EP.1745 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ วิลเลจ หทัยราษฎร์-วงแหวนฯ The Village Hathairat-Wongwaen พร้อมฟังก์ชันสวน Dream Space
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo วันนี้เราจะพามาชมโครงการ The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ American Vintage Cottage จาก บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กันค่ะ โครงการตั้งอยู่บน ถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ล้อมรอบด้วยห้างสรรพสินค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น Fashion Island, The Promenade, Chic Republic รามอินทรา, Central รามอินทรา, Big C หทัยราษฎร์ และ Uniqlo มีนบุรี
การเดินทางเข้า – ออกเมืองสะดวกสบายด้วย ถนนหทัยราษฎร์, ถนนสุวินทวงศ์, ถนนคู้บอน, ถนนรามอินทรา และใกล้ทางด่วนจตุโชติเพียงไม่กี่นาที อีกทั้งยังไม่ไกลจาก รถไฟฟ้าสายสีชมพู (โครงการในอนาคต)
เดอะ วิลเลจ หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ American Vintage Cottage ที่มาพร้อมกับแนวคิด Happy Colonial Living ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา ใกล้ชิดธรรมชาติ บนพื้นที่โครงการ 27 ไร่ ให้ความเป็นส่วนตัวเพียง 130 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 – 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 – 5 ห้องนอน 2 – 3 ห้องน้ำ 2 – 4 ที่จอดรถ
มีแนวคิดการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยแบบยั่งยืน รองรับได้ทุกเจเนอเรชัน พร้อม Dream Space สามารถรองรับ Lifestyle, Second Job หรือขยับขยายครอบครัวได้ โดยโครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ เพื่อให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังอุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. กับ Security Gate, เข้า – ออกโครงการด้วยระบบ Access Card, CCTV และบริการ After Sales Service เพื่อให้บริการและดูแลลูกบ้านภายในโครงการ ราคาเริ่มต้นเพียง 4.39 ล้านบาท*
ชื่อโครงการ | เดอะ วิลเลจ หทัยราษฎร์-วงแหวนฯ The Village Hathairat-Wongwaen |
เจ้าของโครงการ | บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 27 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 130 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 50 ตร.ว. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | เริ่มต้น 140 – 161 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 – 5 ห้องนอน 2 – 3 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 – 4 คัน |
โซน | เขตคลองสามวา |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | บ้านพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 4.39 ล้านบาท* ก.ค.63 |
ค่าส่วนกลาง | 40 บาท/ตร.วา/เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้าและตลาด
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | บ้านเดี่ยวสไตล์ American Vintage Cottage 2 ชั้น ที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Dream Space ใกล้ทางด่วนจตุโชติ บนพื้นที่ความสุขแบบยั่งยืน กว้าง 140 – 1 61 ตร.ม. 4 – 5 ห้องนอน และ 1 ห้องอเนกประสงค์ จอดรถได้สูงสุดถึง 4 คัน พร้อมพื้นที่สวนข้างบ้านกว้าง 2.5 ม. ขึ้นไป และใกล้ชิดธรรมชาติด้วยสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
พิกัด : 13.895733, 100.711855
ทำเลที่ตั้ง โครงการ The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ ตั้งอยู่บนถนนไทยรามัญ บนทำเลศักยภาพใกล้โซนมีนบุรี (กรุงเทพตะวันออก) เป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้ถนนหทัยราษฎร์เพียง 1.1 กม. สามารถเชื่อมต่อ ถนนหทัยราษฎร์, ถนนสุวินทวงศ์, ถนนคู้บอน, ถนนรามอินทรา, ถนนร่มเกล้า และถนนรามคำแหง ได้ง่าย และจากถนนไทยรามัญก็สามารถวิ่งไปขึ้นทางด่วนจตุโชติได้ภายในไม่กี่นาที อีกทั้งโครงการยังอยู่ในระยะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ทำเลที่โครงการตั้งอยู่นั้นอยู่ใกล้กับชุมชนเมือง ที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น จึงมีแหล่ง Shopping ขนาดใหญ่ อาทิ Fashion Island, The Promenade, Chic Republic รามอินทรา, Central รามอินทรา รวมถึง โรงเรียน, โรงพยาบาล, หน่วยงานราชการ, ร้านค้า, ร้านอาหาร และตลาดสดอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากทำเลนี้สามารถเดินทางสะดวกสบายทั้งขาเข้าเมืองและขาออกเมืองค่ะ โดยโครงการอยู่บนถนนไทยรามัญ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อถนนหทัยราษฎร์ได้ในระยะ 1.1 กม. เป็นถนนใหญ่ขนาด 4 เลน ที่เชื่อมต่อกับถนนสุวินทวงศ์ สามารถใช้วิ่งเข้าถนนรามอินทรา มุ่งตรงไปทางหลักสี่ เชื่อมต่อกับถนนแจ้งวัฒนะ, เข้าถนนร่มเกล้า มุ่งตรงไปทางลาดกระบัง เชื่อมตรงเข้าสุวรรณภูมิ และสามารถใช้วิ่งเข้าถนนรามคำแหง – ถนนเสรีไทย มุ่งตรงไปทางบางกะปิ เชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าวได้
ถ้าจะเข้าเมือง จากถนนรามอินทราวิ่งไปจะมีทางเชื่อมไปออกถนนเกษตร – นวมินทร์ ใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางพหลโยธิน หรือเราจะเลี่ยงการจราจรขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ตรงไปออกสู่ลาดพร้าวและพระราม 9 ได้ง่ายค่ะ โดยทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ยังเป็นเส้นทางด่วนที่เชื่อมต่อไปยังทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร สายบางนา – ท่าเรือ ที่เป็นเส้นทางเข้าสู่พระราม 4, สาทร, สีลม และยังเชื่อมต่อกับทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมือง – โทลล์เวย์) ได้อีกด้วย
ทางด่วน จากโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนจตุโชติมากที่สุดค่ะ สามารถใช้วิ่งเชื่อมต่อลงไปยังรามอินทรา – อาจณรงค์เพื่อเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จะมีทางแยกก่อนขึ้นทางด่วนจตุโชติเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก เพื่อไปขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก โดยทางนี้ใช้วิ่งลงไปทางบางนา – สุวรรณภูมิได้สะดวกมาก
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้สะดวกนะคะ เพราะมี Taxi วิ่งผ่านหน้าโครงการพอสมควร และถ้าออกมาที่ถนนรามอินทรา ก็มีรถประจำทางผ่านอยู่หลายสาย หรือจะนั่งไปต่อรถตู้หรือรถประจำทางสายอื่นที่ Fashion Island ก็สะดวก (ซึ่งจุดนี้มีทางเลือกรถสาธารณะให้เลือกได้หลากหลายค่ะ)
และในอนาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ตัดผ่านเส้นรามอินทรา โดยสถานีที่ใกล้สุดก็คือสถานีตลาดมีนบุรี (11.1 กม.) และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงคูคต – วงแหวนตะวันออก ตัดผ่านเส้นลำลูกกา สถานีที่ใกล้สุดก็คือสถานีวงแหวนตะวันออก (10.3 กม.) สามารถเรียกรถ Taxi ไปยังสถานีดังกล่าวเพื่อวิ่งเข้าเมืองหรือวิ่งไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวได้ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ โครงการตั้งอยู่บนถนนไทยรามัญ ซึ่งอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีความคึกคัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตลาดนัด, ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 – 11, ร้านค้า และร้านอาหาร ก็มีอยู่ในระยะเดินได้ทั้งหมด พอออกมาที่ถนนหทัยราษฎร์ บริเวณปากซอยถนนเลียบคลอง 2 ก็จะมี Big C หทัยราฎร์ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดหทัยมิตรค่ะ
(ที่มาภาพ : https://www.wongnai.com, http://www.toptenthailand.com)
และยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อย่าง Fashion Island ข้าง ๆ กันคือ The Promenade สามารถไปเดินชอปปิง และหาอาหารอร่อย ๆ ทานกันได้ บางครั้งที่ชั้นบนของห้าง Fashion Island จะนำร้านอาหารชื่อดังร้านเด็ด ๆ มาเปิดซุ้มขายอยู่เป็นระยะ ๆ ด้วยนะ นอกจากนี้ก็ยังมี Amorini, ปัญญาวิลเลจ, Uniqlo มีนบุรี, Big C สุวินทวงศ์, Tesco Lotus มีนบุรี และ Central รามอินทรา เป็นตัวเลือกในการชอปปิงอีกนะคะ
โครงการยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษา, โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น รร.นวมินทราชินูทิศเบญจมราชาลัย, รร.สารสาสน์วิเทศน์ สายไหม, รร.สารสาสน์วิเทศน์ นิมิตรใหม่ และ รร.โชคชัย หทัยราษฎร์ หรือโรงพยาบาลในย่านนี้ก็มี รพ.สายไหม, รพ.เสรีรักษ์, รพ.นวมินทร์, รพ.นวมินทร์ 9, รพ.นพรัตน์ และ รพ.สินแพทย์ ค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนสุวินทวงศ์ > ถนนหทัยราษฎร์ > ถนนไทยรามัญ > The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ
เราเริ่มต้นการเดินทางจากถนนสุวินทวงศ์บริเวณ MEGA HOME มุ่งหน้าเข้าเมืองสู่มีนบุรีค่ะ
ขับตรงไปเรื่อย ๆ เราจะผ่าน Tesco Lotus มีนบุรี ทางฝั่งซ้ายมือ และ KFC สุวินทวงศ์ กับ Uniqlo มีนบุรี ทางฝั่งขวามือค่ะ
จากนั้นให้เราชิดเลนซ้ายตามป้ายมีนบุรี ถ้าขึ้นสะพานยกระดับไปจะเข้าถนนรามอินทราไปทางหลักสี่
แล้วให้เราชิดขวาเพื่อกลับรถใต้สะพานค่ะ
พอเรากลับรถใต้สะพานแล้ว วิ่งตรงไปข้างหน้ามุ่งหน้าออกนอกเมือง ให้สังเกต Big C สุวินทวงศ์ แล้วชิดซ้ายได้เลย
พอเลย Big C สุวินทวงศ์ มาแล้วให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหทัยราษฎร์ค่ะ
บริเวณช่วงต้น ๆ ซอยเลยทางฝั่งซ้ายมือของเราจะมีตลาดปากซอยหทัยราษฎร์ ส่วนทางฝั่งขวามือก็คือ MBAC
บนถนนหทัยราษฎร์นี้เป็นถนนใหญ่ขนาด 4 เลน ที่มีความคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว โดยเราสามารถสังเกตได้จากอาคารพาณิชย์ที่เรียงรางอยู่ตลอดเส้น มีร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ และปั๊มน้ำมัน
พอใกล้ถึงถนนเลียบคลอง 4 เราจะเห็นตลาดหทัยมิตรอยู่ทางฝั่งขวามือค่ะ
ให้เรายังคงขับตรงต่อไปเรื่อย ๆ ไปทางสายไหม
เราวิ่งตรงมาอีกประมาณ 3.9 กม. ให้ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าถนนไทยรามัญค่ะ
ถนนไทยรามัญเป็นถนนขนาด 2 เลน สามารถขับรถสวนกันได้สะดวก เป็นถนนเส้นที่ถูกพัฒนามาพอสมควรแล้ว โดยเห็นได้จากอาคารพาณิชย์, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ตลาด, ร้านสะดวกซื้อ และหมู่บ้านจัดสรรหลากหลายโครงการ แต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัว การอยู่อาศัยยังไม่ถึงกับหนาแน่น
เราตรงเข้ามาภายในถนนไทยรามัญประมาณ 1.1 กม. ก็จะถึงโครงการ The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ แล้วค่ะ
ภาพบรรยากาศหน้าทางเข้าโครงการ The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โครงการ The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ ตั้งอยู่บนถนนไทยรามัญ ล้อมรอบด้วยหมู่บ้านจัดสรรหลายโครงการ ในระยะเดินเท้าสามารถเดินไปยังตลาดนัด, ร้านอาหาร และ 7 – 11 ได้ นอกจากนี้บนถนนไทยรามัญยังเหลือที่ดินเปล่าบางส่วน รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตร ที่ยังสามารถพัฒนาต่อได้ค่ะ
บริเวณใกล้เคียงมี CJ Supermarket ต้องการซื้ออาหารสด – อาหารแห้งสำหรับปรุงอาหาร หรือของเครื่องใช้ภายในบ้านก็สามารถแวะมาได้เลย ใกล้มากค่ะ
เลยจาก CJ Supermarket ไปเล็กน้อยจะมี 7 – 11 อยู่ 1 สาขา เดินมาจากโครงการเพียง 180 เมตรเท่านั้น
:::: ตัวโครงการ ::::
The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวนฯ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่มาพร้อมฟังก์ชันพื้นที่สวน Dream Space สไตล์ American Vintage Cottage กับแนวคิด Happy Colonial Living รวมองค์ประกอบที่โดดเด่นเพื่อรองรับให้เข้ากับสไตล์การใช้ชีวิตสมัยใหม่ ผสมผสานกับการใช้สีพาสเทล ช่วยลดทอนความแข็งกระด้าง ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา บนพื้นที่โครงการ 27 ไร่ ให้ความเป็นส่วนตัวเพียง 130 ยูนิต บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา เน้นความยั่งยืนของการอยู่อาศัย และความใกล้ชิดธรรมชาติด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่และ Landscape ภายในโครงการ
จากซุ้มทางเข้าโครงการจะเชื่อมต่อกับถนนหลักกว้าง 14 เมตร ตัดเข้าไปภายในโครงการผ่านวงเวียนรถ เชื่อมต่อด้วยถนนกว้าง 12 เมตร ตัดเป็นถนนซอยผ่านหน้าบ้านทุกหลังกว้าง 9 เมตร พร้อมทางเท้าตลอดความยาวซอยให้สามารถเดินได้อย่างปลอดภัย โดยจะมีห้องนิติบุคคลอยู่ด้านข้างซุ้มทางเข้าโครงการ และมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่บริเวณโซนหน้าโครงการ นับว่าเป็นโครงการขนาดเล็กที่น่าอยู่ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
บ้านของโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์ American Vintage Cottage ใช้สีพาสเทลทำให้บ้านดูละมุนและอบอุ่นมากขึ้น ออกแบบพื้นที่บ้านโดยใช้แนวคิดของความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน รองรับได้ทุกเจเนอเรชัน ด้วยพื้นที่ดินบ้านขนาดใหญ่ เริ่มต้น 50.0 ตร.วา มีพื้นที่ Dream Space ที่รองรับงานอดิเรก, Second Job หรือการขยับขยายครอบครัวได้ดี และมีพื้นที่สวนข้างบ้านกว้าง 2.5 เมตรขึ้นไป รองรับการสร้างพื้นที่สีเขียวและการต่อเติมบ้านในอนาคต โดยจะมีบ้านให้เลือก 2 แบบ ดังนี้ค่ะ
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราจะเข้าไปดูภาพบรรยากาศจริงภายในโครงการกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากทางเข้าโครงการออกแบบในสไตล์ American Vintage Cottage โดยใช้ Gimmick ของหลังคาทรงจั่ว, ผนังตีระแนงไม้, ช่องหน้าต่างประดับหน้าบ้าน, บานเกร็ดประดับตกแต่งหน้าต่าง และใช้สีโทนพาสเทล กลมกลืนกับบ้านภายในโครงการ
การเข้า – ออกโครงการจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งประกอบด้วย ระบบ Access Card Control, รั้วไม้กระดก และ กล้อง CCTV สำหรับลูกบ้านจะสามารถขับรถผ่านเข้าไปด้านในโครงการได้เลย ส่วนบุคคลภายนอกจะต้องทำการแลกบัตรและตรวจความปลอดภัยตามมาตรฐานโครงการก่อนนะคะ
ทั้ง 2 ฝั่งของทางเข้าโครงการจะมีทางเท้ายกระดับขึ้นมาจากพื้นถนน ให้ลูกบ้านสามารถเดินเข้า – ออกโครงการได้อย่างปลอดภัย
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ ด้านหลังของทางเข้าโครงการนี้เองจะเป็นห้องนิติบุคคลค่ะ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
พอผ่านเข้ามาด้านในโครงการแล้วจะเจอถนนหลักกว้าง 14 เมตร ตัดเข้าไปด้านในโครงการ โดยมีไม้พุ่มเป็นเกาะกลางถนนแบ่งช่องการจราจรขาเข้า – ออกอย่างชัดเจน สังเกตทางฝั่งซ้ายและขวาของถนน ทางโครงการจัด Landscape และลงต้นไม้ต้นใหญ่เอาไว้ตลอดทาง ช่วงสร้างความร่มรื่นน่าอยู่ และเป็นร่มเงาให้เวลาลูกบ้านเดินเข้า – ออกโครงการบนทางเท้า
ซอยแรกทางฝั่งซ้ายมือคือ Sales Gallery และบ้านตัวอย่างค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณหน้า Sales Gallery ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยประจำการอยู่ สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลของโครงการพร้อมชมบ้านตัวอย่างได้ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.30 น. ของทุกวันค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าบ้านตัวอย่าง The Village 140 ขนาด 140 ตร.ม.
เรากลับออกมาที่ถนนหลักและเดินตรงต่อไป สังเกตทางฝั่งขวามือคือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของโครงการค่ะ
ความพิเศษของการเป็นลูกบ้านโครงการ The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวน อย่างหนึ่งเลยก็คือ บริการรับซื้อของรีไซเคิลถึงหน้าบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน Recycle Time ที่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านแล้วยังช่วยสร้างมูลค่าให้ขยะโดยการเปลี่ยนให้เป็นเงินได้อีกด้วย โดยจะมีรถมารับซื้อของรีไซเคิลในทุกวันพุธ
บริเวณส่วนโค้งของถนนจะมีวงเวียนรถเพื่อความปลอดภัย ตรงนี้ทางโครงการลงต้นสาธรเอาไว้ให้ร่มเงา
เราเดินผ่านบริเวณวงเวียนตรงเข้าไปด้านในโครงการกันต่อ สังเกตทั้งฝั่งซ้ายและขวาของถนนจะมีทางเท้าให้ลูกบ้านสามารถเดินได้อย่างปลอดภัยจนไปถึงท้ายโครงการเลยค่ะ
จากถนนหลักเชื่อมสู่ถนนซอยกว้าง 9 เมตร รวมทางเท้าแล้ว
ภายในโครงการจะมีบ้านอยู่ทั้งหมด 3 หลัง เป็นแปลงพิเศษที่มีพื้นที่ดินขนาดใหญ่ จึงสามารถจอดรถได้ถึง 4 คันเลยค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณวงเวียนรถ มองย้อนกลับไปที่ทางเข้าโครงการ
เห็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีความยาวจากทางเข้าโครงการจนมาถึงวงเวียนเลยค่ะ นับว่าเป็นปอดชั้นดีเลย
::: สวนสาธารณะ :::
เราเดินเข้าไปดูภายในสวนสาธารณะต่อกันอีกสักเล็กน้อย แล้วเราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างกันต่อนะคะ
แม้ว่าภายในโครงการจะมีบ้านเพียง 130 ยูนิต แต่ก็ยังได้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ สามารถมาเดินเล่น นั่งพักผ่อน ปิกนิก ใช้ทำกิจกรรมนันทนาการระหว่างเพื่อนบ้านและคนในครอบครัวก็ได้ค่ะ
ภายในสวนเป็นพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยไม้ยืนต้นและไม้พุ่มประดับนานาสายพันธุ์ เช่น ชมพูพันธุ์ทิพย์, พุดศุภโชค, หลิวใบ, กระพี้จั่น, ตีนเป็ดน้ำ เป็นต้น
และมีแผ่นพื้นเป็นทางเดินให้สามารถเดินเล่นหรือวิ่งออกกำลังกายรอบ ๆ สวนได้ด้วยค่ะ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงานจะพาคุณผู้อ่านไปชมบ้านตัวอย่าง The Village ขนาด 140 ตร.ม. และบ้านมาตรฐาน The Village ขนาด 161 ตร.ม. แบบเจาะลึกเช่นเคยกันค่ะ
::: บ้านเดี่ยว The Village ขนาด 140 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 เริ่มจากพื้นที่หน้าบ้าน แบ่งเป็นพื้นที่จอดรถให้ 2 คันค่ะ ถัดเข้าไปเป็นเฉลียงทางเข้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan เป็นโถงขนาดใหญ่ รวมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ครัวเอาไว้ใน Space เดียว ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง ห้องอเนกประสงค์ (ห้องนอนชั้นล่าง), ห้องน้ำ และโถงบันได สังเกตที่บริเวณหลังบ้านถัดจากส่วนครัวจะมีประตูเชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้านได้ พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับ 3 – 4 คน เหมาะสมสำหรับครอบครัวเริ่มต้นและครอบครัวขนาดกลางค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้าน มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน ห้องนอนใหญ่จะอยู่ส่วนด้านหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้านจึงมีขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้านโดยแบ่งสัดส่วนห้องเท่า ๆ กัน มีพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของห้องนอนใหญ่ ส่วนห้องน้ำชั้น 2 จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก จะเป็นห้องน้ำที่ใช้รวมกันทั้งหมด โดยที่ห้องนอนใหญ่จะมีประตูเชื่อมสู่ห้องน้ำได้โดยตรงด้วย
หน้าตาบ้านออกแบบมาในสไตล์ American Vintage Cottage ที่ได้กลิ่นอายแบบ Colonial ด้วย Gimmick ของหลังคาทรงจั่ว, ผนังตีระแนงไม้, ช่องหน้าต่างประดับหน้าบ้าน, บานเกร็ดประดับตกแต่งหน้าต่าง และใช้สีโทนพาสเทล ให้บรรยากาศที่ดูน่ารักอบอุ่น ดูอยู่สบายค่ะ
พอเข้ามาภายในรั้วบ้านเป็นพื้นที่จอดรถ 2 คัน บ้านตัวอย่างตกแต่งพื้นด้วย Stamped Concrete พร้อมจัดสวนเพื่อให้เข้ากับดีไซน์ของบ้าน
บ้านมาตรฐานที่เราจะได้นั้น ใช้พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตปาดเรียบ ลงเสาเข็ม 6 เหลี่ยม ลึก 6 เมตร จำนวน 14 ต้น แยกโครงสร้างจากตัวบ้าน ทำให้แข็งแรงไม่เกิดปัญหาเรื่องการทรุดตัวที่ต่างกันของพื้นแต่ละส่วน สำหรับหลังคาตรงที่จอดรถลูกบ้านสามารถเลือกต่อเติมในแบบที่ต้องการเองได้ค่ะ
ความพิเศษของบ้านในโครงการนี้ก็คือ เราจะได้พื้นที่สวนข้างบ้านขนาดใหญ่มาด้วย ซึ่งจะกว้าง 2.5 เมตรขึ้นไป บางแปลงก็กว้างถึง 4 เมตรเลย เป็นส่วนที่สามารถรองรับ การจัดสวน, การทำแปลงผัก Organic, การต่อเติมสำหรับงานอดิเรก – งานพิเศษ หรือแม้กระทั่งการต่อเติมเพื่อการขยับขยายครอบครัว ก็ทำได้ค่ะ เรียกว่าเป็นพื้นที่สำหรับการสร้าง Dream Space ของครอบครัวเลย
ระยะของหน้าบ้านกับรั้วบ้านก็มากพอสามารถจัดสวนได้ตามใจชอบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้าน อีกทั้งยังเป็น Buffer ช่วยสร้างความ Private ได้มากขึ้น
เราจะเข้าไปดูพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านด้วยกันเลยค่ะ เริ่มจากเฉลียงทางเข้าบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างตกแต่งพื้นด้วยทรายล้าง
ส่วนบ้านมาตรฐานที่เราได้จริง ๆ นั้นปูพื้นเฉลียงด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม. ยกระดับขึ้นมา 15 ซม. ซึ่งพื้นที่เฉลียงจะถูกเซตเข้าไปด้านในตัวบ้าน จึงมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน ขนาดของพื้นที่สามารถตั้งม้านั่งตัวเล็ก ๆ ด้านข้างได้ ใช้เป็นจุดสำหรับนั่งเปลี่ยนรองเท้า และมีดวงโคมซาลาเปาติดไว้ให้บนฝ้า 1 ดวง
ประตูทางเข้าบ้านใช้ชุดประตูอะลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ฝั่งเดียว โดยจะมีสลักสำหรับบิดล็อกด้านใน ใช้กุญแจในการไขเปิด และยังมีตัวล็อกกลางบานให้เพื่อความปลอดภัยอีกชั้น
เปิดเข้ามาในบ้านเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เราสามารถจัดฟังก์ชันการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของเรา เป็นการจัดแปลนบ้านแบบ Open Plan ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์และ Finishing มาให้เห็นความลงตัวในแง่ของการใช้งาน และความสวยงามเพื่อเป็นไอเดียค่ะ (แปลนบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานจะ Mirror กันนะคะ)
พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ขนาด 60 x 60 ซม. โครงสร้างผนังใช้ระบบ Precast มีความแข็งแรงทนทานกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูนถึง 3 เท่า สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี น้ำไม่รั่วซึมเพราะมีแผ่นกันซึม หรือไฟเบอร์ซีเมนต์แปะอยู่ระหว่างรอยต่อของผนัง
และยังสามารถจัดพื้นที่ใช้สอยได้ลงตัวมากกว่าเพราะไม่มีมุมเสา ส่วนฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลต์และดวงโคมซาลาเปา ใช้หลอดไฟ LED ทั้งหลัง ช่วยประหยัดพลังงานได้ดีค่ะ
เรามาดูไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกันต่อ เริ่มต้นจากบริเวณหน้าบ้านจัดเป็นส่วนรับประทานอาหาร ข้อดีก็คือสามารถใช้รองรับแขกได้ด้วยในตัวค่ะ พื้นที่กำลังพอเหมาะสำหรับโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่ง แต่จะต่อเก้าอี้เพิ่มหัวท้ายเป็น 6 ที่นั่งอีกก็ยังพอ จะเห็นว่าโดยรอบยังเหลือพื้นที่อยู่อีกเยอะเลย
ทางฝั่งขวามือของส่วนรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ หรือห้องนอนชั้นล่างนั่นเอง
ห้องอเนกประสงค์หรือ Multi – Function Room เป็นห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย เล่นโยคะ โฮมเธียเตอร์ ครอบครัวไหนมีเด็กอ่อน ก็สามารถปรับเป็นห้องดูแลเด็กได้ บ้านไหนมีผู้สูงอายุก็ปรับเป็นห้องนอนได้
ส่วนบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องมาจากโถงใหญ่ ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีเลยนะคะ เพราะทำให้พื้นที่สำหรับพักผ่อนนั้นเป็นส่วนตัวมากกว่าการจัดไว้ตรงหน้าทางเข้าบ้าน เทียบกับการจัดแปลนของบ้านแบบทั่วไป เพราะสามารถใช้ส่วนรับประทานอาหารในการรับแขกไปในตัวได้เลย ดังนั้นห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับคนสนิทหรือคนภายในครอบครัวเท่านั้น
พื้นที่ห้องมีขนาดกำลังดีค่ะ วางโซฟารูปตัว L หรือเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตได้เลย ส่วนฝั่งชั้นวางทีวีก็วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแทนได้อย่างลงตัว
ออกมาจากห้องอเนกประสงค์ สังเกตบริเวณผนังข้างบ้านจะมีประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียมที่สามารถเปิดออกสู่สวนข้างบ้านได้ และจากส่วนรับประทานอาหารก็ถูกออกแบบอย่างต่อเนื่องเป็นครัวฝรั่งด้านหลัง
เราออกมาดูพื้นที่สวนข้างบ้านซึ่งเป็นอีก 1 จุดเด่นของบ้านกันต่อ บ้านตัวอย่างต่อเติมอาคารบนพื้นที่ส่วนนี้ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
เนื่องจากพื้นที่สวนข้างบ้านมีขนาดกว้างขวาง จึงสามารถต่อเติมบ้านเป็น Dream Space เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์หรือขยับขยายครอบครัวได้มากกว่าบ้านทั่วไป
หากใครที่ต้องการพื้นที่สำหรับงานอดิเรก หรือ Second Job อย่าง Glass House สำหรับปลูกผักออแกนิก, ห้องเล่นดนตรี, สตูดิโอถ่ายสินค้า, สตูดิโอแต่งหน้า, สตูดิโอศิลปะ หรือแม้กระทั่งห้องสำหรับสมาชิกของครอบครัวที่เพิ่มขึ้น พื้นที่ตรงนี้นับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
กลับเข้ามาภายในบ้านไปดูส่วนครัวกันต่อค่ะ บ้านตัวอย่างตกแต่งครัวของบ้านหลังนี้เป็นครัวฝรั่ง มีพื้นที่ในการปรุงอาหารขนาดใหญ่ มีการกั้นส่วนของครัวออกจากพื้นที่โซนอื่นด้วยเคาน์เตอร์ครัวและชั้นวางของ ทำให้บ้านดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น
ครัวถูกจัดเคาน์เตอร์ให้เป็นรูปตัว U ที่ฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนเตรียมอาหาร ตรงกลางเป็นส่วนปรุงอาหาร และฝั่งขวาเป็นอ่างล้างจาน ใต้เคาน์เตอร์และชั้นลอยมีพื้นที่เก็บของได้เยอะมาก
ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวบริเวณหน้าห้องน้ำ ยังมีพื้นที่ให้สามารถวางแพนทรี่ขนาดย่อมอีก 1 ส่วนเพื่อเตรียมพวกเครื่องดื่มและของว่างได้
ติดกับท้ายครัวจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกสู่ลานซักล้านหลังบ้าน โดยทางโครงการจะเทพื้นคอนครีตโครงสร้างคานคอดินมาให้แล้ว บ้านไหนที่ต้องมีครัวไทยก็สามารถทำการต่อเติมเพิ่มได้สบาย เพราะสังเกตเห็นว่าพื้นที่หลังบ้านแต่ละแปลงจะกว้างไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตรเลยค่ะ
พอเราเข้าไปดูห้องน้ำเสร็จแล้ว เราจะพาขึ้นไปบนชั้น 2 ต่อเลย ประตูห้องน้ำใช้บาน UPVC ซึ่งมีความทนน้ำ ไม่บวม และสังเกตที่พื้นที่ใต้บันไดจะมีห้องเก็บของให้ด้วย
ภายในห้องน้ำมีการวางแปลนไล่จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard ทั้งหมด
วัสดุพิเศษที่ทางโครงการเลือกใช้ก็คือ ท่อน้ำดี PPR ที่ใช้ความร้อนสมานรอยต่อจนเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกัน วัสดุทนต่อแรกกระแทกได้สูง เนื้อเหนียวไม่เปราะแตกง่าย ทนแรงดันได้ดี ทำให้ไม่เกิดการรั่วซึมได้ง่าย ไม่มีสารก่อมะเร็ง และยังมีอายุการใช้งานถึง 50 ปี ส่วนท่อน้ำเสียใช้ท่อ PP Brown ซึ่งสามารถทนการกัดกร่อนของสารเคมีได้หลายชนิด ทั้งอุณหภูมิสูง – ต่ำ ลดปัญหาน้ำยาล้างห้องน้ำกัดท่อระบายน้ำไปเลย อีกทั้งยังใช้ระบบข้อต่อแบบ Bell – Fit Type ที่ง่ายต่อการติดตั้งและการบำรุงรักษาในอนาคตด้วย
นอกจากนี้ทางโครงการยังออกแบบ Gate Valve แยกชั้นล่างกับชั้นบน ทำให้ง่ายต่อการซ่อมแซมในภายภาคหน้า เวลาที่ซ่อมห้องน้ำชั้นบน ก็ยังสามารถใช้งานห้องน้ำชั้นล่างได้อยู่ค่ะ
อ่างล้างมือ เป็นอ่างแขวนผนังทรงมน ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำล้างมือสีโครเมียม และกระจกเงา ด้านหลังมี Lower Wall ก่อมาให้ สามารถวางพวกของใช้กระจุกกระจิกเพิ่มได้
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Single Flush มีขนาดใหญ่นั่งสบาย ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ทั้งสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ
ด้านในสุดเป็นส่วนของโซนอาบน้ำ พื้นก่อธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลย้อน มีพื้นที่ยืนอาบน้ำขนาดใหญ่ สามารถยืนอาบได้สะดวก จะตั้งเก้าอี้สำหรับนั่งอาบน้ำเพิ่มก็ยังได้ ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้ง Tempered Glass แบบบานเปิดเข้าเป็นฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น โดยสังเกตที่ผนังช่วงบนส่วนนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดกระจกฝ้าเป็นช่องแสงและสามารถเปิดระบายอากาศได้ค่ะ
ที่ผนังด้านในติดตั้ง Hand Shower พร้อมจานวางสบู่ให้แบบนี้
สำหรับโครงสร้างบันไดจะเป็นโครงเหล็ก ลูกนอนใช้ไม้สำเร็จรูป ราวบันไดเป็นระแนงเหล็กฝังกับพื้นบันได มือจับใช้ไม้สำเร็จรูปเช่นเดียวกันกับลูกนอน
ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2
พื้นที่ชั้น 2 ทั้งหมดปูด้วยพื้นลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ฝ้าเพานดานสูง 2.7 เมตรเท่ากับฝ้าชั้นล่าง ติดดวงโคมซาลาเปา, ดวงโคมดาวน์ไลต์ และหลอดไฟ LED เหมือนเดิม พอขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกันโถงทางเดิน เชื่อมสู่ห้องนอนและห้องน้ำค่ะ ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็น Master Bedroom และห้องน้ำชั้นบน และทางฝั่งขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง
สังเกตที่โถงบันไดชั้น 2 ทางโครงการจะติด Circuit Breaker มาให้แยกชั้นบนกับชั้นล่าง เวลาซ่อมแซมหรือต้องการตัดเบรกเกอร์จึงสามารถทำแยกเป็นชั้นได้ โดยชั้นที่ไม่ได้ชำรุดก็ยังสามารถเปิดไฟใช้ได้ตามปกติ
เราเข้าไปดูภายใน Master Bedroom ด้วยกันก่อนเลยค่ะ
ภายใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่ ห้องจะยาวเท่ากับหน้าบ้านเลย สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัวง่ายมาก ๆ ทางโครงการตกแต่งห้องให้ดูเป็นไอเดีย โดยเลือกวางเตียงนอนเอาไว้อยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้านค่ะ โดยบ้านตัวอย่างแบ่งห้องออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนพักผ่อนและส่วนแต่งตัว
ซึ่งแน่นอนว่าขนาดของห้องนั้นสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 5 – 6 ฟุตได้อย่างสบาย ๆ แถมยังมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มเติมได้ทั้ง 2 ฝั่ง
พื้นที่ปลายเตียงนอนสามารถวางชั้นวางทีวีแบบหน้าแคบได้ หรือจะทำชั้น Built – in เพื่อวางของเพิ่มเติมเลยก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ยังเหลือระยะให้สามารถเดินผ่านได้สะดวกด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนจะเชื่อมต่อกับระเบียงหน้าบ้านค่ะ เราสามารถทำเป็น Walk – in Closet วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดมาตรฐานได้พอดี
โดยยังเหลือพื้นที่สำหรับยืนแต่งตัว นั่งแต่งหน้า และเดินผ่านออกไปที่ระเบียงได้สะดวก
เปิดประตูบานเลื่อนออกไปก็จะเป็นพื้นที่ระเบียงหน้าบ้านค่ะ สามารถออกไปยืนรับลมชมวิวได้เลย พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิก และติดราวกันตกเป็นระแนงเหล็กสีขาว
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามา ภายในห้อง Master Bedroom จะมีประตูทางเชื่อมกับห้องน้ำชั้นบนด้วย
ทั้งวัสดุ, สุขภัณฑ์ และการวาง Lay Out ของห้องน้ำชั้นบนจะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทุกประการเลยค่ะ ไล่จากส่วนแห้งเข้าไปหาส่วนเปียก แต่จะมีสุขภัณฑ์บางชิ้นถูกอัปเกรดขึ้นมาเป็นรุ่นที่ดีกว่าเดิม
อย่างอ่างล้างมืออัปเกรดเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปขนาดใหญ่ พร้อมก๊อกน้ำ ด้านหลังก่อ Lower Wall ให้สามารถวางของใช้เพิ่มเติมได้ ใต้เคาน์เตอร์ก็สามารถใช้เก็บของได้เช่นกัน
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ใช้ระบบ Single Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งานรุ่นเดิม
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ซึ่งทางโครงการได้ก่อธรณี, ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัว, ติด Hand Shower และจานวางสบู่ มาให้แล้วค่ะ ผนังด้านบนก็ติดหน้าต่างสำหรับรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศให้ด้วย
เราไปดูห้องนอนเล็กอีกทั้ง 2 ห้องกันต่อค่ะ
เข้ามาดูภายในห้องนอน 2 บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนอนสำหรับเด็ก 2 คน พื้นที่ห้องมีขนาดกำลังดีนะคะ จริง ๆ แล้วสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้เลย
บ้านตัวอย่างออกแบบเตียงนอน 2 ชั้น ใต้เตียงนอนชั้นบนจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและพื้นที่นั่งเล่นสำหรับเด็ก 2 คน
ส่วนอีกฝั่งจัดเป็น Play Area เราจะวางตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางของเพิ่มก็ได้นะคะ ในอนาคตเมื่อเด็ก ๆ โตแล้ว ก็คงต้องมีการต่อเติมขยับขยายบ้านในพื้นที่ที่ทางโครงการได้จัดเตรียมรองรับเอาไว้ให้ได้พอดี
สำหรับห้องนอน 3 นั้นถูกจัดเป็นห้องพักผ่อนของครอบครัวค่ะ บ้านตัวอย่างปูเบาะเอาไว้บนพื้นเลย ให้คนในครอบครัวสามารถนอนเล่นเกลือกกลิ้งกันได้แบบสบาย ๆ
แน่นอนว่าขนาดของห้องนอน 3 ก็สามารถรองรับการจัดเป็นห้องนอนอีกห้องได้เช่นกัน พื้นที่ที่วางเบาะสามารถแทนที่ด้วยเตียงนอนได้ และบริเวณที่นั่งมุมด้านในก็สามารถแทนที่ด้วยตู้เสื้อผ้าได้พอดี
นอกจากนี้ ทางโครงการยังเลือกใช้โครงหลังคาเป็นเหล็กเคลือบโลหะผสมอลูซิงค์ เป็นเหล็กที่มีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนอย่างดีเยี่ยม มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเหล็กเคลือบสังกะสี 4 เท่า เหมาะสำหรับภูมิอากาศในประเทศไทยที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่า 75% และผนังบ้านชั้น 2 ยังก่อจนถึงหลังคา ทำให้บ้านที่อยู่ติดกันไม่สามารถทะลุข้ามฝ้ามาได้ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ดีทีเดียวค่ะ
::: บ้านเดี่ยว The Village ขนาด 161 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 เริ่มจากพื้นที่หน้าบ้าน แบ่งเป็นพื้นที่จอดรถให้ 2 คันค่ะ ถัดเข้าไปเป็นเฉลียงทางเข้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan เป็นโถงขนาดใหญ่ รวมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ครัวเอาไว้ใน Space เดียว ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง ห้องอเนกประสงค์ (ห้องนอนชั้นล่าง), ห้องนอนชั้นล่าง, ห้องน้ำ และโถงบันได สังเกตที่บริเวณหลังบ้านถัดจากส่วนครัวจะมีประตูเชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้านได้ พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับ 4 – 5 คน เหมาะสมสำหรับครอบครัวขนาดกลางค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็น Private Zone ของเจ้าของบ้าน มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน ห้องนอนใหญ่จะอยู่ส่วนด้านหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้านจึงมีขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้านโดยแบ่งสัดส่วนห้องเท่า ๆ กัน มีพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของห้องนอนใหญ่ ส่วนห้องน้ำชั้น 2 จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก จะเป็นห้องน้ำที่ใช้รวมกันทั้งหมด โดยที่ห้องนอนใหญ่จะมีประตูเชื่อมสู่ห้องน้ำได้โดยตรงด้วย
และนี่ก็คือบ้านมาตรฐานที่ทางโครงการใช้ส่งมอบค่ะ หน้าตาบ้านออกแบบมาในสไตล์ American Vintage Cottage ที่ได้กลิ่นอายแบบ Colonial ใช้สีโทนพาสเทล ให้บรรยากาศที่ดูอยู่สบาย หลัก ๆ แล้วแปลนบ้านหลังนี้จะเหมือนกับแปลนบ้านขนาด 140 ตร.ม. ทุกประการ แต่ทางโครงการจะต่อเติมห้องนอนชั้นล่าง หรือ Dream Space เพิ่มขึ้นมาให้เรียบร้อยแล้ว
ประตูรั้วจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบบานเฟี้ยมระแนงเหล็ก 8 ตอน ทาด้วยสีน้ำมัน สูงประมาณ 1.2 เมตร ที่รั้วบ้านจะมีกริ่งออด, กล่องไปรษณีย์ติดเลขที่บ้าน และช่องเก็บขยะมาให้
เข้ามาในส่วนของตัวบ้านจะเป็นที่จอดรถตรงกับเฉลียงทางเข้าบ้าน สามารถจอดรถได้ 2 คัน พื้นบริเวณที่จอดรถจะเป็นซีเมนต์ปาดเรียบ ลงเสาเข็ม 6 เหลี่ยม ลึก 6 เมตร ซึ่งจะแยกโครงสร้างกับตัวบ้านนะคะ จึงไม่เกิดปัญหารอยร้าวหรือรอยแยกออกมาจากตัวบ้าน ส่วนพื้นที่สวนจะทำเป็นพื้นทรายปรับ, ปูหญ้า และจัดสวนให้ตามมาตรฐานของโครงการด้วย
สังเกตพื้นที่ดินของบ้านนั้นค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวค่ะ เราสามารถจัดสวนหรือจัดเป็นมุมนั่งเล่นเพิ่มเติมได้ตามใจชอบเลย
เฉลียงทางเข้าบ้านปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม. ยกระดับขึ้นมา 15 ซม. และมีดวงโคมซาลาเปาติดไว้ให้บนฝ้า 1 ดวง
ประตูทางเข้าบ้านใช้ชุดประตูอะลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสง สามารถเลื่อนเปิดได้ฝั่งเดียว โดยจะมีสลักสำหรับบิดล็อกด้านใน ใช้กุญแจในการไขเปิด และยังมีตัวล็อกกลางบานให้เพื่อความปลอดภัยอีกชั้น
เปิดเข้ามาในบ้านเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เราสามารถจัดฟังก์ชันการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของเรา เป็นการจัดแปลนบ้านแบบ Open Plan ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง
จากห้องโถงหลักจะเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์, โถงบันได, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนชั้นล่างค่ะ
แบบบ้านขนาด 161 ตร.ม. นี้จะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นมาจากแบบบ้านขนาด 140 ตร.ม. ก็คือ Dream Space นั่นเอง
สำหรับ Dream Space นี้เป็นพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัวได้ดีกว่าเดิม ใครที่มีงานอดิเรกหรือธุรกิจส่วนตัวเล็ก ๆ พื้นที่ห้องนี้คือตอบโจทย์ได้ดีมาก เพราะพื้นที่ห้องถูกกั้นส่วนออกจากพื้นที่หลักของบ้าน มีห้องน้ำให้ในตัว และมีประตูทางเข้าแยกต่างหาก หากมีลูกค้าหรือมีแขกไปใครมา ก็ยังทำให้บ้านเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ
หรือบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน ห้องนี้ก็เหมาะสมมากเช่นกัน เพราะไม่จำเป็นต้องเดินขึ้นชั้นบน อีกทั้งยังมีห้องน้ำในตัวให้พร้อมใช้งาน ไม่ต้องเดินไกล
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำในตัว ใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมด
ออกมาจากห้องนอนชั้นล่าง มองไปฝั่งตรงข้ามคือห้องน้ำชั้นล่าง, โถงบันได และห้องเก็บของใต้บันได
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำชั้นล่าง
ขึ้นมายังชั้น 2 เป็น Private Zone ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้อง
ห้องนอนใหญ่มีขนาดเท่ากับหน้ากว้างของบ้าน สามารถจัดโซนการใช้งานภายในห้องได้อย่างลงตัว โดยห้องนอนใหญ่จะมีประตูเชื่อมต่อกับห้องน้ำชั้นบนด้วยค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำชั้นบน
ภาพบรรยากาศภายในห้องนอน 2
ภาพบรรยากาศภายในห้องนอน 3
:::: ราคา (กรกฎาคม 2563) ::::
ยิ่งแนะนำเพื่อน ยิ่งได้มาก เพียงชวนเพื่อนมาเป็นครอบครัวเดียวกัน
รับทันที 40,000 บาท/หลัง* ติดต่อสำนักงานขาย The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวน
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ The Village หทัยราษฎร์ – วงแหวน ตั้งอยู่ในทำเลกรุงเทพฯ บนถนนไทยรามัญ ที่เชื่อมต่อกับถนนหทัยราษฎร์สู่ถนนสายสำคัญเส้นอื่น ๆ โดยจากถนนไทยรามัญจะสามารถวิ่งไปขึ้นทางด่วนจตุโชติได้ภายในไม่กี่นาที ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกรวดเร็ว และยังอยู่ในระยะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มอีกด้วยค่ะ
เนื่องจากโครงการตั้งอยู่นั้นอยู่ใกล้กับชุมชนเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น จึงมีแหล่ง Shopping ขนาดใหญ่ อาทิ Fashion Island, The Promenade, Chic Republic รามอินทรา, Central รามอินทรา รวมถึง โรงเรียน, โรงพยาบาล, หน่วยงานราชการ, ร้านค้า, ร้านอาหาร และตลาดสด อีกมากมาย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวก เพราะโครงการอยู่ใกล้ถนนหทัยราษฎร์ สามารถเชื่อมต่อถนนสุวินทวงศ์, ถนนคู้บอน, ถนนรามอินทรา, ถนนร่มเกล้า และถนนรามคำแหง ได้ง่าย และถ้าจะเข้าเมือง ก็สามารถขึ้นทางด่วนจตุโชติได้ภายในไม่กี่นาที ตรงไปออกสู่ลาดพร้าวและพระราม 9 ได้ง่ายเลยค่ะ หรือถ้าจะไปสนามบินสุวรรณภูมิ ก็สามารถใช้วงแหวนกาญจนาภิเษก หรือใช้ถนนร่มเกล้าวิ่งตรงลงไปได้เลย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ สามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้สะดวกนะคะ เพราะมี Taxi วิ่งผ่านหน้าโครงการพอสมควร และถ้าออกมาที่ถนนรามอินทรา ก็มีรถประจำทางผ่านอยู่หลายสาย หรือจะนั่งไปต่อรถตู้หรือรถประจำทางสายอื่นที่ Fashion Island ก็ได้
และในอนาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ตัดผ่านเส้นรามอินทรา โดยสถานีที่ใกล้สุดก็คือสถานีตลาดมีนบุรี (11.1 กม.) และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ช่วงคูคต – วงแหวนตะวันออก ตัดผ่านเส้นลำลูกกา สถานีที่ใกล้สุดก็คือสถานีวงแหวนตะวันออก (10.3 กม.) สามารถเรียกรถ Taxi ไปยังสถานีดังกล่าวเพื่อวิ่งเข้าเมืองหรือวิ่งไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวได้ค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 27 ไร่ เป็นส่วนตัวเพียง 130 ยูนิต ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา บ้านมีขนาด 140 – 161 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 – 5 ห้องนอน 2 – 3 ห้องน้ำ 2 – 4 ที่จอดรถ ถูกออกแบบมาให้มีความโปร่งโล่ง ฟังก์ชันส่วนกลางชั้นล่างเชื่อมต่อถึงกัน ส่วนชั้นบนจะถูกแบ่งออกจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน
โดยจะมีห้องนอนชั้นล่างหรือห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาเพื่อรองรับ Lifestyle ของผู้อยู่อาศัย สำหรับบ้านขนาด 140 ตร.ม. จะมีพื้นที่สวนข้างบ้านกว้างขวาง 2.5 – 4 เมตร สามารถต่อเติมเพื่อรองรับงานอดิเรกหรือการขยับขยายครอบครัวได้ ส่วนบ้านขนาด 161 ตร.ม. จะมีการสร้างพื้นที่ที่เป็น Dream Space พร้อมห้องน้ำในตัวเอาไว้ให้แล้ว เหมาะสำหรับบ้านที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ และคนที่มีงานอดิเรกหรือ Second Job เลยค่ะ
วัสดุของโครงการให้มาตามมาตรฐานก็เหนือกว่าบ้านในระดับใกล้เคียงกัน ใช้โครงสร้าง Precast ที่ได้ทั้งความแข็งแรงทนทาน แก้ปัญหาเรื่องรอยต่อที่ทำให้เกิดการรั่วซึมด้วยแผ่นกันซึมหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ ท่อน้ำดี – น้ำเสียใช้ท่อ PPR และ PP Brown ที่มีความทนทานไม่เปราะแตกง่าย โครงหลังคาใช้เหล็กเคลือบโลหะผสมอลูซิงค์ที่ทนการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีการแยก Circuit Breaker และ Gate Valve ของบ้านชั้นล่างและชั้นบน ทำให้ง่ายต่อการซ่อมแซมในภายภาคหน้า
ส่วนพื้นที่จอดรถก็แยกโครงการจากตัวบ้าน พร้อมลงเข็ม 6 เหลี่ยม ลึก 6 เมตร ให้ 14 ต้น จึงไม่ทรุดแน่นอน พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต ชั้นบนปูพื้นลามิเนตลายไม้ วงกบประตู – หน้าต่างใช้เป็นบานเลื่อนอะลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง ได้ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard ฝ้าภายในบ้านสูง 2.7 เมตร และติดไฟ LED ให้ทั้งหลัง
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย มีสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. กับ Security Gate, เข้า – ออกโครงการด้วยระบบ Access Card, CCTV, บริการ After Sales Service เพื่อให้บริการและดูแลลูกบ้านภายในโครงการ และบริการรับซื้อของรีไซเคิลถึงหน้าบ้านอีกด้วย
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1797
Line : Vlgtrm
WEBSITE : https://www.areeya.co.th/villagetown/thevillage-hathairat-wongwaen/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น