถงลิฟต์ชั้น 5
เดินเข้ามาจะเจอกับ Co-Dining Space พร้อมฝ้าเพดานที่สูงโปร่งแบบ Double Volume เชื่อมต่อกับ Private Dining Room ที่ชั้น 6
บรรยากาศภาพรวม Co-Dining Space
Co-kitchen Room มีทั้งเตาปรุงอาหาร อ่างล้างจาน ตู้เย็น เคาน์เตอร์แบบ Island พร้อมอุปกรณ์สำหรับการทำอาหารแบบครบครัน ให้คุณได้สนุกกับการทำอาหารมากขึ้นด้วยพื้นที่ที่ไม่จำกัด
ภายในจะมีห้องน้ำส่วนกลางให้ 1 ห้อง
ขึ้นไปบนชั้น 6 ก็จะมี Private Dining Room สำหรับการจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ของกลุ่มเพื่อน ๆ หรือ ใช้เป็นพื้นที่ทานอาหารในบรรยากาศสงบ ๆ เป็นส่วนตัวแบบคู่รัก หรือ แบบครอบครัวได้อย่างอบอุ่น
โถงลิฟต์ชั้น 6
อาคาร A (ชั้น 7-8) เหนือชั้นพักอาศัยและโซนสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง 6 ชั้นจะเป็น Swimming Pool ขนาดใหญ่แบ่งเป็น Lap Pool และ Jacuzzi และมี Fitness พร้อมห้องน้ำแยกชาย-หญิงค่ะ
อาคาร A (ชั้น 7-8) และนี่ก็คือแปลนขยายภายใน Fitness ขนาดใหญ่ ภายในแบ่งออกเป็นโซน Cardio, Weight Training และ Boxing
โถงลิฟต์ชั้น 7 ใช้เชื่อมสู่สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนสที่ด้านนอก
เดินออกมาจะเจอกับ Sunken Seat 3 กลุ่ม ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ รับลมเย็น ๆ กันได้
อีกด้านจะเป็นสระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส และ ห้องน้ำส่วนกลาง พร้อมซาวน่า แยกชาย-หญิง
สระว่ายน้ำกั้นขอบสระด้วยกระจกใสทำให้เปิดรับวิวเมืองได้กว้าง
ตัวสระว่ายน้ำได้เป็นระบบเกลือ แบบ Half Olympic ความกว้าง 7 เมตร ยาว 25 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้เต็มที่
ท้ายสระมี Jacuzzi แยกมาให้ ไว้แช่ผ่อนคลาย ชมวิวเมือง
ข้าง ๆ สระก็จะมี Pool Bed ให้สามารถนอนเล่นพักผ่อนชมวิวเมืองได้
ติดกับสระว่ายน้ำ เป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องออกกำลังกายที่ได้มาตรฐาน
เข้ามาที่โซน Indoor จะเป็นห้องฟิตเนส แบบห้องหน้ากว้าง ผนังห้องเป็นกระจก Full Height ทั้ง 2 ฝั่ง ภายในตกแต่งด้วยไฟนีออน และใช้สีโทนร้อน อย่างสีแดง และสีดำ ดู Active ทันสมัย เปิดรับวิวได้ทั้งฝั่ง ทั้งวิวสระว่ายน้ำ และ วิวเมือง
ภายในห้องจัดมุมออกกำลังกายไว้เป็นโซน ๆ พร้อมเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย มีมุมคาร์ดิโอ, มุมเวทเทรนนิ่ง และ Boxing Area พร้อมอุปกรณ์ครบ ทั้งกระสอบทราย และนวมชกมวย ด้านข้างจะมีห้องน้ำ และ ห้องซาวน่า แยกชาย-หญิงมาให้เป็นสัดส่วนอีกด้วยค่ะ
ห้องน้ำแยกชาย-หญิง ภายในตกแต่งด้วยดีไซน์ทันสมัย ใช้โทนสีสด ดูโมเดิร์น พร้อมฟังก์ชันมาตรฐานครบ ทั้งเคาน์เตอร์อ่างล้างมืออัตโนมัติ, กระจกเงาบานใหญ่, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, ห้องซาวน่า และ ล็อกเกอร์เก็บของ
Rooftop ชั้น Rooftop ของทุกอาคารจะมีทางเชื่อมต่อกันเป็น Jogging Track หรือที่เรียกว่า Sky Running ที่มีความยาวเชื่อมกันทั้ง 8 อาคาร ความยาวรวมกว่า 400 เมตร
เดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นดาดฟ้า จะเจอกับ Sky Running
ชั้น 8 หรือ ชั้นดาดฟ้า ที่เป็นไฮไลท์ของโครงการนี้เลยนะคะ โดยชั้นนี้จะมี Sky Running ความยาว 400 เมตร เชื่อมต่อกันทั้ง 8 อาคาร โดยมีการจัด Landscape สร้างบรรยากาศเอาไว้ให้อย่างสวยงาม
พร้อม Sky Garden และมี Pavilion กระจายไว้ตามจุดต่าง ๆ ให้สามารถนั่งพักผ่อนรับลมชมวิวได้
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางตั้งอยู่ที่ชั้น 7 และ 8 ของอาคาร E และ อาคาร F เป็นพื้นที่แบบ Double Space เช่นกัน ทั้ง 2 จุด และสามารถเชื่อมต่อกันผ่าน Sky Bridge ได้
อาคาร B (ชั้น 2-8) อาคารนี้จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดเลยค่ะ มีจำนวน 112 ยูนิต หรือชั้นละ 16 ยูนิต และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 56 ค่ะ
อาคาร C (ชั้น 2-8) อาคารนี้จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดเลยเช่นกัน มีจำนวน 119 ยูนิต หรือชั้นละ 17 ยูนิต และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 60 ค่ะ
อาคาร D (ชั้น 2-8) อาคารนี้จะ Mirror กับอาคาร C มาเลยค่ะ มีจำนวนห้องพักอาศัย 119 ยูนิต หรือชั้นละ 17 ยูนิต และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 60 เท่ากัน
อาคาร E (ชั้น 2-6) การวางผังของอาคารนี้จะเหมือนกับอาคาร C ทุกประการ มีจำนวนห้องพักอาศัย 113 ยูนิต หรือชั้นละ 17 ยูนิต และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 57
อาคาร E (ชั้น 7-8) ส่วนที่ชั้น 7-8 จะมีความแตกต่างเล็กน้อย ตรงที่ห้อง 3 ห้องระหว่างโถงลิฟต์และโถงบันไดจะกลายเป็น Library แทน
อาคาร E (ชั้น 7-8) แปลนขยายของ Library ค่ะ ภายในถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ Shelf สำหรับวางหนังสือ และพื้นที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือ
พื้นที่ส่วนกลางแบบ Double Space ที่อาคาร E
โดยที่อาคาร E จะเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ ในบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะสำหรับนั่งติวหนังสือ อ่านหนังสือสอบ หรือนั่งคุยงานกับเพื่อน ๆ มีโซนนั่งรวมกันในพื้นที่โล่งสว่างสบายตา แต่ถ้าใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็จะมี Napping Space ดีไซน์สนุก ๆ จัดไว้ให้ด้วยค่ะ
ส่วนที่ชั้น 8 จะมีมุมนั่งอ่านหนังสือ ติวหนังสือแบบเงียบ ๆ ให้อีก 1 จุด
อาคาร F (ชั้น 2-6) การวางผังของอาคารนี้จะ Mirror มาจากอาคาร E อีกที มีจำนวนห้องพักอาศัย 113 ยูนิต หรือชั้นละ 17 ยูนิต และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 57
อาคาร F (ชั้น 7-8) ตรงที่ห้อง 3 ห้องระหว่างโถงลิฟต์และโถงบันไดจะกลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางเหมือนกันค่ะ มีอยู่ 2 รายการ คือ Game Room และ Theater Room
อาคาร F (ชั้น 7-8) แปลนขยายส่วน Theater Room จะมีพื้นที่สำหรับนั่งพักคอยข้างนอกก่อนเข้าสู่ Theater ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ Play Room บนชั้น 8
พื้นที่ส่วนกลางแบบ Double Space ที่อาคาร E
ถัดมาที่อาคาร F จะเป็นโซน Entertainment แบบจัดเต็ม ที่ชั้น 7 จะเป็น Play Room มีโต๊ะพูล และ โต๊ะโกลมือหมุน ไว้เล่นผ่อนคลาย
มี Theater Room หรือห้องดูหนัง ที่จำลองบรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงหนังจริง ๆ จัดเต็มทั้งภาพและเสียง
ที่ชั้น 8 จะทีมุมนั่งเล่น นั่งทำงานได้อีก 1 จุด
อาคาร G (ชั้น 2-8) การวางผังของอาคารนี้จะ Mirror มาอีกเช่นกันค่ะ มีจำนวนห้องพักอาศัย 119 ยูนิต หรือชั้นละ 17 ยูนิต และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 60
อาคาร H (ชั้น 2-8) การวางผังเหมือนกับอาคารที่ผ่านๆ มา แตกต่างกันแค่การ Mirror เท่านั้นค่ะ มีจำนวนห้องพักอาศัย 119 ยูนิต หรือชั้นละ 17 ยูนิต และมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 60
แบบห้องของโครงการ
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 4 แบบหลัก ๆ ด้วยกันได้แก่
1 Bedroom : 22.5-27.0 ตร.ม.
1 Bedroom Smart Walk-in Closet : 26.0-27.0 ตร.ม.
1 Bedroom Plus : 30.0-34.5 ตร.ม.
2 Bedroom : 43.5-44.0 ตร.ม.
ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินหลัก ๆ มาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ Daikin ระบบ Inverter, ระบบ Home Automation และ Digital Door Lock ของ COLT ซึ่งห้องแต่ละ Type ก็จะได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินแตกต่างกันไป เรามาดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type ที่ได้กันค่ะ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.5 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Fully Fitted ได้เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft., ตู้เสื้อผ้า
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.0 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Fully Fitted ได้ เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft., ตู้เสื้อผ้า
ห้อง 1 Bedroom Smart Walk-in Closet ขนาด 26.0 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Fully Fitted ได้เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft. และโต๊ะข้างเตียงพร้อม Wireless Charger, ตู้เสื้อผ้า Smart Walk-in Closet Set พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและ Beauty Mirror
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.0 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Fully Fitted ได้เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft. ตู้เสื้อผ้า Smart Mirror (ในห้องน้ำ)
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 43.5 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Fully Fitted ได้ เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock, ตู้เก็บรองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ft. ทั้งหมด 2 หลัง, ตู้เสื้อผ้า 2 หลัง, Smart Mirror (ในห้องน้ำ)
ห้องตัวอย่าง
แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom ขนาด 22.50 ตร.ม. ห้องพักขนาดเริ่มต้นของโครงการ เหมาะสำหรับหนุ่มโสด สาวโสด ที่อยู่คนเดียว รูปแบบห้องจะเป็นห้องหน้าแคบ แต่ลึก เข้ามาด้านในจะเจอกับห้องครัวปิด ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนพักผ่อน รวมพื้นที่สำหรับวางโซฟา และ เตียงนอนเอาไว้ด้วยกัน มีพื้นที่ริมหน้าต่าง ให้ทำเป็นมุมทำงาน หรือ มุมนั่งเล่นอีกจุดได้ ติดกันเป็นระเบียงขนาดกะทัดรัด และที่ตั้งของ CDU 1 เครื่องค่ะ
ประตูห้องพักได้เป็นบานไม้ HDF ปิดผิวลายไม้สีอ่อน วงกบไม้เนื้อแข็งทาสีขาวครีม พร้อมตาแมวไว้ส่องคนที่หน้าบานประตู พื้นห้องพักยกสูงจากโถงทางเดินเล็กน้อย ช่วยป้องกันแมลงตัวเล็ก ๆ และกันฝุ่นพัดเข้าสู่ห้องพัก
กลอนประตูระบบ Digital Door Lock ของ COLT พร้อมมือจับแบบคันโยก ใช้งานได้ทั้ง Password, Key Card, กุญแจ และเชื่อมกับระบบ Home Automation ปลดล็อกผ่านมือถือได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งรหัสชั่วคราวไว้สำหรับให้เพื่อน หรือแม่บ้านมาทำความสะอาดได้ โดยที่รหัสจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นค่ะ
เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง จะเจอกับห้องครัวปิด และห้องน้ำเป็นอันดับแรก ต่อเนื่องไปเป็นห้องนอน และระเบียง ความสูงพื้น-เพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ Led Slimline ทั้งห้อง
และที่นี่ผนังห้องจะเป็นผนัง Solid Wall ซึ่งเป็นนวัตกรรมจาก SCG คือจะเหมือนเป็นผนังสำเร็จที่มีการเก็บเสียงได้ดีกว่าผนังสำเร็จทั่วไป และสามารถแขวนชั้นลอยได้เพราะมีความแข็งแรงสูง โดยห้องที่ได้จะเป็นผนัง Solid Wall ฉาบเรียบทาสีขาว
จากด้านในมองกลับออกมาที่ประตูทางเข้า พื้นห้องครัวปูแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. ที่เหมาะกับการใช้งานหนัก และทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนระยะใช้งานตรงกลางเหลือกว้าง ประมาณ 1.2 เมตร ยืนทำอาหาร, ล้างจาน และ เดินเข้า-ออกได้พอสะดวก
ห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์ครัวบิวท์อิน พร้อมตู้เก็บของด้านบน หน้าบานปิดผิวลายไม้สวย ๆ ตามนี้ ด้านข้างเว้นพื้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็น ขนาด 6-8 คิว ได้
หน้าท็อปครัวปิดผิวลามิเนตลายหินอ่อนสีขาว ผนังทำ Backsplash กระจกเงา พร้อมติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ 1 จุด ตามนี้
สิ่งที่ให้มากับชุดครัวเลยก็จะมีเตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele
ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกของ Hafele
ด้านล่างจะมีตู้เก็บของ, ลิ้นชักเก็บของ และ ช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก. โดยด้านหลังจะเดินงานระบบไฟฟ้า-ระบบประปา ท่อน้ำดี, ท่อน้ำทิ้งมาให้พร้อมต่อใช้งานได้เลยค่ะ
ตู้เก็บของใต้ซิงค์ แบบบานเปิด ภายในจะเป็นช่องโล่ง ๆ เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน หรือจะใช้เป็นที่วางถังขยะใบเล็ก ๆ ก็ได้
อีกฝั่งจะมีลิ้นชักเก็บช้อน-ส้อม และตู้เก็บของ พร้อมชั้นลอยเล็ก ๆ ให้อีก 2 ชั้น
ด้านหลังประตูห้อง จะได้ตู้เก็บรองเท้าบิวท์อินมาตามนี้ ภายในมีชั้นลอยสำหรับวางรองเท้าให้ 3 ชั้น เก็บรองเท้าได้สูงสุด ประมาณ 6 คู่ค่ะ
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัวเลย แม้ว่าจะเป็นห้องขนาด 22.50 ตร.ม. แต่ภายในมีพื้นที่ใช้งานที่กว้าง และแบ่งส่วนแห้ง ส่วนเปียกให้เรียบร้อย
พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกันกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม. ผนังตกแต่งกระเบื้องผิวมันสีขาว สลับกับกระเบื้องลายหินสีเทาได้ Mood & Tone เดียวกัน ส่วนสุขภัณฑ์มาตรฐานในห้องน้ำใช้เป็นของ American Standard ทั้งหมดค่ะ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนแห้งกันก่อน โดยจะติดสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ตามนี้ ในระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด ผนังส่วนแห้งติดกระจกเงาบานใหญ่ ที่เพดานส่วนแห้งจะติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้ามาให้ 1 เครื่อง
อ่างล้างมือทรงเหลี่ยมแบบแขวนผนัง หน้าอ่างมีพื้นที่ให้วางของใช้จุกจิกได้เล็กน้อย พร้อมหัวก๊อกโครเมียมแบบก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวกดี
ผนังข้าง ๆ อ่างติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟ + USB Post พร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้ เอาใจคนที่ชอบเล่นมือถือในห้องน้ำ หรือจะเอาไว้เสียบพวกไดร์เป่าผม, เครื่องโกนหนวด หรือเสียบชาร์จลำโพง Bluetooth ก็ได้ค่ะ
ถัดมาจะเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่สแตนเลสครบชุด
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำ จุดนี้จะกั้น Shower Box กระจก Temper ประตูบานสวิง มือจับตัว C แขวนผ้าเช็ดตัวได้ให้แบบนี้
ด้านในติดตั้งฝักบัว Hand Shower ผนังเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ และมีติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นของ Electrolux มาให้เรียบร้อยค่ะ
ส่วนอาบน้ำเค้าจะมีธรณีแยกมาให้อีกชั้น กันน้ำกระเด็นออกไปที่ด้านนอก ส่วนพื้นที่ใช้งานด้านในขนาดกำลังดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
จากห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแยกโซนมาให้
ถัดจากห้องครัวและห้องน้ำเข้าไป จะเจอกับส่วนพักผ่อนที่รวมห้องนั่งเล่น, ห้องนอน และ ห้องทำงานไว้ในพื้นที่เดียวกัน โดยส่วนนี้จะได้พื้นเป็นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม.
ในห้องได้ฐานเตียง 5 ฟุต ไม่รวมฟูก
ข้างเตียงนอนฝั่งขวา จะจัดเป็นมุมทำงาน โดยวางโต๊ะทำงานแบบเดี่ยวมาให้ดูเป็นไอเดีย
ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง จะมีพื้นที่เว้นลึกลงไป ให้เราทำเป็นมุมนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ โดยวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้ และตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติที่เพียงพอจากหน้าต่างบานผสมขนาดใหญ่อีกด้วยค่ะ
มองกลับมาดูอีกฝั่งของห้องกันบ้าง เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินปลายเตียงที่เราเห็นนั้นคือทางโครงการมีให้มากับห้องทั้งหมดเลยนะ ทั้งตู้เสื้อผ้าบานเปิดความสูงจรดฝ้าเพดาน, ชั้นวางทีวี และติดตั้งแอร์ Daikin Inverter 12,000 BTU มาให้ด้วยค่ะ
ชั้นวางทีวีพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง สามารถวางทีวีขนาด 32-42 นิ้วได้ ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้ามาให้พร้อมต่อใช้งาน
ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน แบบบานเปิดความสูงจรดฝ้าเพดาน หน้าบานมีกระจกเงาติดมาให้ 1 ฝั่ง ภายในมีฟังก์ชันมาตรฐานให้ครบ ทั้งราวแขวนผ้า, ราวแขวนกางเกง, ราวแขวนชุดเดรสยาว และชั้นวางของ
ประตูระเบียงเป็นกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเลื่อน 3 ตอน ยกธรณีสูงขึ้นมา ประมาณ 15 ซม. ช่วยกันน้ำฝน กันฝุ่นพัดเข้ามาในห้องได้
ระเบียงขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับวางราวตากผ้าเล็ก ๆ หรือวางเป็นพวกต้นไม้กระถางมากกว่า ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็กแนวตั้งทาสีเทากันสนิม ความสูง ประมาณ 1 เมตร ตัวพื้นจะปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม. พร้อมเจาะท่อระบายน้ำมาให้ ผนังด้านข้างติดตั้งก๊อกสนามมาให้ด้วย 1 จุด
จากระเบียงมองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก
แปลนห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Smart Closet ขนาด 26 ตร.ม. เป็นห้อง Layout ใหม่ที่เป็นจุดขายของแบรนด์ The Origin ฟังก์ชันในห้องแบ่งมาเป็นสัดส่วนและสามารถใช้งานได้อย่างลงตัวมากขึ้น เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อน ได้เป็นครัวปิดมีฉากกั้นเปิดปิดแยกส่วนให้
ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นเชื่อมกับห้องนอน ส่วนนี้จะใช้พื้นที่ร่วมกัน ถัดมาอีกฝั่งจะเป็นส่วนของ Walk- in Closet ที่ให้พื้นที่มาค่อนข้างเยอะ คนที่มีเสื้อผ้าเยอะน่าจะชอบห้องนี้ ด้านในมีห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ และ อีกฝั่งจะเป็นระเบียงซักล้างที่อยู่ด้านนอก
ประตูห้องพักได้มาเหมือนกันทั้งหมด พร้อมกลอนระบบ Digital Door Lock มือจับก้านโยกของ COLT
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวปิด ถัดเข้าไปเป็น Living Area พร้อม Walk-in Closet และ ห้องน้ำ พื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนด้านในจะเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.4 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง ไฟได้แบบดาวน์ไลท์ทุกส่วน
เข้ามาในห้องแล้วมองย้อนกลับมาที่ประตู จะเห็นภาพรวมแบบนี้
ฝั่งนี้จะได้ตู้เก็บของเป็นแบบบานเปิดบิวท์อินมาให้จรดฝ้าเพดาน ทำให้เก็บของได้เยอะ แบ่งช่องไว้ใส่รองเท้า วางกระเป๋า และที่แขวนกุญแจ มีพื้นที่ไว้ให้วางตู้เย็น ขนาด 6-8 คิวได้ การดีไซน์ดูทันสมัยและเน้นการใช้งานได้จริง
อีกฝั่งให้เคาน์เตอร์ครัว พร้อมตู้เก็บของบน-ล่าง มีที่วางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าให้ครบ หน้าท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์ ติดตั้งซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันของ Hafele ให้ตามนี้เลย ผนังทำ Backsplash กระจกเงา ติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด
แยกส่วนครัว และ Living Area ด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง กรอบอะลูมิเนียมอบสีดำ แบบบานเลื่อน 3 ตอน
เดินเข้ามาจะเป็น Living Area ที่รวมส่วนห้องนั่งเล่นกับส่วนห้องนอนเข้าไว้ด้วยกัน ข้อดีของห้องแบบนี้คือภายในจะดูกว้างไม่อึดอัด ไม่เสียพื้นที่ไปกับการกั้นผนัง
มุมนั่งเล่นวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางมาให้ดูเป็นไอเดีย จุดนี้จะสามารถทำเป็นมุมรับประทานอาหารไปในตัวได้ด้วย
ตรงข้ามกันจะบิวท์อินชั้นวางทีวี พร้อมชั้นวางของที่มีหน้าบานเลื่อนสลับติดมาให้แบบนี้ สามารถวางทีวีขนาด 32-52 นิ้วได้กำลังดี ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้ามาให้เรียบร้อย ผนังด้านบนติดแอร์ Wall Type ของ Daikin ระบบ Inverter ให้ 1 ตัว
มองกลับมาทางหน้าห้อง ระยะใช้งานกว้าง ประมาณ 1.5 เมตร นั่งดูทีวีได้สบาย ๆ เดินเข้า-ออกไปส่วนอื่น ๆ ได้สะดวก
ถัดไปจะเป็นส่วนห้องนอน และ Walk-in Closet มีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ติดไว้ให้ด้วย โดยจะมีทั้งแบบบานฟิกซ์ ไว้เป็นช่องแสงธรรมชาติ และบานกระทุ้ง ติดมาให้ 2 บาน ไว้เปิดรับลม ระบายอากาศได้
ในห้องจะได้ฐานเตียงนอน ขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียง / โดยโต๊ะหัวเตียงเค้าจะมีลิ้นชัก ตรงปลั๊กหัวเตียงจะมีช่องเสียบ USB ไว้รองรับด้วยนะ
มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องค่ะ
จากเตียงนอนเราสามารถใช้งานทีวีร่วมกับตรงส่วนห้องนั่งเล่นได้ค่ะ
ฝั่งปลายเตียงจะมีทางเดินเข้าไปยังส่วน Walk-in Closet หรือที่โครงการเรียกห้องนี้ว่า Smart Closet เป็นจุดขายของ The Origin ที่ใช้ในโครงการที่ผ่าน ๆ มาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจะกั้นประตูเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน ใช้งานได้สะดวก
ภายในส่วนนี้มีขนาดพื้นที่ประมาณ 3.55 x 0.80 ม. โครงการจะบิวท์อินชุดตู้เสื้อผ้าแบบเปิด และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ตามนี้เลย ถือว่าคุ้มเกินราคาจริง ๆ แบ่งช่องทั้งแบบแขวน และช่องวางของต่าง ๆ ได้เยอะดี
ชุดโต๊ะเครื่องแป้งมีกระจกเงาพร้อมไฟส่องรอบกระจก คุณผู้หญิงน่าจะชอบห้องนี้นะคะ ส่วนนี้ถือว่าออกแบบได้ดีตอบโจทย์คนอยู่คอนโดเป็นอย่างมากเลยค่ะ
ระยะใช้งานกว้างกำลังดี เหมาะสมกับขนาดห้องที่มีพื้นที่กระชับ ต่อเนื่องไปด้านในจะเชื่อมกับห้องน้ำได้เลย
ห้องน้ำติดประตูไม้บานทึบ ลูกบิดกลมกดล็อก พร้อมยกธรณีสูงขึ้นมา ประมาณ 5 ซม. กันความชื้น และกันน้ำไหลออกมาที่ด้านนอก
ห้องน้ำแนวลึก แบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย พื้นและผนังตกแต่งกระเบื้องเซรามิกโทนสีเทาและขาว ดูสว่าง สะอาด น่าใช้งาน ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้เป็นของ American Standard เพดานติดพัดลมระบายอากาศให้ 1 ตัว
อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ต ผนังติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ + USB Port และ กระจกเงาบานใหญ่ให้ตามนี้
ด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำ ยกธรณีสูงขึ้นมา 5 ซม. และติดฉากกั้นอาบน้ำกระจก Temper ประตูบานสวิงมาให้ มือจับเป็นสแตนเลสตัว C ที่แขวนผ้าเช็ดตัวได้
พื้นที่อาบน้ำขนาดกว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
ฝักบัว Hand Shower ขนาดพอดีมือ ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ผนังเดินงานระบบ Junction Box ไว้ให้
มองกลับมาที่ทางเข้าห้องน้ำ
จากห้องน้ำมองกลับออกมา อีกฝั่งจะเป็นประตูทางออกไปยังระเบียงซักล้างด้านนอก
ประตูระเบียงเป็นกระจกเขียวตัดแสง บานกรอบอะลูมิเนียมอบสีดำ แบบบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้จนสุด ยกธรณี-วงกบขึ้นมา ประมาณ 15 ซม. กันชื้น กันสิ่งสกปรก และน้ำฝนกระเด็นเข้าสู่ห้องพัก
ระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. พื้นที่ใช้งานไม่ใหญ่มาก แต่ก็พอที่จะวางราวตากผ้า หรือปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัวได้ ผนังซ้ายมือติดก๊อกสนามให้ 1 จุด
ราวกันตกระแนงเหล็กสูง ประมาณ 1 เมตร ด้านบนติด CDU ให้ 1 เครื่อง ผนังขวามือติดโคมไฟกิ่งให้ 1 ดวง
ราคา (ก.ค.64)
ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*
เงินจอง+ทำสัญญา 5,000 บาท*
ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.ม./เดือน
เงินกองทุน 450 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3kWIqOE
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม**
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น เป็นคอนโดพร้อมอยู่ ทำเลดี ติดถนนใหญ่รามอินทรา ระหว่างซอยรามอินทรา 79/1 กับซอยรามอินทรา 81 เป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise, ออฟฟิศ โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน มีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร
เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อม ๆ มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, Hypermarket, Community Mall, Supermarket รวม รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย ปัจจัยที่จะช่วยผลักดันให้ทำเลนี้พัฒนาขึ้นไปอีกก็คือรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ไม่ว่าจะซื้อโครงการเอาไว้อยู่เองหรือซื้อไว้ลงทุนดูก็น่าสนใจค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวก เพราะอยู่ติดถนนรามอินทราซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น อยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษกซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอินหรือใช้วิ่งลงไปทางบางนา- สุวรรณภูมิก็สะดวก
อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย และมีอีก 1 ตัวช่วยในการเดินทางคือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี-รังสิต และผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกมาก เพราะถนนรามอินทราจะมีรถสาธารณะผ่านตลอด สามารถหารถได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ และแนะนำให้ใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีรามอินทรา กม.9 ห่างจากโครงการเพียง 70 เมตร เท่านั้นเอง ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีกำหนดคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานในปี 2565 ค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น มีทั้งหมด 8 อาคาร บนเนื้อที่ 6-3-3 ไร่ มีห้องชุดพักอาศัยจำนวน 879 ยูนิต ที่ออกแบบมาเอาใจคน Gen Z “Work Life Smart” ด้วยดีไซน์ที่เรียบเท่ทันสมัยพร้อมเทคโนโลยีล้ำ ๆ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งใน “Origin Smart City Ramintra”
ภายในโครงการมีห้องแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Smart Walk-in Closet, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 22.5-44.0 ตร.ม. โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted พร้อมเครื่องปรับอากาศ, Digital Door Lock ระบบ 1 Pass Password (Guest Pin), ระบบ Home Automation และ Built-in Furniture แบบจัดเต็ม (แตกต่างกันในแต่ละ Type ห้อง)
มีการวางผังห้องแต่ละแบบที่น่าสนใจโดยนึกถึงผู้อยู่อาศัยที่เป็นคนยุคใหม่มากขึ้น อย่างห้อง 1 Bedroom ที่เราได้เข้าไปชมกันจะเป็นห้องที่โดดเด่นด้วย Smart Walk-in Closet ยาว 3 เมตร เน้นผู้อยู่อาศัยที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการแต่งตัวเป็นพิเศษ หรือมีของค่อนข้างเยอะ
โดยจะไม่เน้นการแบ่งส่วนของพื้นที่ Common Area และส่วนพักผ่อนหลับนอน แต่จะแบ่งส่วนครัวออกไปอย่างชัดเจนโดยให้เป็นครัวปิดพร้อมติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการประกอบอาหารพร้อม
ส่วนห้อง 1 Bedroom ก็จะเป็นผังห้องมาตรฐานที่มีฟังก์ชันหลัก ๆ แบ่งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน นอกจากนี้วัสดุที่ได้มากับตัวห้องก็ถือว่าได้มาตรฐานดีค่ะ มีดีเทลที่น่าสนใจตรงที่ให้ USB Outlet ตามจุดต่างๆ, แท่นชาร์จแบบ Wireless ตรงข้างเตียงนอน และ Smart Mirror ในห้องน้ำ (1 Bedroom Plus ขึ้นไป) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ได้ดีมากยิ่งขึ้น
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย มีมาให้อย่างครบครันและหลากหลายเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์อย่างคน Gen Z โดยหลัก ๆ จะอยู่ที่อาคาร A เรียงยาวตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 8จุดนี้จะมี Co-Working Space ให้นั่งทำงานได้ตลอด 24 ชม. และมีแยกออกมาอีก 2 จุด ที่ชั้น 7-8 ของอาคาร E และ F รวมแล้วกว่า 21 รายการ
คอร์ทกลางที่ดินโครงการ หรือระหว่างกลางของ 8 อาคาร จะมีสวนพักผ่อน Step Garden จัดไว้ให้ รอบ ๆ โครงการจัดสวน กระจายพื้นที่สีเขียวไว้เยอะ มีที่จอดรถ EV Charger เตรียมให้อีก 3 ช่อง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย Key Card, CCTV, แยกแต่ละอาคารตลอด 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 020-300-000
Website : https://www.origin.co.th/condominium/the-origin-ramintra-83-station/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโดใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
The Origin Plug & Play รามอินทรา เริ่ม 2.39 ล้าน*
Rise Charoennakhon Luxe Neo Classic ใกล้ ICONSIAM
Kave Town Shift ใกล้ ม.กรุงเทพ
The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น
เซ็นทริค สาทร-วงเวียนใหญ่ ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่
ออริจิ้น ปลั๊ก & เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น ใกล้ MRT แยกนนทบุรี 1
The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ ใกล้ BTS สายหยุด เริ่ม 2.39 ล้าน*
The Excel Hideaway สุขุมวิท 71 คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ ติดทางด่วน ใกล้ BTS 2 สถานี
THE ORIGIN Onnut ใกล้ BTS อ่อนนุช เริ่ม 1.29 ล้านบาท*
KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107 คอนโดพร้อมอยู่ ใกล้ BTS แบริ่ง 450 เมตร*
The Politan Aqua คอนโดพร้อมอยู่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
จาก บริษัท พายน์ มาร์เก็ตติ้ง ดีไซน์ จำกัด
ขออนุญาตแนะนำบริษัทนะคะ ทางเราเป็นบริษัทจัดทำการตลาด โฆษณา ออนไลน์ ทุกรูปแบบ เราจะสามารถทำให้แบรนด์ของท่านเป็นที่รู้จัก มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้ยั่งยืนในระยะยาว สามารถขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น ทุกผลงานที่เรานำเสนออกไปทุกผลลัพธ์สามารถวัดผลได้
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อเพื่อนัดเจ้าหน้าที่เข้าไปแจ้งรายละเอียดหรือติดต่อได้ตามข้อมูลการติดต่อเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ