ชื่อโครงการ |
เดอะ พอยต์ คอนโด แหลมฉบัง / The Point Condo Laemchabang |
เจ้าของโครงการ |
คิวเฮ้าส์ / Q.House |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
เนื้อที่ทั้งหมด |
ประมาณ 5 ไร่ |
จำนวนตึก |
4 อาคาร |
จำนวนชั้น |
8 ชั้น |
จำนวนห้อง |
- อาคาร A : ห้องพักอาศัย 160 ยูนิต และ ร้านค้า 4 ยูนิต
- อาคาร B : ห้องพักอาศัย 173 ยูนิต
- อาคาร C : ห้องพักอาศัย 173 ยูนิต
- อาคาร D : ห้องพักอาศัย 173 ยูนิต
- รวมทิ้งสิ้น 683 ยูนิต
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
ประมาณ 400 คัน |
โซน |
แหลมฉบัง, ชลบุรี |
ขนส่งสาธารณะ |
n/a |
รถโดยสารที่ผ่าน |
n/a |
ที่ตั้ง |
ถนนดาวเทียม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี |
กำหนดการ |
เริ่มสร้างปี 2557 |
ปีที่สร้างเสร็จ |
สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัย |
ราคา |
เริ่มต้น 699,000 บาท (พ.ย. 2561)
|
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
ประมาณ 30,000 บาท/ ตร.ม. |
ค่าส่วนกลาง |
30 บาท/ตร.ม./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
ห้างสรรพสินค้า
- Makro : 2.5 กม.
- Harbor Mall และ Tesco Lotus : 2.8 กม.
- Robinson ศรีราชา : 13.8 กม.
สถานศึกษา
- ม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา : 5.7 กม.
- รร.อัสสัมชัญ ศรีราชา : 12.9 กม.
สถานพยาบาล
- รพ.วิภาราม แหลมฉบัง : 2.3 กม.
- รพ.แหลมฉบัง : 5.3 กม.
- รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ศรีราชา : 12.5 กม.
- รพ.พญาไท ศรีราชา : 13.7 กม.
- รพ.สมิติเวช ศรีราชา : 14.7 กม.
หน่วยงานราชการ
- สำนักงานเทศบาลแหลมฉบัง : 2.3 กม.
วัดและอื่นๆ
- Gistda (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ) : 900 เมตร
- นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และท่าเรือแหลมฉบัง : 4.4 กม.
- เครือสหพัฒน์ : 4.9 กม.
- บ.ไทยออยล์ : 6.6 กม.
- นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง : 10.6 กม.
- เกาะลอย : 14.7 กม.
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
- ร้านค้า
- สวนหย่อม
- Key Card
- CCTV
- รปภ. 24 ชม.
|
จุดเด่นของโครงการ |
“เดอะพอยต์ คอนโด แหลมฉบัง เริ่มต้นชีวิตสนุก…ลงตัวทุกฟังก์ชั่น ใกล้นิคมเพียง 1 ก.ม. เริ่ม 699,000 บาท” |
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนดาวเทียม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
พิกัด : 13.100043, 100.922057
แผนที่จากทางโครงการ
The Point Condo แหลมฉบัง เป็นคอนโดที่มีจุดเด่นหลักคืออยู่ในทำเลใจกลางแหลมฉบัง ภาพลักษณ์ของทำเลแหลมฉบังที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือเป็นเมืองท่าที่สำคัญด้วยท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ “ท่าเรือแหลมฉบัง” จึงส่งผลให้ทำเลแห่งนี้เป็นทำเลที่มีแหล่งงานขนาดใหญ่รายล้อมอยู่รอบด้าน หรือจะเรียกว่าเป็นทำเลอุตสาหกรรมก็ได้ จากตัวโครงการสามารถเข้าถึงสถานที่ทำงานที่สำคัญของแหลมฉบังได้โดยง่ายเช่น นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, ท่าเรือแหลมฉบัง, บริษัทไทยออยล์ และเครือสหพัฒน์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นตัวโครงการจึงค่อนข้างตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยที่สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก
ตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทเพียงแค่ 700 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ใกล้ถนนใหญ่เดินทางสะดวก หรือแม้แต่การเดินทางในระยะใกล้ก็มีเส้นทางลัดเลาะมากมายคล้ายเป็นใยแมงมุม ด้วยลักษณะนิสัยของคนในจังหวัดชลบุรีหากเดินทางไปไหนมาไหนในระยะที่ไม่ไกลนัก ส่วนใหญ่นิยมใช้รถจักรยานยนต์กันเป็นหลัก สามารถใช้ถนนเส้นรองโดยไม่ต้องออกถนนใหญ่เลยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นจากโครงการเดินทางไปยังห้าง Harbor Mall สามารถใช้ซอยเมืองใหม่ 1 โดยที่ไม่ต้องออกไปยังถนนเส้นหลักสุขุมวิทเลยครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีข้อดีประการแรกเลยคือตัวโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิทเพียงแค่ 700 เมตร ถนนเส้นที่นับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัดชลบุรี พอใกล้ถนนใหญ่ก็ช่วยให้เราสามารถประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นโครงการที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง นอกจากทางเข้าหลักที่มาจากฝั่งถนนสุขุมวิทแล้ว ยังสามารถเข้าออกได้ทั้งจากเส้นมอเตอร์เวย์ช่วงทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง หรือจะมาจากเส้นรองอย่างถนนเมืองใหม่กลางหรือถนนเก้ากิโลก็เข้าถึงโครงการได้เช่นกัน เรียกว่าสามารถเข้าโครงการได้จากทุกทิศทางเลยทีเดียว
ข้อดีประการที่สองคือ หากการใช้ชีวิตประจำวันต้องเดินทางไปมาระหว่างโซนแหลมฉบัง-ศรีราชา หรือ แหลมฉบัง-พัทยา การเดินทางระหว่างโซนข้างต้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายเพราะโครงการเราอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิทที่ใช้เดินทางอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีในการขับรถ ส่วนการเข้ากรุงเทพนั้นก็มีทางด่วนมอเตอร์เวย์เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาได้ดี หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดของตัวเมืองชลบุรีได้
ทางด่วนมอเตอร์เวย์ หลังจากที่ผมมีกล่าวถึงทางด่วนไปก่อนหน้านี้ ภาพนี้แสดงกราฟิกให้เห็นถึงระยะทางจากโครงการเพื่อไปใช้งานทางด่วนมอเตอร์เวย์ มีระยะทางอยู่ที่ 10 กม. หรือประมาณ 15 นาทีในการเดินทาง โดยผ่านถนนแหลมทองและเก้ากิโล
ความอุดมสมบูรณ์ นอกจากความเป็นทำเลอุตสาหกรรมที่รายล้อมด้วยแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างเช่น นิคมฯแหลมฉบัง, นิคมฯปิ่นทอง, เครือสหพัฒน์, บ.ไทยออยล์ และ Gistda เป็นต้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสริมให้การอยู่อาศัยการใช้ชีวิตสะดวกขึ้นอย่างครบถ้วนรอบด้าน ทั้งห้างสรรพสินค้า Harbor Mall และ Robinson ศรีราชา โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งเช่น รพ.วิภาราม และรพ.แหลมฉบัง ส่วนสถานศึกษาก็มีรร.อัสสัมชัญศรีราชา และม.เกษตร ศรีราชา มีทุกอย่างครบจบที่ทำเลเดียว
ส่วนการหาของทานในชีวิตประจำวัน ใกล้กับโครงการมีร้านค้าที่เปิดรองรับการใช้งานคนในท้องถิ่นอยู่ประมาณหนึ่งมีทั้งร้านข้าวตามสั่ง, ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านอาหารอีสาน เสริมความอุ่นใจด้วย 7-11 และ Family Mart ที่เปิด 24 ชม. อีกทั้งยังมีตลาดนัดที่เปิดช่วงเย็นให้หากับข้าวหรือวัตถุดิบอีกด้วย โดยทั้งหมดที่กล่าวมาอยู่ห่างจากโครงการแค่ 40-50 เมตรเท่านั้น เดินเท้าไปใช้งานสบายหายห่วง
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
- Makro : 2.5 กม.
- Harbor Mall และ Tesco Lotus : 2.8 กม.
- Robinson ศรีราชา : 13.8 กม.
สถานศึกษา
- ม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา : 5.7 กม.
- รร.อัสสัมชัญ ศรีราชา : 12.9 กม.
สถานพยาบาล
- รพ.วิภาราม แหลมฉบัง : 2.3 กม.
- รพ.แหลมฉบัง : 5.3 กม.
- รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ศรีราชา : 12.5 กม.
- รพ.พญาไท ศรีราชา : 13.7 กม.
- รพ.สมิติเวช ศรีราชา : 14.7 กม.
หน่วยงานราชการ
- สำนักงานเทศบาลแหลมฉบัง : 2.3 กม.
วัดและอื่นๆ
- Gistda (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ) : 900 เมตร
- นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และท่าเรือแหลมฉบัง : 4.4 กม.
- เครือสหพัฒน์ : 4.9 กม.
- บ.ไทยออยล์ : 6.6 กม.
- นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง : 10.6 กม.
- เกาะลอย : 14.7 กม.
แยกและถนนใกล้เคียง
- ถนนสุขุมวิท : 700 เมตร
- ทางพิเศษหมายเลข 7 (แหลมฉบัง) : 700 เมตร
- ทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) : 10.0 กม.
- ถนนเมืองใหม่กลาง (แยกท่าเรือแหลมฉบัง) : 2.0 กม.
- ถนนเก้ากิโล : 4.5 กม.
- แยกอัสสัมชัญ : 13.5 กม.
::: การเดินทาง :::
สำหรับเส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการ เดอะ พอยต์ แหลมฉบัง ผมออกเดินทางจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรีโดยใช้ทางด่วนสายบูรพาวิถี หรือทางด่วนบางนา พอสุดทางด่วนก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี ให้ใช้ทางเลี่ยงเมืองออกไปยังมอเตอร์เวย์ เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด จากเส้นมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าตรงไปจนถึงทางออกแหลมฉบัง ทางที่ใช้สำหรับไปยังท่าเรือแหลมฉบังนั่นเอง ช่วงก่อนถึงถนนสุขุมวิทเล็กน้อยให้เข้าซอยมโนรมเพื่อไปเชื่อมกับถนนดาวเทียมซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ เดอะ พอยต์ แหลมฉบังครับ
สรุปการเดินทาง : ทางด่วนบูรพาวิถี > เส้นเลี่ยงเมืองชลบุรี > มอเตอร์เวย์ > มอเตอ์เวย์ช่วงทางเข้าแหลมฉบัง > ซอยมโนรม > ซอยดาวเทียม > The Point Condo แหลมฉบัง
ผมขอเริ่มภาพประกอบการเดินทางจากด้านบนทางด่วนบูรพาวิถีกันเลยครับ โดยในภาพเป็นช่วงที่เราวิ่งมาจนสุดทางด่วนกำลังจะลงด้านล่างเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี
ขณะนี้เราอยู่บนถนนสุขุมวิทช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี
ก่อนถึงตัวเมืองมีป้ายบอกทางเลี่ยงเมืองชลบุรี ให้เราออกซ้ายเพื่อใช้เส้นดังกล่าว หลีกเลี่ยงการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดด้านในตัวเมืองครับ
บนเส้นเลี่ยงเมืองให้เราตามป้ายพัทยาไปได้เลย
พอสุดทางเลี่ยงเมืองแล้วเราจะเข้าสู่ทางพิเศษหมายเลข 7 หรือมอเตอร์เวย์ ให้เราสังเกตป้ายศรีราชา ให้เราไปวิ่งอยู่ที่ทางคู่ขนานด้านนอกครับ
อันที่จริงแล้ว เราสามารถตามป้ายพัทยาต่อไปที่เส้นด้านในมอเตอร์เวย์ก็ได้ แต่จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ส่วนในวันที่ผมเดินทางนั้นเป็นวันธรรมดามีปริมาณรถไม่มากครับจึงสามารถวิ่งที่ทางคู่ขนานด้านนอกได้สบายๆ
ขับมาตามเส้นทางคู่ขนานจนเจอป้ายทางออกไปยังแหลมฉบัง ให้อยู่บนช่องทางจราจรช่วงกลางๆ เลน 2-3 เอาไว้
จากนั้นแหลมฉบังให้เลี้ยวขวา
ขณะนี้เราอยู่บนทางพิเศษหมายเลข 7 ช่วงทางลงท่าเรือแหลมฉบัง
ขับตรงต่อไปตามป้ายแหลมฉบัง
จุดสังเกตต่อไปคือให้ดูซ้ายมือไว้ หากเจอหน่วยงาน Gistda หน่วยงานทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ ให้เราเตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ
ภาพกราฟิกเพิ่มเติมจากจุดที่เราเจอกับ Gistda วิ่งชิดซ้ายเอาไว้ เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าซอยมโนรม ซอยที่สามารถเชื่อมต่อกับซอยดาวเทียมเพื่อเข้าถึงตัวโครงการได้
วิ่งผ่าน Gistda มาประมาณ 600 เมตร เจอกับทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยมโนรม อีกจุดสังเกตคือ ทางเข้าซอยจะอยู่ก่อนถึงถนนช่วงที่เป็นทางโค้งขวาครับ
ขับเข้ามาตามซอยมโนรมจนถึงสี่แยก ที่มี 7-11 ให้เลี้ยวซ้ายไปยังซอยดาวเทียม
จากสี่แยกเมื่อสักครู่ประมาณ 40-50 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการ The Point Condo แหลมฉบัง ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือครับ
::: บริเวณโครงการ :::
หลังจากที่ถึงตัวโครงการแล้ว ผมจะยังไม่พาเข้าไปที่ด้านในโครงการนะครับ แต่จะพาเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันก่อน พื้นที่โดยรอบค่อนข้างเปิดโล่งด้วยผืนที่ดินเปล่า มีเพียงทางฝั่งซ้ายหรือทิศตะวันตกที่เป็นแหล่งชุมชนบ้านพักอาศัยดั้งเดิม ผมมองว่าการที่มีบ้านพักอาศัยเป็นเรื่องดีคือทำให้พื้นที่ดังกล่าวดูไม่เงียบเหงาจนเกินไป และยังมีร้านค้าร้านสะดวกซื้อตามมาเปิดให้บริการคนในพื้นที่อีกด้วย โดยจากโครงการเดินแค่ 40 เมตรก็ถึงบริเวณสี่แยกที่มีทั้ง 7-11 และ Family Mart ประกอบกับโดยรอบสามารถหาซื้อของทานได้ด้วย ส่วนมีอะไรบ้างนั้นเลื่อนตามไปดูภาพชุดต่อไปได้เลยครับ
- ทิศเหนือ : ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก : ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก : บ้านพักอาศัย
- ทิศใต้ : ถนนดาวเทียม และที่ดินเปล่า
เริ่มต้นเรามาตั้งหลักกันที่บริเวณถนนดาวเทียมด้านหน้าโครงการกันครับ
ถนนดาวเทียมเป็นถนนขนาด 2 เลนรถวิ่งสวนกันได้
บรรยากาศถนนเงียบสงบรถวิ่งผ่านไม่มาก อีกทั้งยังเป็นถนนที่ดูสะอาดโล่งสบายตา ฟุตบาทสองข้างทางน่าเดินครับ
เราไปดูกันหน่อยว่าแถวนี้ในระยะที่เดินด้วยเท้า เราพอจะฝากท้องที่ไหนได้บ้าง
แค่ข้ามถนนโครงการมาก็จะเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยว โกเด้ง-โฮเด้ง ลูกชิ้นหมูและเนื้อแฟรนไชส์เจ้าดัง
ติดกันมีร้านอาหารอีสาน “ร้านลาบชัยภูมิ” เจ้าของร้านยืนยันว่าเป็นสูตรอีสานดั้งเดิมของแท้ แซ่บหลายเด้อ
ถัดมาอีกร้านเป็นร้านอาหารตามสั่ง มีทั้งแบบราดข้าว-กับข้าว สุกี้ ก๋วยเตี๋ยว หากผมจะมาเป็นลูกบ้านโครงการ The Point เห็นร้านค้าที่อยู่รอบๆโครงการมีหลากหลายประเภทแบบนี้ก็อุ่นใจล่ะครับ ไม่อดตายแน่นอน
ของทานเล่นก็มีนะ ลูกชิ้น-ไส้กรอก-เกี๊ยวทอด ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ชา-กาแฟโบราณ
เดินดูร้านค้าเพลินๆ เผลอแป๊ปเดียวมาถึงสี่แยก มองเห็นร้านสะดวกซื้ออยู่ฝั่งตรงข้าม เรื่องการข้ามถนนนั้นไม่ต้องเป็นกังวล อย่างที่ผมบอกไปว่าแถวนี้รถผ่านเข้าออกไม่เยอะครับ แถมคนแถวนี้เขามีน้ำใจอีกด้วย เห็นคนตั้งท่าข้ามถนนก็พร้อมที่จะชะลอรถให้คนข้ามถนนก่อน
ตรงหัวมุมของสี่แยกดังกล่าว ช่วงเย็นจะมีความคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีตลาดนัดเปิดทุกวัน หาซื้อได้ทั้งกับข้าวพร้อมทาน หรือจะเป็นวัตถุดิบไปปรุงเองทำกินเองก็ได้ ใกล้โครงการมากครับจากตลาดนัดนี้ ด้านหลังยังมองเห็นอาคารของ The Point Condo ได้อยู่
หิวเมื่อไรก็แวะมาครับ 7-11
เพิ่มอีกหนึ่งตัวเลือกด้วย Family Mart
ข้าง 7-11 มีร้านข้าวมันไก่ บะหมี่ไก่ แต่ร้านนี้จะเปิดช่วงเย็นๆ
หลักจากที่ผมพาเดินดูร้านค้าร้านอาหาร แถวๆโครงการกันจนอิ่มท้องไปแล้ว ต่อไปถึงเวลาอันสมควรที่เราจะเข้าไปดูด้านในโครงการกันต่อครับ
ป้ายชื่อโครงการ The Point Condo แหลมฉบัง
ทางเข้าออกโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัย ด่านแรกคือไม้กระดกที่ใช้กรองบุคคลภายนอก-ภายใน
ลูกบ้านแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดไม้กระดก ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อน
กล้อง CCTV มีทั้งขาเข้าและขาออก
ห้องพักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามา มองเห็นบรรยากาศด้านในเป็นวิวที่เปิดโล่ง ดูสบายตา จุดไหนเป็นที่ว่างก็จะมีการเอาต้นไม้มาลงให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อเสริมความร่มรื่น
สำหรับเรื่องของที่จอดรถนั้น ทางโครงการแจ้งว่าสามารถจอดได้สูงสุดถึง 400 คัน โดยส่วนที่เหลือนั้นอยู่ในระหว่างก่อสร้างเพื่อส่งมอบให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางต่อไป ปัจจุบันสามารถจอดได้ 107 คัน
อาคารพักอาศัยมีทั้งหมด 4 อาคาร สูง 8 ฃั้น เรียงตามลำดับตัวอักษร A-B-C-D โดยทางโครงการจะแบ่งด้วยการใช้สีประจำอาคารที่แตกต่างเพื่อง่ายต่อการจดจำ
- อาคาร A : ห้องพักอาศัย 160 ยูนิต และ ร้านค้า 4 ยูนิต
- อาคาร B : ห้องพักอาศัย 173 ยูนิต
- อาคาร C : ห้องพักอาศัย 173 ยูนิต
- อาคาร D : ห้องพักอาศัย 173 ยูนิต
รวมทิ้งสิ้น 683 ยูนิต
เริ่มจากอาคาร A เลือกใช้สีฟ้าน้ำทะเล
สุดถนนบริเวณด้านหน้าอาคาร A จะเป็นทางกลับรถ
ลานจอดรถจักรยานยนต์
สวนหย่อมมีการกระจายไปตามพื้นที่รอบอาคารต่างๆ โดยในส่วนของอาคาร A นั้น ถัดมาจากลานจอดรถมอไซค์ จะมีสวนที่อยู่บนทางขึ้นยกระดับ
การดูแลตกแต่งสวนดูเรียบร้อย ไม่ปล่อยหญ้ารุงรัง เพิ่มเติมด้วยม้านั่งหินสำหรับแวะนั่งพักผ่อน
กลับมาที่ถนนเมนหลักของโครงการ เพื่อไปดูอาคารถัดไป
ส่วนต่อไปคืออาคาร B, C และ D
ทางเดินขึ้นลานด้านหน้าอาคารมีสเตปบันไดที่ไม่ได้สูงมากนัก แล้วพอมีการเล่นระดับแบบนี้ก็ทำให้ตัวอาคารดูมีลูกเล่น มีความสนุกเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทางขึ้นอาคารไม่ได้มีเพียงแค่บันไดเท่านั้น แต่มีทางลาดชันเอาไว้สำหรับรองรับผู้สูงอายุ, ผู้ทุพลภาพ หรือการใช้รถเข็นขนย้ายสิ่งของ แม้แต่พื้นที่ว่างด้านข้างทางลาด ทางโครงการยังจัดให้เป็นสวนได้อย่างลงตัว
สำหรับอาคาร B และอาคาร C หันหน้าเข้าหากัน
อาคาร B ใช้สีเหลืองเป็นสีประจำอาคาร
ทางเข้าอาคาร B
อาคาร C ใช้สีแดงเป็นสีประจำอาคาร
ทางเข้าอาคาร C
สวนหย่อมช่วงระหว่างอาคาร B และอาคาร C
ภาพรวมของสวนดูสวยงามเป็นระเบียบ แบ่งเป็นโซนทางเดินและโซนที่มีมุมนั่งเล่น
อาคารสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุดคืออาคาร D ใช้สีเขียวมะนาวเป็นสีประจำอาคาร
ทางเข้าอาคาร D
สวนหย่อมอาคาร D
เดินย้อนกลับมาที่ด้านหน้าโครงการเพื่อไปดูส่วนต่อไปครับ
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะไปดูกันในวันนี้อยู่ที่อาคาร A
แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
โถงทางเดินภายในอาคารติดตั้งไฟส่องสว่าง พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
::: แปลนห้อง :::
แบบห้องภายในโครงการมีเพียงแบบเดียวคือแบบ Studio ขนาด 26 ตร.ม.
แบบห้อง Studio คือแบบห้องที่ไม่ได้มีการแบ่งส่วนกันระหว่างห้องนอนห้องนั่งเล่น โดยแปลนห้องนั้นจะเปิดโล่งเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด เปิดประตูห้องเข้ามาเจอกับ Living Area ถัดเข้าไปเป็นส่วนวางเตียงนอน พื้นที่ตรงกลางระหว่างมุมนั่งเล่นและเตียงนอน มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่อาจจะใช้เป็นมุมทานข้าว หรือวางโต๊ะทำงาน อีกส่วนของห้องคือส่วนครัวและห้องน้ำ ครัวที่ได้เป็นครัวเปิดมีเคาน์เตอร์ให้ ด้านนอกเป็นระเบียง ห้องน้ำนั้นมีการแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก เป็นสัดส่วน
::: ห้องตัวอย่าง :::
เปิดประตูเข้าไปชมด้านในห้องตัวอย่างพร้อมๆกันเลยครับ
เข้ามาด้านในห้องผมขอพูดถึงวัสดุพื้นฐานก่อนครับ พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว ดวงไฟแบบดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.4 เมตรโดยประมาณ กรอบประตูระเบียงหน้าต่างวัสดุอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted มีเคาน์เตอร์ครัว, ตู้รองเท้า, ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
ต่อไปเรามาดูพื้นที่การใช้งานแต่ละส่วนกันบ้าง เปิดประตูห้องเข้ามาส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปถึงส่วนวางเตียงนอนด้านใน ทางโครงการเสริมแนวระแนงไม้ให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อทำเป็นตัวแบ่ง partition ระหว่างห้องนอนห้องนั่งเล่นให้ดูมีความชัดเจนในการใช้งานมากขึ้น
ตรงบริเวณมุมนั่งเล่น หากเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก สามารถลงเฟอร์นิเจอร์ได้ 2 ส่วนคือส่วนของโซฟา และโต๊ะอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับทานอาหารได้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวผนังสำหรับติดตั้งชั้นวางทีวี หรือจะใช้เป็นแบบแขวนผนังก็สามารถช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้ดี สังเกตทางขวาเห็นบานกระจกขนาดใหญ่นั่นคือตู้เก็บของที่ทางโครงการเค้าทำมาให้ลูกบ้านด้วยครับ และยังเป็นจุดที่ใช้ตรวจสอบความเรียบร้อยของตนเองก่อนออกจากบ้านได้ด้วย
ลองเปิดตู้เก็บรองเท้าดูการแบ่งช่องด้านใน 3 ชั้นล่างจะมีการลาดเอียงเหมาะแก่การเก็บรองเท้า และ 3 ชั้นบนเป็นช่องปกติเก็บของทั่วไป
ขยับเข้าไปด้านในที่เป็นส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ
ทางโครงการเลือกวางเตียงขนาด 5 ฟุตชิดกำแพงให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างห้องเป็นแบบบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
การวางเตียงแบบนี้อาจจะทำให้การใช้งานจริงไม่สะดวกนักในกรณีที่อาศัยอยู่ 2 คนเพราะสามารถขึ้นลงเตียงได้จากฝั่งเดียว อาจจะสลับตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียงให้ไปอยู่ทางฝั่งขวาแทนเพื่อให้มีช่องทางเดินระหว่างเตียงกับหน้าต่าง แถมยังช่วยให้การเปิดปิดม่าน-หน้าต่างทำได้สะดวกขึ้นอีกด้วย
มองย้อนไปทางฝั่งปลายเตียง มีตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการบิวท์อินมาให้แบบนี้เลย บานประตูติดตั้งกระจกเงาสำหรับใช้แต่งตัว และมีพื้นที่ข้างตู้อาจจะเสริมเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือตู้เก็บของ หรืออาจจะใช้เป็นมุมโต๊ะทำงานก็ได้
ขยับเข้าไปยัง Pantry โครงการมีเคาน์เตอร์ครัวบิวท์อินให้แบบนี้ ด้านล่างเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ด้านข้างเหลือที่ว่างสำหรับใส่ตู้เย็นขนาดประมาณ 5-7 คิวกำลังพอเหมาะ
ท๊อปครัววัสดุเมลามีนสีขาว ฝังซิงค์ล้างจานหลุมเดี่ยว
ด้านบนเพิ่มแนวชั้นวางของให้อีก 1 ชั้น ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในแนวตั้งได้ดี
ถัดออกไปจากห้องครัวคือระเบียงซักล้าง
พื้นที่ระเบียงเหมาะสำหรับวางเครื่องซักผ้า วางระบบประปาเอาไว้พร้อมรอใช้งานได้ทันที ส่วนปลั๊กไฟก็เสริมที่ครอบกันน้ำให้มีความปลอดภัย
คอมแอร์แขวนขึ้นด้านบน เพื่อให้ใช้งานระเบียงได้เต็มพื้นที่ มีระแนงเหล็กช่วยบังสายตาให้ตัวอาคารดูเป็นระเบียบเมื่อมองจากภายนอก โคมไฟเป็นแบบดวงกลมซาลาเปา
หันหลังกลับไปเจอกับทางเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำก่อธรณีสูงเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลมายังส่วนครัวที่พื้นเป็นลามิเนต
ภาพห้องน้ำมุมนี้แสดงให้เห็นการแบ่งพื้นที่ห้องน้ำได้ค่อนข้างชัดเจน วางโถสุขภัณฑ์ไว้ทางซ้าย ส่วนทางขวาด้านหลังประตูมีอ่างล้างหน้า และด้านในคือพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ
สุขภัณฑ์ของ American Standard ติดตั้งสายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่ให้แล้ว
ด้านหลังมีแนวกำแพงสำหรับวางอุปกรณ์ห้องน้ำ เหนือขึ้นไปด้านบนเป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัว
อ่างล้างหน้าอยู่ด้านหลังประตูพร้อมด้วยบานกระจกเงา
อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวของ American Standard
สำหรับพื้นที่ส่วนเปียกอาบน้ำมีระยะประมาณ 120 x 80 ซม. ก่อธรณีกันน้ำไหลอีกชั้น
ฝักบัวมีราวแขวนที่สามารถปรับระดับความสูง ด้านข้างเว้นช่องสำหรับวางสบู่แชมพูให้แล้ว ไม่ต้องไปหาชั้นวางแบบแขวนมาเพิ่มเติม
เพดานติดตั้งพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้ภายในห้องน้ำมีอากาศและสุขอนามัยที่ดี
:: ราคา :: (ก.ย.61)
แบบห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม. : ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท – Fully Fitted
– ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม./เดือน
*สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุด*
::: บทสรุปโครงการ :::
– ทำเลที่ตั้งโครงการ The Point Condo แหลมฉบัง เป็นคอนโดที่มีจุดเด่นหลักคืออยู่ในทำเลใจกลางแหลมฉบัง ภาพลักษณ์ของทำเลแหลมฉบังที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือเป็นเมืองท่าที่สำคัญด้วยท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ “ท่าเรือแหลมฉบัง” จึงส่งผลให้ทำเลแห่งนี้เป็นทำเลที่มีแหล่งงานขนาดใหญ่รายล้อมอยู่รอบด้าน หรือจะเรียกว่าเป็นทำเลอุตสาหกรรมก็ได้ จากตัวโครงการสามารถเข้าถึงสถานที่ทำงานที่สำคัญของแหลมฉบังได้อย่างง่ายเช่น นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, ท่าเรือแหลมฉบัง, บริษัทไทยออยล์ และเครือสหพัฒน์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นตัวโครงการจึงค่อนข้างตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยที่สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก
ความอุดมสมบูรณ์ นอกจากความเป็นทำเลอุตสาหกรรมที่รายล้อมด้วยแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างเช่น นิคมฯแหลมฉบัง, นิคมฯปิ่นทอง, เครือสหพัฒน์, บ.ไทยออยล์ และ Gistda เป็นต้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสริมให้การอยู่อาศัยการใช้ชีวิตสะดวกขึ้นอย่างครบถ้วนรอบด้าน ทั้งห้างสรรพสินค้า Harbor Mall และ Robinson ศรีราชา โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งเช่น รพ.วิภาราม และรพ.แหลมฉบัง ส่วนสถานศึกษาก็มีรร.อัสสัมชัญศรีราชา และม.เกษตร ศรีราชา มีทุกอย่างครบจบที่ทำเลเดียว
– การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ตัวโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิทเพียงแค่ 700 เมตร ถนนเส้นที่นับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัดชลบุรี อีกทั้งยังเป็นโครงการที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง นอกจากทางเข้าหลักที่มาจากฝั่งถนนสุขุมวิทแล้ว ยังสามารถเข้าออกได้ทั้งจากเส้นมอเตอร์เวย์ช่วงทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง หรือจะมาจากเส้นรองอย่างถนนเมืองใหม่กลางหรือถนนเก้ากิโลก็เข้าถึงโครงการได้เช่นกัน เรียกว่าสามารถเข้าโครงการได้จากทุกทิศทางเลยทีเดียว
และหากว่าการใช้ชีวิตประจำวันต้องเดินทางไปมาระหว่างโซนแหลมฉบัง-ศรีราชา หรือ แหลมฉบัง-พัทยา การเดินทางไปมาระหว่างโซนข้างต้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายเพราะโครงการเราอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิทที่ใช้เดินทางอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีในการขับรถ ส่วนการเข้ากรุงเทพนั้นก็มีทางด่วนมอเตอร์เวย์เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาได้ดี หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดของตัวเมืองชลบุรีได้
– การเดินทางด้วยรถสาธารณะ แม้ว่าบริเวณด้านหน้าโครงการจะไม่มีสาธารณะวิ่งผ่าน แต่ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่จึงทำให้สามารถเข้าถึงถนนใหญ่เพื่อหารถสาธารณะได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้สองแถวในการเดินทาง แต่ด้วยลักษณะนิสัยของคนต่างจังหวัด หากเดินทางในระยะใกล้จะนิยมใช้รถจักรยานยนต์เป็นหลักไม่ค่อยได้ใช้รถสาธารณะกันเท่าไรนัก
– การออกแบบโครงการและวัสดุ The Point Condo แหลมฉบัง เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น ออกแบบด้วยสไตล์ Modern Resort บนที่ดินขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ห้องพักแบ่งเป็นห้องพักอาศัย 679 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกเพียงแบบเดียวคือ Studio ขนาด 26 ตร.ม. แม้ขนาดห้องไม่ใหญ่มากแต่สามารถจัดฟังก์ชั่นได้ลงตัวครบทุกการใช้งาน ทั้งห้องนั่งเล่น, มุมทานข้าว, ห้องนอน, ห้องครัว, ระเบียง และห้องน้ำแยกส่วนแห้ง-เปียก ขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัวและตู้เสื้อผ้าให้
วัสดุพื้นฐานที่โครงการให้อยู่ในเกรดที่เหมาะสมตามระดับราคา พื้นห้องปูลามิเนต, ผนังฉาบเรียบสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ และกรอบประตูหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมอบขาว เพดานห้องสูงประมาณ 2.4 เมตร ในห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard
– สิ่งอำนวยความสะดวก โครงการมีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลางเปิดโล่งขนาดกว่า 1.5 ไร่ ประกอบไปด้วยสวนหย่อมที่กระจายอยู่โดยรอบและช่องว่างระหว่างอาคาร มีลานจอดรถที่สามารถจอดได้ถึง 400 คัน อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานด้วยระบบ Key Card Access ที่มีกรองคนทั้งการเข้าออกโครงการ และการเข้าออกในแต่ละอาคาร พร้อมด้วยกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชม.
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ |
9.0 |
ทำเลใจกลางเมืองแหลมฉบัง เข้าถึงสถานที่สำคัญง่ายโดยเฉพาะสถานที่ทำงานในโซนอุตสาหกรรม |
การเดินทาง ใช้รถ |
8.0 |
ใกล้ถนนใหญ่ เข้าออกได้หลายทาง |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ |
6.5 |
หน้าโครงการไม่มีรถประจำทางหรือรถสาธารณะใดๆผ่าน จึงไม่ใช้ทางเลือกที่เหมาะสมนัก |
ห้องพักและวัสดุ |
7.0 |
ห้องพักแบบ Studio จัดวาง Layout ได้ลงตัวกับขนาดห้อง 26 ตร.ม. มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
7.0 |
พื้นที่ส่วนหย่อมและพื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่กว่า 1.5 ไร่ ระบบรปภ.มาตรฐานสมัยใหม่ |
ความคุ้มค่ากับราคา |
8.5 |
ราคาเริ่มเพียง 699,000 บาท หยิบจับง่าย ซื้อง่ายขายคล่อง ปล่อยเช่าก็ได้ เพราะใกล้แหล่งงานของแหลมฉบัง |
คะแนนรวมเฉลี่ย |
7.67 |
ดี |
**การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้**
::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :::
Call Center : 1388
Website : https://www.qh.co.th/project/The-Point-CondoupCountry/Lamchabung
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
สนใจค่ะ
สนใจคัฟต้องกู้กับโครงการเลยใช่มั้ยครับ