EP.1207 รีวิว คอนโด แอทติจูด แบริ่ง / Attitude Bearing
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมไปชมโครงการ Attitude แบริ่ง ซึ่งเป็นคอนโด Low rise พร้อมเข้าอยู่จาก ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ กันค่ะ
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 14 จากซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งเข้ามา 160 เมตร บนทำเลถนนสุขุมวิท ใกล้กับ รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง ในระยะ 1.1 กม.
เดินทางสะดวกใกล้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษบูรพาวิถี และ วงแหวนกาญจนาภิเษก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ St Andrews International School, ไบเทค บางนา, เซ็นทรัลบางนา และ Bangkok Mall
โดยทาง ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ ได้บุกเบิกทำเลนี้ด้วยโครงการ The Gallery Bearing ในซอยแบริ่ง 6 เป็น High rise Condominium โครงการแรกของซอยแบริ่ง ที่ประสบความสำเร็จและได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
แอทติจูด แบริ่ง เป็น Low rise Condominium สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร จำนวน 137 ยูนิต บนเนื้อที่ 0-3-62 ไร่ สไตล์โมเดิร์นคลาสสิค กับห้องพักแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 25.70 – 54.47 ตร.ม. ตกแต่งครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันทางโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครันเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า, สวนพักผ่อน, BBQ Area (Rooftop Garden), Co-working Space, Shuttle service, ระบบ Key Card Access, ที่จอดรถระบบ Conventional Parking และ Auto Parking รวม 40% (รวมจอดซ้อนคัน), ลิฟท์โดยสาระบุชั้น, กล้องวงจรปิด และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
| ชื่อโครงการ | แอทติจูด แบริ่ง Attitude Bearing |
| เจ้าของโครงการ | ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ The Urban Property Co.,Ltd |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 0-3-62 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 137 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน |
| โซน | สมุทรปราการ |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
| ที่ตั้ง | ซอยแบริ่ง 14 ถนนสุขุมวิท 107 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 4/2559 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | แล้วเสร็จ ไตรมาส 1/2561 |
| ราคา | เริ่มต้น 1.9 ล้านบาท Fully Furnished |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ 68,650 บาท/ ตร.ม. |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | Attitude แบริ่ง คอนโดใกล้รถไฟฟ้าจาก The Urban Property พบการออกแบบที่ลงตัว กับทุกจังหวะของชีวิตเมือง ทุกยูนิตแต่งครบด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม เหนือกว่า ด้วยดีไซน์สวยกับรายละเอียด ที่พร้อมเติมเต็มทุกความต้องการของทุก Lifestyle มากกว่า กับสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ตอบโจทย์ทุกอิสระของการใช้ชีวิตพร้อมกว่า ให้ทุกวันทำงานและวันพักผ่อนผสานเชื่อมต่อกันอย่างสุนทรีย์ ครบทุกเหตุผลในการลงทุน ในราคาที่คุ้มค่าเกินกว่าที่คุณคิด เริ่ม 1.49 ล้านบาท* (ณ วันเปิดตัว) |
คอนโดใกล้ BTS แบริ่ง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยแบริ่ง 14 ถนนสุขุมวิท 107 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
พิกัด : 13.654761, 100.606960
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Attitude แบริ่ง ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 14 เข้ามาจากซอยสุขุมวิท 107 เพียง 160 เมตรค่ะ ซึ่งตัวโครงการนั้นจะอยู่ในช่วงต้นซอย วัดจากจุดขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เข้ามาประมาณ 1.1 เมตร เนื่องจากซอยแบริ่งเป็นซอยที่มีขนาด 4 เลนที่เชื่อมระหว่างเส้นสุขุมวิทและศรีนครินทร์ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมกับซอยลาซาลไปถนนบางนา – ตราดได้ โดยมีซอยฝั่งเลขคี่ที่สามารถลัดเลาะไปออกได้
ตรงเส้นบางนาก็มีทั้งจุดขึ้นทางด่วนและเซ็นทรัลบางนาด้วย ซอยแบริ่งจึงเป็นซอยที่ค่อนข้างจะคึกคัก มีรถวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะและมีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้าเรียงรายอยู่ไม่ขาดโดยเฉพาะช่วงต้นๆ ซอยจะยิ่งมีของขายเยอะเป็นพิเศษ โดยภาพรวมของซอยจะยังคงเป็นย่านพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียมก็พอมีขึ้นบ้างแล้วค่ะแต่ยังไม่ถึงกับเยอะมากนัก
ซึ่งในโซนแบริ่งนับว่าเป็นย่านที่มีศักยภาพในการลงทุนในอนาคต เพราะเป็นแหล่งการค้าย่าน East Business District (EBD) เศรษฐกิจสำคัญฝั่งกรุงเทพตะวันออก อยู่ใกล้ศูนย์กลางความเจริญของกรุงเทพฝั่งตะวันออก รายล้อมไปด้วยชุมชนที่อยู่อาศัย, โรงเรียน, โรงแรม, ศูนย์การค้าตลอดจนสำนักงานต่างๆ ที่ยังเกาะเส้นรถไฟฟ้า และจุดขึ้น – ลงทางด่วน มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นรถสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัว แต่ยังมีราคาที่ไม่สูงมากนัก ถือเป็นทำเลทองที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง โดยมีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงขึ้นอีกด้วยค่ะเพราะยังมีที่ดินว่างเปล่าแปลงใหญ่จึงยังสามารถพัฒนาไปได้อีก
ทำเลนี้จึงเป็นที่จับตามองของนักพัฒนาอสังหาฯ อยู่หลายเจ้า หนึ่งในนั้นก็คือ ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้บุกเบิกทำเลนี้ด้วย High rise Condominium โครงการแรกของซอยแบริ่ง นั่นก็คือ The Gallery Bearing ในซอยแบริ่ง 6 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประสบความสำเร็จไปแล้วอีกโครงการนึงค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าทำได้สะดวก ถ้าจะเข้าเมืองหลักๆ ก็จะใช้เส้นสุขุมวิทไปเลย สามารถวิ่งออกถนนสุขุมวิทได้ทั้งทางซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) และซอยสุขุมวิท 109 ถ้าจะออกนอกเมืองไปฝั่งสำโรงก็สามารถใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งตรงอย่างเดียวไปจนถึงสมุทรปราการก็ได้เช่นกันค่ะ จากซอยจะเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ซึ่งใช้วิ่งเข้าเมืองได้เช่นกัน สามารถใช้วิ่งขึ้นไปทางรามคำแหงจนถึงเส้นลาดพร้าวตรงแถวๆ เดอะมอลล์บางกะปิ หรือวิ่งลงไปทางบางปูจะไปสุดที่ถนนสุขุมวิทพอดี
ภายในซอยแบริ่งเองก็จะมีซอยย่อยๆ ที่สามารถใช้เชื่อมไปยังซอยลาซาลได้ นั่นก็คือซอยลาซาล 24 และถนนแบริ่ง – ลาซาล และซอยลาซาล 23 และ 55 ที่เชื่อมกับเส้นบางนา – ตราด ซึ่งตรงซอยลาซาล 55 พอออกเส้นบางนา – ตราดแล้วกลับรถไปทางฝั่งขาออกเมือง ก็จะเจอเซ็นทรัลบางนาและจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีพอดี ใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีได้สะดวก สามารถใช้เป็นเส้นทางในการหลีกเลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี
ทางด่วน ตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนหลายจุด เป็นตัวช่วยเสริมให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น จากเส้นทางปกติที่อาจจะติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน ที่ใกล้ที่สุดก็คือจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเพียง 3 กม. สามารถใช้เดินทางไปยังโซนจตุจักร, รามอินทรา, รังสิต, ปากเกร็ด หรือจะเข้าเมืองไปทางสีลมหรือสาทรได้สะดวก
อีกจุดนึงที่ใกล้ก็คือจุดขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถีตรงเส้นบางนา – ตราดที่เราได้กล่าวกันไปแล้ว เราสามารถไปได้หลายเส้นทางค่ะ จะเลือกใช้ถนนสุขุมวิท หรือเลือกใช้ซอยลาซาล 23 หรือ 55 ก็ได้แล้วแต่สะดวก ตรงนี้จะใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีนะ
จากตัวโครงการก็อยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษกเช่นกัน โดยจากซอยแบริ่งให้ออกมาที่ถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกนอกเมือง ตรงไปจะมีทางแยกออกไปฝั่งซ้ายมือเพื่อขึ้นวงแหวนไปทางพระราม 2 ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ในปัจจุบันซอยแบริ่งมีความเจริญขึ้นมาก ภายในซอยมีความอุดมสมบูรณ์มากพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงต้นๆ ซอยจะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์เปิดให้เช่าพื้นที่ขายของ มีทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven, ตลาดมิ่ง, ร้าน Watson, ร้านอาหารอร่อยๆ หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น ไทย – จีน – อีสาน – ญี่ปุ่น รวมถึงร้านอาหารตามสั่ง ยกตัวอย่างเช่่น ร้านวีทีแหนมเนือง, ร้านพิซซ่าท้ายซอยแบริ่ง, ก๋วยเตี๋ยวไก่ข้ามฟาก, ตำตำ และร้านเพลินพุง นอกจากนี้ ภายในซอยก็จะมี รร.นานาชาติ St.Andrew และ รร.เซนต์โยเซฟบางนาด้วยนะ
ถ้าออกมาดูที่เส้นสุขุมวิทบ้าง ฝั่งตรงข้ามกับซอยลาซาลจะมี APT Bearing Mall ที่เป็นจุดให้บริการจอดรถ Park&ride ตรงนั้นจะมีตลาด มีทั้งอาหาร, ร้านค้า และร้านสะดวกซื้อคอยอำนวยความสะดวกให้ ซอยติดกันมีรพ.มนารมย์ เลยไปหน่อยติดทางขึ้นทางด่วนมี The Coast Village เป็น Community mall ที่ภายในมีร้านค้ากว่า 40 ร้านด้วยกัน ลงมาทาง BTS สถานีสำโรง ก็จะมีทั้ง อิมพีเรียลสำโรง, สำโรงเซ็นเตอร์ และ ตลาดสำโรงอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
ในส่วนของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เลยจะอยู่บนเส้นบางนา-ตราด นั่นก็คือเซ็นทรัลบางนา ข้างๆ มี Hypermarket อย่าง Big C และมี รพ.ไทยนครินทร์อยู่ติดกัน เลยไปอีกก็จะมีทั้ง SB Design Square, Index Living Mall, Mega บางนา และ Ikea บางนา หากเข้าเส้นศรีนครินทร์ก็จะมี Seacon Square และ Paradise Park ที่อยู่ไม่ไกล
นอกจากนี้ในอนาคตจะมีโครงการระดับ Flagship จากเดอะมอลล์กรุ๊ป ตรงจุดตัดถนนบางนา – ตราดและถนนสุขุมวิท (ตรงข้ามกับ BITEC บางนาพอดี) เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีอุดมสุขและสถานีบางนา บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ นั่นก็คือ Bangkok Mall มีพื้นที่โครงการมากกว่า 650,000 ตร.ม. เป็นอาณาจักรแห่งศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย และออฟฟิศแบบครบวงจร ที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเอเชีย
ภายใต้คอนเซ็ปต์ City within the City หรือเมืองในเมืองที่สมบูรณ์แบบ ออกแบบอาคารโดยใช้สถาปัตยกรรม The Ultra Modern & Spectacular Architecture ที่ล้ำสมัย มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ.2566 จะเป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากทำเลของโครงการนั้นเป็นทำเลที่มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ที่เด่นที่สุดก็คือ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีแบริ่ง เพียง 1.1 กม. ทำให้ลูกบ้านที่ใช้รถสาธารณะในการเดินทางเป็นหลักสามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย โดยทางโครงการจะมี Shuttle Service คอยอำนวยความสะดวกไปส่งลูกบ้านถึงที่ตัวสถานีเลยค่ะ ในปลายปีนี้เองก็จะเริ่มเปิดเดินรถไฟฟ้า BTS ช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายอีกด้วย
นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง พัฒนาการ – สำโรง วิ่งขนานกับเส้นศรีนครินทร์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 จะไปสุดสายที่ สถานีสำโรง เป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้า BTS และมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง บางนา – สุวรรณภูมิ วิ่งขนานกับเส้นบางนา – ตราด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 โดยจะ Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ สถานีศรีเอี่ยม ค่ะ
จะเห็นว่าจากตัวโครงการสามารถเดินไปถึง BTS แบริ่งในระยะเดิน 1.1 กม. ถ้าใครไม่อยากเดินทางโครงการมี Shuttle Service คอยให้บริการ หรือเราจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งก็สะดวกเหมือนกันค่ะ
นอกจากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ก็ยังสามารถใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆ ได้อีก ในซอยแบริ่งเองก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอด สามารถเรียกได้ง่ายเพราะเป็นซอยที่มีผู้คนและรถสัญจรผ่านไป – มาอยู่แล้ว ถ้าออกไปที่เส้นทางหลักอย่างถนนสุขุมวิทหรือถนนศรีนครินทร์ก็จะมีรถเมล์และรถตู้วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวันค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร > ถ.สุขุมวิท > ซ.สุขุมวิท 107 (แบริ่ง) > ซ.แบริ่ง 14 > Attitude แบริ่ง
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยจะใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 20 นาทีค่ะ จากป้ายให้เรามุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ
วิ่งออกซ้ายขึ้นทางยกระดับตามป้ายไปสมุทรปราการ
เราจะมาลงที่ถนนสุขุมวิท ตรงไปไม่ไกลจะเห็น BTS สถานีบางนา
ขับมาจนเลยซอยลาซาล (ฝั่งซ้ายมือ) ก็จะเห็นสถานีแบริ่งค่ะ
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งนั่งเอง
จากถนนสุขุมวิทเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง ให้เราขับตรงเข้าไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยแบริ่ง 14 ตรงเข้าไปประมาณ 160 เมตร ตัวโครงการจะอยู่บนที่ดินแปลงหัวมุมฝั่งซ้ายมือค่ะ
เข้ามาภายในซอยสุขุมวิท 107 จะเป็นถนนขนาด 4 เลนที่มีความพลุกพล่าน รถวิ่งผ่านโดยตลอดเพราะเป็นทางเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ด้วย
เราตรงเข้าไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยแบริ่ง 14 ฝั่งซ้ายมือจะมีตลาดมิ่งและ 7-Eleven เป็นจุดสังเกต
ซอยแบริ่ง 14 จะเป็นซอยเล็กๆ ขนาด 2 เลน รถขับสวนกันได้ ภายในเป็นบรรยากาศของบ้านพักอาศัย
จากซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) เข้ามาประมาณ 160 เมตร เราก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่า
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บรรยากาศภายในซอยแบริ่ง 14 จะยังคงเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบค่ะ มีทั้ง อพาร์ทเม้นท์, ตึกแถว, ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว จะเห็นว่ามีคอนโดขึ้นอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนมากจะเป็นคอนโดแบบ Low rise นอกจากนี้บริเวณโดยรอบโครงการบางส่วนก็จะยังคงมีผืนที่ดินเปล่าหลงเหลืออยู่ด้วย
เรามาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันค่ะว่าจะมีบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง
เริ่มจากที่หน้าโครงการกันเลย ตรงข้ามกับตัวโครงการเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล สูง 2 ชั้นค่ะ
มองไปทางฝั่งขวามือ ถนนหน้าโครงการจะเชื่อมต่อไปยังซอยแบริ่ง 16
ที่ดินติดกับตัวโครงการเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัว สูง 2 ชั้น
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด Low rise เหมือนกัน สูง 8 ชั้นค่ะ
เราเดินออกมาที่ซอยแบริ่ง 16 แล้วหันกลับเข้าไปทางซอยทางเชื่อม
มองไปทางฝั่งขวามือในซอยแบริ่ง 16 เห็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้นโครงการเดิมอยู่ตรงหัวมุม
มองไปทางฝั่งซ้ายมือบ้าง จะมีร้านเบเกอรี่อยู่ตรงหัวมุมพอดีค่ะ บรรยากาศภายในซอยแบริ่ง 16 ก็เป็นบ้านพักอาศัยเหมือนกันดูเงียบสงบดี
กลับมาที่หน้าโครงการ เราเดินออกไปทางฝั่งซ้ายมือกันบ้าง
ที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการมีร้านขายของชำอยู่ 1 ร้าน ขาดตกอะไรเล็กๆ น้อยๆ มาซื้อตรงนี้ก็ได้ค่ะสะดวกดี
จากถนนหน้าโครงการเรามองตรงออกไป ถ้าเดินเราตรงไปเรื่อยๆ จะถนนหน้าโครงการสามารถเชื่อมได้ถึงซอยแบริ่ง 10 เลย ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเข้าสู่ซอยสันติคาม 13 และฝั่งขวามือจะเข้าสู่ซอยแบริ่ง 14
เข้ามาดูภายในซอยสันติคาม 13 กันก่อน พื้นที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการจะเป็นโรงงานและโกดังเก็บของค่ะ
ส่วนพื้นที่ที่ติดกับโครงการด้านหลังจะเป็นร้านกาแฟ บรรยากาศตกแต่งเหมือนบ้านดูดีทีเดียว วันไหนก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาอุดหนุนกาแฟพร้อมหอบงานหรือหนังสือมานั่งอ่านด้วยไปพลางๆ ที่นี่เขาขายอาหารเช้าและอาหารเที่ยงด้วยนะคะ
คราวนี้เราจะเดินกลับเข้าไปในซอยแบริ่ง 14 และเดินตรงออกไปยังหน้าปากซอยกันค่ะ
ออกมาที่หน้าปากซอยเจอซอยสุขุมวิท 107 หรือแบริ่งตัดผ่านด้านหน้านั่งเอง
ที่ฝั่งตรงข้ามมี 7 – Eleven และตลาดมิ่งเป็นความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้ที่สุดของตัวโครงการค่ะ เพราะในตลาดมิ่งจะมีซุ้มขายอาหารอยู่มากมายหลายร้านในราคาย่อมเยา แต่ตลาดจะเปิดในช่วงบ่ายแก่ๆ นะ
ทางฝั่งขวามือของหน้าปากซอยแบริ่ง 14 จะมีร้านอาหารและร้านชานมไข่มุกด้วยค่ะ เดินออกมาเพียง 160 ม.เท่านั้นเอง
มีร้านก๋วยเตี๋ยหมูต้มยำ, เย็นตาโฟ และอาหารตามสั่ง
จากหน้าปากซอยแบริ่ง 14 เราจะเดินมุ่งหน้าออกไปทางถนนสุขุมวิทด้วยกันเลย
เดินมาจากหน้าปากซอยไม่ไกลเราจะเจอ รร.อนุบาลบ้านหนู
ข้างกันคืออพาร์ทเม้นท์สูง 10 ชั้นค่ะ
ติดกับอพาร์ทเม้นจะมีเวิ้งร้านค้าและร้านอาหารอยู่หลายร้าน มีทั้งร้านถ่ายเอกสาร, ร้านขายยา, ร้านนวด, ร้านขายผ้าม่าน, ร้านซาลอน, ร้านข้าวมันไก่, ก๋วยเตี๋ยวเรือ, ส้มตำ และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ก็ยังมีร้าน Family Mart อีก 1 สาขา
เดินไปเรื่อยๆ เราจะเจออาคารพาณิชย์ด้านหน้าหมู่บ้าน Fantasia Villa 2 มีทั้งร้านอาหาร
คลีนิกรักษาสัตว์, ร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยง, ร้านนวดแผนไทย – สปา, ร้านซักรีด, คลีนิกเวชกรรม, ร้านขายยา
ทางเข้า – ออกหมู่บ้าน Fantasia Villa 2 ค่ะ
ที่ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านก็มี 7 – Eleven อยู่อีก 1 สาขา
เราเดินตรงไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงซอยแบริ่ง 6 มองไปที่ฝั่งตรงข้ามจะเห็นสำนักงานขายของโครงการค่ะ
หากใครที่สนใจต้องการเข้าชมโครงการและห้องตัวอย่าง สามารถมาติดต่อพนักงานฝ่ายขายได้ที่นี่เลยค่ะ
ตอนนี้เราเดินมาถึงช่วงซอยแบริ่ง 4 กันแล้วซึ่งเป็นช่วงปากซอยที่มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ฝั่งซ้ายมือของเราจะเป็นตึกแถวยาวไปตลอด ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าและร้านอาหาร
มีห้างทองและมีร้านขายบะหมี่หมูแดง ซึ่งจะเปิดตอนช่วงบ่ายๆ
มีร้านนวดและร้านขายอาหารอีสาน
ฝั่งตรงข้ามจะมีร้านอาหารอีสานอีก 1 ร้าน
เดินไปอีกหน่อย เราก็จะเจอร้านอาหารญี่ปุ่น เปิดตอนช่วงบ่ายเหมือนกัน
ฝั่งตรงข้ามข้างๆ ร้านทำป้ายมีร้านขายกาแฟและเบเกอรี่ร้านเล็กๆ อีก 1 ร้าน
ติดกันเลยมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสและอาหารตามสั่ง
ร้านขายข้าวต้มปลา, เย็นตาโฟ หรือจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำก็มี
ข้างกันนั้นเองมีร้านอาหารญี่ปุ่นอีก 1 ร้าน สายๆ หน่อยก็เปิดให้บริการแล้ว
พวกร้านด้านงานไปรษณีย์ ส่ง EMS ถ่ายเอกสาร ทำตรายาง ก็มีหมดเลย สะดวกมากๆ ค่ะ
เดินมาถึงซอยแบริ่ง 2 ตรงนี้จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงเพิงเดียวกันร้านขายข้าวมันไก่ค่ะ
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะมีร้านขายยา ด้านหน้าร้านขายพวกของใช้ในบ้าน และขายพวกชากาแฟใส่ถุงกระดาษ
พวกร้านแผงลอยขายอาหารก็มีค่ะ ทั้งหอยทอด – ผัดไท, ปลาทอด, ยำ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่ตอนเช้าจะยังไม่มาตั้งแผงกัน
มองไปฝั่งตรงข้าม ตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของ รร. นานาชาติ St.Andrew
จะเห็นว่าช่วงปากซอยนี่คึกคักดีจริงๆ ค่ะ มีร้านขายของและขายอาหารอยู่ตลอดทางเลย ที่เห็นอีกก็จะมี ร้านขายปลาหมึกย่าง, ร้านให้เช่าหนังสือ, ร้านขายยา, ร้านขายโจ๊ก – ก๋วยจั๊บน้ำใส และเกาเหลาเลือดหมู
ที่ฝั่งตรงข้ามช่วงปากซอยจะมีอาคารพาณิชย์สำหรับเช่า มีทั้งร้าน Watson, ร้านชาพะยอม หรือจะเป็นคลีนิกทันตกรรมก็มี
ตอนนี้เราเดินออกมาจนถึงหน้าปากซอยแล้วค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้าย ข้างหน้าจะมี 7-Eleven อยู่ 1 สาขา เดินมาได้ไม่ไกล นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านอยู่บริเวณใกล้ๆ กันอีกด้วย
หันไปทางฝั่งขวา ถ้าเราจะเดินไปสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง เราจะต้องเดินข้ามถนนไปนะ ซึ่งตรงนี้จะไม่มีทางม้าลายให้ ต้องอาศัยจังหวะตอนไฟแดงเอาค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
ตัวโครงการเป็น Low rise Condominium สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 137 ยูนิต บนเนื้อที่ 0-3-62 ไร่ สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่ลงตัวด้วยการออกแบบให้เข้ากับชีวิตในเมืองมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกผ่อนคลาย ห่างจากความวุ่นวายโดยไม่ต้องไปไหนไกล ทั้งนี้ทางโครงการมีการปรับปรุงแบบจากเมื่อ 2 ปีก่อน เพิ่มพื้นที่จอดรถ, ระบบ Automatic Parking System และปรับขนาดของ Function และ Furniture ภายในห้องให้ดียิ่งกว่าเดิมด้วยค่ะ เดิมทางโครงการใช้ชื่อ The Urban Attitude Bearing 14 (ดิ เออเบิ้ล แอทติจูด แบริ่ง 14) แต่ภายหลังปรับให้ชื่อสั้นลงจึงทำให้ฟังแล้วติดหูมากยิ่งขึ้น
ผังโครงการ
เรามาดูผังโครงการด้วยกันก่อนค่ะ โครงการจะมีทางเข้า – ออก 1 จุดทางซอยแบริ่ง 14 บริเวณทางเข้าโครงการจะมี Security จุดแรกประกอบด้วย ป้อมรปภ., ระบบ Key Card Access, รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV พอเข้ามาภายในโครงการจะเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมด ทั้งแบบ Conventional Parking System และ Automatic Parking System คิดเป็น 40 % (รวมจอดซ้อนคัน) โดยรถสามารถวิ่งสวนกันได้
จากพื้นที่จอดรถ จะสามารถเข้าสู่ตัวอาคารได้ด้วยระบบ Key Card Access เข้าไปสู่ Corridor มีโถงลิฟท์และ Mailbox อยู่ทางฝั่งซ้ายมือและห้องนิติบุคคลทางขวามือ จากชั้น 1 จะมีบันไดสามารถเดินเชื่อมสู่ Lobby ที่ชั้น 2 ได้เลย จุดนี้จะสะดวกสำหรับ Visitor และเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกบ้านเพราะ Visitor จะไม่ต้องใช้ลิฟท์ค่ะ
จากชั้น 1 เดินขึ้นบันไดเชื่อมขึ้นมายังชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ Lobby&Co-working Space และ Library เป็นจุดสำหรับการนัดพบหรือนั่งทำงานอ่านหนังสือได้ แต่ถ้าจะเข้าสู่ Residential Zone จะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูผ่านโถงลิฟท์เข้าไปค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่า Visitor จะสามารถเข้าสู่ Residential Zone ได้เลย โดยที่ชั้น 2 นี้จะมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 18 ยูนิต
ดูภายในโถงลิฟท์มีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว เป็นลิฟท์ที่ใช้ระบบระบุชั้นช่วยเพิ่มความส่วนตัวมากขึ้น เทียบอัตราส่วนระหว่างจำนวนห้องพักและลิฟท์ได้ 69 : 1 เป็นตัวเลขที่ถือว่าได้ Traffic ในการใช้ลิฟท์ที่ไม่แออัดแล้วค่ะ
ตั้งแต่ชั้น 3 – 7 จะเป็น Residential Zone ทั้งหมด (เป็นผังอาคารแบบ Typical Floor Plan) ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนทั้งหมด 21 ยูนิตด้วยกัน โดยมีห้องพักขนาด 2 Bedrooms อยู่เพียง 2 ห้อง/ชั้นเท่านั้น จะเป็นห้องมุมบนซ้ายและขวาอย่างละห้องค่ะ จะเห็นว่าทางโครงการวาง Core เอาไว้ตรงกลางอาคารพอดีทั้งโถงลิฟท์และบันไดหนีไฟ ทำให้ทั้ง 2 ปีกฝั่งเหนือ – ใต้มีความเป็นส่วนตัวพอๆ กัน
ชั้นที่ 8 จะแบ่งพื้นที่ปลายตัว U ฝั่งซ้ายมาเป็นส่วน Facilities ของโครงการค่ะ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ ภายในแบ่งสระเด็กให้, สวนหย่อม, ฟิตเนส และซาวน่า จากส่วน Facilities จะมีบันไดสามารถเดินเชื่อมสู่ชั้นดาดฟ้าได้ ห้องพักของชั้น 8 นับว่าโชคดีกว่าชั้นอื่นตรงที่มีจำนวนยูนิตที่น้อยลงเหลือ 14 ยูนิตทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แถมพอเดินผ่านโถงลิฟท์ออกมาก็สามารถใช้งาน Facilities ได้แล้ว
ชั้นดาดฟ้าเป็นชั้นที่ต้องเดินขึ้นมานะคะเพราะว่าลิฟท์มาไม่ถึงแล้ว พื้นที่ทั้งหมดจัดเป็นส่วนหย่อมแบ่งเป็นโซน BBQ และโซน Garden หรือเราจะใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์อย่าง Jogging Track หรือลานสำหรับเล่นโยคะก็ได้ค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 2 แบบหลักๆ ด้วยกันดังนี้ค่ะ
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อม ผ้าม่าน, เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องกันเลยค่ะ
ห้อง 1 Bedroom A1M ขนาด 26.24 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom B2C ขนาด 31.72 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus B4 ขนาด 34.65 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedrooms C1 ขนาด 51.43 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedrooms C2 ขนาด 53.26 ตร.ม.
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
ตอนนี้เรามาอยู่ที่หน้าโครงการกันแล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูรายละเอียดภายในโครงการด้วยกันเลย
นี่คือทางเข้า – ออกของโครงการค่ะ การเข้า – ออกจะต้องผ่านป้อมรปภ., ระบบ Access card, กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก
ลูกบ้านที่ถือ Key Card จะสามารถเปิดรั้วไม้กระดกผ่านเข้าไปภายในโครงการได้เลย แต่ถ้าเป็นบุคคลภายนอกจะต้องทำการแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ
เครื่องจับสัญญาณ Key Card ค่ะ
ภาพมองย้อนกลับไปที่ทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
พอเข้ามาภายในโครงการแล้ว ที่ชั้นล่างนี้จะเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมดค่ะ โดยทางจะแยกออกไป 2 ฝั่งแบบนี้
เราเดินตรงไปข้างหน้ากันก่อน
เดินตรงไปเรื่อยๆ จนสุดจะเป็นพื้นที่จอดรถแบบ Automatic Car Park ค่ะ สามารถจอดรถไซส์ทั่วๆ ไปได้ แต่สำหรับพวก Super Car นี่จะยาวเกินนะ
ถ้าเราเลี้ยวขวาก็จะเป็นพื้นที่จอดรถแบบ Conventional ค่ะ
:: LOBBY, CO-WORKING SPACE, MAILBOX AND GARDEN ::
ทางฝั่งซ้ายมือของเราจะมีประตูกระจกที่เปิดเข้าสู่ภายในตัวอาคาร
การเข้า – ออกตัวอาคารตั้งแต่ประตูแรกจนไปถึงชั้นห้องพักอาศัยจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูทั้งหมดค่ะ
เข้ามาภายในตัวอาคารส่วนแรกเป็นโถงทางเดินเชื่อมกับพื้นที่ส่วนต่างๆ
ฝั่งซ้ายมือคือประตูบานเลื่อนอัตโนมัติเข้าสู่โถงลิฟท์และตู้ Mailbox
ส่วนฝั่งขวามือคือห้องนิติบุคคล, บันไดทางขึ้น Lobby ที่ชั้น 2 และประตูเปิดออกสู่สวนพักผ่อนค่ะ
ประตูฝั่งซ้ายมือที่เป็นประตูกระจกบานเปิดคู่จะเป็นประตูที่สามารถเปิดออกสู่สวนพักผ่อนได้
บรรยากาศภายในสวนพักผ่อนค่ะ เป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวอีกจุกหนึ่งภายในโครงการ ฝั่งขวามือเป็นผนังกระจกของโถงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งเวลาเดินขึ้นชั้น 2 ก็จะได้วิวจากสวนพอดี
กลับเข้ามาภายในตัวอาคาร เราเดินขึ้นไปที่ Lobby บนชั้น 2 กันต่อ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ Lobby และ Co-working Space อยู่รวมกัน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการนับพบปะหรือใช้นั่งทำงานอ่านหนังสือได้ แถมยังมี Wi-fi ให้ใช้ฟรีด้วยนะ
ในส่วนนี้ทางโครงการได้จัดเตรียมชุดโต๊ะ – เก้าอี้ และโซฟาเอาไว้ให้พอสมควรเลย
มองไปที่อีกฝั่งนึงเป็นโต๊ะบาร์สำหรับนั่ง Study ส่วนตัวหน่อย
และมีมุม Library อยู่อีกส่วนนึงค่ะ
:: LIFT HALL AND CORRIDOR ::
จากพื้นที่ Lobby และ Co-working Space จะมีประตูเชื่อมสู่โถงลิฟท์และส่วน Residential Zone ของชั้น 2 ค่ะ ในส่วนของโถงลิฟท์เราสามารถผลักประตูเข้าไปได้เลย
แต่ในส่วนของ Residential Zone จะต้องใช้ Key Card (ของเฉพาะชั้นนั้นๆ) ในการเปิดผ่านประตูเข้าไปค่ะ
ภายในโถงลิฟท์มีลิฟท์โดยสารให้อยู่ 2 ตัว คิดอัตราส่วนได้ 69 : 1 ถือว่า Traffic การใช้ลิฟท์ค่อนข้างโล่งทีเดียว ไม่ต้องรอลิฟท์นานค่ะ
ทางโครงการใช้ลิฟท์ของ Kone สามารถบรรจุได้ถึง 800 กก.หรือประมาณ 10 คน/เที่ยว โดยลิฟท์ที่ใช้ก็เป็นลิฟท์แบบระบุชั้นนะคะ จะต้องสแกนคีย์การ์ดก่อนจึงจะสามารถกดเลือกชั้นของตัวเองได้
ตอนนี้เราเข้าสู่ Residential Zone กันแล้ว มีการตกแต่งแบบง่ายๆ เพื่อปรับโหมดเข้าสู่ห้องพักค่ะ
ภายในโถงทางเดินกว้างประมาณ 1.2 เมตร ติดไฟให้เป็นระยะๆ
ตรงตรงไปจนสุดโถงเจอห้อง 2 Bedrooms เลี้ยวซ้ายจะเป็นปลายตัว U
พื้นที่ข้างๆ โถงลิฟท์มีประตูบันไดหนีไฟ 2 บานค่ะ สำหรับปลายตัว U ฝั่งซ้ายและขวา
:: SWIMMING POOL, FITNESS, SAUNA AND ROOFTOP GARDEN ::
คราวนี้เราขึ้นมาที่ชั้น 8 เราไปดูส่วน Main Facilities ของโครงการกันต่อค่ะ
ออกมาจากส่วนโถงลิฟท์จะเป็นพื้นที่ Outdoor มีบันไดทางเชื่อมขึ้นไปยังส่วนสระว่ายน้ำและชั้นดาดฟ้า
เราเข้าไปดูในส่วนของห้องฟิตเนสกันก่อนค่ะ ตามด้วยห้องน้ำที่อยู่ข้างๆ
ภายในห้องฟิตเนสมีพื้นที่ขนาดกำลังพอดี มีเครื่องออกกำลังกายจัดเอาไว้ให้เต็มห้อง
ซึ่งจะสามารถแบ่งเครื่องออกกำลังกายได้เป็น 2 ส่วน ก็คือส่วน Cardio และส่วน Weight Training ค่ะ
เครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้า
เครื่องออกกำลังกายแบบ Weight Training สำหรับออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ 1 เครื่อง, ม้านั่งราบสามารถปรับระดับได้ 1 ตัว
และชุดดัมเบลค่ะ มีน้ำหนักให้ใช้ถึง 30 กก.
การใช้ห้องฟิตเนสจะต้องนำคีย์การ์ดมาเสียบเอาไว้ที่ช่องเสียบบัตรที่เตรียมเอาไว้ให้ ไฟและเครื่องปรับอากาศถึงจะทำงานค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะใช้รวมชาย – หญิง ห้องเป็นแบบ Powder Room นะ ไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย
และข้างๆ ห้องฟิตเนสก็จะมีห้องซาวน่าให้อีก 1 ห้อง เป็นห้องแบบใช้รวมไม่แยกชาย – หญิง
ภายในห้องซาวน่าค่ะ
คราวนี้เราเดินขึ้นบันไดไปดูสระว่ายน้ำกันต่อเลย
เดินขึ้นมาถึงข้างบนจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ เป็นสระสระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool ชมวิวเมืองได้โดยรอบ ขนาด 4 x 14 เมตร ลึก 1.2 เมตร
ภายในสระแบ่งเป็นสระเด็กให้ด้วยค่ะ ขนาด 2.5 x 4.5 ลึก 30 ซม.เด็กเล็กๆ สามารถลงเล่นได้อย่างปลอดภัยแต่จะต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยนะ
ภายในสระทำเก้าอี้นั่งเอาไว้ให้นั่งแช่น้ำชมวิว
วิวที่ได้จากภายในสระค่ะ จะเห็นว่าในบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการยังไม่มีตึกสูงขึ้นนะ ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพค่ะ
ส่วนพื้นที่ข้างๆ สระจัดเป็นสวนหย่อมให้พร้อมกับชุดเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
คราวนี้เราขึ้นไปดูชั้นดาดฟ้ากันต่อเลยค่ะ
ชั้นดาดฟ้าเป็นชั้นที่ต้องเดินขึ้นมานะคะเพราะว่าลิฟท์มาไม่ถึงแล้ว พื้นที่ทั้งหมดจัดเป็นส่วนหย่อมแบ่งเป็นโซน BBQ และโซน Garden หรือเราจะใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์อย่าง Jogging Track หรือลานสำหรับเล่นโยคะก็ได้
ทางโครงการจัดเตรียมชุดโต๊ะ – เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนให้บางส่วนด้วย
ซึ่งจากบนชั้นดาดฟ้าจะมีประตูบันไดหนีไฟ สามารถใช้ลงตรงไปถึงชั้นล่างได้เลยค่ะ
จากชั้นดาดฟ้า มองออกไปเห็นวิวทางฝั่งทิศตะวันออก
วิวทางฝั่งทิศใต้
จากบริเวณชั้นดาดฟ้ามองไปทางฝั่งสระว่ายน้ำ
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่างด้วยกัน 2 แบบ นั่นก็คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.67 ตร.ม. และ ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 51.43 ตร.ม. ห้องของที่นี่จะขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมผ้าม่าน, เครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type และยังแถมเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ด้วยนะคะ มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย
::: แบบ 1 Bedroom ขนาด 34.63 ตร.ม. :::
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.67 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรสำหรับห้องประเภท 1 Bedroom มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างชัดเจน ทั้งโซน Common Area, ห้องครัว และห้องนอน โดยห้องครัวจะได้เป็นครัวแบบปิดเชื่อมต่อกับส่วนระเบียง ข้อดีก็คือช่วยให้กลิ่นจากการปรุงอาหารไม่คละคลุ้งไปทั่วห้องและสามารถระบายอากาศผ่านทางระเบียงได้ดีทีเดียว
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., พื้นครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ชั้นวางทีวี, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตพร้อมฟูก, ตู้เสื้อผ้า Built-in, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก American Standard, ผ้าม่าน, เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้ง ทีวี, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า ไปชมห้องด้วยกันเลย
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป ติด Digital Door Lock ของ Be-Tech ให้
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย
เข้าไปภายในห้องจะเจอ Common Area ก่อนเลยค่ะ ที่ท้ายห้องฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องครัวซึ่งเชื่อมส่วนระเบียง และที่ท้ายห้องฝั่งขวามือจะเป็นห้องนอน ส่วนผนังของห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีค่ะ
ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.4 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED มาให้เหมือนกันทั้งหมด ส่วนแอร์ที่ได้มากับตัวห้องจะเป็นแบบ Wall Type ติดเอาไว้ให้บริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัวและห้องนอนอีก 1 ตัว
เรามาดูรายละเอียดในส่วนของ Common Area กันต่อ
ในห้องนั่งเล่นเราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ข้างๆ ยังพอเหลือพื้นที่ให้วางโคมไฟหรือวางโต๊ะข้างได้อีก 1 ตัว
ส่วนฝั่งชั้นวางทีวีเราจะได้ชั้นว่างทีวี Built-in และทีวี ขนาด 42 นิ้วตามนี้เลยค่ะ
หน้าบานของ Built-in ปิดผิวด้วยลามิเนตสีอ่อน มีดีเทลที่ปลายบานเปิด ทำให้สามารถเปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องติดตั้งที่จับ
โดยมีระยะดูทีวีอยู่ประมาณ 2.3 เมตรได้ค่ะ ถือว่ากำลังดีไม่แคบจนเกินไป
เรามาดูมุมรับประทานอาหารกันต่อ
เราจะได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้อีก 2 ตัวมาแบบนี้เลย สามารถจัดเข้ามุมได้พอดีตามที่ห้องตัวอย่างจัดวางให้ดูค่ะ
เดินมาถึงส่วนท้ายของห้องจะเชื่อมต่อกับห้องครัวและห้องนอน
ประตูทางเข้าห้องครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 บาน โดยส่วน Common Area จะได้รับแสงธรรมชาติผ่านทางระเบียงและห้องครัวค่ะ
ใช้มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. จุดนี้เป็นข้อดีเพราะสามารถเช็คทำความสะอาดพวกละอองน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า
นี่คือหน้าตาเคาน์เตอร์ครัวที่เราจะได้มากับตัวห้องค่ะ นอกจากนี้เราก็จะได้ตู้เย็นและไมโครเวฟให้พร้อมเลย
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นท็อปกระเบื้องสีดำพร้อมอ่างล้างจานและเตาปรุงอาหาร ใต้เคาน์เตอร์พอจะมีช่องให้เก็บของและวางเตาไมโครเวฟได้
ส่วนอ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหาร และเครื่องดูดควันได้ของ Teka ค่ะ
อ่างล้างจานทรงกลมขนาดใหญ่พร้อมก๊อกน้ำทรงสูงใช้งานได้สะดวก หัวสามารถหมุนปรับซ้าย – ขวาได้
เตาที่ได้เป็นเตาเซรามิกขนาด 2 ห้องแบบนี้
ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องดูดควันตำแหน่งอยู่ตรงกันพอดี
นอกจากนี้ก็มีชั้นลอยสามารถเก็บของได้เพิ่มเติม
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้อง กั้นด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง
ตรงนี้ทางโครงการจะยกธรณีประตูขึ้นมาประมาณ 10 ซม.เพื่อกั้นส่วนพื้นภายใน – ภายนอก พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
พื้นที่ระเบียงมีขนาดพอเหมาะสำหรับวางเครื่องซักผ้า 1 เครื่องและการตากผ้าค่ะ ทางโครงการจะแถมเครื่องซักผ้าแบบฝาบนให้ 1 เครื่อง และตรงนี้ก็สามารถใช้แขวนคอยล์แอร์ได้ด้วย
ส่วนระเบียงติดไฟกิ่งที่ผนังมาให้แทนไฟดาวน์ไลท์ค่ะ
ภาพมองย้อนกลับเข้าไปภายในห้องครัว
ภาพมองย้อนกลับเข้าไปภายใน Common Area
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ ประตูห้องนอนจะเป็นบานเปิดสำเร็จรูปสีขาวติดมือจับแบบก้านโยกสแตนเลส
ภายในห้องนอนถือว่ามีขนาดกำลังดีค่ะ ภายในห้องทางโครงการให้ทั้ง เตียงนอนพร้อมฟูก, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้พร้อมเลย
เตียงนอนที่โครงการให้มีขนาด 5 ฟุตค่ะ ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังพอดีกับพื้นที่ห้องเลย
พอวางเตียงแล้วก็จะเหลือพื้นที่สำหรับเป็นทางเดินสามารถเดินผ่านได้สะดวก
ถ้าใครที่ต้องการติดตั้งทีวีภายในห้องนอนด้วยแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังเอานะคะ
มองไปที่ผนังฝั่งทางขวาของห้องนอน คือตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งที่ทางโครงการให้มากับตัวห้อง
โต๊ะเครื่องแป้งได้มาพร้อมสตูลค่ะ มีลิ้นชักและช่องเก็บของหลังกระจกเงาให้ด้วย
และตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐาน ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า, ชั้นเก็บของเหนือหัว และลิ้นชักเก็บของค่ะ
ลิ้นชักเก็บของภายในตู้เสื้อผ้า
และมือจับบานเปิดตู้ค่ะ
จะเห็นว่าพื้นที่ข้างเตียงก็ยังเหลือพอสำหรับการนั่งแต่งหน้าและยืนแต่งตัวด้วยนะ
นอกจากนี้ ภายในห้องยังได้ช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
หน้าต่างบานกระทุ้งค่ะ มือจับแบบก้านโยกมาตรฐาน
ออกมาจากห้องนอนเราหันไปทางซ้ายมือจะเห็นโถงหน้าห้องน้ำและประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ทางขวามือ
ในส่วนโถงทางโครงการติดตั้งบานเปิดคู่เพื่อกั้นเป็นพื้นที่เก็บของสำหรับห้องนี้ จุดนี้เป็นจุดเด่นอีกจุดของห้องนี้เลยค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องชนิดผิวด้านกันลื่นขนาด 60 x 60 ซม. ที่ประตูทำธรณีขึ้นมากั้นส่วนให้เรียบร้อย
ส่วนผนังในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม.จากพื้นจรดฝ้า จัดวางอ่างล้างมือที่หน้าห้อง ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทางโครงการใช้ของ American Standard ทั้งหมดค่ะ
เนื่องจากห้องน้ำไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ จึงต้องพึ่งระบบระบายอากาศของตัวอาคารค่ะ
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบแขวนผนัง อ่างมีขนาดกำลังดี สามารถวางพวกขวดสบู่และแปรงสีฟันได้บ้าง
และก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือ
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ ระยะการติดตั้งกว้างขวางทำให้นั่งสบาย
ติดตั้งมาพร้อมกับที่ใส่แกนกระดาษชำระ
และสายฉีดชำระ
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำค่ะ ทางโครงการก่อธรณีพร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered Glass มาให้เรียบร้อย
มือจับบานเปิดเป็นปุ่มๆ แบบนี้
ผนังด้านข้างก็ติดตั้งราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ อยู่ในตำแหน่งที่สามารถใช้งานได้สะดวก
พื้นที่ยืนอาบน้ำมีขนาดกระทัดรัดดีค่ะ ไม่เล็กจนเกินไปสำหรับคนไซส์เอเชีย
ที่ผนังด้านในติดตั้งชุด Rain Shower พร้อมฝักบัวสายอ่อนและจานวางสบู่มาให้แบบนี้เลยค่ะ
::: แบบห้อง 2 Bedrooms ขนาด 51.43 ตร.ม. :::
ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 51.43 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 2 – 3 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างชัดเจนระหว่างโซน Common Area และห้องนอน ส่วนห้องครัวจะได้เป็นครัวแบบเปิดแทนค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., พื้นครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ชั้นวางทีวี, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตพร้อมฟูก, ตู้เสื้อผ้า Built-in, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก American Standard, ผ้าม่าน, เครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้ง ทีวี, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า ไปชมห้องด้วยกันเลย
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป
ติด Digital Door Lock ของ Be-Tech ให้
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย
พอเข้าไปในห้องเราจะเจอส่วนโถงทางเดินเชื่อมต่อเข้าสู่บริเวณ Common Area และส่วนอื่นๆ ของห้อง ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED มาให้เหมือนกันทั้งหมด ส่วนแอร์ที่ได้มากับตัวห้องจะเป็นแบบ Wall Type ติดเอาไว้ให้บริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัวและห้องนอนอีกห้องละ 1 ตัว
ที่ฝั่งซ้ายมือของโถงทางเดิน ทางโครงการทำชั้นวางรองเท้า Built – in มาให้แบบนี้ อยู่ในตำแหน่งที่ดีสามารถใช้งานได้สะดวก
จากโถงทางเดินตรงเข้ามาภายใน Common Area ทางฝั่งซ้ายมือมีโถงทางเดินไปสู่ห้องน้ำและห้องนอนอีก 2 ห้อง
ภาพมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง เดี๋ยวเราจะไปเริ่มดูจากห้องครัวกันก่อน
ห้องครัวของห้อง 2 Bedrooms จะได้เป็นครัวเปิดเป็นเคาน์เตอร์ L – shape แบบนี้ค่ะ
ในส่วนของวัสดุ, อ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหาร และเครื่องดูดควัน ได้มาในสเป็คเดียวกันกับห้อง 1 Bedroom ค่ะ
ถัดจากห้องครัวเรามาดูส่วนรับประทานอาหารกันต่อ
ทางโครงการให้ชุดโต๊ะ – เก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่งมาให้ด้วยแบบนี้เลยค่ะ
ถัดจากส่วนรับประทานอาหารก็คือห้องนั่งเล่นค่ะ
ซึ่งตรงนี้เราก็จะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
และชั้นวางทีวีพร้อมทีวีติดตั้งมาให้เรียบร้อย
จากส่วนห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้องผ่านประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ส่วน Common Area ดูสว่างและโปร่งโล่ง
พื้นระเบียงติดตั้งกระเบื้องเซรามิกมาให้เหมือนเดิม แต่พื้นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นพอสมควร
ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ก็เป็นจุดที่ใช้สำหรับการวางเครื่องซักผ้าและการวางคอยล์แอร์ด้วย
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
เราจะเข้าไปดูห้องน้ำและห้องนอนในส่วนโถงกันต่อเลย
เริ่มจากห้องน้ำที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือของโถง
ภายในห้องน้ำมีการใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนเดิมทุกประการค่ะ เพียงแต่เลเอ้าท์ของห้องจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตรงที่โซนอาบน้ำจะย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามของอ่างล้างหน้าแทน
อ่างล้างมือรุ่นเดิมค่ะ ติดตั้งมาพร้อมกับกระจกเงา
โถสุขภัณฑ์ระยะการติดตั้งกว้างขวางทำให้นั่งได้สบาย
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับอ่างล้างมือก็คือโซนอาบน้ำ ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เหมือนเดิม
พื้นที่ยืนอาบน้ำมีขนาดกระทัดรัดตามสัดส่วนของชาวเอเชียอย่างเราๆ
ที่ผนังด้านในติดตั้งชุด Rain Shower พร้อมฝักบัวสายอ่อนมาให้แบบนี้เลยค่ะ
เราเทียบขนาดหัวฝักบัวให้ดูกับอุ้งมือ อีขนาดใหญ่กำลังดีเลย
ตามด้วยห้องนอนเล็กที่อยู่ทางฝั่งขวามือของโถง
แม้จะเป็นห้องนอนเล็กแต่พื้นที่ห้องนอนนี้ก็สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างครบถ้วน
ส่วนแรกคือตู้เสื้อผ้า Built-in ค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนของเตียงนอน ซึ่งทางโครงการให้เตียงขนาด 3 ฟุตพร้อมฟูกมาด้วย
นอกจากนี้ ภายในห้องยังได้ช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
และสุดท้ายคือห้องนอนใหญ่อยู่ตรงกลางโถงทางเดินค่ะ
ห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่มาพอสมควรเลยค่ะ ทางโครงการจึงให้เตียงนอนพร้อมฟูกขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาให้แบบนี้
ตู้เสื้อผ้าค่ะ มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกครึ่งนึง
และเตียงนอนพร้อมฟูกค่ะ จริงๆ แล้วสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยนะ
จะเห็นว่าพื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่เยอะมากแต่ก็ยังพอใช้เดินผ่านได้ ถ้าใครต้องการติดตั้งทีวีด้วยแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังค่ะ
และจะเห็นได้ว่าห้องนี้เป็นอีกห้องนึงที่มีความสว่างพอสมควร เพราะได้ช่องแสงมาถึง 2 ด้านเลย
ภาพมองย้อนกลับไปที่ทางเข้าห้อง
ข้อดีของห้องนอนใหญ่อีกข้อก็คือเป็นห้องที่มีห้องน้ำให้ในตัวด้วย
ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะไม่ต่างจากห้องที่แล้วเลยค่ะ แต่ดียิ่งกว่าตรงที่ห้องนี้มีหน้าต่างกระจกฝ้าสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์เป็นโซนอาบน้ำ ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้พร้อม
นอกจากนี้ทั้งสวิตช์และปลั๊กไฟใช้ของ Panasonic
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กันยายน 2561) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Attitude แบริ่ง ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 14 เข้ามาจากซอยสุขุมวิท 107 เพียง 160 เมตร ซึ่งยังเป็นช่วงต้นๆ ซอย มีความคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์สูง สามารถหาของกินได้ง่ายในระยะเดิน ถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจอีกทำเลนึงเพราะเดินทางสะดวกใกล้จุดขึ้นทางด่วนถึง 3 จุด และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง 1.1 กม. อีกทั้งโซนแบริ่งเองก็อยู่ใกล้ศูนย์ความเจริญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และราคาที่ดินก็ยังไม่แพงมากนัก อยู่ในจุดที่สามารถจับต้องได้
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางได้สะดวก เพราะซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ และสามารถเชื่อมกับซอยลาซาลไปออกถนนบางนา – ตราดได้อีกด้วย ซึ่งตรงซอยลาซาล 55 พอออกเส้นบางนา – ตราดแล้วกลับรถไปทางฝั่งขาออกเมือง ก็จะเจอเซ็นทรัลบางนาและจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีพอดี ใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีได้สะดวก ใช้เป็นเส้นทางในการหลีกเลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีทางด่วนให้เลือกใช้ได้อีก 3 สาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 – 30 นาที วิ่งตรงสู่พระราม 4, สาทร, สีลม หรือส่วนอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ได้เลยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ บนซอยสุขุมวิท 107 จะมีวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ใกล้กับ BTS สถานีแบริ่ง 1.1 กม. ซึ่งทางโครงการมีบริการ Shuttle Service ไปส่งถึงตัวสถานี อีกทั้งในอนาคตมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง อีกด้วยใกล้กับโครงการจะเป็นสถานีศรีแบริ่งค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโด Low rise สูง 8 ชั้น มี 1 อาคาร เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 137 ยูนิต บนเนื้อที่ 0-3-62 ไร่ สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่ลงตัวด้วยการออกแบบให้เข้ากับชีวิตในเมือง วางผังอาคารเป็นรูปตัว U และจัดห้องพักอาศัยแบบ Double Corridor ปลายโถงฝั่งนึงช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้โถงทางเดินไม่มืดทึบ มีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 21 ห้อง/ชั้น
ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัว ด้วยการออกแบบฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร ทำให้ห้องมีภาพรวมที่ดูโปร่งโล่ง แปลนห้องส่วนใหญ่จะแบ่งส่วน Common Area และห้องนอนออกจากกันเป็นโซน จึงได้ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ถ้าเป็นห้องนอนแบบ 1 Bedroom จะได้ครัวแบบปิดด้วย แต่ถ้าเป็นห้อง 2 Bedrooms จะได้เป็นครัวเปิดจัดอยู่ในส่วนเดียวกันกับ Common Area ค่ะ เสียอย่างที่ห้องน้ำจะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย (มีให้เฉพาะห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ของห้อง 2 Bedrooms)
ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Furnished ตกแต่งมาครบพร้อมเข้าอยู่ รวมถึงผ้าม่าน, เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือว่าให้มาอย่างเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ ที่ชั้น 2 มีส่วน Lobby, Co – working Space และ Library ขึ้นไปที่ชั้น 8 เป็น Main Facilities มี สระว่ายน้ำแยกสระเด็ก – สระผู้ใหญ่, ฟิตเนส, ซาวน่า และเชื่อมต่อขึ้นไปยัง Roof Garden เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ภาพรวมทำออกมาได้ดูดีทีเดียว
ที่จอดรถของทางโครงการมี 2 ระบบทั้งแบบ Conventional Parking System และ Automatic Parking System คิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน ส่วนภายในอาคารมีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารอยู่ที่ 69 : 1 เป็นตัวเลขที่กำลังดี Traffic ถือว่าน้อยค่ะ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วย กล้อง CCTV, Security Guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access Card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น และ Digital Door Lock ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: คะแนน ::::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.65 | อยู่ในซอยแบริ่ง 14 เพียง 160 ม.จากซอยสุขุมวิท 107 ภายในซอยคึกคัก เป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ สาธารณูโภคครบ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง และทางขึ้นทางด่วนอีก 3 จุด |
| การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | ซอยสุขุมวิท 107 เชื่อมต่อถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับซอยลาซาลเพื่อออกถนนบางนา-ตราดได้อีก อีกทั้งยังอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วน เข้าตัวเมืองได้สะดวกในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง |
| การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.8 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง 1.1 กม. ทางโครงการมีรถ Shuttle Service ให้ และอยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีเขียว |
| บ้านและวัสดุ | 7.9 | ห้องสไตล์โมเดิร์น แบ่งสัดส่วนห้องได้ดี ได้ห้องมาแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบ วัสดุสวยงามและได้มาตรฐานค่ะ |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.7 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้ค่อนข้างเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 7.9 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 3 คน เดิมอาศัยอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ หรือทำงานอยู่ในตัวเมือง ต้องการเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ ต้องการใช้งานส่วนกลางของโครงการที่ดีและหลากหลาย |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.79 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 0 2744 4114
WEBSITE : http://www.theurban-attitude.com/Bearing14/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2534 รีวิว อณาสิริ รัตนาธิเบศร์ / Anasiri Rattanathibet บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ Lagom ใกล้ MRT บางพลู และ Central Westgate 5 นาที* เริ่ม 5.59-9 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ วันนี้ Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ ‘อณาสิริ
EP.2533 รีวิว ไอเจ้นท์ พรีเมียม ทาวน์โฮม พระราม 2 EIGEN Premium Townhome Rama 2 ทาวน์โฮม 3 ชั้นพร้อมชั้นลอย ตรงข้าม Central พระราม 2 ใกล้ทางด่วน เริ่ม 4.39 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน
EP.2532 รีวิว ไลโอ เทพารักษ์-บางนา / Lio Thepharak-Bangna ทาวน์โฮมใหม่สไตล์ฝรั่งเศส ทำเลใจกลางเทพารักษ์ ใกล้ Mega บางนา, นิคมฯบางพลี และทางด่วน เริ่ม 2 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า เพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคน ใครที่กำลังมองหาทาวน์โฮมในทำเลศักยภาพ ที่สะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้ชิดธรรมชาติ
EP.2531 รีวิว แลนซีโอ คริป เทพารักษ์-บางปลา / Lanceo Crib Thepharak-Bangpra บ้านสไตล์ French Colonial รองรับ EV Changer ทุกหลัง ใกล้ Mega บางนา, นิคมฯบางพลี และทางด่วน เริ่ม 3.76-6 ล้าน* Written by : Pure Thitapa วันนี้ทีมงาน
EP.2530 รีวิว ชัยพฤกษ์ พระราม 2 CHAIYAPRUEK Rama 2 บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์ใหม่ พร้อม Private Courtyard ทุกหลัง ทำเลต้นพระราม 2 ใกล้ทางด่วนเชื่อมต่อพระราม 3-สาทรง่าย ในสังคมส่วนตัวเพียง 59 หลัง เริ่ม 13-18 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
โครงการใกล้เสร็จแล้ว พร้อมอยู่ต้นปี 61
ขายดาวน์ 120,000 บาท
The Attitude Bearing condo ใกล้ BTS Bearing
ตำแหน่งห้อง ชั้น 6 ห้อง 621
ห้อง 1 bedroom(ครัวปิด)
พร้อมเฟอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ผ่อนดาวน์ทั้งหมด 15 งวด
งวดที่ 1-14 งวดละ 5,000 บาท
งวดที่ 15(บลลูน) จ่าย 40,749 บาท สามารถรวมยอดกู้ธนาคารได้
ตอนนี้ดาวน์ไปทั้งหมด
ค่าจอง 10,000 บาท
ค่าทำสัญญา 40,000 บาท
ผ่อนงวดละ 5,000 บาท
ผ่อนไปแล้ว 14 งวด 70,000
ทั้งหมด 10,000 + 40,000 + 70,000 = 120,000 บาท
ขายดาวน์ 120,000 บาท ไม่+เพิ่ม
ราคาห้อง 1,845,821 บาท ถ้าผ่อนดาวน์ครบเหลือกู้ 1,685,072 บาท
สนใจติดต่อ
Line : jkop1992
Tel : 092-798-7597(เจ)
ราคาตอนนี้ถูกกว่าโครงการ
คอนโด 8 ชั้น มียูนิตเพียง 137 ห้อง
สนใจดูภาพแอดไลน์มาคุยกันได้ครับ