พาชม TRIPLE Y RESIDENCE คอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใน SAMYAN MITRTOWN

โครงการ SAMYAN MITRTOWN (สามย่านมิตรทาวน์) เป็นโครงการ Mixed-use ขนาดใหญ่ ที่รวมทั้ง Office Building, Retail และ Residential (คอนโดและโรงแรม) ตั้งอยู่ตรงแยกสามย่าน – จุฬาฯ เลยค่ะ ติดถนนพระราม 4 และถนนพญาไท ตรงข้ามคณะบัญชี จุฬาฯและ จามจุรีสแควร์ และด้านหลังติดซอยจุฬา 42 และคณะนิติฯ จุฬาฯ

สามย่าน – จุฬาฯ อาจจะดูเป็นทำเลที่ไม่ร้อนแรงเท่า สีลม, สุขุมวิท, สาทร หรือชิดลม, เพลินจิต แต่ก็เป็นทำเลใจกลางเมืองที่ยังคงมีดีมานด์อยู่เรื่อยๆ เพราะเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง ใกล้สยาม เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก และที่สำคัญคืออยู่ท่ามกลางแหล่งการศึกษาใหญ่ๆ คือ ม.จุฬาลงกรณ์และ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา พญาไท ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณนี้มีมาใหม่ทุกๆปี โดยเฉพาะจากผู้ปกครองที่มองหาที่อยู่อาศัยให้เด็กๆ นักเรียน นักศึกษา ที่ถ้านับแค่มหาลัยก็มีนักศึกษารุ่นใหม่เข้ามาปีละกว่า 7,000 คนแล้ว ทำให้การเปลี่ยนมือและการปล่อยเช่าของที่อยู่อาศัยมีโอกาสที่จะปล่อยได้สูง จากความต้องการที่มีมาเรื่อยๆทุกปีนั่นเองค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นทำเลในเมืองขนาดนี้แน่นอนว่าการเดินทางด้วยรถสาธารณะต้องสะดวกสบายตามไปด้วย โดยจากตัวโครงการอยู่ใกล้ MRT สามย่าน ในระยะเพียง 120 เมตร แต่แค่นั้นยังไม่พอค่ะ ทางโครงการมี MRT Underground Link จากหน้าโครงการถึงตัวสถานีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ด้วย เป็นระยะทาง 200 เมตร เชื่องตรงถึงตัวสถานีใต้ดินเลย เด็กๆไม่ต้องเดินข้ามถนนตากแดดร้อนๆ และลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุไปด้วยในตัวค่ะ

และในอนาคตส่วนต่อขยายของ MRT จะต่อขยายไปอีก 12 สถานี ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางมากขึ้นไปอีกหลายเท่าในอีก 4 – 5 ปีข้างหน้า

ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว นอกจากความสะดวกสบายที่เป็นทำเลในเมือง ติดถนนพระราม 4 และถนนพญาไท ที่สามารถใช้เดินทางไปยังจุดหมายต่างๆได้สะดวก ทั้งตัวถนนพระราม 4 เองที่เชื่อมกับย่านสำคัญๆของกรุงเทพมหานครมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหัวลำโพง, เยาวราช ยาวไปจนถึงพระโขนง และไม่ว่าจะไปสยาม, สีลม, สาทร ก็ใช้เวลาแค่ 5 – 10 นาที เท่านั้น นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยทางด่วนอีก โดยโครการจะอยู่ใกล้กับ 2 ทางด่วน ทั้งทางด่วนศรีรัช ในระยะทาง 1.6 กม.และทางด่วนเฉลิมมหานครในระยะทางเพียง 3 กม. เท่านั้น ก็พร้อมเดินทางไปยังรอบนอกกรุงเทพมหานครได้อย่างง่ายได้

ผืนที่ดินของโครงการนี้เป็นที่ดินขนาดใหญ่ประมาณ 14 ไร่ พื้นที่โครงการรวม 22,375 ตร.ม. มีทางเข้า – ออกแยกเป็น 3 จุด ด้วยกัน คือ

1. ทางเข้า – ออก ฝั่งติดถนนพญาไท จะเป็นทางเข้าในโซน Residence
2. ทางเข้า – ออก ฝั่งติดถนนพระราม 4 เป็นทางเข้าส่วน Retail
3. ทางเข้า – ออก ทางฝั่งซอยจุฬา 15 จะแยกทางเข้า – ออกเพื่อเข้าสู่พื้นที่จอดรถ

พูดถึงรายละเอียดตัวทำเลที่ตั้งกันไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เรามาดูข้อมูลภายในตัวโครงการกันบ้างค่ะ สำหรับโครงการ “SAMYAN MITRTOWN” จะเป็นโครงการ Mixed-use จับ Character ของสามย่านมาใช้ในการออกแบบเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ได้ตรงจุด และกลมกลืนกับตัวทำเลเดิม คือ สามย่าน ซึ่งเมื่อพูดถึงตัวสามย่านแล้วคนก็มักจะคิดถึง เรื่องการศึกษาและเรื่องอาหาร Street Food

จากทั้งหมดที่พูดมาจึงรวมมาเป็นคอนเซ็ปต์ “Urban Life Library คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้” ที่เมื่อปรับมาเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานแล้วจะแยกเป็น 3 อาคารหลักๆ คือ

1.อาคาร Office เกรด A สูง 31 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 48,000 ตร.ม. คิดเป็น 30% ของพื้นที่รวมโครงการ

2.อาคารส่วน Retail สูง 6 ชั้น + ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 36,000 ตร.ม. คิดเป็น 30% ของโครงการ แบ่งพื้นที่รวมๆออกเป็น 3 ส่วน คือ

1. The Eating Library (43%) พื้นที่สร้างประสบการณ์ทั้งศาสตร์ และศิลป์ในการรับประทานอาหาร นอกเหนือจากการรับประทานธรรมดาทั่วไป โดยคัดสรรอาหารที่หลากหลายตามความต้องการ
2. The Learning Library (29%) พื้นที่สำหรับเปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้ และการเรียนเสริมทักษะที่จะเติมเต็มจินตนาการสานให้ครบทุกด้านของชีวิต
3. The Living Library (28%) พื้นที่รวบรวมสิ่งจำเป็นต่อไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนเมือง

จากพื้นที่ทั้ง 3 ส่วนด้านบน ก็จะถูกแยกแจกแจงออกมาตามฟังก์ชั่นที่น่าสนใจที่สามารถเป็น One Stop Service มาที่เดียวได้ครบทั้งกิน, เที่ยว, ช้อป แบ่งเป็น 8 โซน คือ

1. NEVER SLEEP MITR – 24-HOUR ALIVE ATRIUM “โซนนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์การทำงานของคนยุคนี้ที่ไม่ได้ทำงานเฉพาะเวลาออฟฟิศเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ยังคงต้องดำเนินต่อแม้หลังเลิกงาน และกองทัพต้องเดินด้วยท้อง โซนนี้จึงมี ตั้งแต่ Co – Learning Space ขนาดใหญ่, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร และทีเด็ดของคนที่ไม่ชอบอุดอู้อยู่ในห้องกับโซนคาเฟ่สุดฮิป ที่จะกลายเป็นสวรรค์ของคนนอนดึก และดิจิทัลโนแมด (Digital Nomad)! แห่งใหม่ในย่านนี้เลย
2. SMART MITR – CO-LEARNING SPACE “พื้นที่การเรียนรู้แห่งใหม่” ที่ตอนนี้มี JustCo ดีลมาเปิด Co – Working Space ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 800 ตร.ม. ใช้งานได้จุใจ ทั้งวัยเรียน และวัยทำงาน ตลอด 24 ชั่วโมง
3. EVERYTHING MITR – THE MAKER’S TOOLS MEGA STORE แหล่งรวมอุปกรณ์ศิลปะ อุปกรณ์การเรียนรู้ และงาน Craft พร้อมกิจกรรม Workshop ที่ครบครันที่สุดในกรุงเทพฯ
4. YUMMY MITR – ONE & ONLY SAMYAN FOOD MUSEUM รวมร้านอาหารที่คัดมาแล้วว่าเด็ด ชื่อดังของสามย่าน ไว้ในที่เดียว
5. COOKING LOVER MITR – URBAN COOKING CLASS AND STORE สมัยนี้เทรนรักสุขภาพและการทำอาหารทานเองกำลังมาแรง ที่นี่คือศูนย์รวมอุปกรณ์เครื่องครัวทันสมัยและครบครันที่สุดในสามย่าน คนรักการทำอาหารเป็นต้องหลงใหลอย่างแน่นอน
6. ALTERNATIVE MITR – LEGENDARY ALTERNATIVE CINEMA โรงภาพยนตร์ทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหนังที่แตกต่าง จาก House RCA สำหรับคนที่อยากเสพสื่อนอกกระแสบ้าง
7. FLEXIBLE MITR – EDUCATIONAL & FOOD-DRIVEN MULTIPURPOSE HALL ทางเลือกใหม่ของการจัดงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต และการประชุมต่างๆ ด้วย Sizing Hall ที่มีขนาดย่อมลงมาให้เหมาะกับสเกลงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันอย่างครบครัน
8. FRIENDLY MITR – PLACEMAKING SPACE เป็นพื้นที่ Public Space หรือพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกค้า และผู้มาใช้บริการได้ใช้ประโยชน์ในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ต้องการตอบแทนคืนสังคมในรูปแบบหนึ่งที่โครงการตั้งใจ

3.อาคารส่วน Residence สูง 33 ชั้น แบ่งเป็นคอนโด 516 ยูนิตและโรงแรม 112 ยูนิตอยู่ในอาคารเดียวกัน คิดเป็น 15% ของพื้นที่รวมโครงการ

วันนี้เราจะขอเจาะรายละเอียดในส่วนของ Residence เป็นหลักนะคะ พื้นที่โซน Residence หรืออาคารที่เป็นส่วนพักอาศัย สำหรับพื้นที่โซนนี้จะสามารถเชื่อมเข้ากับส่วน Retail ได้เลย เพราะฉะนั้นจึงช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการจับจ่ายซื้อของใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้คนที่อยู่อาศัยที่นี่สามารถเดินเข้า – ออกซื้อของได้สบายๆ

โดยอาคารส่วน Residence จะแบ่งพื้นที่ 4 ชั้นแรกเป็นโรงแรม มีชื่อว่า Triple Y Hotel เป็น Design Hotel บริหารงานโดย Golden Land จำนวน 112 ยูนิต และตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไปถึง ชั้น 33 จะเป็นส่วนของคอนโด TRIPLE Y RESIDENCE ทั้งหมด รวม 516 ยูนิต

เริ่มกันที่ตัวอาคารเลย เมื่อเข้ามาภายในตัวอาคารจะเจอส่วน Lobby หลัก ซึ่งจะเป็น Shared Lobby จัดเป็นโถงต้อนรับและพื้นที่นั่งพักผ่อนที่ใช้ร่วมกันระหว่างลูกบ้านคอนโดและแขกของโรงแรม และมีทางเดินเชื่อมไปยังส่วน Retail ด้วย ซึ่งตรงนี้จะมีข้อดีตรงที่มีคนใช้งานส่วน Lobby ตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืนรวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่คอยดูและตลอดทำให้ตัว Lobby ปลอดภัยมากขึ้น ไม่เงียบเหมือนคอนโดทั่วไปในช่วงเวลากลางคืนค่ะ

แต่ลูกบ้านคอนโดไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะโถงลิฟต์ของลูกบ้านคอนโดและแขกของโรงแรมจะแยกจากกันค่อนข้างชัดเจน โดยลิฟต์ของคอนโดจะเป็น Security Door ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้าไปในโถงลิฟต์ค่ะ

บรรยากาศจำลองภายใน Shared Lobby เป็นโถงฝ้าเพดานสูง ตกแต่งด้วยโทนสีพื้น คือสีครีมและ Texture ระแนงไม้ เสริมลูกเล่นให้บรรยากาศดูสนุกสนานด้วยสีสันของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง

แปลนอาคารชั้น 11 เริ่มเป็นส่วนยูนิตพักอาศัยของคอนโดคือปีกฝั่งซ้าย(สีส้ม) ซึ่งจะมี Security Door อีกชั้น ให้ลูกบ้านคอนโดเข้าไปได้เท่านั้น ส่วนทางฝั่งขวามือจะเป็นส่วนกลางของโรงแรมที่ลูกบ้านคอนโดสามารถเข้ามาใช้งานด้วยได้ค่ะ

ส่วนในชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 12 ขึ้นไป จะวางแปลนเหมือนกันทุกชั้นค่ะ โดยในแต่ละชั้นก็จะมีห้องทุกแบบตั้งแต่ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom โดยห้อง 1 Bedroom จะมีจำนวนยูนิตเยอะสุด จำนวน 23 ห้อง รองลงมาเป็นห้อง 2 Bedroom 2 ห้อง และห้อง 1 Bedroom Plus 1 ห้อง

Facilities หลักของคอนโดจะอยู่ที่ชั้น 33 ที่จะมีเฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่เข้ามาใช้งานได้ ส่วนแรกจะเป็น Fitness ซึ่งนอกจากชั้นนี้แล้วลูกบ้านยังสามารถไปใช้ฟิตเนสร่วมกันกับของโรงแรมได้ด้วย

ติดกับห้องฟิตเนสมีมุม Learning Zone เป็นพื้นที่นั่งทำงาน สำหรับใครที่เบื่อๆไม่อยากนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานในห้องก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานบนชั้น 33 ได้ ชมวิวเมืองไปด้วย สวยๆ

บรรยากาศภายใน Study Zone จัดมุมนั่งเล่นหลายๆแบบมาให้ใช้งานจะได้ไม่เบื่อกัน พร้อมโต๊ะยาวมาให้ เผื่อใครต้องใช้คุยงานกับเพื่อนๆหรือประชุมงานกลุ่มอะไรก็สามารถนัดเพื่อนๆมาได้เช่นกัน

โซน Co – Cooking Space เป็นพื้นที่ห้องครัวขนาดใหญ่ ให้ลูกบ้านได้มาโชว์ฝีมือการทำอาหาร อาจจะทำอาหารในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น จัดปาร์ตี้เลี้ยงเพื่อนที่มาเยี่ยม หรืออาจจะทำขนมแจกในโอกาสพิเศษๆ อย่างปีใหม่ วันเกิดคนพิเศษ ก็สามารถมาใช้พื้นที่ครัวกว้างๆ ตรงนี้ได้ จะได้ทำครัวได้สะดวก

ติดกับ Co – Cooking Space ก็จะมี Lounge จัดเป็นโต๊ะนั่งทานอาหารไว้ให้หลายชุด เมื่อเราทำอาหารเสร็จก็สามารถที่จะให้เพื่อนๆหรือครอบครัวนั่งทานกันในพื้นที่ส่วนนี้ได้เลย

จุดเด่นอีกอย่างของส่วนกลางที่นี่คือพื้นที่ส่วน Laundry ที่จากปกติโครงการอื่นๆที่เราเคยเห็นกันเค้าจะเอาห้องซักรีดไปแอบๆไว้ในห้องมุมอื่นๆ แต่ที่โครงการนี้เค้าจะยกออกมาไว้ในพื้นที่ที่สามารถใช้งานได้สะดวก จัดทำออกมาสวยๆ เชื่อมกับส่วนกลางอื่นๆ เพื่อที่เวลาเรารอซักผ้า หรืออบผ้าก็สามารถที่จะไปออกกำลังกาย หรือนั่งทำงานรอไปพลางๆได้สะดวกดีค่ะ

สุดท้ายส่วนกลาง Outdoor จะเป็น Outdoor Pavilion และสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool

การออกแบบตัวห้องพักอาศัย ของโครงการนี้จะเป็นห้องแบบเกือบ Fully Furnished ที่ให้เฟอร์นิเจอร์มาเกือบพร้อมอยู่เลย คือ เตียง, ตู้เสื้อผ้า, ครัว และห้องน้ำ โดยจะใช้คอนเซ็ปต์การออกแบบ Neo Exploring Platform เพื่อรองรับ User ที่มีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยเพราะคนเราใช้ชีวิตวันนึง 24 ชั่วโมง แบ่งช่วงเวลาเท่าๆกันคือ 8 ชั่วโมง สำหรับนอน 8 ชั่วโมงสำหรับพักผ่อน และอีก 8 ชั่วโมง สำหรับทำงาน จึงออกแบบมาให้สามารถ “LIVE WORK PLAY” ได้ครบ ในห้องของตัวเอง

รวมไปถึงรูปแบบการอยู่อาศัยที่ทางโครงการคิดออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยมากกว่า 1 คน เพราะฉะนั้นห้องขนาด 1 Bedroom จึงเริ่มต้นที่ขนาด 34 ตร.ม. ซึ่งถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่นะคะสำหรับคอนโดในเมืองแบบนี้

สำหรับจุดเด่นที่เห็นชัดๆเลยกับการออกแบบตัวห้อง คือ

• Layout การออกแบบของแปลนห้องมีการวางระเบียงเฉียงๆ 2 ฝั่ง ให้สามารถ Take View ในมุมที่ไม่ชนกับตึก Office Building ของตัวโครงการเอง ทำให้ได้มุมสำหรับทำ Daybed ขนาดประมาณ 1.8 เมตร เหมือนได้ Extra Bed เพิ่มมาอีก 1 เตียงเลย
• พื้นที่ทำงาน ให้อยู่ทางฝั่งที่ได้รับแสงธรรมชาติ
• เตียงนอน ที่ให้มาเป็นเตียงเดี่ยว 2 หลัง ที่มีความ Flexible รองรับทั้งการอยู่อาศัย 2 คน สามารถแยกเตียงนอนกันได้ หรือถ้าอยู่คนเดียวก็สามารถที่จะดันเตียงมาชนกันให้เป็นเตียงควีนไซส์ก็ได้เช่นกัน
• ห้องน้ำ 2-at-a-Time แยกฟังก์ชั่นห้องน้ำและห้องอาบน้ำชัดเจน คนนึงสามารถอาบน้ำและอีกคนก็สามารถเข้ามาแปรงฟันพร้อมๆกันได้ ช่วยประหยัดเวลาในวันเร่งรีบด้วยค่ะ

ห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 68 ตร.ม. มีทั้งหมด 38 ยูนิต เป็นแบบห้องที่เหมาะกับครอบครัวที่มองหาที่อยู่อาศัยในเมือง จุดเด่นคือห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ การวางห้องนอนไว้ทางฝั่งขวา(ห้องนอนรอง)และซ้าย(Master Bedroom) เพื่อเชื่อมกับพื้นที่ส่วน Living Area ตรงกลาง เป็น Shared Space ซึ่งจะรวมพื้นที่ห้องนั่งเล่น, ห้องทานอาหารและห้องครัว

ห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหารและห้องครัว เป็นพื้นที่โถงกว้างซึ่งเป็นพื้นที่กลางที่ครอบครัวจะใช้งานร่วมกัน เมื่อถึงเวลาเข้านอนก็สามารถมีเวลาส่วนตัวแยกในห้องนอนของตัวเองได้ โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องก็จะมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวก

บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นติดกับห้องนอนรอง

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคอนโด “TRIPLE Y RESIDENCE“ ในโครงการ Mixed-use แห่งแรกๆบนถนนพระราม 4 ” SANYAN MITRTOWN” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และครอบคลุมทั้งกลุ่มคนทำงานและครอบครัว

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจบในตัว รวมจุดเด่นของสามย่านไว้ครบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ร้านค้า/ร้านอาหาร เปิด 24 ชม., พื้นที่ Co – Working Space ขนาดใหญ่สำหรับทำงานและการศึกษา, งานฝีมือ, งานอาร์ท ครบครัน

** สำหรับใครที่สนใจก็สามารถลงทะเบียนเพื่อเตรียมเข้าร่วมงาน Pre-sale Event วันที่ 10 มีนาคม นี้ ได้เลย พร้อมรับส่วนลด 100,00 ทันที ที่ www.tripleyresidence.com

หรือตามติดกิจกรรมและอัพเดตโครงการได้ที่ #tripleyresidence #samyan #samyanmitrtown

และอย่าลืมติดตามรีวิวฉบับเต็มของโครงการได้ที่นี่ เร็วๆนี้นะคะ 🙂

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ