
EP.741 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ แพลนท์ วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 5 The Plant Wongwaen-Lumlukka Klong 5
สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราจะขอพาชมโครงการ The Plant วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 5 จาก พฤกษา เรียลเอสเตท
เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ แต่มีความเป็นส่วนตัว บนทำเลที่เงียบสงบ ติดถนนเลียบคลองลำลูกกา เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนลำลูกกา, ถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกตะวันออก, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคลอง 5
รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ รร.นานาชาติไทยอเมริกัน, Big C, Tesco Lotus, Home Pro, Fashion Island, The Promenade, ตลาดลำลูกกา, ตลาดวงศกร, รพ.ลำลูกกา และ รพ.ซีจีเอช สายไหม เป็นต้น
เดอะ แพลนท์ วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และ บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่โครงการขนาด 49-2-82 ไร่ จำนวนบ้าน 126 ยูนิต ที่ดินบ้าน เริ่มต้น 35.5 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 132-166 ตร.ม. ฟังก์ชันบ้าน 3 ห้องนอน, 2-3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น, เข้า-ออกระบบ Key Card Access, กล้องวงจรปิด CCTV พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท* (เม.ย.60)
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ 🙂
บ้านเดี่ยว The Plant ทำเลอื่นๆ ทีน่าสนใจ…
The Plant กรุงเทพ-ปทุมธานี
The Plant รังสิต อเวนิว
The Plant รังสิต คลอง 3
The Plant รังสิต คลอง 4-วงแหวน
The Plant รังสิต-คลองหลวง
The Plant รังสิต คลอง 5
The Plant วงแหวน-รังสิต
The Plant วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 5
The Plant พหลโยธิน-รังสิต
The Plant พหลโยธิน-สายไหม
ชื่อโครงการ | เดอะ แพลนท์ วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 The Plant Wongwaen – Lumlukka Klong 5 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด มหาชน Pruksa Real Estate |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 49 – 2 – 82 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 126 ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย | 132 – 166 ตร.ม. |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 35.5 ตร.วา. |
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน, 2 – 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | ปทุมธานี |
ขนส่งสาธารณะ | – ใกล้ถนนวงแหวนรอบนอก – ใกล้ทางด่วนรามอินทรา จตุโชติ – ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 543 |
ที่ตั้ง | ถนนเลียบคลองลำลูกกา ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ. ปทุมธานี |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ (บางส่วน) |
ราคา | เริ่ม 3.15 ล้านบาท* |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 35 บาท/ตร.วา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | The Plant วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 5 เติมเต็มความสุขหลากสไตล์ ตอบรับความต้องการของคุณได้ครบทุกด้าน พร้อมสังคมทันสมัย ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม และถนนวงแหวน |
โครงการใกล้เคียง
ที่ตั้งโครงการ
โครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา ตั้งอยู่ติดถนนเลียบคลองลำลูกกา หรือซอยบึงคำพร้อย 18 อยู่บนทำเลลำลูกกานับว่าเป็นช่วงลำลูกกาคลองหกแล้วค่ะ สำหรับทำเลลำลูกกานี้ถือว่าออกมาชานเมืองพอสมควร แต่ยังเป็นทำเลที่มีความน่าสนใจตรงที่เป็นทำเลที่ใกล้จุดตัด วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก หรือถนนกาญจนาภิเษก ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ได้
และยังมีการพัฒนาของทำเลใกล้เคียงเข้ามาเรื่อยๆ ที่เห็นได้ชัดคือช่วงบริเวณคลองสอง ที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มตัดผ่าน ทำให้บนเส้นลำลูกกาที่แต่เดิมจะมีเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ ก็เริ่มที่จะมีคอนโด Low Rise ขึ้นมาให้เห็นกันบ้างแล้วค่ะ>
ส่วนตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาในซอย บนถนนเส้นรองคือถนนเลียบคลองลำลูกกา ที่ถึงจะไม่เด่นเท่าทำเลติดถนนใหญ่ลำลูกกา แต่ก็ยังพอเดินทางได้สะดวก และยังได้ความสงบเพิ่มมาทดแทนค่ะ สภาพแวดล้อมบนถนนเลียบคลองลำลูกกาจะมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมากพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดกลางถึงขนาดใหญ่และบ้านของชาวบ้านดั้งเดิมปะปนกันไป ส่วนบริเวณโดยรอบโครงการจะยังคงเป็นที่ดินเปล่าซะส่วนมากค่ะ
สำหรับการเดินทางเข้าและออกโครงการจะเน้นการใช้รถยนต์สะดวกสุด โดยจากซอยโครงการจะสามารถเข้าออกโดยใช้ถนนหลักคือเส้นลำลูกกาจะสามารถเชื่อมไปทางฝั่งรังสิต, ดอนเมือง และออกนอกเมืองไปนครนายกได้ ส่วนการเข้าสู่ตัวเมืองหลักๆเลยจะเป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ เพื่อเลี่ยงรถติด ไปออกเกษตร – นวมินทร์ หรือถนนลาดพร้าวและพระราม 9 ก็สามารถใช้วิ่งเข้าตัวเมืองได้สะดวก
ส่วนเส้นทางทั่วไปที่ไม่ขึ้นทางด่วนก็จะสามารถใช้เส้นพหลโยธิน , วิภาวดีรังสิตได้เช่นกัน แต่รถจะติดมาก ที่ติดหนักๆก็จะเป็นช่วงสะพานใหม่และดอนเมือง แต่ก็ยังมีเส้นทางให้หลบรถติดช่วงสะพานใหม่อีกเส้นทางคือใช้เส้นหทัยราษฎร์ เข้าสุขาภิบาล 5 ต่อมาที่ถนนเทพารักษ์ จะมาทะลุออกถนนพหลโยธิน แถวๆ Big C สะพานใหม่ค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเส้นรอง ทำให้ไม่มีป้ายรถเมล์ที่อยู่ในระยะใกล้โครงการ ที่พอจะผ่านหน้าโครงการตอนนี้ก็มีรถ Taxi และพี่วินที่นานๆ จะผ่านมาที ส่วนป้ายรถเมล์ที่ใกล้โครงการที่สุดจะต้องออกมาบนถนนใหญ่ลำลูกกา ทางซอยประชุมราษฎร์ ระยะทางประมาณ 1.1 กม. จะมีรถเมล์สาย 543 ผ่านค่ะ โดยรถเมล์สายนี้จะวิ่งไปทางถนนลำลูกกา เข้าเส้นพหลโยธิน นจถึงอู่บางเขน
ส่วนรถไฟฟ้าสายในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – คูคต ที่ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอยู่ โดยจะมีเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีหมอชิต สิ้นสุดที่สภต.คูคต บนถนนลำลูกกา นอกจากนั้น ในอนาคตยังมีแผนก่อสร้างส่วนต่อขยายมาสิ้นสุดที่บริเวณวงแหวนตะวันออกที่บริเวณลำลูกกาคลอง 6 ก็จะช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น แต่ก็ยังคงต้องอาศัยรถส่วนตัวหรือนั่ง Taxi ไปยังสถานีก่อนอยู่ดีค่ะ
สำหรับทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วน Motorway 9 หรือกาญจนาภิเษกวงแหวนตะวันออก ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมือง มีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 – 10 นาที โดยทางด่วนเส้นนี้จะเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ สามารถใช้เดินทางไปถนนรามอินทรา, ถนนประดิษฐมนูญธรรม , เกษตร – นวมินทร์, ลาดพร้าว พระราม 9 เอกมัยได้
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งขาออกนอกเมืองจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 4.2 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 – 15 นาที ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ นี้ที่ใกล้โครงการที่สุดจะมี 7 – 11 และตลาดสด 100 เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีร้านอาหารแบบรถเข็นให้เลือกทานหลายร้าน โดยตลาดนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 400 เมตร
ส่วนพวก Hyper Market ใกล้ๆ จะมี Big C ลำลูกกา, Home Pro, Tesco Lotus
และถ้าเป็นห้างใหญ่ๆก็จะต้องออกไปไกลอีกหน่อย โดยถ้าวิ่งไปทางถนนรามอินทราจะมีห้าง Fashion Island , Promenade ส่วนทางถนนรังสิต-นครนายก จะมีห้าง Future Park รังสิต ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลลำลูกกาค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนเส้นพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าสะพานใหม่ บริเวณเซียร์ รังสิต เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลำลูกกา ขับตรงไปเรื่อยๆบนถนนลำลูกกา ผ่านจุดตัดถนนกาญจนาภิเษก วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตุวัดประชุมราษฎร์ทางขวามือ และกลับรถที่จุดกลับรถแรกเพื่อเข้าซอยประชุมราษฎร์ ตรงเข้ามาจนถึงทางแยกเลี้ยวซ้าย ข้ามสะพานคลองสามวา แล้วจะเห็นโครงการทางขวามือ
สรุปการเดินทาง ถนนพหลโยธิน > ถนนลำลูกกา > ซอยประชาราษฎร์ > ถนนเลียบคลองลำลูกกา > The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5
เริ่มการเดินทางบนถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าลำลูกกา บริเวณเซียร์ รังสิต
ผ่านเซียร์มาจะเห็นป้ายบอกทางไปลำลูกกา โดยตลอดเส้นทางจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ
ขับตรงตามทางมาเรื่อยๆ จะเห็นป้ายบอกทางอีกจุดหนึ่ง ให้เราเตรียมชิดเลนซ้ายได้เลยค่ะ
เราเบี่ยงออกเลนซ้าย
เลี้ยวเข้าถนนลำลูกกา
ขับตรงตามทางไปเรื่อยๆบนถนนลำลูกกา ฝั่งมุ่งหน้านครนายกค่ะ
ข้ามสะพานคลองสอง
จะสังเกตว่าช่วงคลองาองจะมีคอนโด Low Rise ขึ้นมาบ้างแล้ว ตามเส้นทางรถไฟฟ้ามาค่ะ
เราขับตรงตามทางต่อมาเรื่อยๆ เห็น Tesco Lotus ทางซ้ายมือ
บนเส้นลำลูกกาจะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มอยู่ด้วย การจราจรจึงอาจจะมีหนาแน่นบ้างบางช่วงเวลานะคะ
ผ่าน MT Arena ทางซ้ายมือ เป็น Avenue ด้านในร้านอาหารและบริการหลายอย่าง เช่น ฟิตเนส ร้านสปา เป็นต้น
เราขับตามทางมาเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นป้ายโฆษณาของโครงการแล้วค่ะ
ผ่านลำลูกกาพลาซ่าทางซ้ายมือ
และผ่าน Big C
ขับมาจนถึงแยกลำลูกกาตัดกาญจนาภิเษกซึ่งตรงนี้ถ้าเราออกซ้าย ก็สามารถวิ่งไปบางปะอนได้
ผ่านแยกมาแล้วจะเห็น Big C ลำลูกกาทางซ้าย
และโฮมโปร เมื่อเราเห็นโฮมโปรให้เริ่มสังเกตวัดประชุมราษฎร์ทางขวามือได้แล้วค่ะ
ขับต่อมาเราจะเห็นวัดประชุมราษฎร์ทางขวามือ
เราขับตรงไปเรื่อยๆเพื่อหาจุดกลับรถ
กลับรถที่จุดกลับรถแรก
กลับรถมาแล้วเราจะอยู่บนถนนลำลูกกาฝั่งเดียวกับวัดประชุมราษฎร์ จากตรงนี้เราจะเห็นป้ายบอกทางไปโครงการแล้วค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประชุมราษฎร์
วิ่งตรงมาจนถึงแยกเราเลี้ยวขวา เข้าถนนเลียบคลองลำลูกกา
มีป้ายบอกทางไปโครงการเป็นระยะๆ
ข้ามสะพานคลองสามวา
ลงจากสะพานมาแล้วขับต่อมาอีกหน่อยจะเห็นโครงการทางขวามือค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
พื้นที่รอบรอบโครงการส่วนใหญ่จะยังคงเป็นที่ดินเปล่า และที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยตัวโครงการจะรวมกันบนที่ดินใหญ่ของพฤกษาเรียกว่า Town Community ภายใน Town Community จะแบ่งย่อยออกเป็น 3 โครงการคือ
ซึ่งทางเข้าของทั้ง 3 โครงการจะแยกกันโดยทางเข้าจากแยกออกเป็น 2 ทางเข้าหลัก คือทางเข้าของโครงการ Natura Trend และ The Plant ส่วนโครงการ บ้านพฤกษา ไพร์ม จะแยกออกไปค่ะ
สำหรับวันนี้เราจะพาชมในส่วนของโครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 ซึ่งอยู่ในรั้วเดียวกันกับโครงการ Natura Trend โดยตัวโครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5
เรามาดูบรรยากาศโดยรวมรอบๆ โครงการการ เริ่มจากด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนเลียบคลองลำลูกกา ความกว้างประมาณ 12 เมตร
ฝั่งขวามือจะเป็นที่ดินเปล่า และมีที่อยู่อาศัยของชาวบ้านแถวนี้
กลับไปส่วนทางซ้ายมือก็จะเป็นที่ดินเปล่า มีบ้านของชาวบ้านบ้างเช่นกันค่ะ
สำหรับทางเข้าไปในพื้นที่ของ Town Community จะแยกออกเป็น 2 ทางถ้าหากเราวิ่งมาจากซอยประชุมราษฎร์จะถึงทางเข้าในส่วนของโครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 + Natura Trend วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 ก่อน
ถ้าเข้ามาในทางเข้าแรก จะเจอกับซุ้มหลักของทางเข้าโครงการ The Plant และ Natura Trend
ส่วนทางฝั่งซ้ายมือจะมีถนนเชื่อมหน้าโครงการไปจนถึงซุ้มทางเข้าหลักของบ้านพฤกษาไพร์ม วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5
ฝั่งขวามือจะเป็นถนนด้านหน้าโครงการ ซึ่งเราจะเห็นว่ามีป้ายโครงการที่รวมทั้งโครงการ The Plant และ Natura Trend เอาไว้ในพื้นที่เดียวกัน
เดินมาดูฝั่งซ้ายจะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ บ้านพฤกษาไพร์ม หน้าซุ้มทางเข้าจะมีสวนตกแต่ง
ส่วนทางเข้าหลักของโครงการบ้านพฤกษาไพร์มและถนนทางเข้าที่ถัดมาจากถนนเลียบคลองลำลูกกา แยกค่ะ
จุดสังเกตจากบนถนนเลียบลำลูกกา จะมีป้ายใหญ่สีน้ำตาลลายไม้เขียนว่า Town Community ขนาดใหญ่ทางขวามือแบบนี้ค่ะ สามารถมองเห็นได้ง่ายค่ะ
ตัวโครงการ
สำหรับตัวโครงการที่เราจะมาดูวันนี้จะเป็นส่วนของ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 ซึ่งจะอยู่ในใช้พื้นที่ร่วมกับโครงการ Natura Trend วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 ค่ะ โดยพื้นที่ด้านในจะเหมือนใช้ร่วมกันแต่จริงๆแล้วจะมีการจัดสรรที่ค่อนข้างแยกเป็นสัดส่วนดี โดยจะมีส่วนที่ใช้ร่วมกันคือพวกส่วนกลาง ทั้ง Club House, นิติบุคคลและส่วนสวนสาธารณะเท่านั้น
ส่วนการวางผังบ้านในโครงการ เมื่อเข้าโครงการมาแล้วจะต้องผ่านซุ้มทางเข้าหลัก เข้ามาด้านในจะเจอกับถนนหลักกว้าง 12 เมตร ในส่วนของโครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 จะมีถนนทางเข้าแยกทางขวา
เมื่อเข้าไปด้านในพื้นที่ของ The Plant จะเจอถนนซอยย่อยกว้าง 8 เมตร ภายในจะแบ่งพื้นที่จัดสรรเป็นสัดส่วน ซึ่งถ้าดูจากแปลนแล้วจะเห็นว่าถูกแยกออกมาจากตัวโครงการ Natura Trend ได้ค่อนข้างดี ด้วยการแยกถนนทางเข้าหลักเชื่อมเข้าสู่ในโครงการ และตัวบ้านด้านในจะไม่ออกมาปนกับส่วนของเนเชอร่าเทรนด์เลย ทำให้ลูกบ้าน Natura Trend ก็จะไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปในส่วนของ The Plant ค่ะ
สำหรับส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันจะมี 2 จุด คือส่วน Club House ภายใน Club House จะมีสระว่ายน้ำ, Fitness , สำนักนิติบุคคลและสวนสาธารณะ พื้นที่รวมพื้นที่ส่วน Club House ประมาณ 0 – 2 – 49 ไร่ และสวนสาธารณะแยกต่างหากบริเวณกลางโครงการที่มีขนาดกว้าง 1 – 2 – 20.35 ไร่ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และรั้วระหว่างบ้านสูง 1.70 เมตร
กลับมาที่ซุ้มทางเข้าหลักของโครงการระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะใช้ Key Card Access ระยะใกล้ แยกทางเข้าและออกซึ่ งแต่ละฝั่งก็จะแบ่งทางเข้าเป็น 2 ทางคือส่วนทางเข้าของ Visitors และส่วนทางเข้าของลูกบ้านค่ะ
โดย Visitor ที่เข้ามาในโครงการจะต้องแลกบัตรกับพี่ยามที่ ซุ้มโครงการก่อน ส่วนลูกบ้านก็สามารถที่จะแตะบัตรเพื่อเข้าสู่โครงการได้เลย
บริเวณซุ้มทางเข้าจะมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 3 ตัว โดย 2 ตัวหลักจะถูกติดไว้กับป้อมรปภ. เพื่อส่องหน้าคนขับและป้ายทะเบียนในส่วนของ Visitors
และกล้องวงจรปิดอีกตัวจะติดไว้ตรงรั้วกั้นไม้กระดกฝั่งลูกบ้านเพื่อส่องดูป้ายทะเบียนค่ะ
เข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับถนนหลักกว้าง 12 เมตร
ฝั่งขวามือจะเป็นรั้วกั้น ด้านหลังรั้วพุ่มไม้ที่เห็นจะเป็นพื้นที่ของโครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5
จากถนนหลักหันไปทางซ้ายมือ เราจะเห็นบ้านหลังแรก เป็นอาคารสำนักงานขายค่ะ
ด้านหน้าของอาคารสำนักงานขาย
เข้ามาดูบรรยากาศภายใน จะมีชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับรองรับผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการ
เข้ามาด้านในจะเจอกับเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล
อีกฝั่งจะมีห้องรับรองแบบ Private
ด้านในก็จะมีชุดโต๊ะรับรองอีกหลายชุด
กลับมาที่ถนนหลัก ติดกับ Sale Office จะเป็นพื้นที่ของบ้านของ Natura Trend ซึ่งส่วนแรกจะเป็นบ้านตัวอย่างค่ะ
ส่วนทางขวามือติดถนนใหญ่จะเป็นบ้านตัวอย่างของโครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5
ตรงเข้ามาในโครงการอีกหน่อยจะถึงทางแยก จากตรงนี้เราจะเห็นสวนสาธารณะ ส่วนถนนที่แยกไปทางขวาจะเป็นถนนหลักที่เชื่อมเข้าไปในที่ดินของโครงการ The Plant ที่เราจะมาดูกันวันนี้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ติดถนนหลักทางซ้ายมือที่เหลือจะเป็นพื้นที่ของโครงการ Natura Trend ทั้งหมด
บรรยากาศโดยรวมของโครงการ Natura Trend ซอยแรกที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
หน้าตาบ้านโดยรวมสำหรับบ้านแปลงมุม
ถัดมาเราไปดูในส่วนของสวนสาธารณะที่ใช้ร่วมกันทั้งโครงการ The Plant และ Natura Trend กันต่อ
ภายในสวนจะปูหญ้าและลงต้นไม้ มีทางเดินรอบสวนให้เรียบร้อย ขนาดสวนประมาณ 1 – 2 – 20.53 ไร่
สำหรับเครื่องเล่นที่มีมาให้จะถูกจัดไว้เป็นซุ้มติดกับทางเดินในสวน
เครื่องเล่นที่ได้จะมีม้ากระดก
ส่วนของสนามเด็กเล่นจะมีศาลากันแดดฝนไว้ให้ด้วยค่ะ พร้อมที่นั่งเป็นม้านั่งยาวสำหรับผู้ปกครองที่มานั่งพักผ่อนและสามารถจับตาดูลูกๆได้
สำหรับของเล่นที่มีลงไว้ให้ ณ ตอนนี้จะเป็นชุดบ้านและกระดานลื่น
คุณเป็ดม้าโยก
และม้ากระดกค่ะ
ติดกับศาลาสนามเด็กเล่นก็จะมีศาลาพักผ่อน ด้านในมีม้านั่งตัวยาวสำหรับนั่งพักผ่อนชมสวน และมีสวนตกแต่งไว้ให้ด้านข้าง
มุมจากสนามเด็กเล่นมองย้อนมาทางสวนจะเห็นว่าตัวสวนจะมีพื้นที่ลงไว้ให้ค่อนข้างเยอะสามารถที่จะมานั่งเทคนิคได้ในวันหยุด
กลับมาบนถนนหลัก ติดกับสวนสาธารณะจะเป็นส่วนของวงเวียนในโครงการ ถัดเข้าไปจะเป็นที่ดินของ Natura Trend ทั้งหมด ซึ่งอยู่ในช่วงก่อสร้างค่ะ
แบบบ้าน
แบบบ้านในโครงการจะมีทั้งหมด 4 แบบเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น แบ่ง Type ของบ้านด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยค่ะ
บ้านตัวอย่าง
บ้านตัวอย่างตอนนี้จะมี 2 แบบ คือบ้านขนาดใหญ่สุด แบบบ้าน Delancy และบ้านขนาดเล็กสุดคือ แบบบ้าน Levine ซึ่งวันนี้เราพาทุกคนไปชมบ้านตัวอย่างกันทั้ง 2 แบบเลยค่ะ
เริ่มกันที่บ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการ กับบ้านแบบ Delancy บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 166 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้าตาบ้านโดยรวมดูโมเดิร์น ใช้โทนสีน้ำเงินและขาว ทางเข้าหน้าบ้านมีระแนงตกแต่ง ส่วนบนชั้น 2 มีระเบียงหน้าบ้าน ใช้กระจกนิรภัยเป็นราวกันตก ราวจับสีดำ รวมถึงบานหน้าต่างและประตูของบ้านก็ใช้สีดำด้วย ทำให้โทนโดยรวมดูเรียบร้อย เข้ากับสีของบ้านดีค่ะ
สำหรับในบ้านจริงประตูรั้วหน้าบ้านจะได้แยกทางคนเดินเข้า-ออก และประตูรั้วสำหรับรถยนต์ พร้อม AUTO LIGHTING ที่จอดรถหน้าบ้าน เปิดอัตโนมัติเมื่อแสงอาทิตย์สลัว และได้ถังขยะสำเร็จรูปแยกเป็นสัดส่วน
มาดูของจริงกันบ้าง พื้นที่หน้าบ้านจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือประตูทางเข้าหลักและที่จอดรถที่จะมีทางเข้ารองและมีตู้เก็บของสำหรับอุปกรณ์ทำสวน, อุปกรณ์รถยนต์ ใช้ไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวง
สำหรับห้องเก็บของบริเวณที่จอดรถสามารถใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวนต่างๆได้
ประตูทางเข้ารองจะได้เป็นสีขาวมือจับก้านโยกและได้ตัว Stopper ด้านหลัง สำหรับกันประตูกระแทกด้านหลังค่ะ ทางเข้าบ้านจะมีเฉลียงสูงประมาณ 10 เซนติเมตร วัสดุพื้นทรายล้าง กระเบื้องเซรามิค
ติดตั้งเต้าเสียบพร้อมความฝาปิดมาให้
จากพื้นที่จอดรถสามารถแยกออกไปยังสวนข้างบ้านได้
ถัดมาเราจะเข้าไปดูในตัวบ้านกันต่อ สำหรับประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้โคมไฟ 2 จุด
ด้านหน้าบ้านมีระแนงตกแต่งพร้อมพื้นเฉลียงยกระดับ 2 ขั้น ขั้นละประมาณ 10 เซนติเมตร วัสดุเป็นทรายล้างผสมกระเบื้องเซรามิค พื้นที่เฉลียงกว้างประมาณ 70 ซม. สามารถที่จะวางชั้นวางรองเท้าได้
ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นประตูบานเลื่อนผสมบาน fix บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
มือจับและตัวล็อคค่ะ
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นจุดแรก มองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหาร ความสูงฝ้าเพดานประมาณ 2.8 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น ได้ช่องแสง 2 บาน เป็นประตูฝั่งหน้าบ้านและหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งข้างบ้าน
เพราะโดยหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งข้างบ้านจะได้เป็นบานเลื่อนคู่ ผสมบานฟิกซ์ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
มือจับแบบเซาะร่อง พร้อมตัวล็อคแบบมาตรฐานและแบบก้นหอย
สำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้ หรือจะเพิ่มเป็น 5 – 6 ที่นั่งได้ แต่แนะนำให้วางเป็นโซฟาทรง L – Shape
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่วางทีวี ในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นผนังโล่งๆ เราสามารถที่จะเลือกว่าจะติดตั้งเป็นตู้ Built – in หรือจะหาโต๊ะวางแบบง่ายๆก็ได้ค่ะ
ระยะดูทีวีที่เหลือประมาณ 2.3 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 55″ – 60″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
จากห้องนั่งเล่นเรามาดูในส่วนของห้องทานอาหาร, Pantry, ห้องครัวและบันไดขึ้นชั้นสอง
เรามาดูในส่วนของห้องทานอาหารกันก่อน โดยห้องนี้จะได้ช่องแสงหลัก 2 จุด คือนประตูบานเลื่อนฝั่งข้างบ้านที่เชื่อมออกไปยังเฉลียงข้างบ้าน และหน้าต่างบานเปิดหลังบ้าน ทำให้พื้นที่ห้องทานอาหารได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะพอสมควรค่ะ
โดยหน้าต่างฝั่งหลังบ้านจะได้เป็นชุดหน้าต่างบานฟิกซ์ ผสมบานกระทุ้ง บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ตัวบานสามารถเปิดได้กว้างพอสมควร สามารถใช้ระบายอากาศได้ดี
จากห้องทานอาหารเราไปดูส่วน Pantry และห้องครัวกันต่อ
โดยพื้นที่ส่วน Pantry เราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะทำเป็น Pantry ขนาดใหญ่ หรือทำเป็นพื้นที่เก็บของอย่างในบ้านตัวอย่างก็น่าสนใจดีค่ะ
ถัดมาเรามาดูส่วนของห้องครัวต่อ
ภายในห้องครัวมีขนาดค่อนข้างกว้าง สำหรับในบ้านจึงจะได้เป็นห้องเปล่า
ตัวอย่างการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปทรง U – Shape
ภายในห้องครัวจากมีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเล็ก ซึ่งมีตำแหน่งระดับติดตั้งที่เหมาะสมกับเคาน์เตอร์ครัว สามารถใช้รับแสงและเปิดระบายอากาศได้ดี
จากห้องครัวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ โดยประตูจะได้เป็น UPVC สีขาว มือจับก้านโยก
พื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านจะได้เป็นพื้นซีเมนต์ขัดเรียบ โดยในบ้านจริงจะมีพื้นลานซักล้างปูมาให้บางส่วนที่เหลือจะเป็นพื้นหญ้าให้
พื้นที่บนชั้น 2 จะมีระเบียงยื่นออกมาบางส่วน สามารถที่จะใช้เป็นที่วาง คอมเพรสเซอร์แอร์ได้
กลับเข้ามาในตัวบ้าน เราไปดูในส่วนของห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 กันต่อ
โดยพื้นห้องน้ำที่ชั้นนี้จะลดระดับลงไปประมาณ 2 ขั้นบันได สูงขั้นละประมาณ 12 เซนติเมตร ซึ่งการลดระดับตรงนี้จะสัมพันธ์กับความสูงฝ้าเพดานที่ได้ภายในห้องน้ำ เนื่องจากห้องน้ำที่ชั้นนี้จะใช้พื้นที่ใต้บันไดจึงทำให้ต้องลดระดับลงไปเพื่อให้ได้ระดับฝ้าที่เหมาะสมค่ะ
นอกจากนั้นด้านหน้าห้องน้ําจะมีห้องเก็บของใต้บันไดให้ด้วย
เปิดเข้ามาด้านในห้องเก็บของจะใช้พื้นที่ใต้บันไดและมีไฟมาให้ 1 ดวง
ต่อมาเรามาดูห้องน้ำกันต่อ โดยประตูห้องน้ำในบ้านมาตรฐานจริงๆจะได้เป็นบาน upvc สีขาว
เข้ามาในห้องน้ำจะเห็นว่ามีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ภายในห้องน้ำแยก ส่วนแห้งส่วนเปียก พื้นลดระดับลงมาประมาณ 3 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องคละขนาด
อ่างล้างมือที่ได้จะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม พร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่าง สามารถใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้
บานเปิดแบบ Soft Close
ขนาดอ่างค่อนข้างกว้าง มีที่วางของเหนืออ่างนิดหน่อยโดยอ่างที่ได้ จะได้ยี่ห้อ Cotto
พร้อมก๊อกน้ำเย็นยี่ห้อ Cotto เช่นเดียวกัน
ติดกับอ่างล้างมืออยากเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ครบชุด โดยสุขภัณฑ์ที่ได้จะได้ของยี่ห้อ Cotto ระยะการใช้งานพอดีๆ
สายชำระขนาดพอดีมือ
เหนืออ่างล้างมือและสุขภัณฑ์จะมีบ่าวางของ สามารถใช้วางของได้นิดหน่อย
ส่วนเปียกมีก่อธรณีขึ้นมาสูงประมาณ 6 ซม. เพื่อกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก สำหรับฝักบัวที่ได้ จะได้เป็น Hand Shower ยี่ห้อ Cotto ขนาดกระทัดรัด
ขนาดของห้องอาบน้ำประมาณ 1.6 x 85 เมตร พอให้อาบได้สบายๆ
ต่อมาเราขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อ
โดยบันไดจะได้เป็นโครงสร้างเหล็ก ปิดหน้าด้วยไม้สำเร็จรูปสีน้ำตาล
โถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ จะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวโถงได้ดี
ขึ้นมาบนชั้น 2 ฝั่งซ้ายมือเป็นห้อง Master Bedroom ไฟจะเป็นส่วนของห้องนอนร้องและฝั่งขวามือจะเป็นห้องน้ำและห้องนอนรอง 2
พื้นบนชั้น 2 ปูด้วยไม้ลามิเนต ติดตั้งตัวจบมาให้เรียบร้อย
ชานพักบันไดแบบสี่เหลี่ยมเต็มทั้ง 2 ช่วง เดินได้อย่างปลอดภัยค่ะ
ภาพรวมของโถงบันไดในช่วงเวลากลางวันได้ใช้แสงธรรมชาติมาค่อนข้างพอใช้ ส่วนเวลากลางคืนก็อาจจะต้องติดโคมไฟเพิ่มเติมอีกหน่อย โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ จะได้เดินขึ้นบันไดด้วยความปลอดภัยค่ะ
เรามาดูห้องนอนห้องแรกก่อน โดยเริ่มจากห้องนอนที่ติดทางขึ้นบันได เป็นห้องนอนรอง โดยประตูห้องนอนในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบาน HDF
เข้ามาด้านในห้อง มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนสองบาน สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อระบายอากาศได้ดี ภายในห้องวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจากพื้นที่แล้วเตียงขนาด 3.5 ฟุต ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ หรือถ้าใครอยากที่จะวางเตียงขขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถที่จะเพิ่มเป็นเตียงควีนไซส์ได้ แต่อาจจะไม่เหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะหรือตู้เสื้อผ้า
ระยะปลายเตียงที่เหลือหลังจากติดตั้งตู้เก็บของแล้วจะเหลือพอให้เดินผ่านได้สะดวก
อีกฝั่งของห้องติดตั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ระยะการใช้งานเหมาะสมสำหรับเตียง 3.5 ฟุต
ออกมาที่โถงบันได เราจะไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
เข้ามาภายในห้องน้ำจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกฝ้า ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย โดยสุขภัณฑ์ได้ครบชุด ยี่ห้อ Cotto
อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์ระยะการติดตั้งใช้งานได้สะดวก
ถัดมาเป็นส่วนของห้องอาบน้ำ
ด้านในติดตั้งฝักบัว, ที่วางสบู่ ยี่ห้อ Cotto พร้อมเดินสายไฟสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
ขนาดห้องอาบน้ำ 0.9 x 1.5 เมตร กว้างพอให้ยืนอาบได้สบายๆค่ะ
ออกมาจากห้องน้ำเราไปดูในส่วนของห้องนอนรอง ห้องที่ 2 กันต่อ
โดยประตูจะได้เป็น HDF
เข้ามาภายในห้องตัวอย่าง ตกแต่งเป็นห้องนั่งทำงานซึ่งสำหรับใครที่มีสมาชิกในบ้านเยอะก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ โดยลักษณะการจัดห้องเป็นห้องนอนก็จะได้ฟังก์ชันที่คล้ายๆกับห้องที่แล้วค่ะ
สำหรับห้องนี้มีช่องแสงมาให้ 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อระบายอากาศได้ดี
อีกมุมของห้องค่ะ
ต่อมาเราไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันต่อ
สำหรับห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน เมื่อเข้ามาจะเห็นว่าตัวห้องสามารถแยกออกเป็นส่วนห้องนอนและห้อง Walk – in Closet
เรามาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อน สังเกตได้ว่าห้องนี้จะได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะส่วนห้องนอนจะได้ช่องแสงมาทั้งหมดถึง 5 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งฝั่งหัวเตียง 2 บาน และหน้าต่างบาน fix 2 บาน หน้าต่างบานเลื่อน 1 บาน ฝั่งหน้าบ้าน
ห้องตัวอย่างมีวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะการใช้งานที่เหลือพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ ซึ่งตรงนี้จึงทำให้เราพอที่จะขยับขยายเป็นเตียงคิงไซส์ได้และยังเหลือพื้นที่หัวเตียงสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีกค่ะ
สำหรับช่องแสงบานกระทุ้งฝั่งหัวเตียงสามารถเปิดได้ค่อนข้างกว้าง ะบายอากาศได้ดี
จากห้องนอนเราจะไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันต่อ
ภายในห้อง Walk – in Closet จะสามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้และสามารถเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงภายนอกค่ะ
โดยบานประตูที่ได้เป็นบานขนาดใหญ่ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
ออกมายังระเบียงด้านนอก ขนาดระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร พอให้วางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆได้ หรือใครที่ชอบต้นไม้ก็สามารถที่จะวางไม้กระถางขนาดกลางๆได้เลยค่ะโดย
พื้นระเบียงจะได้เป็นทรายล้างผสมกระเบื้องเซรามิค
กลับเข้ามาด้านในห้องเราจะไปดูในส่วนของห้องน้ำในตัวของห้อง Master Bedroom
เข้าไปดูในห้องน้ำกันค่ะ โดยบานประตูที่ได้จะได้เป็นบาน UPVC มาตรฐาน
ภายในห้องน้ำแยกสJวนแห้ง ส่วนเปียก แต่ห้องนี้จะมีความพิเศษกว่าห้องน้ำห้องอื่นตรงที่มี Pocket Garden ในส่วนห้องอาบน้ำซึ่งเดี๋ยวเราจะไปดูกันค่ะ
สำหรับอ่างล้างมือห้องนี้จะได้แบบฝังเคาน์เตอร์ แต่ใต้อ่างไม่มีตู้ติดตั้งมาให้ ซึ่งตรงนี้เราสามารถที่จะหาช่างมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ
ส่วนตัวสุขภัณฑ์ได้ของยี่ห้อ Cotto ระยะการใช้งานพอใช้งานได้สะดวก
ห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกด้วยการก่อธรณีขึ้นมาสูงประมาณ 6 ซม. แต่ไม่มี Shower Box นะคะ
ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวยี่ห้อ Cotto พร้อมเดินสายไฟสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้
อีกด้านจะมีม้านั่งก่อขึ้นมาให้สำหรับใช้วางของหรือนั่งอาบน้ำได้
ตัว Pocket Garden จะเชื่อมต่ออยู่กับห้องอาบน้ำด้วยหน้าต่างบานเลื่อนแบบนี้ ซึ่งถ้าใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวก็สามารถที่จะหาสติ๊กเกอร์ฟิล์มแบบฝ้ามาติดได้ค่ะ
พื้นที่ Pocket Garden ด้านนอกจะเป็นเหมือนระเบียงโล่ง พื้นซีเมนต์ขัดเรียบ มีท่อระบายน้ำ เราสามารถที่จะจัดเป็นสวนเพื่อบังสายตาจากภายนอกและยังได้บรรยากาศที่ดีในการอาบน้ำด้วยค่ะ
เรามาดูพื้นที่ข้างบ้านกันก่อน สำหรับพื้นที่ข้างบ้านทางซ้ายมือจะมีประตูเชื่อมออกมายัง Terrace ข้างบ้าน ซึ่งจะเชื่อมไปในส่วนของห้องทานอาหาร
บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นบ้านแบบ Levine เป็นบ้านไซส์เล็กสุดในโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 132 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ (Flex Room) 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้าตาและโทนโดยรวมจะเหมือนกับบ้านแบบที่แล้ว แยกประตูทางคนเดินเข้า-ออกกับประตูรั้วสำหรับรถยนต์ ถังขยะสำเร็จรูปแยกเป็นสัดส่วนค่ะ
สำหรับแปลนบ้านของแบบที่ 2 จะคล้ายกับแบบแรกค่ะ แต่พื้นที่ครัวแยกจะหายไป เปลี่ยนเป็นห้องเอนกประสงค์แทน ส่วนบนชั้น 2 ก็จะมีจำนวนห้องน้ำลดลงเหลือเพียง 1 ห้องน้ํา
สำหรับแปลนบ้าน เมื่อเข้าไปในตัวบ้านจะเจอที่จอดรถ Indoor ขนาด 2 จอด เข้าไปในตัวบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อไปยังห้องทานอาหารซึ่งในบ้านตัวอย่างจัดสรรเป็นพื้นที่ส่วนครัวรวมด้วยเลย แต่ในความเป็นจริงถ้าหากว่าบ้านไหนใช้ครัวทำอาหารหนักๆ ก็แนะนำให้ต่อเติมออกไปด้านหลังบ้านค่ะ ก็จะได้ครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และลดควันรบกวนไปยังส่วนอื่นของบ้านได้ดีด้วย
จากห้องทานอาหารไปทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ ห้องนี้จะมีความพิเศษตรงที่มีประตูเชื่อมออกไปยังสวนข้างบ้าน ซึ่งเหมาะที่จะเป็นห้องพักผ่อนแบบ Private, ห้องอ่านหนังสือ หรือถ้าใครมีผู้สูงอายุก็เหมาะที่จะให้เป็นห้องนอน เพราะไม่ต้องเดินขึ้นไปบนชั้น 2 แถมยังได้วิวสวยๆตอนเช้าอีกด้วยค่ะ
สำหรับห้องน้ำที่ชั้น 1 จะได้มีฟังชั่นครบ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก ถ้าเราใช้ห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ท่านก็สามารถจะลืมมาใช้งานได้สะดวกค่ะ
ขึ้นมาบนชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง ในส่วนของห้องนอนฝั่งหน้าบ้านจะได้เป็นห้อง Master Bedroom ภายในห้อง Master Bedroom จะมีประตูเข้าห้องน้ำจากภายในห้องนอนได้เลย ตัวห้องนอนรองอีก 2 ห้อง จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน และจะต้องเดินออกมาที่โถงบันไดก่อนเพื่อจะใช้งานในส่วนห้องน้ำค่ะ
มาต่อกันที่พื้นที่หน้าบ้าน จะได้เป็นที่จอดรถขนาด 2 จอด จากตรงนี้เราจะเห็นประตูทางเข้าหลักของ และช่องแสงที่ส่องเข้าไปบริเวณโถงบันได
พื้นที่รอบรอบบ้านจะได้เป็นสวน จากตรงนี้เราจะเห็นว่ามีประตูบานเลื่อนที่เชื่อมสวนข้างบ้านกับพื้นที่ในบ้านส่วนห้องทานอาหารได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านจะได้เป็นซีเมนต์ขัดเรียบเทมาให้เต็มพื้นที่ ทำให้เราสามารถที่จะต่อเติมออกมาเป็นครัวไทยแยกด้านนอกได้สะดวก ด้านบนบานประตูก็จะติดหลอดไฟฟลูออเรสเซนท์มาให้ 1 ดวง
อีกฝั่งของบ้าน จะเห็นว่ามีห้องแยกออกมาในสวน คือห้องอเนกประสงค์ ที่มีประตูบานกระจก สามารถชมวิวสวนด้านนอกได้
กลับมาที่พื้นที่สวนหน้าบ้านเดี๋ยวเราจะเข้าไปอยู่ด้านในตัวบ้านกันต่อ
โดยประตูทางเข้าหน้าบ้านจะมีเฉลียงยกระดับขึ้นมาชั้นสูงประมาณ 10 เซนติเมตร วัสดุเป็นทรายล้างและปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม
ประตูบานเลื่อนที่ใช้เชื่อมเข้าไปในบ้าน จะได้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
มือจับและตัวล็อคด้านนอก
มือจับและตัวล็อคด้านในค่ะ
ได้ตัวล็อคแบบก้นหอยมาด้วยอีกตัว เพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งระดับ
เข้ามาด้านในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ห้องรับแขกเป็นส่วนแรก มองยาวตรงไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัว พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ความสูงฝ้าเพดานประมาณ 2.60 เมตร
สำหรับพื้นที่ส่วนห้องรับแขกจะมีช่องแสง 2 จุด เป็นประตูฝั่งหน้าบ้านและหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งข้างบ้าน ช่วยให้แสงธรรมชาติส่อง เข้ามาในห้องรับแขกได้พอสมควร
พื้นที่ห้องรับแขกในบ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูจากขนาดพื้นที่แล้วเราสามารถเพิ่มเป็น 4 – 5 ที่นั่งได้สบายๆค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นพื้นที่โถงบันไดและพื้นที่สำหรับวางทีวี
ระยะดูทีวีประมาณ 3.3 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 60″ – 70″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
จากส่วนห้องนั่งเล่นมองตรงไป เราจะเห็นส่วนของห้องทานอาหาร ส่วนทางซ้ายมือจะแบ่งเป็นห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัวกันก่อน พื้นที่ส่วนนี้จะได้ช่องแสงมา 2 จุด เป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังสวนข้างบ้าน และหน้าต่างบานเลื่อนหลังบ้านที่เหมาะสำหรับการติดตั้งซิงค์ล้างจานหรือเคาน์เตอร์ครัวค่ะ โดยพื้นที่ที่จัดสรรมาให้ในบ้านตัวอย่างจะเห็นว่ากลัวที่ได้จะเป็นครัวเปิดลักษณะครัวเป็น Pantry เล็กๆ ที่เหมาะสำหรับเตรียมอาหารเบาๆเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะทำครัวหนัก ดังนั้นถ้าบ้านไหนที่ทำอาหารกันเป็นประจำก็แนะนำให้ไปต่อเติมครัวเพิ่มที่หลังบ้านจะดีกว่าค่ะ
ส่วนพื้นที่ทานอาหารจะสามารถวางโต๊ะขนาด 2 ถึง 4 ที่นั่งได้ และในกรณีที่ไปต่อเติมครัวไว้หลังบ้านแล้ว ก็สามารถที่จะเพิ่มเป็น 5 – 6 ที่นั่งได้ค่ะ
ให้ดูระยะการใช้งานในกรณีที่เอาครัวมาไว้ในที่เดียวกับห้องทานอาหาร จะเหลือระยะใช้งานประมาณ 90 เซนติเมตร แต่ในที่นี้คือวางเก้าอี้ทานอาหารได้แค่ 2 ตัวเท่านั้นค่ะ
จากห้องทานอาหารสามารถเชื่อมต่อไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้
จากห้องทานอาหารต่อมาเราจะไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ
บานประตูที่ได้จริง จะได้บาน UPVC สีขาว
เข้ามาด้านในห้องน้ำที่ชั้น 1 จะได้ฟังก์ชั่นครบถ้วน ทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
อ่างล้างมือที่ได้จะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม พร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่างยี่ห้อ Cotto ขนาดกลาง ค่อนข้างกว้าง มีบ่าวางของด้านหลัง
อีกฝั่งของห้องจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่าง บานกระทุ้งกระจกฝ้า
อ่ระยะการใช้งานของโถสุขภัณฑ์สามารถใช้งานได้สะดวก
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะแบ่งแยกส่วนเปียกด้วยการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร พร้อมติดตั้ง Hand Shower ยี่ห้อ Cotto และเดินสายไฟมาให้สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเรียบร้อยค่ะ
ขนาดของห้องอาบน้ำประมาณ 80 x 80 ซม. พอให้ยืนอายน้ำได้สะดวก สำหรับห้องอาบน้ำถ้าใครกังวลว่าจะเปียกส่วนอื่นก็สามารถติดม่านอาบน้ำเพิ่มเติมได้ค่ะ
จากห้องทานอาหาร เราจะไปดูในส่วนของห้องอเนกประสงค์กันต่อ
เข้ามาด้านใน ลักษณะห้องเอนกประสงค์นี้จะเป็นห้องแนวยาว สามารถที่จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือเป็นเตียงควีนไซส์ก็ได้แต่จะแน่นหน่อยค่ะ สำหรับห้องตัวอย่างโครงการจัดมาเป็นห้องทำงานผสมกับห้องพักผ่อน
ให้ดูระยะการใช้งานในส่วนของโซฟาและพื้นที่เหลือด้านหน้าสามารถใช้วางโต๊ะกลางได้
ประตูที่เชื่อมจากห้องเอนกประสงค์ ออกไปยังสวนจะได้เป็นประตูบานกระจกแบบนี้
ทำให้มุมมองที่มาออกมาด้านนอกค่อนข้างกว้าง สามารถเปิดเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าได้ดี
มุมจากในห้องมองย้อนไปทางส่วนห้องทานอาหาร จะเห็นว่ามีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน สามารถเปิดพร้อมกับประตูบานเลื่อนเพื่อใช้ระบายอากาศได้
ถัดมาเราไปดูในส่วนของห้องเก็บของใต้บันไดและบันไดขึ้นชั้น 2 กันต่อ
เพื้นที่เก็บของใต้บันไดนี้จะอยู่ด้านหลังผนังชั้นวางทีวีของห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ด้านหน้าห้องเก็บของพอให้เข้าไปยืนได้
ในจะติดตั้งไฟฟลูออเรสเซนท์มาให้ 1 ดวง พื้นที่ภายในสามารถเก็บของได้พอสมควรค่ะ
สำหรับตัวโถงบันไดจะได้ช่องแสงมา 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน บานยาว สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาส่วนโถงบันไดได้ และยังสามารถเปิดขึ้นอากาศได้ด้วยค่ะ
ขึ้นมาดูบนชั้น 2 จะเห็นว่า ตัวโถงบันไดค่อนข้างสูง แต่ทางโครงการก็ให้ช่องแสงเพิ่มอีก 1 จุด ทำให้พื้นที่โถงบันไดดูโปร่งโล่งขึ้น
สำหรับบ้านหลังนี้ ช่องแสงที่ได้ตรงโถงบันได จะได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์ 2 ชุด
ตัวบานกระทุ้งเปิดได้ค่อนข้างกว้าง รับลมได้ดีค่ะ
ชานพักบันไดจะได้เป็นแบบสี่เหลี่ยมและแบบสามเหลี่ยม
ขึ้นมาบนชั้น 2 พื้นที่จะแบ่งออกเป็นห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง
จากชั้น 2 มองย้อนไปดูพื้นที่โถงบันไดโดยรวมค่ะ
สำหรับห้องแรกที่เราจะเข้าไปดู เป็นห้องนอนรอง ห้องติดบันได
โดยประตูบานจริงที่ได้เป็นบาน HDF
เข้ามาภายในห้องนอนจะได้ช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนปกติ และหน้าต่างบานยาว สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ทั้งสองบาน และรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้พอสมควร
ห้องนี้จัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ปลายเตียงติดตั้งตู้เก็บของ ระยะการใช้งานพอให้เดินผ่านได้สะดวก
อีกฝั่งของห้องติดตั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ระยะการใช้งานฝั่งนี้พอดีๆค่ะ สามารถใช้งานได้สะดวกแต่ถ้าใครเพิ่มเสียงเป็นขนาดควีนไซส์อาจจะต้องเปลี่ยนตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อน และต้องทำใจหน่อยว่าจะได้พื้นที่ใช้งานน้อยลง
เรามาดูในห้องนอนรอง ห้องที่ 2 กันต่อ
ห้องนี้มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนห้องที่แล้วขึ้นมาหน่อย มีช่องแสง 2 จุด เป็นบานหน้าต่างบานเลื่อน
ห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงเหลือพอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้
อีกฝั่งของห้องจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ระยะการใช้งานตู้เสื้อผ้า ใช้งานได้สะดวก
พื้นที่ปลายเตียงก็สามารถเดินผ่านได้สะดวก
กลับมาที่โถงบันได เราจะไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom และห้องน้ำกันต่อ
โดยเริ่มที่ห้อง Master Bedroom ค่ะ
เข้ามาด้านในห้อง Master Bedroom ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน สามารถแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนห้องนอนและ Walk – in Closet เล็กๆ
มาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อน พื้นที่ส่วนห้องนอนจะมีช่องแสงทั้งหมด 3 จุด เป็นประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอก และหน้าต่างบานกระทุ้งฝั่งหัวเตียง
ในห้องตัวอย่างวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
จะเห็นว่าพื้นที่ข้างเตียงหรือค่อนข้างเยอะ สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ
ถัดมาเราไปดูในส่วนของระเบียนกันต่อ
พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 60 ซม. พอให้ออกไปยืนกินลมชมวิวได้เท่านั้นค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนระเบียงจะได้ระแนงหน้าบ้านติดตั้งมาให้ เพื่อบังสายตาในส่วนของคอมเพรสเซอร์ทำให้หน้าบ้านโดยรวมดูเรียบร้อยค่ะ
กลับเข้ามาในห้องเราไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันต่อ
โดยส่วน Walk – in Closet นี้ จะได้ช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนไซส์มาตรฐานและหน้าต่างบานเลื่อนบานยาว ติดตั้งค่อนข้างสูงหน่อยค่ะ ทั้งสองบานสามารถเปิดระบายอากาศได้และทำหน้าที่รับแสงเข้ามาในห้องได้ดี
จาก Walk – in Closet เราจะไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ
ห้องน้ำจะมีทางเข้า 2 ทางคือจากห้อง Master Bedroom (ซ้ายมือ) และจากห้องโถงบันได (ขวามือ)
ภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชั่นแยกส่วนแห้งส่วนเปียก
ได้อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมพร้อมเคาน์เตอร์ และโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ครบชุดยี่ห้อ Cotto ระยะการใช้งานสะดวก ด้านบนมีบ่าาวางของติดตั้งไว้ให้ด้วย
ส่วนห้องอาบน้ำจะถูกแยกเป็นส่วนตัว ด้วยการก่อธรณี สูงขึ้นมาประมาณ 6 ซม.
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัว Hand Shower พร้อมเดินสายไฟรองรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.5 x 0.9 เมตร พอให้อาบน้ำได้สะดวก ซึ่งถ้าใครกังวลว่าน้ำจะกระเด็นออกมาด้านนอกก็สามารถที่จะติดตั้ง Shower Box ให้เป็นระเบียบได้ หรือจะติดตั้งเป็นฉากกระจกบางส่วนอย่างในบ้านตัวอย่างก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
มุมมองภายในห้องน้ำเมื่อเข้ามาจากโถงบันไดค่ะ
ราคา
สรุป
ทำเล :โครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา ตั้งอยู่ติดถนนเลียบคลองลำลูกกาช่วงลำลูกกาคลองหก นี้ถือว่าออกมาชานเมืองพอสมควร ส่วนตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาในซอย บนถนนเส้นรองคือถนนเลียบคลองลำลูกกาได้ความสงบในการอยู่อาศัยสภาพแวดล้อมบนถนนเลียบคลองลำลูกกาจะมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมากพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดกลางถึงขนาดใหญ่และบ้านของชาวบ้านดั้งเดิมปะปนกันไป ส่วนบริเวณโดยรอบโครงการจะยังคงเป็นที่ดินเปล่าซะส่วนมากค่ะ
เป็นทำเลที่ใกล้จุดตัด วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก หรือถนนกาญจนาภิเษก ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ได้ และยังมีการพัฒนาของทำเลใกล้เคียงเข้ามาเรื่อยๆ รวมถึงการพัฒนาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว :สะดวกสุด โดยถนนหลักที่ใช้คือเส้นลำลูกกาจะสามารถเชื่อมไปทางฝั่งรังสิต, ดอนเมือง และออกนอกเมืองไปนครนายกได้ ส่วนการเข้าสู่ตัวเมืองหลักๆเลยจะเป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ เพื่อเลี่ยงรถติด ไปออกเกษตร – นวมินทร์ หรือถนนลาดพร้าวและพระราม 9 ก็สามารถใช้วิ่งเข้าตัวเมืองได้สะดวก ส่วนเส้นทางทั่วไปที่ไม่ขึ้นทางด่วนก็จะสามารถใช้เส้นพหลโยธิน , วิภาวดีรังสิตได้เช่นกัน แต่รถจะติดมาก ที่ติดหนักๆก็จะเป็นช่วงสะพานใหม่และดอนเมือง แต่ก็ยังมีเส้นทางให้หลบรถติดช่วงสะพานใหม่อีกเส้นทางคือใช้เส้นหทัยราษฎร์ เข้าสุขาภิบาล 5 ต่อมาที่ถนนเทพารักษ์ จะมาทะลุออกถนนพหลโยธิน แถวๆ Big C สะพานใหม่ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ปัจจุบันยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ เพราะมีแค่รถ Taxi และพี่วินที่นานๆ จะผ่านมาที ส่วนป้ายรถเมล์ที่ใกล้โครงการที่สุดจะต้องออกมาบนถนนใหญ่ลำลูกกา ทางซอยประชุมราษฎร์ ระยะทางประมาณ 1.1 กม. จะมีรถเมล์สาย 543 ผ่านซึ่งก็เกินระยะเดินสบายไปถึงค่ะ
การออกแบบโครงการและแบบบ้าน : ตัวโครงการ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 จะตั้งอยู่ในที่ดินขนาดใหญ่ของพฤกษาที่มี 3 โครงการรวมอยู่ในที่ดินเดียวกัน คือ The Plant วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5, Natura Trendวงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 และ บ้านพฤกษา ไพร์ม วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5 โดยโครงการ The Plant และ Natura Trend จะใช้ทางเข้าโครงการและส่วนกลางร่วมกัน ส่วนบ้านพฤกษา จะแยกออกไปเป็นอีกโครงการนึงค่ะ ทำให้โดยรวมโครงการจึงเหมือนจะมีเพื่อนบ้านเยอะ และมีการแชร์ส่วนกลางเยอะ แต่การจัดสรรและวางผังบ้านในโครงการจัดออกมาได้ดี ทำให้แต่ส่วนถูกแยกออกมาค่อนข้างชัดเจน ทำให้มีความส่วนตัวมากกว่าที่คิด
แบบบ้านในโครงการมี 4 แบบ เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น จากบ้านตัวอย่างจะเป็นบ้านเดี่ยว Delancy ขนาดใหญ่สุด และบ้านแฝด Levine เป็นบ้านขนาดเล็กสุดในโครงการ การจัดสรรพื้นที่ภายในบ้าน Delancy จัดสรรมาได้ดี พื้นที่ใช้สอยเยอะเหลือเฟือค่ะ ที่ชั้น 1 มีทั้งส่วนครัวแยก และพื้นที่สำหรับทำเป็น Pantry แยก ส่วนห้องนอนแต่ละห้องได้พื้นที่ใช้สอยพอให้ใช้งานได้สะดวก ห้องนอนรองไม่เล็ก
ส่วนบ้าน Levine บ้านแฝด 2 ชั้น การออกแบบโดยรวมใช้งานได้สะดวกแต่จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ไม่มีครัวแยก แต่ได้ห้องเอนกประสงค์มาแทน ส่วนห้องนอนรอง ห้องเล็กสุดอาจจะมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือใช้ทำเป็นห้องทำงานค่ะ
วัสดุในบ้าน : วัสดุถือว่าให้มามาตรฐาน พื้นชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้ ห้องครัวพื้นเป็นแกรนิตโต้ ชั้นบนเป็นลามิเนตพร้อมบัวสำเร็จรูป., พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค, พื้นลานซักล้างซีเมนต์ขัดเรียบ, ไฟดาวน์ไลท์และโคมซาลาเปา, กรอบประตูทางเข้าบ้านและหน้าต่างเป็นกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ,ประตูห้องภายใน HDF ประตูภายนอก UPVC มือจับก้านโยก, สุขภัณฑ์ Cotto
สิ่งอำนวยความสะดวก : หน้าโครงการตรงประตูทางเข้า-ออกติดตั้ง CCTV ฝั่งละ 3 ตัว และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ค่ะ ถนนหลักกว้าง 12 เมตร ถนนซอยกว้าง 8 เมตร ตรงทางเข้ามีต้นไม้ และและหญ้าริมทางทำให้โครงการดูร่มรื่น โครงการมีสวนส่วนกลางให้ 2 จุด โดยมีส่วน Club House + นิติบุคคล และ สวนสาธารณะ + สนามเด็กเล่น รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร รั้วระหว่างบ้าน สูง 1.7 เมตร
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.5 | อยู่ติดถนนเลียบคลองลำลูกกา มีตลาดและ 7 – 11 ในระยะเดินถึง บรรยากาศโดยรวมสงบเงียบ รอบๆเป็นที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยแนวราบ |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.5 | เดินทางสะดวกใช้ถนนลำลูกกาเป็นหลัก เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกใช้ทางด่วนได้ ไม่ไกล แต่เส้นทางปกติรถจะค่อนข้างติดมาก |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 6.5 | หน้าโครงการมีรถ Taxi และวินมอเตอร์ไซด์ผ่านบ้างนานๆที ต้องออกมาตรงถนนลำลูกกาถึงจะมีป้ายรถเมล์ ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม. |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | ตัวบ้านเดี่ยวแปลนบ้านมีฟังก์ชั่นทุกอย่างครบครัน ห้องครัวสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้และไม่จำเป็นต้องต่อเติมครัวเพิ่ม พื้นที่ส่วนต่างๆใช้งานได้สะดวก ห้องนอนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆได้ครบ ส่วนบ้านแฝดอาจจะต้องต่อเติมครัวเพิ่มเติมค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.75 | มีClub House, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนสาธารณะให้ 2 จุด หน้าโครงการตรงประตูทางเข้า -ออกติดตั้ง CCTV ฝั่งละ 3 ตัว และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่มองหาบ้านย่านลำลูกกา ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.45 | ดี |
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-100-5038, 081-801-9826(เอิง), 091-436-2831(นา), 1739(Call Center)
Website : http://theplant.pruksa.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2533 รีวิว ไอเจ้นท์ พรีเมียม ทาวน์โฮม พระราม 2 EIGEN Premium Townhome Rama 2 ทาวน์โฮม 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย ตรงข้าม Central พระราม 2 ใกล้ทางด่วน เริ่ม 4.39 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน
EP.2532 รีวิว ไลโอ เทพารักษ์-บางนา / Lio Thepharak-Bangna ทาวน์โฮมใหม่สไตล์ฝรั่งเศส ทำเลใจกลางเทพารักษ์ ใกล้ Mega บางนา, นิคมฯบางพลี และทางด่วน เริ่ม 2 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคน ใครที่กำลังมองหาทาวน์โฮมในทำเลศักยภาพ ที่สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้ชิดธรรมชาติ
EP.2531 รีวิว แลนซีโอ คริป เทพารักษ์-บางปลา / Lanceo Crib Thepharak-Bangpra บ้านสไตล์ French Colonial รองรับ EV Changer ทุกหลัง ใกล้ Mega บางนา, นิคมฯบางพลี และทางด่วน เริ่ม 3.76-6 ล้าน* Written by : Pure Thitapa วันนี้ทีมงาน
EP.2530 รีวิว ชัยพฤกษ์ พระราม 2 CHAIYAPRUEK Rama 2 บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์ใหม่ พร้อม Private Courtyard ทุกหลัง ทำเลต้นพระราม 2 ใกล้ทางด่วนเชื่อมต่อพระราม 3-สาทรง่าย ในสังคมส่วนตัวเพียง 59 หลัง เริ่ม 13-18 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2529 รีวิว ไลโอ สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 90 Lio Suksawat-Prachauthit 90 ทาวน์โฮมใหม่สไตล์ฝรั่งเศส ฟังก์ชันบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน ทำเลดีเชื่อมต่อสาทร-พระราม 3 ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เริ่ม 2.09 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการใหม่ ‘Lio
ผมซื้อที่นี่โอนแล้วผ่านมาหกเดือน บอกเลยว่าบริการหลังการขายแย่มากครับ ช่างค้างงานเก็บแล้วลาออกไป ปัจบันไม่มีคนตามเรื่องให้ เทงานเก็บก่อนส่งมอบเฉยๆเลย
บริษัทมหาชนแต่มาตรฐานพอๆ ผรม ห้องแถวครับ ส่วนกลางบริหารแย่มาก ระบบระบายน้ำมีปัญหา ถ้าจะซื้อคิดดีๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ 0857087853
กู้ได้เท่าไรคับ อายุมากแล้วกู้ได้ไหม
รีวิวได้ดีมากๆ เข้าใจง่าน เลยไม่รู้จะถามอะไรอีกเลยค่ะ
ลงทะเบียนแล้ว สนใจบ้านเดี่ยว รบกวนคุณเซลล์แอด innpan นะคะ ขอบคุณค่ะ