EP.1740 รีวิว คอนโด เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 The Parkland Phetkasem 56
ค้นหาห้องเพื่อ ซื้อ หรือเช่า โครงการ The Parkland Phetkasem 56
Written by : Pure Thitapa
Photo by : Eins Gannika
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาเพื่อน ๆ ไปดูโครงการคอนโด High-Rise ที่มีส่วนกลางเยอะที่สุดในย่านฝั่งธนฯ ที่สุดของการอยู่อาศัยภายใต้การโอบล้อมด้วยธรรมชาติ กับโครงการ The Parkland เพชรเกษม 56 จาก Narai Property
ที่ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมทยอยเข้าอยู่ และ ได้มีการเปิด Open House ให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชมพื้นที่ส่วนกลาง บรรยากาศจริงกันแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โดยโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในย่านเพชรเกษม-บางแค ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า เพียง 40 เมตร ถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีภาษีเจริญ ด้านหลังสถานีรถไฟฟ้า เป็น ตลาดเสนีย์ ฟู้ดมาร์เก็ต ตลาดอาหารขนาดใหญ่ที่เปิดตลอด 24 ชม. ตรงข้ามกับโครงการเป็นที่ตั้งของห้าง Seacon บางแค ที่สามารถเดินเท้าจากโครงการไปช้อปปิ้ง ดูหนัง ทานข้าวได้สบาย ๆ
เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ พื้นที่โครงการขนาด 13-3-12.3 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 2,047 ยูนิต + ร้านค้าในโครงการ 1 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกหลากหลายแบบ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคน โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ Studio, 1 Bed และ 2 Bed ขนาดเริ่มต้น 25-62 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2563
มาพร้อมส่วนกลางยิ่งใหญ่อลังการ พื้นที่กว่า 13 ไร่ Facilities มากกว่า 30 โดยพื้นที่ส่วนกลางจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้ง 3 ทาวเวอร์ ไม่ว่าจะเป็นสวนเล่นระดับ, ฟิตเนส 2 ชั้น, เวทีมวย, ซาวน่า, ห้องโยคะ, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มีให้มากถึง 2 สระ, Co-Working Space พร้อม Social Club + Workshop Area พร้อม Extra Storage พื้นที่ส่วนกลางให้ลูกบ้านเก็บของได้
อีกทั้งยังมี Star Pavilion ที่ชั้น 32 ให้ดูดาวแบบพาโนรามาวิว ไปพร้อม ๆ กับการผ่อนคลายด้วย Mini Theatre, Karaoke Room และพื้นที่จัดปาร์ตี้ส่วนตัว, ที่จอดรถได้มาเยอะถึง 50% ไม่รวมซ้อนคัน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยพรีเมียมทั่วทั้งโครงการตลอด 24 ชม.
ในราคาเริ่มต้น 1.97 ล้านบาท* ฟรี ! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน พิเศษแถม แอร์ + ตู้เสื้อผ้า + ชุดครัวครบเซ็ต + เครื่องทำน้ำอุ่น + กระจกอาบน้ำ และ Digital Door Lock ทุกห้อง
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
คอนโด THE PARKLAND ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
THE PARKLAND ตากสิน-ท่าพระ
THE PARKLAND Grand ตากสิน
THE PARKLAND รัชดา-ท่าพระ
THE PARKLAND เพชรเกษม
THE PARKLAND เพชรเกษม 56
THE PARKLAND เพชรเกษม-ท่าพระ
THE PARKLAND จรัญ-ปิ่นเกล้า
THE PARKLAND Grand อโศก-เพชรบุรี
| ชื่อโครงการ | เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 The Parkland Phetkasem 56 |
| ค้นหาห้องเพื่อเช่า | ดูประกาศเช่า คอนโด เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 / The Parkland Phetkasem 56 |
| ค้นหาห้องเพื่อซื้อ | ดูประกาศขาย คอนโด เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 / The Parkland Phetkasem 56 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท นารายา เพชรเกษม จำกัด ในเครือนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 13-3-12.3 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ |
| จำนวนชั้น |
|
| จำนวนห้อง |
|
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
| จำนวนลิฟต์ |
|
| โซน | เพชรเกษม-บางแค |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ซอยเพชรเกษม 56 ถนนเพชรเกษม แขวงภาษีเจริญ เขตบางแค กทม. |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 1 ปี 2561 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จปี 2563 |
| ราคา | ราคาเริ่มต้น 1.97 ล้านบาท* ก.ค.63 |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | n/a |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
หน่วยงานอื่น ๆ
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | The Parkland เพชรเกษม 56 คอนโดพร้อมอยู่ ที่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญที่สุด เพียง 40 เมตร ตรงข้าม Seacon บางแค พร้อม Facilities แบบจัดเต็ม แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร อาทิ สวนเล่นระดับแนวใหม่, Sky Social Club สุดหรู, สระว่ายน้ำ 2 สระ, น้ำตก, สนามมวย, Sky Private Party Room, และพื้นที่ให้เช่าเก็บของ Extra Storage |
คอนโดโดยรอบ MRT ภาษีเจริญ
ทำเลที่ตั้งโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ The Parkland เพชรเกษม 56 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า และ ซอยเพชรเกษม 56 ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีภาษีเจริญ (40 เมตร) ตรงข้ามกับโครงการเป็นห้าง Seacon บางแค สามารถใช้สถานีรถไฟฟ้า เดินเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวห้างได้เลย จาก MRT ภาษีเจริญ นั่งต่อไปเพียง 2 สถานี ถึง Interchange บางหว้า ซึ่งนั่งต่อไป เพียง 6 สถานี เข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจสีลมและสาทรได้เลย
นอกจากทำเลที่สามารถเชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้ง่ายแล้ว รอบ ๆ โครงการยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันที่ครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฝั่งธนฯ อย่างตลาดเสนีย์ ฟู้ดมาร์เก็ต, Seacon บางแค และ The Mall บางแค ใกล้โรงเรียน-มหาวิทยาลัยชั้นนำ อย่าง ม.สยาม และ รร.เซนต์ปีเตอร์ธนบุรี รวมถึงใกล้กับโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียง อย่าง รพ.พญาไท 3 และ รพ.เกษมราษฎร์ บางแค เป็นต้นค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม โดยถนนเพชรเกษม ถือเป็นถนนเส้นหลักของคนย่านฝั่งธนฯ และยังเป็นถนน 6 ช่องจราจร ช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวก คล่องตัว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญเส้นอื่น ๆ ได้หลากหลาย ครอบคลุมถนนสายสำคัญของโซนฝั่งธนฯ เกือบจะครบทุกเส้นทาง
จากโครงการเลี้ยวซ้ายออกมา จะเป็นถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า ขับตรงขึ้นไปจะผ่านแยกต่างระดับเพชรเกษม เลี้ยวซ้ายจะเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าสู่สวนผัก, นครอินทร์ ออกไปบรมราชชนนีได้ หรือ ใช้ตัดเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ ฝั่งเข้าเมือง ที่ใช้วิ่งไปยังถนนกรุงธนบุรี, สะพานตากสิน เชื่อมสู่โซนธุรกิจใจกลางเมืองอย่างสาทร-สีลมได้ ใช้เวลาเพียง 10-20 นาที
ผ่านแยกต่างระดับเพชรเกษมขึ้นไป จะมุ่งหน้าออกไปยังเพชรเกษม ต้นตอน ออกไปยังวงเวียนใหญ่ จุดนั้นจะเชื่อมต่อไปได้อีกหลายโซนเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถนนประชาธิปก, ถนนอิสรภาพ ข้ามสะพานพระปกฯ ออกไปพาหุรัด, สำเพ็ง, เยาวราช, เจริญกรุง ยาวไปยันราชดำเนิน ที่เป็นพื้นที่โซนเกาะรัตนโกสินทร์ได้เลย
เชื่อมต่อไปยังโซนลาดหญ้า ตัดสู่เจริญนคร เส้นนี้ใช้เดินทางไปไอคอนสยามได้ง่าย และ เชื่อมต่อไปยังถนนพระสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่ตัดเข้าสู่ถนนกรุงธนบุรี มุ่งหน้าสู่ CBD สีลม-สาทร หรือ ขับตรงยาวออกไปยังโซนพระราม 3, จอมทอง, ดาวคะนอง, สุขสวัสดิ์ได้เลยค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการเดินทางออกชานเมือง ไปยังโซนปริมณฑล หรือ ใครที่ทำงานในโซนสมุทรสาคร นครปฐม ก็สามารถใช้ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก ขับตรงไปบนถนนเพชรเกษม ก็จะเชื่อมสู่หนองแขม, อ้อมน้อย, อ้อมใหญ่, กระทุ่มแบน ยาวไปจนถึงนครปฐม, ราชบุรี, กาญจนบุรี ได้เลย
หากต้องการไปโซนศาลายา ก็สามารถลัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1, สาย 2 หรือ ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ฝั่งขาออก มุ่งหน้าสู่ถนนศาลายา-นครชัยศรี เส้นนี้จะเชื่อมสู่บรมราชนนีออกไปศาลายาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีถนนกาญจนาภิเษก ที่ใช้มุ่งหน้าออกไปยังโซนเอกชัย พระราม 2 ได้ง่าย หรือ ใช้อีกฝั่งจะมุ่งหน้าออกไปโซนปิ่นเกล้า, บางใหญ่, บางบัวทอง ยาวออกไปตัวเมืองนนทบุรี และ สุพรรณบุรีได้เลยค่ะ
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : จุดเด่นอีกอย่างของโครงการ The Parkland เพชรเกษม 56 ก็คือเป็นคอนโดที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า ในระยะเดินเท้าเพียงแค่ 40 เมตร จากโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค สถานีภาษีเจริญ ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
จาก MRT ภาษีเจริญ นั่งต่อไป 2 สถานี ถึง Interchange บางหว้า สามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยัง BTS ได้ง่าย ๆ ที่ด้านบนสถานี โดยเส้นรถไฟฟ้า BTS สายสีลม จะใช้นั่งเข้าเมืองไปยังสะพานตากสิน, สาทร-สีลม และ สยามได้เลย
โดยเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค จะวิ่งผ่านพื้นที่ใจกลางเมืองที่สำคัญ ๆ และเชื่อมฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครเข้าด้วยกัน ถือว่าเป็นรถไฟฟ้าสายเดียวในประเทศไทยในตอนนี้ที่วิ่งเป็นวงกลม
จากโครงการสามารถนั่งออกไปยังเยาราช, หัวลำโพง, สามย่าน ยาวไปยันจตุจักรได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานี รวมถึงใช้นั่งไปต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงท่าพระ-เตาปูนได้แล้ว ที่ Interchange ท่าพระ ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ป้ายรถประจำทางมีให้เลือกใช้ 2 จุด หลัก ๆ คือ ฝั่งเดียวกับโครงการ และ ฝั่งตรงข้ามโครงการ ด้านหน้า Seacon บางแค ซึ่งทั้ง 2 จุด จะอยู่ติดกับบันไดรถไฟฟ้าเหมือนกันนะคะ
ในส่วนของรถสาธารณะที่ผ่าน ก็จะมีให้เลือกหลายประเภท ทั้งรถเมล์, รถปรับอากาศ และรถสองแถว มีให้เลือกหลายสายมาก ในส่วนของมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ Taxi สามารถเรียกได้จากหน้าโครงการ มีรถผ่านตลอดทั้งวันค่ะ
สถานที่สำคัญโดยรอบโครงการ ในรัศมีไม่เกิน 10 กม. มีความอุดมสมบูรณ์สูง เพราะอยู่ในย่านชุมชนดั้งเดิมของคนบางแค รอบ ๆ โครงการส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัยแบบแนวราบ และ อาคารพาณิชย์ รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ติดถนนเพชรเกษม จะเป็นอาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น และ 4 ชั้น ส่วนมากจะเปิดเป็นร้านค้า, ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหาร ซึ่งมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ใกล้ตลาดขนาดใหญ่ อย่างตลาดบางแค
มีตลาดเสนีย์ ฟู้ดมาร์เก็ต ที่เป็นแหล่งของกินแห่งใหม่ย่านบางแค ตั้งอยู่ติดกับตัวโครงการเลย เดินเท้าไปหาของกินได้สบาย ๆ โดยตลาดเสนีย์ ฟู้ดมาร์เก็ต จะเป็นตลาดอาหารขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ ที่รวมร้านค้ารสเด็ด ร้านดังต่าง ๆ เอาไว้มากกว่า 100 ร้านค้า ที่สำคัญคือ ทุกร้านค้าที่เลือกมานั้นจะไม่ซ้ำกัน ทำให้ลูกค้ามีเมนูให้เลือกทานได้อย่างหลากหลาย
อีกทั้งยังแบ่งโซนของร้านอาหารเป็น 2 ช่วงเวลา คือ โซนด้านหน้าจะเป็นโซน 24 ชั่วโมง สำหรับเป็นเพื่อนยามดึกให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาย่านเพชรเกษม และโซนด้านในที่เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ตอบโจทย์ชีวิตคนทำงานทั้งเช้า กลางวัน เย็น ถ้ากลับบ้านดึก ๆ หาของกินไม่ได้ ก็เดินเท้ามาได้สบาย ๆ เลยค่ะ
ในส่วนของห้างสรรพสินค้า และ ห้างค้าปลีก ก็จะมี Seacon บางแค ที่อยู่ตรงข้ามกับโครงการ สามารถใช้สถานีรถไฟฟ้า เป็นสะพานลอยข้ามเข้าสู่ตัวห้างได้เลย ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี The Mall บางแค & SB Design Square, Tesco Lotus บางแค ฝั่งเพชรเกษมขาออก ก็จะมี Big C เพชรเกษม, Big C Extra เพชรเกษม, Home Pro รวมถึง Victoria Garden ที่ภายในมี Food Land และ ร้านอาหาร ถูกและดีที่เปิดตลอด 24 ชม.
นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำในย่านเพชรเกษม และ กัลปพฤกษ์ อย่าง ม.สยาม, รร.ราชวินิต บางแค, รร.เซนต์ปีเตอร์ธนบุรี, รร.ผดุงกิจวิทยา, รร.ภาษานุสรณ์ บางแค, รร.อนุบาลเด่นหล้า, รร.อัสสัมชัญ ธนบุรี, รร.สารสาสน์ธนบุรี, รร.กสิธรเซนต์ปีเตอร์, รร.ฐานปัญญา และ รร. นานาชาติ British Columbia ในส่วนของโรงพยาบาล ใกล้กับ รพ.เพชรเกษม 2, รพ.พญาไท 3, รพ.เกษมราษฎร์ บางแค และ รพ.วิชัยเวชหนองแขม ค่ะ
ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
หน่วยงานอื่น ๆ
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google : 13.712951, 100.433351
การเดินทางเริ่มจาก แยกทางต่างระดับสวนเลียบ ⇒ ถ.ราชพฤกษ์ ⇒ แยกทางต่างระดับเพชรเกษม (สถานีบางหว้า) ⇒ ถ.เพชรเกษม ⇒ สถานีเพชรเกษม 48 ⇒ สถานีภาษีเจริญ (ประตู 3) ⇒ กลับรถ (หน้า รพ.เพชรเกษม 2) ⇒ The Parkland เพชรเกษม 56 *ตรงข้าม Seacon บางแค
ภาพประกอบการเดินทาง เรามาจากสาทร เริ่มกันตรงช่วงแยกทางต่างระดับสวนเลียบ ถ.ราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปเพชรเกษม-บางแคค่ะ
พอขึ้นทางต่างระดับสวนเลียบจากนั้นให้ชิดซ้ายตามป้ายไป ถ.เพชรเกษม
พอลงแยกทางต่างระดับเพชรเกษม เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.เพชรเกษม ผ่านอินเตอร์เชนจ์บางหว้าเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสองสาย
ตามทางมาเรื่อย ๆ ผ่าน ม.สยามทางขวามือ
ผ่านสถานีเพชรเกษม 48
เราก็จะผ่าน Seacon บางแค และสถานีภาษีเจริญจากนั้นเราจะต้องไปกลับรถข้างหน้าค่ะ
สถานีภาษีเจริญจะอยู่หน้าโครงการเลยค่ะ โดยใช้ประตู 3 ค่ะ
จากนั้นพอเราผ่าน รพ.เพชรเกษม 2 ให้ชิดขวาเพื่อกลับรถข้างหน้าค่ะ
พอกลับรถมาแล้ว จากนั้นให้ชิดซ้ายค่ะ
ผ่านปั๊มบางจากมาหน่อยชิดซ้ายชะลอไว้เลยค่ะ
ถึงโครงการ The Parkland เพชรเกษม 56
หน้าโครงการ The Parkland เพชรเกษม 56
จากหน้าโครงการมองกลับมาที่ถนนเพชรเกษม จะเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแคแบบนี้
เดินออกมาริมถนนเพชรเกษม แล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอกับซอยเพชรเกษม 56 ถัดออกไปจะเป็นรถไฟฟ้า MRT สถานีภาษีเจริญ และ ป้ายรถประจำทาง ระยะเดินจากโครงการ ประมาณ 40 เมตรเท่านั้น มองไปฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้าง Seacon บางแค สามารถใช้สถานีรถไฟฟ้า เดินเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวห้างได้เลย สะดวกมาก ๆ
จากโครงการเดินออกมาริมถนนใหญ่ แล้วเลี้ยวขวา จะมีทางเท้ากว้าง ๆ เดินไปยังร้านค้า, ร้านอาหาร ใกล้เคียงโครงการได้สบาย ๆ เช่นเดียวกันค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ The Parkland เพชรเกษม 56 เป็นคอนโด High Rise 29-32 ชั้น 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ บนพื้นที่โครงการขนาด 13-3-12.3 ไร่ ออกแบบโดยบริษัทชั้นนำของประเทศ ด้วยการนำเอาเอกลักษณ์ท้องถิ่นย่านบางแค ซึ่งเดิมมีธรรมชาติแมกไม้นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้หรือดอกแค นำมาผสมผสานกับสไตล์ Modern Loft เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับโครงการ
มาพร้อมส่วนกลางยิ่งใหญ่อลังการ พื้นที่กว่า 13 ไร่ Facilities มากกว่า 30 รายการ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 2,047 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio 25.0-25.5 ตร.ม., 1 Bedroom 26.5-37.5 ตร.ม. และ 2 Bedrooms 48.5-62.0 ตร.ม.
ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า โดยจะแบ่งช่องทางเดินรถยนต์ และ ทางเดินเท้าไว้ให้แยกกัน เพื่อความปลอดภัย
Main Gate ขนาดใหญ่ มีหลังคากันแดดกันฝน ตกแต่ง Main Gate สไตล์โมเดิร์น คุมโทนสีเทาเข้มและเทาอ่อน ที่ดูอบอุ่น เข้มขรึม ได้ความปลอดภัยสูงสุดด้วยประตูทางเข้า-ออกทางเดียว และรั้วโครงการที่มีความแข็งแรงและสูงถึง 3 เมตร
รถยนต์ลูกบ้านเข้า-ออกผ่านไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ + ระบบ Easy Pass ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรประชาชนพร้อมแจ้งธุระ และเลขที่ห้องที่มาติดต่อทุกครั้งก่อนเข้าโครงการเพื่อคัดกรองความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน ตรงกลางตัว Main Gate จะเป็นป้อมรปภ. ที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยประจำการตลอด 24 ชม.
ข้างทางเข้า-ออกรถยนต์ จะเป็นประตู Kay Card สำหรับลูกบ้านที่ใช้เดินเข้า-ออกโครงการค่ะ
ต่อเนื่องจากประตูคนเดิน จะมีหลังคากันแดดกันฝน พร้อมไฟทางเดิน ติดยาวต่อเนื่องเข้าไปที่ด้านใน ตลอดสองข้างทางมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ และ ไม้แนวรั้ว เพิ่มความสดชื่น ร่มรื่น ให้แก่คนที่เดินไปเดินมาไว้ด้วย
ผ่าน Main Gate เข้ามาด้านในโครงการ จะเจอกับถนนเมนหลัก ตัวพื้นทำ Stamp Concrect ให้แบบนี้เลย ส่วนการเดินรถยนต์ภายในโครงการเป็นแบบ One Way และ มีจุด Drop-Off มาให้ 2 จุด คือที่ด้านหน้าโครงการ ทางเข้าทาวเวอร์ A และ ที่ด้านข้างโครงการ ระหว่างทาวเวอร์ B และ ทาวเวอร์ C ค่ะ
ตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับทาวเวอร์ A ความสูง 32 ชั้น ตัวอาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์น ใช้สีเอิร์ธโทนเพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ
Drop-Off จุดแรก อยู่ที่ด้านหน้าทาวเวอร์ A เป็นจุดรับ-ส่งแบบในร่ม บริเวณนี้มีการจัดสวน Soft Scape มาให้แบบนี้เลยค่ะ
ด้านข้างทาวเวอร์ A จะเป็นสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ พร้อม Walk Way ที่ใช้เดินเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลางที่ตั้งอยู่ตรงกลางโครงการ ระหว่าง 3 ทาวเวอร์
การเดินรถยนต์ก็จะวนซ้ายตามเข็มนาฬิกา ตรงไปตามทาง ขวามือจะเป็นที่จอดรถยนต์ใต้อาคาร และ ที่จอดรถในอาคาร เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 5 โดยคิดเป็น 50% ของจำนวนยูนิต ไม่รวมจอดซ้อนคัน แม้จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มียูนิตเยอะ แต่เรื่องที่จอดรถของเค้า ถือว่าทำออกมาได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ
Facilities
โครงการ The Parkland เพชรเกษม 56 มาพร้อมกับส่วนกลางยิ่งใหญ่อลังการ พื้นที่กว่า 13 ไร่ มี Facilities ครบครันทั้ง Indoor และ Outdoor มากกว่า 30 รายการ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้ง 3 ทาวเวอร์ และ เน้นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ กระจายไว้ทั่วทั้งโครงการ ให้ลูกบ้านได้ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ ลืมความวุ่นวาย และอยู่ภายในโครงการได้ทั้งวันอย่างไม่มีเบื่อจริง ๆ ค่ะ
Facilities
Grand Lobby & Executive Lounge
เริ่มจาก Grand Lobby ที่ชั้น 1 ของ ทาวเวอร์ A ซึ่งจะเป็น Lobby หลักที่อยู่ใกล้กับด้านหน้าโครงการมากที่สุด โดยลูกบ้านทุก ๆ ทาวเวอร์ สามารถใช้งานร่วมกันได้ การตกแต่งภายในมีความ Luxury เด่นที่การเลือกใช้วัสดุ พื้นและผนังลายหินอ่อนสีขาวเทาตัดกับเฟรมโลหะ และไม้สีอ่อน และเลือก Match สี ดูสวยงาม สบายตาดีค่ะ
Grand Lobby ขนาดใหญ่ เพดานสูงแบบ Double Volume ผนังห้องใช้เป็นกระจกตัดแสงแบบ Full Height ทำให้ภายใน Lobby ดูหรูหรา ได้ความโปร่งโล่ง ดูน่าใช้งาน ภายใน Lobby จัดที่นั่งรับรองแขกและที่นั่งพักผ่อนมาให้หลายจุดนะคะ สามารถรับรองผู้ใช้งานได้เยอะ
ถัดจาก Grand Lobby เข้าไปจะเจอกับโถงทางเดินที่ใช้เชื่อมต่อไปยังร้านค้า และ Facilities ที่ด้านในโครงการได้ ส่วนซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย และ ห้องนิติบุคคล / ฝั่งขวามือจะเป็นที่ตั้งของ Executive Lounge ที่มีมาให้ 2 ห้องด้วยกันค่ะ
ด้านหน้าสำนักงานขาย และ ห้องนิติบุคคล
Executive Lounge มีให้ถึง 2 ห้องค่ะ ตัวห้องได้เป็นห้องกระจก Full Height เพดานสูง Double Volume ต่อเนื่องมาจาก Grand Lobby สำหรับ Executive Lounge จะเหมาะสำหรับการนัดประชุม คุยงานสำคัญ ๆ ได้เป็นห้องแบบ Private ภายในมีการจัดชุดโต๊ะรับรองแขกไว้ให้เรียบร้อย รองรับการใช้งานได้ 4-6 คน/ห้อง ค่ะ
การเข้าใช้งาน Executive Lounge เป็นระบบ Face Scan System ที่สามารถ Scan หน้าแล้วเข้าไปได้เลย ซึ่งนอกจาก Face Scan ก็ยังสามารถใช้งานผ่าน Key Card หรือ Finger Scan ได้ด้วย เลือกใช้กันได้ตามสะดวกเลยนะคะ
อีกฝั่งของภายใน Grand Lobby จะเป็นที่ตั้งของโถงลิฟต์โดยสาร และ Mail Room ฝั่ง ทาวเวอร์ A / ส่วนลิฟต์เดี่ยวที่เห็นทางขวามือ จะเป็นลิฟต์ High Speed ใช้เชื่อมสู่ Star Pavilion ที่ชั้นบนสุดของทาวเวอร์ A
ตรงเข้ามาตามทางเดิน ซ้ายมือเป็นทางเข้าโถงลิฟต์ของทาวเวอร์ A โดยการเข้า-ออกโซนพักอาศัย และ พื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมด จะมีให้เลือกใช้ 3 ระบบ คือ Face Scan System, Key Card Access และ Finger Scan
โถงลิฟต์ขนาดใหญ่ ตกแต่งพื้นและผนังลายหินอ่อนคุมโทนสีขาวอมเทา เพิ่มความ Luxury ด้วยผนังสีทองและกระจกสีดำ ลิฟต์โดยสารได้เป็นลิฟต์แบบล็อกชั้น ฝั่งทาวเวอร์ A มีให้ 3 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว ส่วนฝั่ง ทาวเวอร์ B และ C จะได้ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว ค่ะ
ผ่านโถงลิฟต์ไปจะเป็น Mail Room และ ห้องน้ำส่วนกลางค่ะ
ออกมาดูพื้นที่ On Ground ที่ด้านในโครงการ ระหว่าง 3 ทาวเวอร์ กันต่อเลย ด้านหน้าจะเป็น Playground พร้อมเครื่องเล่นสนามชุดใหญ่ สำหรับเด็ก ๆ มีสนามหญ้ากว้าง ๆ ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้วิ่งเล่น ออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่
ถัดจาก Playground มา จะเจอกับ Basketball Court แบบ Half Court ด้านข้างจะเป็นทางเดินรอบสนามบาสเกตบอล ที่กั้นสูงเอาไว้เพื่อเป็นทางเดิน และใช้ยืนดูเพื่อน ๆ ที่กำลังเล่นกีฬาได้
ผ่าน Playground และ Basketball Court มา จะเจอกับ Co-Working Space และ สวน On Ground ตรงกลางโครงการค่ะ
Co-Working Space ขนาดใหญ่ เพดานสูงแบบ Double Volume ผนังห้องเป็นกระจกใสตัดแสงแบบ Full Height ซึ่งจะช่วยให้ภายใน Co-Working Space มีความโปร่ง โล่ง สบาย น่าใช้งาน แถมยังเปิดรับมุมมองได้กว้าง มองออกมาได้วิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ตรงกลางโครงการได้แบบเต็มสายตาเลยค่ะ
Co-Working Space ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ ทันสมัยด้วยสไตล์ Modern Loft ออกแบบด้วยไม้ผสมเหล็ก ผสมผสานกับการนำเอาธรรมชาติเข้ามาตกแต่งเพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกไม่อึดอัด และรู้สึกเข้าถึงธรรมชาติ ภายในถูกออกแบบให้เป็น 2 ชั้น และมีฟังก์ชันต่าง ๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
Social Club พร้อมกับ Ampitheater Seating ที่นั่งเล่นระดับขนาดใหญ่ ตัวพื้นใช้เป็นวัสดุลายไม้ ได้ความ Cozy สบาย ๆ ตามที่นั่งมีการจัดวางหมอนอิง และ เบาะรองนั่งเอาไว้ให้ ซึ่งหากไม่อยากนั่งเล่นที่ด้านบน ก็ยังมีชุดโต๊ะ-เก้าอี้รับรองแบบคู่ และ ม้านั่งขนาดใหญ่จัดเตรียมเอาไว้ให้ที่ด้านล่างด้วยค่ะ
Workshop Area พื้นที่สำหรับนั่งทำงานขนาดใหญ่ ถูกจัด Functional รองรับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งการใช้งานแบบเดี่ยว แบบคู่ แบบกลุ่ม หรือ แบบครอบครัว โดยแต่ละจุดจะมีการติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟ และ ช่องเสียบ USB รองรับลูกบ้านที่นำ Labtop, Tablet หรือ Smart Phone ลงมานั่งใช้งานได้แบบสะดุด
ขึ้นมาที่ด้านบนจะมี Meeting Room ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งาน 10-20 ได้เลย ภายในจัดเตรียมโต๊ะประชุม จอทีวี สำหรับการคุยงานแบบจริงจัง หรือ ใช้เป็นห้อง Present งานใหญ่ได้
อีกฝั่งจะเป็นมุม Gaming Recreation โครงการจัดเตรียม Football Table และ Pool Table ให้แบบนี้ค่ะ
สวนส่วนกลางขนาดใหญ่
สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 3 ทาวเวอร์ บริเวณกลางสวนจะมี Rain Pavilion พื้นที่สีเขียวทีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหยาดฝน การออกแบบจึงคล้าย ๆ กับเรานั่งอยู่กลางสายฝน และห้อมล้อมเอาไว้ด้วยธรรมชาติผืนสีเขียวขนาดใหญ่
Rain Pavilion พร้อมม้านั่งที่ด้านใน บรรยากาศร่มรื่นเหมือนอยู่ในสวนป่า ตามชื่อโครงการ The Parkland เลยค่ะ
บางมุมจัดเป็น Sunken Seat ให้แบบนี้ แต่ละจุดจะรองรับการใช้งานได้ ประมาณ 4-8 คน
รอบ ๆ สวนทำทางเดินเอาไว้ให้แบบนี้ โดยจะมีทั้งแบบทางเดินในร่ม และ ทางเดินกลางแจ้ง สามารถใช้เป็น Jogging Track วิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า-เย็นได้นะ มันจะได้ Felling เหมือนไปวิ่งในสวนสาธารณะใหญ่ใจกลางเมืองได้เลยล่ะ
ข้างสวนอีกฝั่งจะเป็นทางเชื่อมต่อกับ Drop-Off จุดที่ 2 ที่ตั้งอยู่ระหว่างทาวเวอร์ B และ C มีทางเดินในร่มแบบนี้ เพื่อใช้เดินเชื่อมสู่ Lobby ได้แบบไม่ร้อน ไม่เปียกฝน
ท้ายสวนฝั่งที่ติดกับทาวเวอร์ C จะมีบันไดทางเดินเชื่อมสู่ส่วนกลางชั้นบนได้ค่ะ
Facilities ชั้น 3-4-5-6
Facilities หลักจุดที่ 2 ตั้งอยู่ที่ชั้น 6 ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้ง 3 ทาวเวอร์ โดยสระและสวนจะแบ่งออกเป็นฝั่งทาวเวอร์ A,B และ ฝั่งทาวเวอร์ C โดยให้คอนเซปต์ว่า “Health & Hip” Facilities หลัก ๆ ของชั้นนี้ จะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ 2 สระ ที่ทาวเวอร์ A และ ทาวเวอร์ C, Levels Garden และ Firefly Pavilion ที่ ทาวเวอร์ B และ Fitness 2 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่าง ทาวเวอร์ B และ C ค่ะ
ออกจากโถงลิฟต์ทาวเวอร์ A มา จะมีป้ายบอกทางไปยังส่วนกลางต่าง ๆ
สระว่ายน้ำฝั่งทาวเวอร์ A เป็นสระ Lagoon Pool มีแนวคิดแบบ Hip style เหมาะกับ Activiteis ต่าง ๆ ไม่ว่าจะกับเพื่อน หรือว่าครอบครัว ตัวสระจึงออกแบบเป็นสระ Freeform ในลักษณะ Lagoon เน้น ความสวยงามของสีสันมีการเล่นระดับภายในตัวสระ และเน้นเส้นโค้งเว้าสระทำให้ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีต้นไม้จำนวนมาก ให้ความรู้สึกส่วนตัวและรู้สึกได้ถึงธรรมชาติที่โอบล้อมเราอยู่ขณะว่ายน้ำ
ข้างสระว่ายน้ำฝั่งทาวเวอร์ A จะมี Terrace ที่ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนริมสระขนาดใหญ่ มีจุดชมวิวมองออกไปจะเห็นทาวเวอร์ B , C มองลงมาได้วิวสวนที่ชั้นล่าง
มุมพักผ่อนท้ายสระว่ายน้ำ จัดเตรียมม้านั่ง Freeform ไว้ให้ โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว, สวนหย่อม และต้นไม้ใหญ่ ได้บรรยากาศสดชื่นและร่มรื่นมาก ๆ
ผ่านสระว่ายน้ำฝั่งทาวเวอร์ A มา จะเจอกับ Levels Garden เป็นสวนเล่นระดับบริเวณหน้าทาวเวอร์ B ที่มีทางเดิน และทางลาดชัน ทำให้คุณสามารถเดินจากชั้น 6 ลงมาได้ถึงชั้น 3
Firefly Pavilion ถูกตกแต่งประดับประดา ด้วยไฟระยิบระยับคล้ายกับหิ่งห้อยยามค่ำคืน
มองกลับมาจะเห็นทาวเวอร์ A และ B แบบนี้
มองตรงออกมาจะเห็นทาวเวอร์ C และ Fitness 2 ชั้น ที่อยู่ตรงกลางระหว่างทาวเวอร์ B และ C
จาก Levels Garden ลงมา ก็จะเจอกับพื้นที่สวน ตรงออกไปจะมีทางลาดใช้เชื่อมสู่ Basketball Court และ Co-Working Space ที่ชั้น 1 ได้ค่ะ
ผ่าน Levels Garden มาเจอกับทางเดินเชื่อมสู่ Fitness และ ทาวเวอร์ C
Double Volume Fitness ของโครงการนี้ให้มาขนาดใหญ่ถึง 2 ชั้น ภายในมาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน, มีห้องซาวน่าแยกชายหญิง, Locker Room และจุดเด่นไฮไลท์ที่โครงการแถวนี้ยังไม่มีแน่นอนคือ Boxing Stage ที่เป็นเวทีมวย และ กระสอบทราย นอกจากนั้นยังมี Golf Simulator ให้ถึง 2 ห้อง ในส่วนของชั้น 6 ยังมี Yoga Room ให้ลูกบ้านได้ยืดเส้นยืดสายอีกด้วย รวมทั้งยังมีเครื่องเล่นออกกำลังกายอีกเพียบที่ชั้นบนค่ะ
ชั้น 1 ของ Fitness จะมีเวทีมวย + กระสอบทราย ถัดเข้าไปด้านในเป็นโซนเวทเทรนนิ่ง พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ครบครัน
ขวามือเป็นห้องตีกอล์ฟ มีให้ 2 ห้อง
ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นโซน Active แบบเต็มชั้น และ มีห้องโยคะแยกไว้ให้อีก 1 ห้อง
ห้องโยคะขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์เล่นโยคะครบชุด ทั้งตัวเสื่อกันกระแทก และ ลูกบอลโยคะ
โซน Active จัดเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย มีคุณภาพ มาให้เยอะมาก เหมือนกับว่าได้ไปออกกำลังกายที่ยิมตามห้างได้เลย
เครื่องออกกำลังกายมีให้ครบทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องนั่งปั่นจักยาน, เครื่องเอนปั่นจักรยาน, เครื่องเดินวงรี, แมชชีนบริหารกล้ามเนื้อ, เตียงซิทอัพ พร้อมบาร์เบลหลากหลายขนาด
ติดกับห้อง Fitness จะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พร้อมซาวน่าที่ด้านใน การตกแต่งดูโมเดิร์นและหรูหราด้วยพื้นและผนังลายหินอ่อนโทนสีน้ำตาล โดยจะมีการห้องชาย-หญิง ไว้อย่างเป็นสัดส่วนค่ะ
ภายในจัดฟังก์ชันมาตรฐานมาให้ครบครัน ทั้งเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, ห้องซาวน่า และล็อกเกอร์เก็บของ
ห้องน้ำชายจัดฟังก์ชันมาในรูปแบบเดียวกัน พร้อมโถสุขภัณฑ์ชาย
จากหน้าห้อง Fitness และ ห้องน้ำส่วนกลางมองกลับออกมา จะเป็นโถงทางเดินที่กั้นด้วยราวกันตกกระจก Temper เพื่อให้เปิดรับมุมมองภายนอกได้กว้าง มองเห็นทัศนียภาพต่าง ๆ ภายในโครงการได้อย่างเต็มสายตาค่ะ
มองออกมาได้วิวแบบนี้
จากจุดนี้มองไปทางซ้ายมือฝั่ง ทาวเวอร์ C จะเจอกับสระว่ายน้ำอีกสระ ถัดลงมาเป็น Outdoor Co-Living Area เป็นที่นั่งชิลล์อีกมุม หรือแม้แต่จะนั่งทำงานท่ามกลางสวนและน้ำตก หรือเดินเล่นก็สามารถทำได้ที่บริเวณนี้
Outdoor Co-Living Area ที่มี Pavilion และ ม้านั่งเล่นพักผ่อนจัดเตรียมเอาไว้ให้
สวนพักผ่อนที่ชั้น 5 ติดกับสระว่ายน้ำฝั่งทาวเวอร์ C
Vanishing Edge Pool with Private Deck ที่ทาวเวอร์ C จะเป็นสระที่มีคอนเซปต์เป็นแม่น้ำบรรยากาศเงียบสงบ ตัวสระขนาด 7 x 24 เมตร ภายในสระมี Deck แท่นลอยกลางน้ำ สำหรับกิจกรรมโยคะกลางน้ำ
Pool Terrace พร้อม Daybed ไว้นอนเล่น นอนอาบแดด
จากสระว่ายน้ำ และ Pool Terrace ฝั่งนี้ มองกลับออกมาจะเห็นวิวสวนชั้นล่าง และ พื้นที่สีเขียว + ส่วนกลางทั้งฝั่งทาวเวอร์ A แบบนี้ค่ะ
Star Pavilion – ทาวเวอร์ A ชั้น 32
Star Pavilion ที่ชั้น 32 ที่เป็นเหมือน Sky Lounge ความสูง 2 ชั้น ให้ลูกบ้านในทุก ๆ อาคารขึ้นมานั่งเล่น ดูวิวเมืองได้แบบแบบพาโนรามา หรือผ่อนคลายไป กับ Mini Theatre & Karaoke Room , Sky Private Party Room ซึ่งสามารถนั่งดูหนัง, ร้องเพลง หรือ จัดปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ก็สามารถทำได้อย่างสบาย
Lounge ที่ชั้น 1 จัดเตรียมุมรับรอง โซฟา เก้าอี้พักผ่อนนุ่ม ๆ ไว้หลายจุดหลายที่นั่ง เพดานตกแต่งด้วยไฟระย้า ดู Luxury มาก ๆ
ขึ้นไปที่ชั้นบนยังมีห้องต่าง ๆ รองรับการใช้งานอีกเพียบ
มุมนั่งเล่นพักผ่อน ชมวิวเมืองที่ชั้น 2
Mini bar ส่วนกลาง ไว้สำหรับนั่งจิบชา ชงเครื่องดื่ม จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ได้
บรรยากาศภาพรวมภายใน Star Pavilion ที่ชั้น 32 ของทาวเวอร์ A
วิวเมืองรอบ ๆ โครงการจากชั้นบนสุดค่ะ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ มีทั้งหมด 2 แบบ คือ
ทางโครงการขายห้องพักให้แบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับประกอบไปด้วย
ตัวอย่างประตูห้องพัก
ประตูห้องพักไม้ HDF บานลูกฟักทาสีเทา พร้อมตาแมว วงกบประตูไม้เนื้อแข็งทาสีเทา
กลอนประตูห้องพัก Digital Door Lock 2 ระบบ ใช้ได้ทั้งแบบกดรหัส และ แตะ Key Card พร้อมมือจับสแตนเลสก้านโยก ที่เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวกค่ะ
แปลนห้องตัวอย่าง 1 Bed Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. แบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็น 6 ส่วน เข้ามาด้านในจะเจอกับมุมครัวแบบเปิด และ มุมทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่ง มองต่อเนื่องไปเป็นมุมพักผ่อน และ ห้องอเนกประสงค์ ปีกขวาของห้องพัก เป็นส่วนของห้องน้ำ แยกส่วนแห้ง และ กั้นส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย ถัดจากห้องน้ำเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ด้านในสุดเป็นห้องนอน พร้อมระเบียงแบบหน้ากว้าง มีประตูไม้ปิดมิดชิดเป็นสัดส่วน
เปิดประตูห้องพักเข้ามา จะเจอกับมุมครัว และ ห้องน้ำเป็นส่วนแรก มองต่อเนื่องไปเป็นมุมพักผ่อน และ ห้องอเนกประสงค์ สำหรับห้องแปลนนี้ออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัว มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มเติมเข้ามา พื้นห้องชุดปูไม้ลามิเนตสีอ่อน หนา 8 มม. เดินสบายเท้า ดูแลรักษาได้ง่าย ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี ความสูงพื้น-เพดาน 2.55 เมตร ผนังห้อง และ ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพื้น ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ทรงกลมทั้งหมดค่ะ
ภาพรวมทางฝั่งขวามือของห้องพัก ประกอบไปด้วยมุมครัว, มุมทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่ง, มุมนั่งเล่นพักผ่อน และ ห้องอเนกประสงค์
ภาพรวมทางฝั่งขวามือของห้องพัก ประกอบไปด้วยห้องน้ำ, พื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ ห้องนอน พร้อมระเบียงหน้ากว้างด้านใน
มุมครัวรูปแบบเดียวกันกับห้องก่อนนี้ โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวท็อปหินสังเคราะห์สีขาว ขนาด 1.4 x 0.60 เมตร พร้อมเตาเซรามิก, เครื่องดูดควัน, ซิงค์ล้างจานของ MEX หรือ เทียบเท่า ให้ครบเซ็ท ขวามือเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น กว้าง 70 ซม. ส่วนขวามือเป็นมุมทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่งค่ะ
มองย้อนกลับมาฝั่งหน้าห้องให้ดูระยะใช้งาน จากเคาน์เตอร์ครัว-หน้าห้องน้ำ กว้างประมาณ 1.8 เมตร เท่ากันกับห้องที่แล้ว เดินเข้า-ออก ใช้งานส่วนอื่นๆ ได้อย่างสะดวก
หน้าห้องน้ำฝั่งขวามือบิวท์อินตู้อเนกประสงค์ 2 ตู้ มาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนห้องจริงเป็นพื้นที่เปล่าค่ะ
หน้าห้องน้ำฝั่งซ้ายมือ เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ห้องจริงไม่มีบานประตูให้ รองรับเครื่องซักผ้าขนาด 7 คิว กำลังพอดี ด้านหลังเดินงานระบบประปา + ระบบไฟฟ้าให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย
ประตูห้องน้ำเป็นบานไม้ HDF สีเทา ลูกบิดกลมมาตรฐาน ยกธรณีสูง 5 ซม. กันน้ำออกมายังภายในห้องพัก
ห้องน้ำรูปแบบเดียวกันกับห้องแรก แบ่งส่วนแห้ง กั้นส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย ติดอุปกรณ์มาตรฐานให้ครบ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard และ Hafele ค่ะ
ถัดจากมุมครัว, มุมทานอาหาร และ ห้องน้ำเข้ามา เป็นส่วนห้องมุมพักผ่อน พื้นที่ใช้งานขนาดกำลังดี ซ้ายมือวางโซฟา ขนาด 2-4 ที่นั่งได้ ขวามือวางชั้นวางทีวี ขนาด 1.4 เมตร ส่วนระยะห่างโซฟา-ชั้นวางทีวี ความกว้างอยูที่ 1.2 เมตร เดินเข้า-ออกได้สะดวกดีค่ะ
มุมพักผ่อน จัดวางชุดโต๊ะทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง + โต๊ะกลมขนาดเล็กมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ห้องจริงสามารถปรับขนาดโซฟาเป็นแบบ L-Shape หรือ เพิ่มขนาดโต๊ะกลางให้ใหญ่ขึ้นได้
พื้นที่สำหรับวางทีวีตกแต่งผนังและติดชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย ห้องจริงจะเป็นผนังทึบทาสีพื้น หากต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม แนะนำให้แขวนทีวีที่ผนัง ด้านล่างเดินงานระบบไฟฟ้า, เต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสายเคเบิล และ ช่องเสียบสายสัญญาณโทรศัพท์ให้ครบ ผนังด้านบนติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Daikin ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่องค่ะ
ถัดจากมุมพักผ่อนเข้าไปด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ กั้นประตูกระบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ขนาด 2.4 x 2.0 เมตร ซึ่งข้อดีของประตูบานเลื่อน 3 ตอน คือทำให้ห้องดูกว้างขึ้น เดินเข้า-ออกได้สะดวก จะปิดเมื่อต้องการพักผ่อน ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือ เปิดเพื่อเชื่อมพื้นที่กับส่วนนั่งเล่นก็ได้เลย
ห้องอเนกประสงค์ ขนาด 2.4 x 1.8 เมตร ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนห้องจริงสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็ก รองรับเตียง ขนาด 3.5 ฟุตได้ และ มีพื้นที่ข้างๆเหลือเล็กน้อย หรือจะทำเป็นห้องแต่งตัว, ห้องทำการบ้านของเด็กๆ หรือห้องเก็บของก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของผู้อยู่อาศัย
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องตัวอย่าง จะวางโซฟาเบดไว้ชิดผนังด้านใน ขวามือบิวท์อินโต๊ะทำงาน ความกว้าง 1.8 เมตร พอดีผนัง ระยะใช้งานด้านข้าง จะเหลือประมาณ 1.2 เมตร สามารถเลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้สะดวกอยู่ค่ะ
ภายในห้องอเนกประสงค์มีหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีเทา ขนาด 1.3 x 1.9 เมตร ให้ 1 ชุด แบ่งเป็นแบบบาน Fix ไว้เปิดรับแสงธรรมชาติ ช่วยห้องดูโปร่งกว้างขึ้น และ มีบานกระทุ้งให้ 1 ช่อง ไว้เปิดระบายอากาศ หรือ เปิดรับลมธรรมชาติค่ะ
มองย้อนกลับมาทางฝั่งหน้าห้องพัก
ออกจาห้องอเนกประสงค์ไปต่อกันที่ห้องนอน ประตูห้องนอนเป็นบานไม้ HDF สีเทา ลูกบิดกลมมาตรฐาน
เข้ามาด้านในห้องนอน พื้นที่ใช้งานแบบหน้ากว้าง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รูปแบบเดียวกันกับห้องแรก คือมีเตียงนอน ขนาด 5 ฟุต และ เฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน แต่ขนาดของห้องจะใหญ่กว่าห้องแรกเล็กน้อย และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในแปลนนี้ จะเป็นระเบียงแบบหน้ากว้าง ที่ตั้งอยู่ภายในห้องนอนค่ะ
ข้างเตียงฝั่งซ้ายวางโต๊ะเครื่องแป้ง ขนาดกลางๆ + เก้าอี้มีพนักพิง 1 ตัว ด้านหลังกรุกระจกเงาบานสูงให้เป็นไอเดีย ระยะห่างข้างเตียงฝั่งนี้ กว้างประมาณ 1.6 เมตร ค่อนข้างกว้าง สามารถเลื่อนเก้าอี้เข้า-ออก รวมถึงยืนแต่งตัวได้อย่างสบายๆ
ติดกับโต๊ะเครื่องแป้ง ทางโครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้า บานกระจกเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ขนาด 1.5 x 2.3 เมตร เอาไว้ให้แบบในภาพ ด้านในตู้จะมีทั้งชั้นวางของ, ตู้เก็บของใช้ รวมถึงราวแขวนผ้าบน-ล่าง จัดเตรียมเอาไว้ให้ครบแล้วค่ะ
ด้านในสุดเป็นระเบียง กั้นประตูกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีเทา ขนาด 1.5 x 1.9 เมตร ยกธรณีสูงขึ้นมาอีก 10 ซม. ป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ พักเข้าสู่ด้านในห้องนอน เหนือประตูติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Daikin ขนาด 9,000 BTU ให้อีก 1 ตัว
ระเบียงเป็นแบบหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอย ขนาด 2.5 x 0.60 เมตร ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทา 30 x 30 ซม. ติดตั้งราวกันตกเหล็กโปร่งทาสีเทากันสนิม ความสูงจากพื้น-มือจับ ประมาณ 1.10 เมตร
ขวามือเป็นตำแหน่งของ CDU กั้นกริลเหล็กทาสีเทากันสนิม ความสูงจรดเพดาน CDU เป็นแบบแขวนผนัง 1 ตัว วางที่พื้น 1 ตัว ปล่อยลมร้อนออกด้านนอกอาคารค่ะ
จากห้องตัวอย่างห้องนี้ มองออกมาเห็นวิวสระว่ายน้ำ และ ตัวอาคาร B และ C แบบนี้ค่ะ
มองย้อนกลับเข้ามาด้านในห้องนอนค่ะ
แปลนห้องตัวอย่างแบบ 2 Bed 1 Bath ขนาด 49.00 ตร.ม. เป็นห้องพักแบบหน้ากว้าง เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้น แปลนห้องถูกแบ่งฟังก์ชันการใช้งานไว้ได้อย่างลงตัว เปิดประตูเข้ามาที่ด้านใน ซ้ายมือเป็นมุมทานอาหาร และ มุมครัวเปิด จุดนี้สามารถติดฉากกั้น หรือ ประตูกระจกบานเลื่อนให้เป็นห้องครัวปิดได้ ขวามมือเป็นห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนแห้งและส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย
ต่อเนื่องเข้าไปที่ด้านใน ตรงกลางเป็นมุมนั่งเล่น อยู่ติดกับระเบียงพักผ่อนที่ด้านนอก ขวามือเป็นห้องนอนใหญ่ รองรับเตียงนอน 5 ฟุต และ เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบชุด ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องนอนรอง รองรับเตียงนอน 3.5 ฟุต และ เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้อีก 1-2 ชิ้น หรือ จะปรับห้องนอนรองนี้ให้เป็นห้องทำงาน หรือ ห้องแต่งตัว ก็ทำได้เลยค่ะ
เปิดประตูเข้ามาด้านในห้องจะเจอกับ Common Area ต่อเนื่องไปเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน ที่อยู่ติดกับระเบียง ความสูงพื้น-เพดานมาตรฐานที่ 2.55 เมตร ทั้งโครงการ พื้นห้องชุดปูลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ผนังห้อง และ ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพื้น ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ทรงกลมทั้งหมดค่ะ
ภาพรวมฝั่งขวามือ ประกอบไปด้วยห้องน้ำ, พื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ ห้องนอนใหญ่
ภาพรวมทางฝั่งซ้ายมือ ประกอบไปด้วยมุมทานอาหาร, มุมครัวเปิด ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนรอง
มุมทานอาหารขนาดใหญ่ สามารถวางโต๊ะทานข้าว ขนาด 4 ที่นั่งได้ รอบ ๆ ยังมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวก
ถัดเข้าไปที่ด้านในสุด จะเป็นมุมครัวเปิด ได้ชุดครัวมาตรฐานรูปแบบเดียวกันกับห้องก่อนหน้าที่ทุกประการ แตกต่างกันเพียงห้องนี้จะได้เคาน์เตอร์ครัวที่มีความกว้างมากขึ้นค่ะ
อีกฝั่งของห้อง จะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ด้านหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำ ฝั่งขวาบิวท์อินตู้เก็บของมาให้ดูเป็นไอเดีย ห้องจริงสามารถวางชั้นวางรองเท้า หรือ ชั้นวางของแนวสูงแบบลอยตัวเข้าไปได้ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ที่ติดหน้าบานมาให้ดูเป็นแนวทาง ห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง ที่เดินงานระบบประปา-ระบบไฟฟ้ามาให้เรียบร้อย พร้อมต่อใช้งานค่ะ
ห้องน้ำตกแต่งกระเบื้องพื้น-ผนังคุมโทนสีเทา ขนาดพอเหมาะกำลังดี ฟังก์ชันภายในแยกส่วนแห้ง และ กั้นส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard และ Hafele ซึ่งเป็นสเปกและมาตรฐานเดียวกันทั้งโครงการค่ะ
บรรยากาศภาพรวมส่วน Common Area ฝั่งหน้าห้องค่ะ
ถัดจากโซนแรกเข้ามาที่ด้านใน จะเจอกับมุมนั่งเล่นขนาดพอเหมาะ สามารถวางชุดโซฟา Love Seat พร้อมโต๊ะกลางขนาดกะทัดรัด และ ชั้นวางทีวีขนาดมาตรฐาน 1.2-1.5 เมตร ได้ ผนังฝั่งชั้นวางทีวี มีการเดินงานระบบไฟฟ้า เต้าเสียบปลั๊กไฟ และ ช่องเสียบสายเคเบิลทีวีมาให้เรียบร้อยค่ะ
ประตูระเบียงได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีเทา ยกธรณีสูง 10 ซม. ป้องกันน้ำฝน กันสิ่งสกปรกพัดเข้าสู่ด้านในห้องพัก เหนือประตูระเบียง ติดตั้งเครื่องปรับอาศ Daikin ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่องค่ะ
ระเบียงแบบหน้ากว้าง ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นมาให้ ติดตั้งราวกันตกเหล็กโปร่งทาสีเทากันสนิม ความสูงจากพื้น-มือจับ ประมาณ 1.10 เมตร
ซ้ายมือเป็นตำแหน่งของ CDU รวม 3 เครื่อง นกริลเหล็กทาสีเทากันสนิม ความสูงจรดเพดาน CDU เป็นแบบแขวนผนัง 2 ตัว วางที่พื้น 1 ตัว ปล่อยลมร้อนออกด้านนอกอาคารทั้งหมดค่ะ
มองออกมาเห็นวิวอาคาร B และ C แบบนี้
จากระเบียงด้านนอก มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก
เข้าไปดูรายละเอียดในห้องนอนใหญ่กันก่อน ในส่วนของสเปกประตู จะได้มารูปแบบเดียวกันทั้งโครงการนะคะ
แปลนของห้องนอนใหญ่ จะจัดฟังก์ชันมาเหมือนห้องพักแบบ 1 Bed Plus 34.5 ตร.ม. เลยนะคะ แต่ห้องนอนใหญ่ใน TYPE นี้ จะไม่ได้ส่วนของระเบียง แต่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นหน้าต่างกระจกบานฟิกซ์ ผสมบานกระทุ้งขนาดใหญ่เข้ามาแทน ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเปิดรับลม รับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดีเหมือนกันค่ะ
ปลายเตียงเป็นผนังเปล่า เดินงานระบบต่าง ๆ มาให้เรียบร้อย พร้อมติดแอร์ Daikin ขนาด 12,000 BTU ให้ 1 เครื่อง ตำแหน่งตามภาพเลยค่ะ
อีกฝั่งของห้อง มีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้าง สามารถจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้ ส่วนตู้เสื้อผ้าห้องจริงได้ตามนี้เลย
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอนใหญ่
ตรงข้ามกับห้องนอนใหญ่ จะเป็นที่ตั้งของห้องนอนรอง ที่เราจะพาไปชมเป็นส่วนสุดท้ายกันค่ะ
ห้องนอนรอง สามารถวางเตียงนอน ขนาด 3.5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้อีก 1-2 ชิ้น ห้องนี้ติดแอร์มาให้ 1 เครื่อง เช่นเดียวกันนะ
ข้างเตียงนอน มีพื้นที่เหลือกว้าง ประมาณ 1 เมตร สามารถวางโต๊ะทำงานขนาด 1 ที่นั่ง หรือจะวางเป็นโต๊ะหัวเตียง, ตู้เก็บของ, ชั้นวางของทรงสูงก็ทำได้ค่ะ
ข้างเตียงอีกฝั่งก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าไซซ์มาตรฐาน 0.90-1.20 เมตร เข้าไปได้ ระยะใช้งานด้านหน้าเหลือกว้าง เลือกหยิบเสื้อผ้า และยืนแต่งตัวได้พอสะดวกดี
จุดเด่นของห้องนอนรอง คือจะได้หน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง ผสมหน้าต่างกระจกเข้ามุมมาแบบในภาพ ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้เยอะ และยังช่วยให้บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนั้นมีความโปร่ง โล่ง ขึ้น พักอาศัยได้แบบสบาย ๆ ไม่อึดอัดนั่นเองค่ะ
ราคา ก.ค.63
**สอบถามโปรโมชั่น-ราคาเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขายค่ะ**
บทสรุปโครงการ
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ The Parkland เพชรเกษม 56 คอนโดพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ (ถนนเพชรเกษม) และ ซอยเพชรเกษม 56 ติดตลาดเสนีย์ ฟู้ดมาร์เก็ต ตรงข้าม Seacon บางแค และ รพ.เพชรเกษม 2 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีภาษีเจริญ เพียง 40 เมตร ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางหว้า ประมาณ 3 กม. ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ขนาดใหญ่ เนื้อที่โครงการกว่า 13 ไร่ สภาพแวดล้อมบริเวณรอบโครงการ มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บรรยากาศรอบโครงการคึกคัก มีผู้คนพลุกพล่านตลอดทั้งวัน
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ อยู่ในระดับที่ดี สถานที่สำคัญใกล้ ๆ กับโครงการ ตรงข้ามโครงการเป็นซีคอน บางแค ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่ภายในมีสินค้าอุปโภค บริโภค ต่าง ๆ ครบถ้วน รอบ ๆ โครงการในระยะเดินก็มีร้านค้า, ร้านอาหาร ให้เลือกหลากหลาย มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อย่าง UOB ตั้งอยู่ใกล้ ๆ
ส่วนห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ ก็จะที Tesco Lotus บางแค ถัดไปหน่อยก็จะมีห้าง The Mall บางแค ภายในก็จะมีร้านค้า, ร้านอาหารต่าง ๆ คล้าย ๆ กันกับตัว Seacon บางแค เลือกไปกันได้แล้วแต่ชอบ สามารถนั่งรถไฟฟ้าจากโครงการไปเพียง 2 สถานี ก็ถึงหน้าห้างเลยค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกค่ะ จากหน้าโครงการสามารถลัดไปยังถนนสำคัญได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นจากถนนเส้นหลักหน้าโครงการ อย่างถนนเพชรเกษม วิ่งไปทางขาเข้าเมือง สามารถลัดไปยังเส้นราชพฤกษ์ ออกไปยังเส้นนนทบุรี, เส้นบรมราชนนี
หรือจะเข้าสู่สาทร-สีลม ด้วยเส้นราชพฤกษ์ เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพาน ตรง BTS บางหว้า วิ่งตรงอย่างเดียว ก็จะถึงสีลม-สาทรเลยค่ะ แต่หากวิ่งเส้นหลักเพชรเกษม ตรงไปสุดเส้นทาง ก็จะเป็นวงเวียนใหญ่ หรือจะใช้เส้นกาญจนาภิเษก เพื่อออกไปยังพระราม 2, เอกชัย, สมุทรสาครก็ได้เลย จะเดินทางไปเส้นไหน ก็สะดวกค่ะ
หากต้องการออกนอกเมือง ก็ให้กลับรถหน้าโครงการ แล้ววิ่งบนเส้นเพชรเกษมขาออก สามารถไปสมุทรสาคร, นครปฐม รวมไปถึงเส้นเพชรบุรี, ราชบุรี และ กาญจนบุรี ได้ง่ายมาก
⇒ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีภาษีเจริญ ที่ห่างจากโครงการเพียง 40 เมตร นั่งเข้าเมืองได้ง่าย ๆ และ ไม่ไกลจาก Interchange บางหว้า ที่ใช้เปลี่ยนสายไป BTS สายสีลมได้ นอกจากนี้ยังมีป้ายรถเมล์ให้ใช้บริการ ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้า เลือกใช้ได้ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก
โดยจะมีรถเมล์ และรถปรับอากาศผ่านหลายสาย การเดินรถครอบคลุมทั่วกทม. ดูสายรถเมล์ได้ที่ตารางด้านบน ส่วนรถ Taxi และ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง สามารถเรียกได้จากหน้าโครงการ มีรถผ่านตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมี
⇒ การออกแบบตัวอาคารและห้องพัก : ลักษณะโครงการ เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ (ทาวเวอร์ A : 32 ชั้น, ทาวเวอร์ B 31 ชั้น และ ทาวเวอร์ C : 29 ชั้น) ตัวอาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์น ใช้สีเอิร์ธโทนเพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 2,047 ยูนิต และ ร้านค้าด้านหน้าโครงการ 1 ยูนิต
ตัวอาคารเมื่อวางรวมกัน จะเหมือนเป็นหมู่ตึกขนาดใหญ่ ทางโครงการออกแบบวางผังอาคารให้สามารถเปิดรับลม และ แสงธรรมชาติ เข้ามายังตัวอาคารได้ดี โดยห้องพักทางฝั่งด้านใน ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และ วิวสวนสีเขียวร่มรื่น
ในส่วนของห้องพัก มีแบบห้องให้ตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 25.00 ตร.ม. ไปจนถึง 62.00 ตร.ม. ภายในห้องพักออกแบบการใช้งานได้อย่างลงตัว ครบครันทุกฟังก์ชั่น ทางโครงการขายห้องให้แบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเป็นเคาน์เตอร์ครัว พร้อมเตาเซรามิก 2 หัว + เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานสแตนเลสของ MEX
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard + ผักบัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น Aquabella by Häfele ผนังห้องฉาบเรียบสี, ไฟแบบดาวน์ไลท์ ให้พร้อมแอร์ Daikin (9,000-18,000 BTU) พร้อมประตู Digital Door Lock ทุกยูนิต วัสดุห้องที่ได้รับเกรดพรีเมียม คุ้มค่ากับราคาห้องที่ได้รับค่ะ
⇒ พื้นที่ส่วนกลาง : สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีความพิเศษคือ Facilities แบบจัดเต็ม แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ใหญ่ที่สุดในย่านเพชรเกษม-บางแคในตอนนี้ และยังออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ อาทิ สวนเล่นระดับแนวใหม่, Sky Social Club สุดหรู, สระว่ายน้ำ 2 สระ, น้ำตก, สนามมวย, Sky Private Party Room, พื้นที่ให้เช่าเก็บของ Extra Storage และอื่น ๆ อีกหลากหลายรายการ
อัตราส่วนลิฟต์ มีลิฟต์โดยสาร 3-4 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว ที่จอดรถคิดเป็น 50% ของจำนวนยูนิต ไม่รวมจอดซ้อนคัน ลูกค้า 2 ห้องนอน จะได้สิทธิ์ที่จอดรถแบบ Fix ห้อง ส่วนระบบรักษาความปลอดภัย มีกล้อง CCTV รอบโครงการ เข้า-ออกตัวอาคารด้วยระบบ Access Card Control พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-454-8585
แอดไลน์สอบถามทาง Line Official : https://bit.ly/3h0UbhR
ชม Website โครงการเพิ่มเติม : https://bit.ly/2CBcN8V
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
สนใจห้องพัก
เข้าไปดูห้องตัวอย่างมาแล้ว ห้องสวยมาก พื้นที่ใช้สอยใหญ่ ห้องออกแบบดูโล่งสบาย สนใจมากค่ะ
เสียดายห้องครัวเปิดหมดแล้ว ห้องครัวปิดก็ไม่มีห้องตัวอย่าง. สิ้นปีนี้จะเข้าไปดูอีกครั้งค่ะ สนใจๆ
เปิดให้ชมโครงการและจองได้เมื่อไรค่ะ
ห้องใหญ่สุดกี่ตารางและราคาเท่าไหร่ค่ะ