คอนโด The Reserve ทำเลอื่นๆ ทีน่าสนใจ…
The Reserve เกษมสันต์ 3
The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์
The Reserve สุขุมวิท 61
The Reserve 61 Hideaway
The Reserve สาทร
ชื่อโครงการ
The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์)
เจ้าของโครงการ
บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa
เนื้อที่ทั้งหมด
1-2-43 ไร่
จำนวนตึก
1 อาคาร
จำนวนชั้น
25 ชั้น
จำนวนห้อง
260 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom Loft : 28.40 – 38.95 ตร.ม.
1 Bedroom Simplex : 29.45 – 40.40 ตร.ม.
1 Bedroom Exclusive : 47.30 – 48.70 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
65% ไม่รวมซ้อนคัน ใช้ระบบ Conventional และ Automatic Car Parking
จำนวนลิฟท์
3 ตัว
โซน
เขตพญาไท, ประดิพัทธ์, สะพานควาย
ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย ประมาณ 500 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน
3, 9ร, 44ร, 52ร, 90ร, 97, 117
ที่ตั้ง
ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว (มิ.ย. 2563)
ราคา
เริ่มต้น 4.59 ล้านบาท*
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
165,000 บาท/ตร.ม
ค่าส่วนกลางและกองทุน
ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
สถานีรถไฟฟ้า
BTS สะพานควาย 500 ม.
BTS อารีย์ 1.3 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
7-11 20 ม.
ตลาดสด 200 ม.
Aqua 300 ม.
Tesco Lotus Express 450 ม.
La Villa Aree 1.3 กม.
Big C สะพานควาย 300 ม.
สวนจตุจักร 1.8 กม.
JJ Mall 2.2 กม.
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 2.6 กม.
Union Mall 4 กม.
เซนทรัล ลาดพร้าว 3.0 กม. (2 สถานี)
สวนวชิรเบญจทัศ 4.6 กม.
โรงพยาบาล
ร.พ.เปาโล เมโมเรียล 700 ม.
ร.พ.ประสานมิตร 800 ม.
ร.พ.พญาไท 2 2.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
โถงต้อนรับ
ห้องจดหมาย
สระว่ายน้ำระบบเกลือ
ฟิตเนส
ซาวน่า
สวนพักผ่อน
พื้นที่สีเขียว
ประตูคีย์การ์ด
Access Card Control
กล้องวงจรปิด
รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ
The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) คอนโด High Rise ติดถนนประดิพัทธ์ เดินทางสะดวก ใกล้ BTS สะพานควาย เพียง 500 เมตร พร้อมส่วนกลาง 24 ชม. และบริการ Concierge ช่วยจัดการธุระต่างๆ เช่น บริการซัดรีด, บริการส่งของ ในราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท*
คอนโด BTS สะพานควาย / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย
คอนโดโดยรอบ BTS สะพานควาย
ที่ตั้งโครงการ
ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
พิกัด : 13.790059, 100.547461
โครงการ The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) ตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าแยกสะพานควาย หน้าปากซอยประดิพัทธ์ 23 สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคักพอสมควรเพราะเป็นย่านชุมชนเก่า โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงดึกจะมีร้านอาหารมาเปิดริมถนนมากมายหลายร้าน
จุดเด่นของโครงการนอกจากจะตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่พหลโยธินเพียง 100 ม. แล้วยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานี สะพานควาย โดยมีระยะทางจากตัวสถานีถึงโครงการประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นระยะเดินสบายๆ ตลอดทางจะเป็นฟุตบาทกว้างเดินสะดวก อุดมสมบูรณ์สูงด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีความสะดวกสบายสูง เนื่องจากตัวโครงการอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธินและแยกสะพานควายเพียง 100 ม. ถนนประดิพัทธ์เป็นถนนที่สามารถใช้วิ่งยาวไปเชื่อมกับถนนทหารและถนนสามเสน สามารถใช้ลัดไปถนนราชวิถีเพื่อไปฝั่งธนฯได้โดยไม่ต้องรถติดแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ
นอกจากนั้นถนนประดิพัทธ์จะยังใช้ไปถนนพระราม 6 , ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ค่ะ และถ้าดูจาก Map แล้วจะเห็นว่ามีถนนเส้นหลักๆอีก 2 เส้นที่สามารถใช้เดินทางได้คือ
ถนนพหลโยธิน สามารถใช้ขึ้นไปทางทิศเหนือไป หลักสี่ ดอนเมือง ยาวไปจนถึงรังสิต หรือใช้เส้นพหลลงทางทิศใต้ก็จะสามารถวิ่งตรงไปอนุสาวรีย์ เชื่อมกับพญาไทได้ค่ะ นอกจากเส้นพหลที่วิ่งขึ้นเหนือลงใต้โดยตรงแล้วยังมีถนนอีก 2 เส้นหลักๆที่อยู่ใกล้โครงการ และสามารถใช้ได้สะดวกค่ะ คือ ถนนประดิพัทธ์ และถนนสุทธิสารวินิจฉัย
ถนนสุทธิสารวินิจฉัย สามารถใช้วิ่งไปเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต, รัชดาภิเษก และลาดพร้าวได้(ลาดพร้าว 64) แต่รถเส้นนี้จะติดหน่อยและการใช้ถนนจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงเช้า – กลางวัน รถจะสามารถวิ่งขาออกไปเส้นวิภาวดีได้ 2 เลน พอเป็นช่วงค่ำๆก็จะสลับเป็นวิ่งเข้าเส้นพหลได้ 2 เลน เป็นต้นค่ะ
ถนนพระราม 6 สามารถใช้วิ่งไปพระราม 4, หัวลำโพง หรือวิ่งขึ้นทางเหนือไปบางเขนได้ค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีความสะดวกสบายสูงมาก เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ และแน่นอนเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สะพานควาย ประตู 1 มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร สามารถเดินกันได้สบายๆ และสามารถนั่งไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้ที่ BTS สถานีหมอชิต 1 สถานีจาก BTS สะพานควาย
นอกจาก BTS แล้วก็สามารถเรียก Taxi ที่หน้าโครงการได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ หรือถ้าจะไปใกล้ๆ ก็มีคิวพี่วินอยู่บริเวณต้นซอยประดิพัทธ์ 21 (เดินจากโครงการไปประมาณ 80 เมตร) นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 90 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 9ร, 44ร, 52ร, 90ร, 97, 117 ค่ะ
ทางด่วน มีให้เลือกใช้ใกล้ๆ 2 เส้น คือทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัช โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งขึ้นไปทางทิศเหนือ สามารถใช้วิ่งไปบางเขน, ปากเกร็ดได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.2 กม. ใช้เวลาประมาณ 9 นาที
และจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าลงทิศใต้ที่ใช้วิ่งเข้าผ่านเมืองช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลงไปถึงเจริญราษฎร์และใช้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครใช้วิ่งไปพระราม 2 , พระโขนงได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.5 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 นาที
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ฝั่งลงทิศใต้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครที่ใช้วิ่งลงมาเข้าราชเทวีได้ จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 16 นาที
จุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ฝั่งมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ สามารถใช้วิ่งไปดอนเมือง, รังสิตได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 – 14 นาที
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
อยู่ติดถนนประดิพัทธ์และซอยประดิพัทธ์ 23
ถนนพหลโยธิน 100 ม.
แยกสะพานควาย 100 ม.
ถนนสุทธิสาร 350 ม.
ถนนกำแพงเพชร 1.1 กม.
ถนนพระราม 6 1.5 กม.
แยกสะพานสุทธิสาร 1.6 กม.
ถนนรัชดาภิเษก 3 กม.
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ จัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก หน้าโครงการออกมาเจอ 7-11 เลย และจะมีร้านอาหารราคาไม่แพงให้เลือกเยอะทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนพวกร้านสะดวกซื้อและตลาดสดก็อยู่ไม่ไกล โดยจะมีตลาดสดในซอยประดิพัทธ์ 25 ระยะทางประมาณ 200 เมตรจากโครงการ, ร้านแลกเงินต่างประเทศ และร้านขายยาหลายร้าน (แอบกระซิบว่ามีร้านขายยาราคาส่งชื่อดังอยู่ไม่ไกลด้วยนะ)
บริเวณหน้าโครงการที่เป็นเส้นประดิพัทธ์ช่วงแยกสะพานควายเป็นอีกหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีชื่อเสียงมานาน จะมีร้านอาหารทั้งคาวหวานที่เปิดตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกค่ะ
นอกจากนั้นพวก Hyper Market ตัวหลักใหญ่ๆจะมี Big C รองลงมาเป็น Tesco Lotus Express (เปิด 24 ชม.) มีร้านค้า ร้านอาหารย่อยๆอยู่ทั่วไป ทั้งที่เปิดเป็นร้านแบบจริงจังและร้านข้างทางถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงเลยทีเดียวค่ะ
ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นโซนใกล้เคียงอย่าง อารีย์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีร้านคาเฟ่น่ารักๆเพียบ และยังมี La Villa Aree เป็น Community Mall ที่มีร้านอาหารชื่อดังด้านอยู่เยอะเลยค่ะ เช่น After You, กับข้าวกับปลา, Starbucks เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีซอย Aqua ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานมานี้ เป็นซอยสั้นๆ แต่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารดีๆหลายร้าน และยังมีร้านเช่าชุดราตรี และ Fitness ด้วยค่ะ
แหล่งชอปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่พหลโยธิน ซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก มีตลาด อตก ไว้ให้ซื้อของสด อาหาร ดอกไม้ และตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ห่างจากโครงการเพียงสถานีเดียวเท่านั้น และจากโครงการนี่เราสามารถเดินมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะอย่างสวนจตุจักรหรือสวนรถไฟ ได้เลยนะคะ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กม. ภายในร่มรื่น มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นได้และมีหอสมุดพุทธทาสด้วย ใครอยากชวนที่บ้านมาเดินเล่นพักผ่อนปฎิบัติธรรม ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สวยสงบดี
ถัดออกมาที่ห้าแยกลาดพร้าว จะมีห้างใหญ่ของคนย่านนี้คือ Central ลาดพร้าว ส่วนตัวเราชอบเซ็นทรัลสาขานี้มากที่สุดค่ะ คือมีของให้ช็อปเยอะและคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วด้วย แถมฝั่งตรงข้ามมี Union Mall แหล่งช้อปปิ้งราคาย่อมเยาถูกใจมนุษย์เงินเดือนด้วย เดินช้อปปิ้งข้ามไปข้ามมาสนุกดี
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
สถานีรถไฟฟ้า
BTS สะพานควาย 500 ม.
BTS อารีย์ 1.3 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
7-11 20 ม.
ตลาดสด 200 ม.
Aqua 300 ม.
Tesco Lotus Express 450 ม.
La Villa Aree 1.3 กม.
Big C สะพานควาย 300 ม.
สวนจตุจักร 1.8 กม.
JJ Mall 2.2 กม.
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 2.6 กม.
Union Mall 4 กม.
เซนทรัล ลาดพร้าว 3.0 กม. ( 2 สถานี)
สวนวชิรเบญจทัศ 4.6 กม.
โรงพยาบาล
ร.พ.เปาโล เมโมเรียล 700 ม.
ร.พ.ประสานมิตร 800 ม.
ร.พ.พญาไท 2 2.7 กม.
:: การเดินทาง ::
การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนวิภาวดี วิ่งมาพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าสะพานควาย ขับตรงมาเรื่อยๆถึงแยกสะพานควายแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประดิพัทธ์ แล้วเข้าซอยประดิพัทธ์ 23 ซึ่งจะเป็นซอยที่ 2 ทางขวามือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนวิภาวดีรังสิต > ถนนพหลโยธิน > แยกสะพานควาย > ถนนประดิพัทธ์ > ซอยประดิพัทธ์ 23 > โครงการ The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์)
เริ่มเดินทางกันจากถนนวิภาวดีรังสิตค่ะ ซ้ายมือเราจะเห็นห้าง Central ลาดพร้าว ห้างใหญ่ยอดนิยมของคนโซนนี้
ตรงมาจะเจอทางเลี้ยวไปถนนพหลโยธินค่ะ ให้เราเลี้ยวขวาตามป้ายไปสะพานควาย
ตอนนี้เราอยู่บนถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานควายแล้วค่ะ
เราขับตรงตามทางมาเรื่อยๆจะผ่าน BTS หมอชิต สถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ห่างจากโครงการเพียงสถานีเดียว ทางซ้ายมือเป็นที่ลานจอดรถ ส่วนทางขวามือจะเป็นสวนจตุจักร
ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเข้าสู่โซนสะพานควาย ซึ่งจะมี BTS สะพานควายเป็นจุดสังเกต
และถัดมาจะเป็น Big C สะพานควาย เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ใหญ่ในระยะใกล้ของโซนนี้
เราขับตรงต่อมาเรื่อยๆ จะถึงแยกสะพานควาย ให้เราเลี้ยวขวา
ถึงแยกสะพานควายแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประดิพัทธ์ แล้วเข้าซอยประดิพัทธ์ 23 ซึ่งจะเป็นซอยที่ 2 ทางขวามือก็จะเจอทางเข้าโครงการ The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์)
เลี้ยวขวามาแล้วจะเข้าสู่ถนนประดิพัทธ์ เราจะเห็นสะพานลอยที่ใช้ข้ามถนนซึ่งจะอยู่ติดกับคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) เลยค่ะ
พอเราขับถึงตัวสะพานลอยก็จะเห็นซอยประดิพัทธ์ 23 ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยค่ะ
เลี้ยวขวาเข้าซอยประดิพัทธ์ 23 ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางขวามือ
เลี้ยวเข้าซอยมาปุ๊ปเราก็จะเห็นทางเข้าคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) ตั้งอยู่ติดหน้าปากซอยประดิพัทธ์ 23 เลยค่ะ
:: รอบโครงการ ::
ที่ตั้งคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) ตั้งอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ ห่างจากแยกสะพานควายและถนนใหญ่พหลโยธินเพียง 100 เมตร โครงการนี้มีจุดเด่นคือเดินไปเพียง 500 เมตร หรือประมาณ 7 นาทีถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย แล้วค่ะ รอบๆโครงการในระยะเดินสบายมีร้านอาหารและร้านค้าเยอะมาก มีห้าง มีโรงพยาบาลใกล้ๆ
วันนี้เรามีภาพบรรยากาศรอบๆโครงการ และจากโครงการ เดินไป BTS สะพานควาย มาฝากกันด้วยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบๆ พื้นที่ติดโครงการทั้ง 4 ด้านจะยังเป็นอาคารแนวราบ แต่ในวงกว้างจะมีคอนโดสูงอยู่แทบทุกทิศ ตามสไตล์ตึกใจกลางเมืองค่ะ แต่อาคารสูงจะไม่อยู่ในระยะประชิดจึงไม่มีปัญหาเรื่องแดดลม
ทิศเหนือ ติดกับตึกแถว สูง 3 ชั้น
ทิศตะวันออก ติดกับซอยประดิพัทธ์ 25
ทิศตะวันตก ติดกับซอยประดิพัทธ์ 23 , บ้านเดี่ยว 2 ชั้น และตึกแถวสูง 3 – 4 ชั้น
ทิศใต้ ติดถนนประดิพัทธ์
วิวทางฝั่งทิศเหนือ จะเป็นวิวทางฝั่งในซอยประดิพัทธ์ 23 และซอยประดิพัทธ์ 25 ซึ่งพื้นที่ในตัวซอยเองจะไม่มีอาคารมาบังวิวเท่าไหร่ ความสูงอาคารมากสุดแค่ประมาณ 9 ชั้น แต่วิวทางฝั่งติดถนนพหลโยธินจะมีคอนโด High Rise สูง 31 ชั้นและ 26 ชั้น ค่ะ
วิวทางฝั่งทิศใต้ จะมีคอนโด Life สูง 20 ชั้น ส่วนรอบๆจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ
วิวทางฝั่งทิศตะวันตก ในปัจจุบันจะยังไม่มีอาคารสูงมาบังวิวเท่าไหร่ แต่ในอนาคตจะมีโครงการ The Line สูง 46 ชั้น ระยะทางประมาณ 130 เมตรจากตัวโครงการ
วิวโครงการทางฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นวิวทางฝั่งถนนพหลโยธิน และ สุทธิสารวินิจฉัย
เริ่มกันจากหน้าทางเข้าออกโครงการ
มีทางเข้าออกสองทางนะคะ ทางเข้าออกรถอยู่ติดถนนซอยประดิพัทธ์ 23 และอยู่ติดถนนประดิพัทธ์เลย
ถนนซอยประดิพัทธ์ 23 เป็นถนน 2 เลน รถสวนกันเข้าออกได้ ออกมาหน้าโครงการเจอวินมอเตอร์ไซค์เลยแบบนี้ ใช้นั่งไปไหนมาไหนได้สะดวก
จากหน้าโครงการฝั่งติดถนนซอยประดิพัทธ์ 23 มองไปทางฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ออกมาหน้าโครงการก็เจอ 7-11 เลยค่ะ ตั้งอยู่ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ถัดจากโครงการเลย มี ATM ด้วย และเปิด 24 ชม. ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในโครงการได้ดี
มองไปด้านบนค่ะ จะเห็น 7-11 อยู่ถัดจากคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) มาเลยแบบนี้
หน้า 7-11 เป็นทางเดินเท้ากว้างเดินสบาย มีแผงขายอาหาร และร้านอาหาร ร้านค้า มากมายหลายร้าน
จากหน้า 7-11 มองกลับไปที่คอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) ที่ อยู่ติดถนนซอยประดิพัทธ์ 23 และอยู่ติดถนนประดิพัทธ์แบบนี้
หน้าโครงการอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ เป็นถนน 4 เลน มีทางเดินเท้ากว้างเดินสบายทั้งสองฝั่ง และด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดสะพานลอยข้ามถนนประดิพัทธ์แบบนี้
จากหน้าโครงการมองไปที่ถนนประดิพัทธ์ ฝั่งตรงข้ามถนนจะเห็นว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น เรียงตัวกันเป็นแถวยาว มีร้านอาหารเยอะมากกก เรียกว่าเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์สุดๆค่ะ
ทางเข้าออกโครงการอีกฝั่งเป็นประตูสำหรับคนเดินเท้า อยู่ติดถนนประดิพัทธ์เลย
เปิดประตูออกมาจากโครงการก็จะเจอถนนประดิพัทธ์ ฝั่งตรงข้ามที่มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบริการส่งไปรษณีย์แบรนด์ต่างๆ และมองไปเห็นแยกสะพานควายกับถนนใหญ่พหลโยธินแล้วค่ะ
ติดประตูโครงการเลย ออกมาด้านข้างจะมีร้านอาหารชื่อ The Corner
ถัดมาหน่อยจะมีร้านทำผมอยู่ติดปากซอยประดิพัทธ์ 25
โครงการอยู่ห่างจากแยกสะพานควายและถนนใหญ่พหลโยธินเพียง 100 เมตร เป็นระยะเดินสบายๆ 1-2 นาทีถึง
เดินมาถึงแยกสะพานควาย
เราเดินต่อมาทางซ้ายเพื่อไปสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย กันต่อค่ะ จะเห็นว่าทางเดินเท้าค่อนข้างกว้างและเดินสบาย สองฝั่งข้างถนนเต็มไปด้วยร้านอาหารค่ะ
เราเก็บบรรยากาศทางเดินไป BTS สะพานควาย มาให้ชมกันนะคะ เดินไปนิดนึงก็จะเจอร้านขนม
ถัดมามีร้านค้า ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับความสวยความงาม
ถัดมาเป็นร้านเบเกอร์รี่ วันที่ไปถ่ายรีวิวเราแวะซื้อขนมร้านนี้ด้วยค่ะ ก็โอเคนะคะ ราคาไม่แพง ตัวเลือกเยอะ มีเค้ก คุ้กกี้ ขนมปัง เอแคลร์ บราวนี่ และมีเค้กมะตูมกะเค้กเนยสดขายด้วย
ถัดมาหน่อยเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว เนื้อตุ๋น เก่าแก่ชื่อดังของย่านนี้ โซนนี้มีร้านอร่อยเยอะค่ะ ถัดมามีร้านค้าต่างๆ
ถัดมาอีกมีร้านชานมไข่มุก ร้านขายแว่น ร้านซ่อมนาฬิกา
ถัดมามีร้านขายผ้าและอุปกรณ์เย็บผ้า
ถัดมาเป็นร้านทอง
ฝั่งตรงข้ามมีห้าง Big C ห้างใหญ่ที่ใกล้โครงการที่สุดอยู่
ถัดมาอีกเป็น 7-11 และคลินิกทำฟัน
ถัดมามีร้านขายก๋วยเตี๋ยว นอกจากนี้แต่ละซอยย่อยก็จะมีร้านขายอาหาร ของว่าง ด้านในอีกเยอะนะคะ
ถัดมาอีกมีร้านขายยา ร้านทำผม
มีร้านอาหารญี่ปุ่นราคาย่อมเยาอยู่
ถัดมามีร้านนวดแผนโบราณ
ถัดมามีคลินิก ร้านขายของชำ ร้านถ่ายเอกสาร
ถัดมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำนัว วันที่ไปถ่ายรีวิวเราแวะกินข้าวเที่ยงร้านนี้ค่ะ แนะนำนะคะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูใส่ไข่ต้มอร่อยดีค่ะ ลูกชิ้นกุ้งทอดกับคางกุ้งทอดก็อร่อยดี
ถัดมาเป็นร้านอาหาร และร้านขายกล้วยทอด
มองเข้าไปในซอยติดกับร้านกล้วยทอด ซอยนี้ก็แผงขายอาหารเยอะดีค่ะ มีทั้งร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านก๋วยจั๊บ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ ร้านราเม็งก็มี ร้านทำผมกับร้านขายชุดแต่งงานยังมีเลย
ถัดจากร้านกล้วยทอดเป็นร้านอาหาร และร้านขนมจีน
ถัดมาเป็นร้านขายของเพื่อสุขภาพร้านใหญ่
ถัดมาจะมีแผงขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด เกาเหลา
ที่จุดนี้มีวินมอเตอร์ไซค์อีกจุด เราถ่ายอัตราค่าโดยสารมาให้ดูค่ะ นั่งไปสวนจตุจักรคิด 30 บาท แต่เราว่าขึ้น BTS ไปดีกว่าค่ะ สถานีเดียวถึงเลย
ถัดมาเป็น Lotus Express เปิด 24 ชม.
ถัดมาเราจะเห็นทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย แล้วค่ะ
ติดกับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย จะมีป้ายรถเมล์อยู่
สายรถเมล์ที่วิ่งผ่านค่ะ
จากคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) เดินไปเพียง 500 เมตร หรือประมาณ 7 นาทีถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย แล้วค่ะ ประตูทางขึ้นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือประตู 1 และทางขึ้นที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นบันไดเลื่อนแบบนี้
:: ตัวโครงการ ::
The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) เป็นโครงการคอนโด High Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่ สูง 25 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 1-2-43 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 260 ยูนิต ตั้งอยู่บนทำเลที่มีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูงมาก มีร้านอาหาร ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล รวมทั้งยังใกล้ทั้งสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควายและใกล้ถนนใหญ่พหลโยธิน ในระยะเดินถึงได้สบายๆ
พร้อมส่วนกลางจัดเต็ม ทีเด็ดของโครงการนี้คือ 24 Hrs Community Space เป็นห้องสำหรับนั่งทำงานที่สามารถเข้าใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ จองเวลาเข้าใช้งานและเวลาเลิกใช้งาน ระบบก็จะเปิดแอร์และไฟไว้ให้อัตโนมัติ และเมื่อสิ้นสุดเวลาที่ตั้งไว้ก็สามารถที่จะต่อเวลาได้ หรือถ้าใช้เสร็จตามเวลาไฟและแอร์ก็จะปิดอัตโนมัติค่ะ เรียกว่าตอบโจทย์คนยุคนี้ที่ Work from home อยู่เยอะได้ดีทีเดียว
ภาพจำลองหน้าตาอาคารโดยรวม ใช้โทนสีขาวดูสะอาด โมเดิร์นเท่ๆ ใช้แนวคิดการออกแบบ Modern Timeless ใช้วัสดุที่เรียบง่าย ร่วมสมัยและดูดี เช่น กระจก เหล็ก สแตนเลส และพื้นผิวลายหิน
ภาพนี้จำลองหน้าตาห้องพักโดยรวมที่ได้ฝ้าเพดานสูง กระจกบานสูง กับวิวรอบด้าน
เรามาดูตัวแปลนอาคารกันต่อค่ะ เริ่มที่ชั้น 1 จะแสดงพื้นที่รอบๆตัวอาคารภายในพื้นที่ดินของโครงการ และรายละเอียดภายในอาคารชั้น 1 เราจะเห็นว่าที่ดินโครงการจะตั้งอยู่ติดถนน 3 ด้านคือถนนประดิพัทธ์, ซอยประดิพัทธ์ 23 และซอยประดิพัทธ์ 25 โดยทางเข้าหลักของโครงการจะอยู่ต้นซอยประดิพัทธ์ 23 ส่วนพื้นที่ฝั่งติดถนนประดิพัทธ์จะมีระยะร่นซึ่งจะเป็นสวนหย่อมให้นั่งเล่นพักผ่อน
เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะต้องผ่านซุ้มรปภ. ถนนภายในโครงการจะเป็นถนน One Way วนรอบอาคารค่ะ โดยเมื่อผ่านซุ้มทางเข้าหลักมาแล้วจะเจอกับส่วน Drop Off ถัดเข้ามาจะเป็นทางเข้าที่จอดรถ ซึ่งจะแยกเป็นที่จอดรถแบบ Automatic Parking ที่จะอยู่ถัดมาจากส่วน Drop Off และที่จอดรถแบบทั่วไปจะมีทางเข้าอยู่ด้านข้างอาคาร ซึ่งจะมีที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 – 7 รวมที่จอดรถทั้งหมด 169 คันหรือ 65% ไม่รวมซ้อนคัน
ส่วนพื้นที่ภายในตัวอาคารจะมีโถง Lobby ติดกับส่วนโถง Lobby จะเป็นส่วนของ Commercial ที่มีบริการ Concierge ถัดเข้าไปด้านในจะมีส่วนห้องน้ำรับรองและโถงลิฟท์ ที่มีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และ Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อจำนวนยูนิตประมาณ 1 : 86 ที่ถือว่าสามารถใช้งานกันได้สบายๆ
ตอนนี้คอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะคะ บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
เริ่มกันจากภาพด้านหน้าทางเข้าคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) ค่ะ อยู่ติดปากซอยประดิพัทธ์ 23 จะเห็นว่าด้านหน้ามีกำแพงหินอ่อนสีขาวติดชื่อโครงการและโลโก้ของ พฤกษา
ทางเข้าออกรถของโครงการค่ะ
คนนอกหรือ Visitor ต้องแลกบัตรกับรปภ.ก่อนนะคะ
เข้ามาจะเป็นลานถนนของโครงการ เป็นคอนกรีตสแตมป์ เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะต้องผ่านซุ้มรปภ. ถนนภายในโครงการจะเป็นถนน One Way วนรอบอาคารค่ะ โดยเมื่อผ่านซุ้มทางเข้าหลักมาแล้วจะเจอกับส่วน Drop Off หน้าทางเข้า Lobby โครงการฝั่งซ้ายมือของภาพ
ถัดเข้ามาจะเป็นทางเข้าที่จอดรถ ก็คือเข้าโครงการก็ขับตรงเข้ามาได้เลยนะคะ ทางเข้าส่วนที่จอดรถใช้ระบบไม้กระดกและ Access Card เข้าออกแบบ Easy Pass
ที่จอดรถจะแยกเป็นที่จอดรถแบบ Automatic Parking ที่จะอยู่ถัดมาจากส่วน Drop Off และที่จอดรถแบบทั่วไปจะมีทางเข้าอยู่ด้านข้างอาคาร ซึ่งจะมีที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 – 7 รวมที่จอดรถทั้งหมด 169 คันหรือ 65% ไม่รวมซ้อนคัน
พิเศษคือมีที่จอดแบบ EV Charger หรือเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยค่ะ
ด้านหน้าโครงการติดกับป้อมรปภ.จะมีสวนหย่อมอยู่ ซึ่งติดกับสวนหย่อมจะมีประตูทางเดินเท้าสำหรับออกไปถนนประดิพัทธ์ด้วยค่ะ เดี๋ยวเราไล่ดูกันไปที่ละส่วนนะคะ
มีบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ติดกับป้อมรปภ. เสียงและความเคลื่อนไหวของน้ำพุช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ช่วยกลบเสียงรถวิ่งไปมาด้านนอกได้ดี
และติดกับสวนด้านหน้าโครงการจะมีศาลพระภูมิของโครงการ จุดจอดจักรยาน และม้านั่งให้มานั่งเล่นพักผ่อนกันได้
เข้าไปดูภายในสวนหย่อมของโครงการกันต่อเลยค่ะ
จะมีทางเดินเท้า สองฝั่งทางเดินปลูกต้นไม้ยืนต้นและไม้พุ่มมาร่มรื่น เราจะเห็นน้ำพุแบบขั้นบันไดอีกจุดช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายจากธรรมชาติ
ภายในสวนหย่อมมีม้านั่งขนาดใหญ่มาให้นั่งพักผ่อนรับลมชมสวน
และมีทางเดินไปประตูทางเข้าออกสำหรับคนเดินเท้า
สำหรับคนเดินเท้า ออกประตูนี้จะอยู่ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธินตรงแยกสะพานควายที่สุดค่ะ เดินไม่ถึง 1 นาทีก็ถึงถนนใหญ่พหลโยธินแล้ว
เรากลับเข้ามาดูตัวอาคารกันต่อค่ะ
หน้าทางเข้า Lobby อาคาร จะเป็นจุด Drop off มีชายคายื่นออกมากันแดดกันฝนและให้แสงสว่างสำหรับตอนกลางคืน
ทางเข้า Lobby อาคารจะมีบันไดขึ้นมา 2 สเต็ป และมีทางลาดสำหรับรถเข็นหรือ Wheelchair มาให้เรียบร้อย
ภายใน Lobby ตกแต่งมาอย่างเรียบง่ายแต่หรูหรา เด่นที่การเลือกใช้วัสดุ พื้นและผนังลายหินอ่อนสีขาวเทาตัดกับเฟรมโลหะ และไม้สีอ่อน และเลือก Match สี ดูสวยงาม สบายตาดีค่ะ
ภายใน Lobby จัดที่นั่งรับรองแขกและที่นั่งพักผ่อนมาให้หลายจุดนะคะ สามารถรับรองผู้ใช้งานได้เยอะ
มีชุดโซฟามาให้หลายชุด พร้อมอาร์มแชร์ และโต๊ะกาแฟ ตกแต่งมาอย่างสวยงาม
ชุดโซฟาและชุดอาร์มแชร์ค่ะ จะเห็นว่าจัดชุดที่นั่งมาให้รับแขกหรือนั่งรอกันได้ทั้งแบบหลายๆคน หรือแบบ 1-2 คน
และที่ Lobby นี้จะมีที่นั่งพร้อมโต๊ะทำงานมาให้ด้วยค่ะ ใครจะมานั่งทำการบ้าน ทำงาน อ่านหนังสือที่จุดนี้ก็ทำได้สะดวกดี
ภาพรวมส่วน Lobby อีกมุมค่ะ
ติดกับส่วนโถง Lobby จะเป็นส่วนของ Commercial ที่มีบริการ “Concierge by The Reserve” ด้วย
บริการ “Concierge by The Reserve“ เป็นบริการผู้ช่วยพิเศษที่ จะเข้ามาช่วยจัดการธุระต่างๆ เช่น บริการซัดรีด, บริการส่งของ, บริการเรียกรถแท็กซี่ หรือให้ข้อมูลด้านต่างๆ
ติดกับเคาน์เตอร์ Concierge เป็นสำนักงานนิติบุคคลของโครงการค่ะ มีช่องหน้าต่างบานเลื่อนให้เปิดคุยและมีม้านั่งให้นั่งรอที่ด้านหน้า ได้
ภายใน Lobby จะมีส่วน Mail room หรือห้องจดหมายอยู่
ด้านในจะเป็นตู้จดหมายลายไม้สีอ่อน ติดเลขของแต่ละห้อง และมีช่องกุญแจให้ไขเปิดเอาจดหมายได้
และจาก Lobby จะมีทางเดินไปส่วนห้องน้ำ
ห้องน้ำแบ่งฝั่งห้องน้ำชายทางซ้าย ห้องน้ำหญิงทางขวา
ภายในห้องน้ำจะมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ 2 อ่าง และมีห้องโถสุขภัณฑ์ 1 ห้อง
ทางเข้าส่วนโถงลิฟต์จะเป็นประตูบานเปิดอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ Concierge
การเข้าโถงลิฟต์ต้องสแกนการ์ดเข้าไปนะคะ พิเศษคือนอกจากสแกนการ์ดแล้ว ยังมีระบบ Face Scan คือเจ้าของห้องพักสามารถสแกนหน้าผ่านเข้าไปได้ด้วย
มีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และ Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อจำนวนยูนิตประมาณ 1 : 86 ที่ถือว่าสามารถใช้งานกันได้สบายๆ
ภายในลิฟต์โดยสารออกแบบมาหรูหราสวยงามค่ะ เป็นลิฟต์ระบบ Proxy หรือลิฟต์ล็อกชั้นเพิ่มความปลอดภัยให้คนในโครงการไปอีกระดับ จะเห็นว่ามีเจลแอลกอฮอล์วางบริการให้ในลิฟต์และหลายๆจุดในโครงการ
นอกจากนี้ที่โถงลิฟต์ชั้นล่างยังมีทีวีเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ
และมีมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของคนในโครงการอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดจำนวนคนในลิฟต์ การวางเจลแอลกอฮอล์บริการ เจ้าหน้าที่ทุกคนในโครงการต้องใส่มาส์กและสวมถุงมือ เป็นต้น
ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะเป็นส่วนของยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น โดยจะเป็นห้องแบบ Loft จำนวน 16 ยูนิต และพิเศษคือชั้นนี้จะมีส่วน Private Garden ที่ลูกบ้านสามารถใช้นั่งพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวได้ค่ะ
ขึ้นมาจะเป็นโถงลิฟต์โดยสารของชั้น 8
ที่ชั้น 8 ส่วนยูนิตที่พักอาศัยจะมีประตูกั้นอีกชั้น ต้องสแกนการ์ดผ่านเข้าไป เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยชั้นนี้
โดยที่ชั้น 8 ส่วนโถงลิฟต์จะมีประตูเปิดออกไปสวนหย่อมได้อีกทาง
ภาพรวมสวนหย่อมที่ชั้น 8 ค่ะ ปลูกไม้ยืนต้นและไม้พุ่มมาร่มรื่น
มีม้านั่งมาให้หลายจุด
เป็นพื้นที่ที่มานั่งพักผ่อน รับลมได้ดี
และมี Pavillion หรือศาลานั่งพักผ่อนมาให้
ภายในมีโต๊ะและเก้าอี้แบบสตูลมาให้ 6 ตัว ให้ใช้นั่งรับลมชมวิวได้
แปลนอาคารชั้น 9 – 21 เป็นยูนิตพักอาศัยแบบ Loft ทั้งชั้น จำนวน 16 ยูนิต ขนาดห้อง 28.40 – 38.95 ตร.ม. ความสูงฝ้าเพดาน 4.4 เมตร
แปลนอาคารชั้น 22 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น โดยจะเป็นห้องแบบ Simplex ทั้งหมด ขนาดห้องตั้งแต่ 29.45 – 48.70 ตร.ม. จำนวน 12 ห้องต่อชั้น และมีพื้นที่สีเขียวขนาดย่อมให้ออกมาพักผ่อนได้ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 23 – 24 เป็นชั้นของยูนิตพักอาศัยทั้งชั้นเช่นกัน แต่จะเป็นห้องแบบ Simplex (Type 1 Bedroom และ 1 Bedroom Exclusive) ทั้งชั้น จำนวน 12 ยูนิตต่อชั้นค่ะ จุดเด่นของห้อง Simplex ในชั้นนี้คือจะมีห้องที่จัดขนาด Oversize Living Space และฟังก์ชั่นที่เป็นจุดเด่นจะแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่งห้อง
สำหรับห้องตำแหน่ง 7 และ 8 Unit Type B7 เป็นห้องกลางที่ติดกันทางทิศเหนือ ขนาดห้อง 34.90 ตร.ม. มีความพิเศษตรงที่ได้ห้องครัวกว้างขึ้นและแยกไว้เป็นสัดส่วน สามารถกั้นห้องแยกเป็นครัวปิดได้สะดวก และในห้องนอนจะได้พื้นที่ Walk – in Closet ขนาดย่อม พร้อมตู้เสื้อผ้า 2 หลังค่ะ
ห้องตำแหน่งที่ 4 Unit Type B8 เป็นห้องมุมทางฝั่งทิศใต้ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 40.40 ตร.ม. ได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง และได้หน้าต่างบานใหญ่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ได้วิวและแสงดีทั้ง 2 ส่วนการอยู่อาศัย เหมาะกับคนที่ชอบห้องที่ดูโปร่งสบาย และสว่างค่ะ
ห้องตำแหน่ง 5 และ 10 Unit Type C1 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 47 – 48 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในห้องแบ่งแยกเป็นสัดส่วน ลักษณะตัวห้องเป็นห้องหน้ากว้าง Take View ได้ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ได้ระเบียงยาว และตัวห้อง Plus หรือห้อง อเนกประสงค์ที่ได้มาสามารถจัดเป็นห้องนอนรองขนาดเล็กได้โดยจะมีกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นระหว่างห้องอเนกประสงค์กับห้องนั่งเล่น เป็นสัดส่วนและสามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้กว้างค่ะ
ห้องตำแหน่ง 6 และ 9 Unit Type C3 เป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ห้องมุม ตำแหน่งทิศเหนือ จุดเด่นอยู่ที่ได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ใหญ่มาก จำทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบฟังก์ชั่นได้หลากหลาย เหมาะสำหรับคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องนั่งเล่น ไม่ว่าจะทำงานหรือนั่งพักผ่อน นอกจากนั้นภายในห้องนั่งเล่นยังได้กระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องโปร่ง โล่งพร้อมระเบียงยาวด้านนอกค่ะ
แปลนอาคารชั้น 25 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการทั้งชั้น โดยจะมีทั้งส่วน Outdoor และ Indoor โดยพื้นที่ส่วน Outdoor จะมีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ขนาด 22 x 5.4 เมตร และสวนหย่อมพักผ่อนภายนอก และส่วนกลาง Indoor จะมี Sky Fitness, ห้องน้ำ, Adaptive Function Room และทีเด็ดของโครงการนี้คือ 24 Hrs Community Space เป็นห้องสำหรับนั่งทำงานที่สามารถเข้าใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ จองเวลาเข้าใช้งานและเวลาเลิกใช้งาน ระบบก็จะเปิดแอร์และไฟไว้ให้อัตโนมัติ และเมื่อสิ้นสุดเวลาที่ตั้งไว้ก็สามารถที่จะต่อเวลาได้ หรือถ้าใช้เสร็จตามเวลาไฟและแอร์ก็จะปิดอัตโนมัติค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 25 เราจะเจอพื้นที่ส่วน 24 Hrs Community Space เป็นพื้นที่ทำงานในรูปแบบ Multifunction พร้อมเพดานสูงโปร่งและบรรยากาศสบายๆทั้งแบบ indoor และ Outdoor workplace พร้อม All-Day Pantry ที่ทำหน้าที่เป็นบาร์อาหารเบาและเครื่องดื่ม พร้อมอุปกรณ์ เป็นฟังก์ชั่นที่เหมาะมากสำหรับคนสมัยนี้ที่บางคนทำงาน Work from home ที่มีช่วงเวลาทำงานดึกๆหรือต้องทำงานช่วงกลางคืนก็สามารถมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้
จะเห็นว่าจัดพื้นที่ทำงาน และนั่งพักผ่อนมาให้แบบจัดเต็มเลยค่ะ เดี๋ยวเราพาไปดูกันทีละส่วนนะคะ
มีส่วนโต๊ะทำงานที่ใช้ทำงานร่วมกันหรือใช้เป็นพื้นที่ประชุมคุยงานกันได้
ในห้องจะมี All-Day Pantry ที่ทำหน้าที่เป็นบาร์อาหารเบาและเครื่องดื่ม พร้อมอุปกรณ์
ด้านในมีทางเดินสบายๆค่ะ
ชอบที่มีตู้กดเครื่องดื่มบริการแบบนี้
ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจาน
ส่วนที่นั่งพักผ่อนก็มีชุดโซฟาอาร์มแชร์มาให้หลายจุด
มีชุดโซฟาและอาร์มแชร์มาให้นั่งพักผ่อน เล่นมือถือ อ่านหนังสือ นั่งคุยกันได้สบายๆ
ติดหน้าต่างก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้อีกหลายชุด
ใช้นั่งทำงาน ทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือนั่งชมวิวเมืองชั้นสูงกันได้
จากโซนที่นั่งพักผ่อน จะมีส่วน Adaptive Function room ที่สามารถเปลี่ยนเป็น Theater ก็ได้ และมีประตูเปิดออกไปส่วน Outdoor ได้
เข้าไปดูส่วน Adaptive Function room กันต่อค่ะ จะมีประตูบานเลื่อนมาให้เป็นสัดส่วน
ภายในเป็นห้องเพดานสูง จัดที่นั่งมาเป็นขั้นบันได
วางเบาะรองนั่งและหมอนอิงมาให้หลายจุด
และมี Bean Bag ให้นั่งเหยียดขาดูหนังได้สบายๆแบบนี้
จะมีจอ projector พร้อมเครื่องฉายมาให้แบบนี้
ที่ผนังจะมีแท็บเล็ตไว้ให้จองเวลาเข้ามาใช้ห้องได้ด้วยค่ะ
ออกไปดูส่วน Outdoor กันต่อ
ส่วนนี้จะมีลานพักผ่อนพร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้
ส่วนลานพักผ่อนมีที่นั่งแบบขั้นบันไดและสนามหญ้าให้ใช้นั่งเล่นกันได้
มองไปอีกด้านจะมีส่วนโต๊ะอาหารและม้านั่งยาวมาให้ เป็นลานกว้างโล่งอย่างที่เห็นค่ะ
ส่วนชุดโต๊ะเก้าอี้จัดมาให้แบบ 8 ที่นั่ง ใช้นั่งคุยงานหรือรับประทานอาหารร่วมกันได้สบายๆ
ออกไปดูส่วนสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสของชั้น 25 กันต่อค่ะ
ฝั่งสระว่ายน้ำ ตัวสระแบบ Infinity Edge Pool พร้อมที่นั่งพักผ่อนริมสระแบบ Pavillion
ภาพรวมสระว่ายน้ำค่ะ เปิดรับวิวเมืองชั้นสูงได้เป็นมุมกว้างแบบนี้
วิวจากสระว่ายน้ำอีกมุม
ทางลงสระเป็นแบบขั้นบันได
และมีส่วน Jacuzzi มาให้แบบนี้
มีที่นั่งริมสระแบบ Pavillion มาให้ 4 จุด
ภายในปูเบาะมาให้นอนเอนพักผ่อนริมสระกันได้สบายๆ
ที่ทางเดินริมสระ จะมีจุดล้างตัวริมสระแบบ Rain shower มาให้ 1 จุด
ถัดมาจะเป็นทางเดินไปส่วนห้องฟิตเนสและห้องน้ำ
เข้าไปดูส่วนห้องฟิตเนสกันต่อค่ะ
ภายในห้อง Fitness เป็นห้องเพดานสูงมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและวิวเมือง จัดเครื่องออกกำลังมาให้ประมาณ 12 ชุด
มีเครื่องปั่นจักรยานมาให้ 2 เครื่อง เครื่องวิ่ง 2 เครื่อง และลู่วิ่งไฟฟ้า 3 เครื่อง
ส่วนเครื่องวิ่งและลู่วิ่งไฟฟ้าหันหน้าออกไปทางวิวสระว่ายน้ำ
มีเครื่องเพาะกายส่วนต่างๆมาให้ 4 ชุด
และมีบาร์ดัมเบลมาให้ 1 ชุด
ชอบที่ในห้องฟิตเนสมีม้านั่งพัก ตู้กดน้ำ และมีเจลแอลกอฮอล์พร้อมสเปรย์ทำความสะอาดมาให้ด้วยค่ะ
ถัดจากห้องฟิตเนสมาจะเป็นทางเดินแยกไปห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง
เข้ามาดูในห้องน้ำหญิงกันต่อค่ะ เข้ามาจะมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ 2 อ่าง พร้อมกระจกเงาและหน้าต่างระบายอากาศ
ติดกับอ่างล้างมือจะมีล็อกเกอร์เก็บของมาให้ 6 ช่อง
ในห้องน้ำจะมีห้องโถสุขภัณฑ์มาให้ 2 ห้อง
ภายในห้องโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ตรงข้ามห้องโถสุขภัณฑ์เป็นห้องอาบน้ำและห้อง Steam
ภายในห้องอาบน้ำค่ะ
ห้อง Steam หรือห้องอบไอน้ำ ด้านในมีที่นั่งมาให้แบบนี้
แปลนอาคารชั้น 25M จะเป็นห้องส่วนกลางที่เชื่อมขึ้นมาจากชั้นที่ 25 ที่จะเป็นห้อง Skyline Lounge
ชั้นบน(25M) จะเป็นห้อง Skyline Lounge ใช้ทำงานหรือพักผ่อนเหนือสระว่ายน้ำ กระจกใสรอบห้อง
บรรยากาศภายใน Skyline Lounge กับโต๊ะทำงานที่หันหน้าติดกระจกภายนอก มองออกไปเห็นวิวเมืองชั้นสูง
และมีชุดโซฟายาวมาให้หลายชุด
ทั้งสองฝั่งห้องมีมุมที่นั่งแบบอาร์มแชร์พร้อมพนักสูงเพิ่มความเป็นส่วนตัว
อาร์มแชร์พร้อมพนักสูงค่ะ จะเห็นว่ามีโต๊ะกาแฟและม้านั่งด้านข้างมาให้ด้วย
แปลนอาคารชั้น Rooftop จะเป็นพื้นที่พักผ่อน Outdoor ทั้งหมด โดยจะแยกเป็นโซนสวนหย่อมกว้าง Party Yard สำหรับจัดงานเลี้ยง ติดกันเป็นโซน Rooftop Pantry ซึ่งมีพื้นที่ทำอาหารเตรียมไว้ให้ และโซน Outdoor Cinema เป็นโรงหนังกลางแจ้งค่ะ
ชั้น Rooftop จะเป็นสวนและทางเดินเท้าพร้อม Pavillion และที่นั่งพักผ่อนหลายจุด เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
มีที่นั่งแบบ Sunken Seat ล้อมด้วยสวนให้บรรยากาศที่ร่มรื่นและเป็นส่วนตัว
ถัดมามี Pavillion พร้อมที่นั่งและเคาน์เตอร์บาร์
เป็นพื้นที่ที่ใช้จัดปาร์ตี้เล็กๆได้สบายๆ
ส่วนที่นั่งค่ะ เป็นโซฟาแบบ Outdoor 2 ฝั่ง มีโต๊ะกาแฟตรงกลาง จริงๆจะมีเบาะที่นั่งมาให้นะคะ เนื่องจากวันที่ไปถ่ายรีวิวฝนจะตกค่ะ เบาะเลยถูกเก็บไปก่อน
ส่วนเคาน์เตอร์บาร์จะมีเก้าอี้แบบสตูลมาให้ 3 ตัว
ที่เคาน์เตอร์บาร์มีซิงค์มาให้ล้างจานแก้วล้างจานหรือใช้วางน้ำแข็งแช่เครื่องดื่มได้
ไปดูสวนชั้น Rooftop อีกฝั่งกันต่อค่ะ
ฝั่งนี้จะมีลานโล่งสบาย พร้อมโต๊ะยาว และเจาะพื้นเป็นที่นั่งรอบโต๊ะ ใช้เป็นพื้นที่ปาร์ตี้หรือนั่งพักผ่อนได้อีกจุด
มีม้านั่งด้านข้างมาให้แบบนี้
ลงบันไดไปดูสวนหย่อมอีกจุดกันต่อค่ะ
มีลานสนามหญ้ากว้างๆแบบนี้มาให้เล่นโยคะ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมได้หลากหลาย
และมีม้านั่งมาให้นั่งพักผ่อนรอบๆได้
มีม้านั่งยาวไว้ให้นั่งพักผ่อนอีกจุดค่ะ
ชั้น Rooftop นี้จะมี Outdoor Cinema เป็นพื้นที่ดูหนังกลางแจ้งมาให้ด้วย
เป็นที่นั่งแบบขั้นบันไดแบบนี้ ปกติจะมีเบาะรองนั่งมาให้นะคะ ข้อดีคือมีหลังคากันแดดกันฝนและมีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เสียบชาร์จมือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์ต่างๆได้
จะมีฉากหินอ่อนสีขาวเป็นหน้าจอสำหรับ Project หนังตอนกลางคืนได้ด้วยแบบนี้
:: แบบห้อง ::
The Reserve Phahol-Pradipat (เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์) มีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบคือ
1 Bedroom Loft ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.40 ตร.ม. – 38.95 ตร.ม.
1 Bedroom Simplex ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.45 – 40.40 ตร.ม.
1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.30 – 48.70 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B1, B2, B3 และ B4 เป็นห้อง 1 Bedroom มาตรฐาน
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B6 เป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีขนาดห้องนั่งเล่นใหญ่ขึ้นค่ะ
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B7 เป็นห้อง 1 Bedroom มาตรฐานแยกพื้นที่เป็นสัดส่วน มีครัวที่สามารถจัดเป็นครัวปิดได้
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B8 เป็นห้อง 1 Bedroom ห้องมุมได้มุมมองที่กว้าง กระจกบานใหญ่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ห้อง 1 Bedroom Exclusive : Unit Type C1, C2 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus แบ่งแยกพื้นที่เป็นสัดส่วน สามารถจัดเป็น 2 ห้องนอนได้ และห้องครัวที่สามารถกั้นแยกเป็นสัดส่วนได้
ห้อง 1 Bedroom Exclusive : Unit Type C3 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus มีความพิเศษที่ได้ห้องนั่งเล่นขนาดกว้างมาก พร้อมหน้าต่างบานใหญ่และกระจกบานเข้ามุมในห้องนอน
ห้อง 1 Bedroom Loft : Unit Type A1 – A12 เป็นห้องแบบ Loft 2 ชั้น ความสูงฝ้าเพดาน 4.4 เมตร ฟังก์ชั่นภายใน 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่ห้องครัว เป็นห้องที่ Hot สุด และเป็นจุดเด่นของโครงการ ตัวผังห้องมีการจัดภายในแตกต่างกันตามตำแหน่งที่วางในตัวอาคาร แต่โดยรวมจัดแยกเป็นสัดส่วน พื้นที่ห้องนอนจะอยู่บนชั้น 2
:: ห้องตัวอย่าง ::
ห้องตัวอย่างในโครงการมีให้เลือกหลายแบบนะคะ วันนี้เราพาไปดูห้องขายดีที่สุดของโครงการคือแบบ 1 Bedroom Loft ขนาด 29.75 ตร.ม. เป็นแบบห้องที่ผู้คนให้ความสนใจซื้อกันอย่างมาก ตอนแรกมีขายแค่ชั้น 8-12a ทำให้ Sold Out อย่างรวดเร็ว และมีลูกค้าอีกมากที่ต้องการซื้อห้อง Loft ทำให้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจาก ชั้น 8-12a เป็นชั้น 8-21 ซึ่งทำให้มีข้อดีเพิ่มขึ้นด้วย นั่นก็คือพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น คิดเป็น 65% ของโครงการเลยค่ะ
โดยห้องแบบ Loft นี้จะเป็นห้องที่เน้นฝ้าเพดานสูง ทำให้มีพื้นที่สำหรับ Split ชั้นห้องนอนแยกเป็นชั้นลอยได้ค่ะ จากแปลนของห้องนี้เมื่อเข้าไปในห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร ส่วนพื้นที่อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นฝ้าเพดานสูง สำหรับห้องนี้จะมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 4.4 เมตร จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานใหญ่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก ส่วนห้องนอนจะมีบันไดเชื่อมขึ้นไปบนชั้นลอยค่ะ
เริ่มเข้ามาดูภายในห้องตัวอย่างกันต่อค่ะ โดยบานประตูในห้องมาตรฐานจะได้เป็นบานสำเร็จ ปิดผิวลามิเนตลายไม้สีอ่อน มีตาแมวไว้ให้ส่องดูคนมาเคาะประตูได้
พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Yale ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยไปอีกระดับ มีวิธีการใช้งาน 3 แบบคือล็อคกุญแจ, Key Card และใช้ Password
เรามาดูของจริงกันต่อค่ะ เมื่อเราเข้าไปในตัวห้องจะเห็นภาพรวมส่วนแรกที่เป็นห้องครัว โต๊ะรับประทานอาหารและห้องน้ำ
ส่วนห้องครัวและโต๊ะรับอาหาร จะเชื่อมต่อกับส่วนของห้องนั่งเล่นเพดานสูงถึง 4.4 เมตร เป็นไฮไลท์ของห้องค่ะ เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วน เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ
ผนังติดประตูทางเข้าห้อง จะเป็นประตูห้องน้ำ ถัดมาเป็นช่องเก็บของ
ทำ Built in ช่องเก็บของมาให้พร้อมหน้าบานปิด ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งในห้องได้ดีค่ะ 4 ชั้นล่างใช้วางรองเท้า ชั้นบนใช้เก็บของได้
เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องประมาณ 1 นิ้วเพื่อกันน้ำและความชื้นจากห้องน้ำ ธรณีประตูกรุหินสังเคราะห์ ข้อดีคือใช้ไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมา ซึ่งเป็นสาเหตุให้ประตูเปิดปิดยาก
ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด พื้นปูกระเบื้องผิวด้านสีครีม สุขภัณฑ์สีขาว มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มด้วย อันนี้ดีค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี ใช้วางเครื่องหอม ผ้าเช็ดตัว หรือของใช้กระจุกกระจิกอย่างครีมหรืออื่นๆได้อีกหลายอย่างเลย ชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์กับติดพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย
ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของอ่างล้างมือและกระจกเงาบานใหญ่ ติดตั้งไฟซ่อนมาให้ และใต้อ่างมีตู้เคาน์เตอร์พร้อมบานปิดสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆมาให้เรียบร้อย ของจริงได้ตามนี้
ตัวอ่างล้างมือได้แบบฝังเคาน์เตอร์ของ Lavenz มี Low Wall สำหรับวางของมาให้เยอะดีค่ะ จะเห็นว่ามีมุมยุบเข้าไปเป็นส่วน Low Wall เป็นที่ว่างที่เราสามารถทำชั้นวางของในห้องน้ำเพิ่มได้อีกจุดด้วย
ติดกับอ่างล้างมือกลางห้องจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อง Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ระยะการใช้งานค่อนข้างกว้าง มี Low Wall ด้านหลังสำหรับวางของ
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกหรือห้องอาบน้ำจะติดตั้ง Shower Screen มาให้เป็นสัดส่วน
ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower พร้อมชั้นติดผนังให้วางสบู่ แชมพู ครีมอาบน้ำเพิ่มได้
เทียบขนาดฝ่ามือให้ดูค่ะ ฝักบัวของ kohler สามารถปรับระดับขนาดหยดน้ำได้
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.4 เมตร ค่อนข้างกว้าง ใช้ยืนอาบได้สบายๆ
กลับออกมาจากห้องน้ำเราไปดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ
พื้นที่ห้องครัวจะถูกจัดเป็นมุมไว้เป็นสัดส่วน จัดรวมอยู่กับโต๊ะรับประทานอาหาร
มาดูส่วนชุดครัวกันต่อ ชุดครัวพร้อมอุปกรณ์ของ MEX หน้าบานเป็น glass coat สีครีมดูหรูหรา ทำ Built in มาให้ทั้งบนและล่าง เราเปิดชุดครัวให้ดูช่องเก็บของภายในนะคะ ทำชั้นเก็บของมาให้เยอะดี หน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้ ด้านในช่องเก็บของชั้นลอยกรุผิวลายไม้สีอ่อน เปิดปิดไม่มีเสียงดังปึ้งปั้ง มีเว้นช่องมาให้สำหรับตู้เย็นเรียบร้อย
Top ครัวหินสังเคราะห์เกรดพรีเมียม ลายหินอ่อน แข็งแรง ทนต่อน้ำ-ทนความร้อนได้ดี ผนังครัวมี Backsplash หรือผนังกันเปื้อนไว้ให้ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย เคาน์เตอร์ครัวกว้างขวาง สามารถใช้เตรียมอาหารได้สะดวก
ลิ้นชักบนมีช่องแบ่งสำหรับจัดช้อน ส้อม มีด ได้อย่างเป็นสัดส่วน มือจับเป็นสแตนเลส
ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ MEX ด้านข้างเตาไฟฟ้ามีพื้นที่ว่างมาให้ เวลาประกอบอาหารสะดวกดีค่ะ เพราะมีที่พักหม้อพักกระทะ หรือวางวัตถุดิบด้านข้างมาให้แบบนี้
ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้ ช่วยให้ล้างจาน, ล้างผัก, ผลไม้ได้สะดวก มีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย
สำหรับส่วนโต๊ะรับประทานอาหาร ทางโครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พอนั่งได้ 3-4 คนแบบพอดีๆ เพราะมีระยะพอค่ะ
จากส่วนครัวเราไปดูในส่วนของห้องนั่งเล่นฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตรกันต่อค่ะ
เพดานสูงทำให้รู้สึกโปร่งสบาย ด้านหลังโซฟาทำตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้ดูเป็นไอเดีย ขนาดโซฟาที่เหมาะสมกับพื้นที่จะสามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ หรือจะใช้เป็นโซฟาทรง L – Shape ก็สามารถวางได้ไม่ขนาดทางเพราะยังมีระยะดูทีวีเหลือค่อนข้างเยอะค่ะ
จากห้องนั่งเล่นมองไปทางผนังฝั่งชั้นวางทีวี ฝั่งขวามือของภาพเป็นบันไดขึ้นไปชั้นลอย ซ้ายมือเป็นประตูห้องเก็บของใต้บันได
เพดานสูงติดไฟดาวน์ไลท์ LED มาให้
ที่ห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกบานสูง ที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก เป็นช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ให้กับห้อง พร้อมติดม่านมาให้ 2 ชั้นได้ตามนี้ค่ะ
พื้นระเบียงภายนอกปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา มีธรณียกสูงประมาณ 10 ซม.ขนาดระเบียงจะเน้นแนวยาวเต็มพื้นที่หน้ากว้าง
ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กซี่สีดำ พร้อมติดตั้งกริลเพื่อบังสายตาแอร์คอมเพรสเซอร์ จากภายนอก โดยแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้ได้ตามน้ี
ระเบียงลึกประมาณ 0.80 เมตร พอให้วางราวตากผ้าขนาดเล็ก,ออกมายืนกินลมชมวิวหรือปลูกไม้กระถางเล็กๆได้
จากห้องนั่งเล่นเราจะไปดูห้องนอนที่ชั้นบนกันต่อ โดยตัวบันไดที่เชื่อมขึ้นไปชั้นบนจะเกาะอยู่กับผนังฝั่งด้านหลังชั้นวางทีวีค่ะ ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์ขอบอลูมิเนียมสีดำสไตล์ลอฟต์ ช่วยให้ภาพรวมห้องดูโปร่งและ Modern ค่ะ
ตัวบันไดไม้ทาสีดำ มีขั้นปาดสามเหลี่ยม 2 ขั้น
ขึ้นมาส่วนชั้นลอย วางเตียงไปแล้วจะเหลือพื้นที่ปลายเตียงพอเดินไปเดินมาหรือวางชั้นวางทีวีเพิ่มได้
ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเป็นส่วนของห้องนอนอย่างเดียวเลยค่ะ เหมาะมากกับคนที่ชอบแยกห้องนอนเป็นสัดส่วน ขนาดพื้นที่บนนี้สามารถที่จะวางเตียงถึงขนาดคิงส์ไซส์ได้
พื้นที่ฝั่งหัวเตียงทำ Low wall มาให้วางของเพิ่มได้ และติดเครื่องปรับอากาศมาให้ได้ตามนี้
ภาพส่วนห้องนอนจากอีกมุมค่ะ
ราวกันตกบนชั้นลอยเป็นราวกระจกใสต่อเนื่องมาจากราวจับบันได
มุมมองจากเตียงเมื่อมองลงมาที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง
สำหรับห้อง Loft ที่มีฝ้าเพดานสูงแบบนี้นอกจากความโปร่งโล่งแล้วเรายังสามารถเพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งต่างๆได้มากมาย เช่น ตู้เก็บของ 2 ชั้นแบบในห้องตัวอย่าง หรือจะตกแต่งด้วยโคมไฟติดฝ้าเพดาน ยาวๆ สวยๆก็เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่สามารถทำได้ในห้องที่มีความสูงฝ้าปกติค่ะ
ราคา (มิ.ย.63)
1 Bedroom Loft ขนาด 28.40 – 38.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท
1 Bedroom (Simplex) ขนาด 29.45 – 40.40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.79 ล้านบาท
1 Bedroom Exclusive ขนาด 47.30 – 48.70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.89 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย 165,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน
Promotion !! ** ส่วนลด ณ วันโอนฯ 800 , 000 บาท สนใจโปรโมชั่นพิเศษ อื่นๆเพิ่มเติม ติดต่อ Line @thereservecondo หรือเข้าชมที่โครงการ
** หมายเหตุ : โปรดสอบถามราคาและโปรโมชั่นอีกครั้งที่สำนักงานขาย **
ลงทะเบียนรับข้อมูลและสิทธิพิเศษได้ คลิก : https://thereserve.pruksa.com/19319/phahol-pradipat
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Reserve Phahol-Pradipat เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้ามุ่งหน้าแยกสะพานควาย ทางเข้าหลักจริงๆจะอยู่ติดปากซอยประดิพัทธ์ 23 ตัวที่ดินอยู่ระหว่างซอยประดิพัทธ์ 23 และประดิพัทธ์ 25 สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ออกมาก็เจอ 7-11 ในระยะเดินสบายๆ มีร้านอาหาร ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก และเปิดขายทั้งกลางวันกลางคืน โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงดึกจะมีร้านอาหารมาเปิดริมถนนมากมายหลายร้าน ใกล้ตลาดสด, Big C และ Tesco Lotus Express (เปิด 24 ชม.) ก็อยู่ไม่ไกลนอกจากนั้นก็จะมี ร้านแลกเงินต่างประเทศ และร้านขายยาหลายร้าน
จุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานี สะพานควาย ในระยะเพียง 500 เมตร ซึ่งสามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายๆ เพราะตลอดทางจะเป็นฟุตบาทกว้างเดินสะดวก
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถือว่าสะดวกสบายเลยค่ะ ตัวโครงการติดถนนถนนประดิพัทธ์ ที่สามารถเชื่อมกับถนนเส้นหลักๆอย่างพหลโยธินและถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้ นอกจากนั้นตัวถนนประดิพัทธ์เองยังใช้วิ่งยาวไปเชื่อมกับถนนทหารและถนนสามเสน ใช้ลัดไปถนนราชวิถีเพื่อไปฝั่งธนฯได้ นอกจากนั้นยังใช้ไปถนนพระราม 6 , ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ค่ะ นอกจากนั้นก็มีทางด่วนให้เลือกใช้ทั้งทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และทางด่วนศรีรัช
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สะดวกสบายสูงมากมีให้เลือกใช้หลายเส้นทาง โดยจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ห่างจาก BTS สะพานควายประมาณ 500 ม. มีฟุตบาทตลอดทางจากโครงการถึงตัวสถานีจึงทำให้เดินได้สะดวก นอกจาก BTS แล้วก็สามารถเรียก Taxi ที่หน้าโครงการได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ ออกมาหน้าโครงการเลยก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่ นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 90 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 9ร, 44ร, 52ร, 90ร, 97, 117 ค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวโครงการเป็นคอนโดในแบรนด์ The Reserve ที่ถือว่าเป็นตัวที่อยู่ในระดับ Luxury ของพฤกษา จะเน้นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่หรูหราแบบ Timeless และฟังก์ชั่นส่วนกลางที่โดดเด่น โดยตัวโครงการจะเป็นคอนโด High-Rise 25 ชั้น มีทั้งหมด 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1-2-66 ไร่ จำนวนห้องพัก 260 ยูนิต
จุดเด่นของโครงการนี้คือการออกแบบห้องแบบ Loft ที่ทำออกมาได้ดี การใช้งานลงตัวและ Spec ดีกว่าโครงการโดยรอบมากเมื่อเทียบกับราคา ณ ปัจจจุบัน นอกจากการออกแบบตัวห้องพักอาศัยแล้ว ส่วนกลางก็เป็นอีกจุดที่เด่นกว่าโครงการในโซนนี้อีกเช่นกัน ทั้ง 24 Hrs Community Space ที่ใช้ได้ 24 ชั่วโมง สั่งงานด้วยแอพฯในมือถือและ บริการ Concierge คอยช่วยเหลือลูกบ้านเช่น บริการซักรีด, รับส่งพัสดุ, ซื้อของ เป็นต้น โดยบริการส่วนนี้พฤกษาจะออกค่าบริการให้ 2 ปีค่ะ
ห้องหลักๆ ของโครงการนี้จะเป็นห้องแบบ Loft ส่วนห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Exclusive จะมีจำนวนไม่เยอะแต่จะได้วิวที่สูง ความสูงเพดานห้องมาตรฐานอยู่ที่ 2.7 ม. ส่วนห้องแบบ Loft จะมีความสูงโปร่งถึง 4.4 ม. โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted โดยจะได้ประตูห้องพักแบบ Digital Door Lock 3 ระบบ ของ Yale
รวมถึงเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินบางส่วนให้ โดยจะออกแบบพิเศษให้เข้ากับ Lay Out ของห้องพัก เพื่อการใช้งานที่สะดวก ตัวเคาน์เตอร์ครัวท็อปหิน Composite Marble + เตาเซรามิก 2 หัว + เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานของ MEX ให้ครบทุกห้อง โดยหน้าบานเคาน์เตอร์ครัวจะได้ Spec ที่ดีกว่าคอนโดรอบข้างมาก เป็น Hi-Gloss ปิดทับด้วย Coated Glass อีกชั้นค่ะ
ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ พื้นห้องลามิเนต หนา 8 มม. พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่น ภายในห้องน้ำฟังก์ชั่นครบ มีการแยกส่วนแห้ง และกั้น Shower Screen กระจกนิรภัยในส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาตรฐานของ Kohler ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก : ที่ชั้น 1 มี Lobby พร้อมบริการ Concierge ชั้น 8 มี Private Garden ชั้น 25 เป็นส่วนกลางหลักมีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ขนาด 22 x 6 เมตร และสวนหย่อมพักผ่อนภายนอก และส่วนกลาง Indoor จะมี Sky Fitness, ห้องน้ำ, Adaptive Function Room และทีเด็ดของโครงการนี้คือ 24 Hrs Community Space ในแบบ Indoor & Outdoor เป็นห้องสำหรับนั่งทำงานที่สามารถเข้าใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ ชั้น 25M มีห้อง Skyline Lounge และชั้น Rooftop จะมี Party Yard สำหรับจัดงานเลี้ยง, Rooftop Pantry ซึ่งมีพื้นที่ทำอาหารเตรียมไว้ให้ และโซน Outdoor Cinema เป็นโรงหนังกลางแจ้งค่ะ
ในส่วนของที่จอดรถ จะมีทั้งแบบ Automatic Parking และที่จอดรถธรรมดา อยู่ที่ชั้น 1 – 7 คิดเป็น 65% หรือ 165 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ลิฟท์โดยสารมีให้ 3 ตัว เข้า-ออกลิฟท์โดยสาร และอาคารพักอาศัยด้วยระบบ Access Card Control เพื่อความปลอดภัย ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และ Digital Door Lock ทุกยูนิตค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Website : http://thereservecondo.com/phahol-pradipat/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น