| ชื่อโครงการ |
ทู แกรนด์ โมนาโค บางนา-วงแหวน TWO GRANDE MONACO Bangna-Wongwaen |
| เจ้าของโครงการ |
โกลเด้นแลนด์ / GOLDENLAND |
| ลักษณะโครงการ |
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น |
| พื้นที่โครงการ |
43 – 1 – 90 ไร่ |
| จำนวนบ้าน |
77 หลัง |
| เนื้อที่บ้าน |
100 ตร.วา ขึ้นไป |
| พื้นที่ใช้สอย |
เริ่มต้น 343 – 602 ตร.ม. |
| จำนวนห้อง |
4 – 5 ห้องนอน, 5 – 6 ห้องน้ำ, ห้องแม่บ้าน* |
| ที่จอดรถทั้งหมด |
3 – 4 คัน |
| โซน |
บางนา-วงแหวน |
| ขนส่งสาธารณะ |
- ถนนวงแหวนฯ กาญจนาภิเษก
- ถนนบางนา-ตราด
- ถนนมอเตอร์เวย์
- Airport Link บ้านทับช้าง
|
| รถโดยสารที่ผ่าน |
รถสองแถวสีขาว (ม.รามคำแหง – แอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีหัวหมาก) |
| ที่ตั้ง |
ถนนวงแหวนฯ กาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. |
| กำหนดการ |
พรีเซลล์ 18 พ.ย. 2560 |
| ปีที่สร้างเสร็จ |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ มิ.ย. 2562 |
| ราคา |
เริ่ม 20-40 ล้านบาท* |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
40 บาท/เดือน/ตร.วา |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
ห้างสรรพสินค้า
- ตลาด อตก Vida Gemopolis : 1.8 กม.
- ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 2.4 กม.
- Tesco Lotus บางนา : 4.0 กม.
- ตลาดเอี่ยมสมบัติ : 11.8 กม.
- Mega บางนา และ Ikea บางนา : 5.6 กม.
- ตลาดกิ่งแก้ว : 6.2 กม.
- Makro บางพลี : 6.4 กม.
- Index บางนา : 7.4 กม.
- Tesco Lotus และ HomePro บางพลี : 8.1 กม.
- The Paseo : 8.6 กม.
- เซ็นทรัล บางนา : 8.9 กม.
- Paradise Park : 9.5 กม.
- ซีคอนสแควร์ : 10.1 กม.
- ตลาดนัดรถไฟ : 10.2 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ 2 : 11.1 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ : 11.2 กม.
- Foodland ศรีนครินทร์ : 12.8 กม.
- Thanya Park : 13.0 กม.
- Big C อ่อนนุช : 15.5 กม.
- Tesco Lotus อ่อนนุช : 17.2 กม.
สถานศึกษา
- ม.รามคำแหง บางนา : 2.0 กม.
- รร.นานาชาติชาร์เตอร์ : 5.5 กม.
- รร.ราชวินิตบางแก้ว : 6.9 กม.
- รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 7.9 กม.
- รร.นานาชาติเบิร์กลี่ย์ : 11.2 กม.
- รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ : 11.3 กม.
- ม.หัวเฉียว : 11.8 กม.
- รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา : 12.8 กม.
- รร.เซนโยเซฟ บางนา : 12.8 กม.
- ม.นานาชาติสแตมฟอร์ด : 13.2 กม.
- เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง : 15.1 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.จุฬารัตน์ 9 : 6.6 กม.
- รพ.สิรินธร : 6.7 กม.
- รพ.ปิยะมินทร์ : 6.9 กม.
- รพ.ไทยนครินทร์ : 8.6 กม.
- รพ.บางนา 1 : 10.5 กม.
- รพ.ศิครินทร์ : 10.9 กม.
ศาสนสถานและอื่นๆ
- ป่าในกรุง : 2.6 กม.
- สวนหลวง ร.9 : 5.3 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ : 12.6 กม.
- BITEC บางนา : 13.3 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
- Clubhouse ขนาดใหญ่
- ห้องรับรอง
- สระว่ายน้ำ
- จากุซซี่
- ฟิตเนส
- ทะเลสาบ
- สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ / ขนาดเล็ก กระจายรอบโครงการ
- ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
|
| จุดเด่นของโครงการ |
TWO GRANDE MONACO บางนา-วงแหวน “Larger Than Life” คฤหาสน์หรู สไตล์โมนาโค อลังการ…ความสุขครั้งใหม่ กว่าครึ่งไร่! ที่บางนา เร็วๆ นี้ เริ่ม 20-40 ล้าน* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.671960, 100.698791
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ TWO GRANDE MONACO บางนา – วงแหวน ตั้งอยู่ติดกับ ถ.เลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก รถสามารถวิ่งสวนกันได้ แต่จะมีบางช่วงที่เป็น One way ซึ่งถนนเส้นนี้จะเชื่อมกับถนนหลายสาย ทั้งเส้นบางนา – ตราด, อ่อนนุช, ลาดกระบัง และสามารถลัดไปยังเส้นเฉลิมพระเกียรติมหานคร และพัฒนาการได้ สามารถเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองได้สะดวก เพราะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถี และถ้ารู้เส้นทางลัดเลาะก็จะทำให้เดินทางได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ
ทำเลนี้ล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล และ สถานศึกษา มีระบบขนส่งสาธารณะคอยรองรับอย่าง Airport Link ซึ่งในอนาคตจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน ทั้ง สนามบินดอนเมือง – สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินอู่ตะเภา และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นอีกเฟส เพื่อที่จะสามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ทำเลนี้มีความคึกคักมากขึ้นเป็นพิเศษ และเป็นที่จับตามองของผู้ประกอบการรายอื่นๆ ด้วยค่ะ, ขอบคุณภาพประกอบจาก HOME
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในทำเลนี้ถือว่าสะดวกพอใช้ได้เลย เพราะจากถนนหน้าโครงการ สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้หลายสาย ถ้าวิ่งขึ้นไปทิศทางเหนือ ฝั่งขาเข้าเมืองจะเชื่อมต่อกับ ถ.อ่อนนุช ซึ่งจะสามารถเข้าสู่ ถ.พัฒนาการ, ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.สุขุมวิท ใกล้จุดขึ้นมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ – ชลบุรี สายใหม่) เชื่อมต่อ ถ.พระราม 9 และทางพิเศษศรีรัช หรือจะลัดเลาะไป ถ.เฉลิมพระเกียรติมหานคร ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมกับ ถ.พัฒนาการ และ ถ.ศรีนครินทร์ก็ได้ ส่วนฝั่งขาออกเมืองจะเชื่อมต่อกับ ถ.ลาดกระบัง สามารถตรงไปยังฉะเชิงเทรา หรือไปเชื่อมกับ ถ.หลวงแพ่ง และ ถ.เทพราช-ลาดกระบัง มุ่งสู่ชลบุรีได้ โดยไปยังเส้นทางกรุงเทพ – ชลบุรีค่ะ
และถ้าวิ่งลงไปทางทิศใต้ จะเชื่อมต่อกับ ถ.บางนา – ตราด ใกล้จุดขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถี สามารถออกไปทางบางพลี, สมุทรปราการ, ชลบุรี หรือไปทางพระราม 2 ถือว่าเป็นทำเลชานเมืองที่อยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อการเดินทาง สะดวกในการเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางด่วน การวิ่งเข้าหรือออกเมืองนั้นถือว่าไม่ยุ่งยากค่ะ
ทางด่วน ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลกับจุดขึ้น – ลงทางด่วนและวงแหวนรอบนอก สำหรับทางด่วนโดยรอบโครงการนั้น จะเป็นทางด่วนที่เชื่อมต่อกัน ทำให้เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เลือกได้ว่าจะขึ้นหรือลงจุดไหน อย่างจุดที่ใกล้คือจุดขึ้น – ลงวงแหวนรอบนอกกาญจนาฯ เส้นนี้ก็ทำให้ไปยังพื้นที่โดยรอบเขตกรุงเทพได้ ตัวเมืองและปริมณฑลโดยรอบสามารถใช้เส้นนี้ได้
จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวีถี ถ้าวิ่งไปทางบางนา จะไปเชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานคร ซึ่งตรงไปยังตัวเมืองเขตปทุมวัน เชื่อมไปถึงทางยกระดับอุตรภิมุขตรงไปยังจตุจักร, ดอนเมือง และยังตรงไปยังพระราม 2 ได้
และจากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น – ลงมอเตอร์เวย์ ซึ่งช่องทางฝั่งซ้ายจะแยกไปทางพระราม 9 และสามารถเชื่อมต่อไปทางสาทรและสีลมได้ ในเส้นทางเดียวกันถ้าแยกไปช่องทางฝั่งขวาจะไปทางชลบุรีและเข้าสุวรรณภูมิค่ะ
นอกจากนี้ เส้นกรุงเทพ – ชลบุรีสายใหม่ ก็จะเชื่อมกับทางด่วนศรีรัช วิ่งไปทางบางซื่อ, นนทบุรี และตรงไปยังปทุมธานีได้ เรียกได้ว่าที่ตั้งโครงการนั้นสะดวกทั้งถนนแนวราบและทางด่วนค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ตัวโครงการตั้งอยู่ในย่านพักอาศัย ส่วนมากจะเป็นหมู่บ้านจัดสรรค่ะ ในพื้นที่ใกล้เคียงกันก็จะมีอยู่หลายหมู่บ้าน และยังคงมีที่ดินเปล่ากับทุ่งนาอยู่บ้าง แต่ในระยะเดินจะไม่มีพวกร้านค้า, ร้านอาหาร หรือร้านสะดวกซื้อนะคะ จำเป็นต้องพึ่งรถในการจับจ่ายใช้สอย หรือไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นฝั่งตรงข้ามโครงการ ซึ่งเป็นส่วนของนิคมอุตสาหกรรม จึงมีร้านค้าและร้านอาหารอยู่เยอะทีเดียว
ถ้าจะหาห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ต้องออกไปที่เส้นบางนาค่ะ ถือว่า Peak ที่สุดในย่านนี้ ตรงนั้นจะมีทั้ง MEGA และ IKEA บางนา, เซ็นทรัลบางนา, Index Living Mall, Tesco Lotus, HomePro และ Makro จัดเต็มตลอดทั้งเส้น ส่วนบนศรีนครินทร์ก็ไม่น้อยหน้ามีทั้ง Seacon Square และ Paradise Park อยู่ใกล้ๆ กัน ในตอนกลางคืนข้างๆ Seacon Square จะมีตลาดนัดรถไฟ เป็นตลาดแนวย้อนยุค มีอาหารอร่อยๆ และของที่น่าสนใจมาขายเพียบ
และก็ยังมี The Paseo เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ ตรงเส้นลาดกระบัง มีร้านอาหาร, ร้านขายเสื้อผ้า, ธนาคาร, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านขายต้นไม้, ร้านดูแลสัตว์, ติวเตอร์สอนพิเศษ, ตอนช่วง 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม จะมีตลาดนัดขายของขายเสื้อผ้ามาเปิดเพิ่ม ถือเป็นจุดศูนย์รวมของคนในย่านนี้ รวมทั้งพนักงานของสายการบินต่างๆ และเจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะไปตลาดสดตรงเส้นอ่อนนุช – ลาดกระบังก็ได้ เรียกได้ว่าจะอยากไปจับจ่ายแบบไหนก็เลือกได้สะดวก
จุดเด่นใหญ่ๆ ของย่านนี้เลยก็คือสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจากตัวโครงการถือว่าไปได้ง่ายมากๆ นอกจากนี้บริบทโดยรอบโครงการก็จะมีโรงพยาบาล, สถานศึกษา อีกทั้งยังมีสวนหลวงร.9 และโครงการป่าในกรุง หรือ Metro Forest ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2558 บนถนนสุขาภิบาล 2 อยากจะพักผ่อนในธรรมชาติก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางจากตัวโครงการยังจะเน้นรถส่วนตัวเป็นหลักนะ เพราะที่หน้าโครงการมีรถประจำทางผ่านไม่เยอะ ที่พอมีก็คือรถสองแถวสีขาว ซึ่งจะวิ่งจาก ม.รามคำแหง ถึง แอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีหัวหมาก ส่วนแท็กซี่จะมีให้เรียกเป็นระยะๆ ค่ะ ประกอบกับ Application Grab Taxi และ Line Taxi ก็จะสะดวกมากขึ้น
สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการมากที่สุดตอนนี้ก็จะเป็น Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง ซึ่งจะสามารถเชื่อมกับ BTS สายสีเขียว สถานีพญาไท และ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีมักกะสัน แม้จะไม่ได้ใกล้มากนักแต่ก็ถือว่าเพิ่มอีกทางเลือกสำหรับเวลาที่ต้องเข้าเมือง ก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าแท็กซี่แพงๆ แต่ยังไปใช้บริการรถไฟฟ้าได้ค่ะ
อีกทั้งในอนาคตจะมี โครงการ Airport Link ส่วนต่อขยายเชื่อม สนามบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินดอนเมือง โดยแนวเส้นทางจะต่อขยายจาก สถานีพญาไท ขนานไปกับเส้นทางรถไฟสายเหนือและสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) มาสิ้นสุดที่สนามบินดอนเมือง รวมถึง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง พัฒนาการ-สำโรง วิ่งผ่านบนเส้นศรีนครินทร์ และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง บางนา – สุวรรณภูมิ วิ่งผ่านบนเส้นบางนา – ตราด อีกด้วย
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) > ถ.เลียบวงแหวนรอบนอก > TWO GRANDE MONACO บางนา – วงแหวน
มาเริ่มต้นการเดินทางจากบนมอเตอร์เวย์ เส้นนี้เราจะใช้เวลาเดินทางไปถึงตัวโครงการประมาณ 15 นาทีค่ะ ให้เราสังเกตป้ายบางนาเอาไว้แล้วชิดซ้าย
วิ่งตรงไปเรื่อยๆ จะเจอทางแยกไป ถ.กาญจนาภิเษก ให้ขับเข้าทางฝั่งซ้ายเลยค่ะ
จากนั้นให้เราดูป้ายบางนา เตรียมชิดขวา
ให้เราขับตามป้ายบางนาเข้าไปเลยจะไป ถ.อ่อนนุชได้
จากตรงนี้เราขับตามป้าย ถ.อ่อนนุชไปค่ะ
เราขับตามป้าย ถ.อ่อนนุช – ลาดกระบังและชิดซ้ายเอาไว้นะ
ลงจากมอเตอร์เวย์จะเป็นทางแยก 2 ช่องทาง ให้เราชิดขวาแล้วกลับรถเข้าสู่ ถ.เลียบวงแหวนรอบนอก
จากนั้นให้เราชิดซ้ายวิ่งตามทางคู่ขนานนะคะ
ชิดซ้ายวิ่งทางคู่ขนาน เพราะเราจะกลับรถไปที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ
ตรงไปข้างหน้าจะเห็นสะพานกลับรถ พอเรากลับรถใต้สะพานแล้วจะไปออกที่ทางคู่ขนานฝั่งตรงข้าม
พอเรากลับรถมาแล้วไม่วิ่งตรงไปนะ ให้เราเลี้ยวขวาเหมือนกลับรถ เพื่อวิ่งสวนลงไปทางบางนาค่ะ
จากนั้นเราวิ่งบนทางคู่ขนานตรงไปเรื่อยๆ ทางนี้รถจะสามารถวิ่งสวนกันได้ 2 เลนค่ะ
สักพักนึงเราจะเห็นโครงการ Golden Town 1 ที่เปิดตัวไปเมื่อตอนต้นปี 2560 อยู่ทางฝั่งขวามือ ให้เราขับเลยไปอีกค่ะ
ตรงไปอีกไม่ไกล เราจะเห็นซุ้มโครงการขนาดใหญ่ หรูหราเด่นสง่าสไตล์โมนาโคอยู่ฝั่งขวามือของเรา นั่นก็คือโครงการ TWO GRANDE MONACO บางนา – วงแหวน ให้เราเลี้ยวเข้าไปได้เลยค่า
ภาพซุ้มทางเข้าโครงการแบบชัดๆ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
- ถ.บางนา-ตราด : 4.5 กม.
- ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 : 4.6 กม.
- แยกประเวศ : 6.0 กม.
- ถ.พัฒนาการ : 6.3 กม.
- ถ.ลาดกระบัง : 6.3 กม.
- ถ.อ่อนนุช : 6.6 กม.
- ถ.ศรีนครินทร์ : 10.8 กม.
- แยกลาดกระบัง : 11.8 กม.
- ถ.สุขุมวิท : 14.0 กม.
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
- ตลาด อตก Vida Gemopolis : 1.8 กม.
- ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ : 2.4 กม.
- Tesco Lotus บางนา : 4.0 กม.
- ตลาดเอี่ยมสมบัติ : 11.8 กม.
- Mega บางนา และ Ikea บางนา : 5.6 กม.
- ตลาดกิ่งแก้ว : 6.2 กม.
- Makro บางพลี : 6.4 กม.
- Index บางนา : 7.4 กม.
- Tesco Lotus และ HomePro บางพลี : 8.1 กม.
- The Paseo : 8.6 กม.
- เซ็นทรัล บางนา : 8.9 กม.
- Paradise Park : 9.5 กม.
- ซีคอนสแควร์ : 10.1 กม.
- ตลาดนัดรถไฟ : 10.2 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ 2 : 11.1 กม.
- Makro ศรีนครินทร์ : 11.2 กม.
- Foodland ศรีนครินทร์ : 12.8 กม.
- Thanya Park : 13.0 กม.
- Big C อ่อนนุช : 15.5 กม.
- Tesco Lotus อ่อนนุช : 17.2 กม.
สถานศึกษา
- ม.รามคำแหง บางนา : 2.0 กม.
- รร.นานาชาติชาร์เตอร์ : 5.5 กม.
- รร.ราชวินิตบางแก้ว : 6.9 กม.
- รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 7.9 กม.
- รร.นานาชาติเบิร์กลี่ย์ : 11.2 กม.
- รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ : 11.3 กม.
- ม.หัวเฉียว : 11.8 กม.
- รร.นานาชาติบางกอกพัฒนา : 12.8 กม.
- รร.เซนโยเซฟ บางนา : 12.8 กม.
- ม.นานาชาติสแตมฟอร์ด : 13.2 กม.
- เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง : 15.1 กม.
ศูนย์การแพทย์
- รพ.จุฬารัตน์ 9 : 6.6 กม.
- รพ.สิรินธร : 6.7 กม.
- รพ.ปิยะมินทร์ : 6.9 กม.
- รพ.ไทยนครินทร์ : 8.6 กม.
- รพ.บางนา 1 : 10.5 กม.
- รพ.ศิครินทร์ : 10.9 กม.
ศาสนสถานและอื่นๆ
- ป่าในกรุง : 2.6 กม.
- สวนหลวง ร.9 : 5.3 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ : 12.6 กม.
- BITEC บางนา : 13.3 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ที่ตั้งโครงการ โดยรอบเป็นหมู่บ้านจัดสรรและชุมชน ทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว สูง 1 – 2 ชั้น พื้นที่ดินโดยรอบที่เหลือบางส่วนยังคงเป็นผืนที่ดินเปล่าและทุ่งนาค่ะ จากจุดที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษา และวัดวาอารามค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร และที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร
- ทิศตะวันออก ติดกับ ถ.คู่ขนานกาญจนาภิเษก
- ทิศตะวันตก ติดกับ หมู่บ้านจัดสรร
หน้าโครงการเป็น ถ.เลียบวงแหวนกาญจนาฯ ดังนั้นถ้าจะข้ามไปอีกฝั่งต้องไปกลับรถใต้สะพานลอดวงแหวนค่ะ
ทางฝั่งซ้ายมือ (ทิศเหนือ) ตัวโครงการจะติดกับที่ดินเปล่า และหมู่บ้านจัดสรรค่ะ
ผืนที่ดินเปล่าที่อยู่ติดกับบริเวณหน้าโครงการ ถ้าเราเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอหมู่บ้านนาราโฮม และนาราทาวน์ค่ะ
ส่วนทางฝั่งขวามือ (ทิศใต้) จะอยู่ติดกับหมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ 2
ทางเข้าหมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ 2 ค่ะ
ถัดจากหมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ไปจะเป็นผืนที่ดินเปล่า ลึกเข้าไปมีชุมชนหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี
จากฝั่งนี้เราสามารถเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้ค่ะ ไม่ไกลจากหน้าโครงการจะมีสะพานลอยสามารถใช้ข้ามถนนได้
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการเป็นคฤหาสน์สูง 2 ชั้น สไตล์โมนาโค มีทั้งหมด 77 ยูนิตบนที่ดิน 43 – 1 – 90 ไร่ บ้านขนาดใหญ่ หรูหรา บนที่ดินกว่าครึ่งไร่ กับฟังก์ชั่นถึง 4-5 ห้องนอน, 5-6 ห้องน้ำ แยกสัดส่วน Maid Plaza ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
การวางผังของโครงการจะใช้ถนนหลักกว้าง นำเข้ามาสู่ภายในตัวโครงการ ผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามา จะเจอคลับเฮ้าส์ของเฟส 1 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ตรงเข้าไปตามถนนเมนจนเจอวงเวียน ที่มีทะเลสาบอยู่ด้านหลังให้วนไปทางขวาตามถนนเมนเพื่อเข้าสู่เฟส 2 จะมีคลับเฮ้าส์อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายด้วยค่ะ
ดูแล้วลูกบ้านหลังท้ายๆ จะค่อนข้างอยู่ไกลจากซุ้มทางเข้าโครงการ เพราะผังโครงการเป็นแบบหน้าแคบแค่ลึก แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวที่สูงกว่า ข้อดีของโครงการก็คือ มีการจัดผังให้หน้าบ้านหันตามแนวแกนเหนือ – ใต้ ทำให้ตัวบ้านเย็นสบาย สามารถรับลมได้ตลอดทั้งปีค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
แบบบ้านของโครงการจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ เป็นคฤหาสน์สูง 2 ชั้น ขนาด 4-5 ห้องนอน 5-6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3-4 คัน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ราชรัฐโมนาโค ในประเทศฝรั่งเศส ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ดูหรูหรา แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ใช้พระราชวัง Le Palais Prin Cier de Monaco เป็นต้นแบบ รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโบสถ์ Le Cathedrale De Monaco ในการออกแบบ สิ่งที่แตกต่างกันของแบบบ้านทั้ง 3 นั่นก็คือพื้นที่ใช้สอยและจำนวนห้องดังนี้ค่ะ
แบบบ้าน Ambroise
- บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น
- ขนาด 343 ตร.ม.
- 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ, พื้นที่อเนกประสงค์, Family Area และ Maid Plaza
แบบบ้าน Versailles
- บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น
- ขนาด 424 ตร.ม.
- 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, พื้นที่อเนกประสงค์, Family Area, Working Area, Prayer Area และ Maid Plaza
แบบบ้าน Palais de Prince
- บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น
- ขนาด 602 ตร.ม.
- 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, พื้นที่อเนกประสงค์, ห้องเก็บรองเท้า และ Maid Plaza
::: แบบบ้าน Ambroise :::
- แบบบ้าน Ambroise ขนาด 343 ตร.ม.
- 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ
- พื้นที่อเนกประสงค์, Family Area และ Maid Plaza
- แบบบ้าน Versailles ขนาด 424 ตร.ม.
- 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ
- พื้นที่อเนกประสงค์, Family Area, Working Area, Prayer Area และ Maid Plaza
- แบบบ้าน Palais de Prince ขนาด 602 ตร.ม.
- 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ
- พื้นที่อเนกประสงค์, ห้องเก็บรองเท้า และ Maid Plaza
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เมื่อสักครู่เราได้ชมบรรยากาศรอบนอกและรายละเอียดของโครงการกันไปแล้ว เดี๋ยวเราไปชมภายในโครงการ, พื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงบ้านตัวอย่างกันค่ะ
ซุ้มของโครงการถูกออกแบบให้ดูโอ่อ่า หรูหรา สไตล์โมนาโค โดยลดทอนรายละเอียดลงไปบ้างแต่ยังคงเอกลักษณ์และโทนสีของเมืองเอาไว้
ป้ายและลานน้ำพุหน้าโครงการ
เราผ่านซุ้มเข้ามาภายในโครงการจะเจอส่วน Security Gate โดยจะต้องผ่าน ป้อมรปภ., รั้วไม้กระดก, รั้วเลื่อนไฟฟ้าอัตโนมัติ และกล้อง CCTV ทั้งช่องทางเข้า – ออก ด้วยระบบ Easy Pass
ช่องทางเข้าออกจะถูกแบ่งย่อยอีกเป็น 2 ช่อง ฝั่งซ้ายคือช่องสำหรับ Resident ที่ถือ Key Card สามารถขับผ่านรั้วเข้าไปได้เลย ส่วนฝั่งขวาเป็นช่องสำหรับ Visitor จะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ
เครื่องรับสัญญาณ Key Card
และ CCTV จับภาพคนขับและป้ายทะเบียนรถ
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
ผ่านส่วน Security เข้ามาแล้วจะเชื่อมด้วยถนนเมนนำเข้าสู่ตัวโครงการค่ะ
ขับตรงเข้ามาเราจะผ่านวงเวียนแรก
ที่ฝั่งซ้ายมือของวงเวียนก็คือคลับเฮ้าส์ของโครงการเฟสที่ 1 ค่ะ
เราขับผ่านวงเวียนตรงเข้าไปเรื่อยๆ เห็นสภาพถนนและแลนสเคปภายในโครงการมีการดูแลเป็นอย่างดี
เราขับตรงเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงวนเวียนที่ 2 ให้เราขับวนไปตามเข็มนาฬิกาเพื่อออกทางขวานะ
ด้านหลังของวงเวียนจะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะ
ทางเดินภายในสวนสาธารณะค่ะ ดูร่มรื่นสวยงามดี สวนและทะเลสาบถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับเฟส 1 แต่ก็ยังถูกดูแลให้มีสภาพสวยงามน่าใช้งาน
พอเราขับผ่านวงเวียนมาแล้ว ก็จะเจอถนนเมนที่เชื่อมต่อสู่เฟส 2 ที่เรากำลังจะเข้ามารีวิวกันในวันนี้นั่นเอง
ขับข้ามสะพานข้ามคลองเข้าไปก็คือเฟส 2 แล้วค่ะ
ภาพจากบนสะพานเชื่อมสู่เฟส 2
ภาพบรรยากาศโดยรวมและแลนสเคปที่สวยงามภายในโครงการ
พอเราข้ามสะพานมาแล้วก็จะเข้าสู่ถนนเมนภายในโครงการ TWO GRANDE MONACO บางนา – วงแหวน กันแล้วค่ะ
และที่เด่นเป็นสง่าอยู่ฝั่งซ้ายมือก็คือคลับเฮ้าส์ของทางโครงการซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมนาโค ด้านหน้าคลับเฮ้าส์มีสระน้ำที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง และล้อมรอบด้วยสวนสวยขนาดใหญ่
ภาพมองย้อนกลับไปทางสะพานข้ามคลอง เห็นบรรยากาศที่สวยงามหรูหราภายในโครงการอีกมุมนึง
จากถนนเมนตรงเข้ามาเรื่อยๆ เราจะเจอวงเวียนค่ะ ให้เราขับวนตามเข็มนาฬิกา
ซึ่งทางแยกแรกจะนำเข้าสู่คลับเฮ้าส์ค่ะ
บริเวณด้านหน้าทางเข้าคลับเฮ้าส์ของโครงการ รายละเอียดภายในจะเป็นอย่างไรจะอยู่ในหัวข้อถัดไปนะคะ
และทางแยกที่ 2 จะนำเข้าสู่ส่วนบ้านพักอาศัย
บรรยากาศภายในถนนส่วนพักอาศัย ซึ่งถนนที่ตัดผ่านหน้าบ้านแต่ละหลังจะค่อนข้างกว้างเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ช่วยเว้นระยะของบ้านทั้ง 2 ฝั่งออกจากกัน ทำให้การอยู่อาศัยนั้นเป็นส่วนตัว และดูไม่แออัด
บ้าน 2 หลังแรกจะเป็นบ้านตัวอย่างที่เราจะพามาชมกันในวันนี้ นั่นก็คือแบบบ้าน Ambroise (อองบัวซ์) และแบบบ้าน Versailles (แวร์ซายน์) นั่นเอง ส่วนบ้านตัวอย่าง Palais de Prince (ปาลา เดอ แปงซ์) หลังใหญ่ที่สุดนั้นถูกขายไปแล้วอย่างรวดเร็ว จึงมีแต่บ้านมาตรฐานเปิดเอาไว้ให้ชมเท่านั้นค่ะ
หน้าตาแบบบ้าน Ambroise ขนาดพื้นที่ใช้สอย 343 ตร.ม.
และแบบบ้าน Versailles ขนาด 424 ตร.ม. ในรายละเอียดของบ้านตัวอย่างจะอยู่ในหัวข้อถัดๆ ไปนะคะ
ถัดจากบ้านตัวอย่าง 2 หลังแรกเข้าไปก็จะเป็นส่วนของบ้านมาตรฐาน
บรรยากาศภายในส่วนบ้านพักอาศัย
::: คลับเฮ้าส์ และ สวนสาธารณะ :::
คลับเฮ้าส์ของโครงการจะอยู่บริเวณด้านหน้าสุดของเฟส 2 เลยค่ะ ด้านหน้าเป็นสระน้ำที่ล้อมรอบด้วยสวนสวยของโครงการ
คลับเฮ้าส์ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Casino de Monte-Carlo ด้วยรูปแบบหลังคาโดมสูง และช่องเปิดอาคารที่เป็นจังหวะ มีระเบียบ และใช้เอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมสไตล์ Baroque ในการออกแบบ แต่ลดทอนรายละเอียดบางส่วนลงแต่พอดี ให้เหมาะสมกับยุคสมัยในปัจจุบัน ภายในประกอบด้วย ห้องรับรอง, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และจากุซซี่
เราเดินเข้าไปชมด้านในด้วยกันเลยค่ะ
ส่วนแรกภายในคลับเฮ้าส์จะเป็นห้องโถง ซึ่งเป็นจุดพักแขกก่อนเข้าสู่ส่วน Reception ที่เชื่อมด้วยบันไดลายหินอ่อน ราวเหล็กถอดลวดลายมาจากสถาปัตยกรรมในยุค Baroque มี Chandelier ประดับอยู่ตรงกลางโถง บรรยากาศดูหรูหรา แต่ก็ยังคงความทันสมัยด้วย
พอเดินขึ้นไปก็จะเจอโต๊ะ Reception อยู่ตรงกลางโถง มีพนักงานฝ่ายขายประจำอยู่คอยให้ข้อมูลและรายละเอียดของตัวโครงการค่ะ
หันไปทางขวามือจากส่วน Reception จะเชื่อมต่อกับโถงทางเข้าห้องน้ำ
บริเวณโถงพักคอยหน้าห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำหญิงจะอยู่ด้านหน้า ส่วนห้องน้ำชายอยู่ถัดเข้าไปด้านใน
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ
ส่วนที่ฝั่งซ้ายมือของส่วน Reception จะเชื่อมต่อกับห้องรับรองและฟิตเนสค่ะ
ห้องรับรองและฟิตเนสจะถูกจัดรวมกันอยู่ภายในห้องโถงนี้นะคะ ในปัจจุบันทางโครงการยังไม่ได้นำเครื่องออกกำลังกายมาวางให้ดู โดยรวมบรรยากาศทำออกมาได้ดูหรูหรา และสวยงามมากๆ และยังโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานที่สูงแบบ Double Volume
ภาพบรรยากาศภายในห้องรับรอง
โดยรอบห้องมีชุดโซฟาจัดเตรียมเอาไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อน สามารถชมวิวของสระว่ายน้ำ และสระน้ำที่ล้อมรอบด้วยสวนสวยได้
ส่วนด้านหลังสุดของโถงจะมีบาร์หรูสำหรับจัดเตรียมเครื่องดื่มต่างๆ ให้
ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของโถงจะมีห้องรับรองเล็กๆ แยกเอาไว้ให้สำหรับการคุยธุระแบบเป็นส่วนตัว
ภาพบรรยากาศภายในห้องรับรองค่ะ
ภาพจากบริเวณบาร์มองย้อนกลับไปที่ส่วน Reception
จากห้องรับรองจะมีประตูสามารถเชื่อมสู่สระว่ายน้ำและสวนภายนอกได้
เดินลงไปจะมีบันไดแยกออกไปทางซ้ายและทางขวา
เดินลงจากบันไดไปทางฝั่งซ้ายมือ จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ
สระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นสระน้ำล้นระบบเกลือ มีขนาดใหญ่มากๆ สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบายๆ มองออกไปจะได้วิวของสระว่ายน้ำที่เชื่อมกับสระน้ำด้านหน้าด้วย
บริเวณรอบๆ สระทางโครงการได้จัดชุดโต๊ะ – เก้าอี้หวายเอาไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
ปลายสระแบ่งเป็นสระแบบจากุซซี่ค่ะ ซึ่งจุดนี้จะค่อนข้างตื้น เด็กเล็กสามารถมาเล่นน้ำที่จุดนี้ได้
ภาพบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำอีกมุมนึง
อีกฝั่งนึงของสระจัดเป็นสวนน้ำตกหินเทียมสีดำ ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูหรูหราสวยงาม
ที่บริเวณนั้นก็จะมีจุด Pool Jet และม้านั่งภายในสระ สามารถมานั่งเอนหลังให้น้ำนวดตัว พร้อมกับชมวิวของสวนสวย
จากบันไดเราเดินลงไปทางฝั่งขวามือกันบ้าง ถ้าเราเลี้ยวขวาเข้าไปในใต้อาคารจะเป็นส่วนของห้องน้ำและห้องน้ำอาบ แต่ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเดินเชื่อมสู่สวนสาธารณะค่ะ
เดินลงมาจากบันไดเลี้ยวขวาเข้าใต้อาคาร จะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกชาย – หญิงให้
ภายในห้องน้ำค่ะ ด้านในจะมีทั้งตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บของ, อ่างล้างมือ, ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำค่ะ
และเดินลงจากบันไดเราเลี้ยวซ้าย จะมีทางเดินเชื่อมสู่สวนสาธารณะแบบนี้
ภายในสวนมีการออกแบบแลนสเคปมาเป็นอย่างดี คัดสรรพรรณไม้ ทั้งไม้ดอก, ไม้ประดับ และไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ทำทางเดินเอาไว้ให้โดยรอบ เดี๋ยวเราจะพาเดินชมบรรยากาศภายในสวนกันค่ะ
ทางเดินภายในสวนจะพาเราเดินลัดเลาะไปรอบๆ สระน้ำ เพื่อชมบรรยากาศความสวยงามในจุดต่างๆ
จากจุดนี้ถ้าเราหันกลับไปก็จะเห็นคลับเฮ้าส์ที่ลอยอยู่บนชั้นน้ำตกหินเทียมสีดำค่ะ ดูสวยมากทีเดียว
บางส่วนของสวนจัดเป็นสนามพัดกอล์ฟด้วยนะ ให้คอกอล์ฟมาประลองฝีมือกับเพื่อนบ้านได้
เดินไปข้างหน้ามีซุ้มต้นหลิวด้วยค่ะ ช่วยสร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี
ถัดมาจะมีชานพักยื่นออกไปกลางสระน้ำ เป็นจุดสำหรับยืนชมวิวและรับลม
เราเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงอีกฝั่งนึงของสระน้ำ
จุดนี้จะมีการจัดสวนเป็นขั้นบันไดคล้ายอัฒจรรย์ ที่สามารถใช้นั่งเล่นพักผ่อนใต้ร่มไม้ได้
ภาพบรรยากาศโดยรวมของสระน้ำ, สวนสาธารณะ และคลับเฮ้าส์
เราเดินข้ามมาที่อีกฝั่งนึงของถนนเมน จะเป็นสวนสาธารณะอีกส่วนนึงของโครงการค่ะ ซึ่งรูปแบบการจัดสวนนั้นถอดแบบมาจาก Formal Garden ในฝรั่งเศส เป็นการจัดสวนแบบเป็นระเบียบ ซ้าย – ขวาเท่ากัน และตัดแต่งทรงต้นไม้ด้วยรูปทรงเรขาคณิต
ตรงกลางสวนมี Pavilion ที่นำเหล็กมาดัดให้ได้หลังคาทรงโดมสูง
ภายในไม่ได้กันฝนหรือกันแดดนะคะ แต่ก็ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวได้ระดับนึง ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นที่แดดไม่จัดก็สามารถมานั่งพักผ่อนที่มุมนี้ได้ ภายในมีการแขวนเฟิร์นประดับเอาไว้ ดูแล้วช่วยทำให้รู้สึกเย็นขึ้นได้
จาก Pavilion จะมีทางเดินตรงเข้าไปภายในสวนส่วนอื่นๆ ทางโครงการได้มีการจัดม้านั่งเอาไว้ให้ตามจุดใต้ร่มไม้ และยังคงจัดแบบ Formal นะ ทั้ง 2 ฝั่งวางเหมือนกันเลย
ภาพจากภายในสวนมองย้อนกลับไปที่ฝั่ง Pavilion
และสวนอีกส่วนนึงที่อยู่บริเวณส่วนบ้านพักอาศัย
สวนส่วนนี้ไม่ได้จัดแบบ Formal Garden แล้วนะคะ แต่ยังใช้สไตล์เดิมในการจัดแต่งสวน
มุมนั่งพักผ่อนภายในสวนอีกมุมนึง
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็น แบบบ้าน Ambroise ขนาด 343 ตร.ม. และตามด้วย แบบบ้าน Versailles ขนาด 424 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า ?
::: แบบบ้าน Ambroise ขนาด 343 ตร.ม. :::
แบบบ้าน Ambroise ขนาด 343 ตร.ม. เป็นแบบบ้านขนาดเล็กที่สุดภายในโครงการ แต่ก็มีฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ถึง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อม Multi – purpose Area, Family Area, Maid Plaza และห้องน้ำในตัวห้องนอนทุกห้อง
รูปลักษณ์หน้าตาของบ้านใช้พระราชวัง Le Palais Prin Cier de Monaco เป็นต้นแบบ ซึ่งเคยเป็นป้อมปราการเก่า ตัวบ้านจึงดึงจุดเด่นของพระราชวังทั้ง ซุ้มโค้ง และหอคอยของป้อมปราการมาประกอบ รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโบสถ์ Le Cathedrale De Monaco ในการออกแบบดีเทลบัวประดับรับใต้ฝ้า แต่ลดทอนรายละเอียดบางส่วนลงเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบันมากขึ้นด้วยค่ะ
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 3 คันค่ะ และมีประตูทางเข้าบ้านรองสามารถเปิดเข้าบ้านได้เลย ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังส่วนรับประทานอาหาร และห้องพักผ่อนครอบครัว จากส่วนโถงกลางจะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินนำไปสู่ ห้องครัว, ห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องอเนกประสงค์ และโถงบันได จากห้องครัวจะเชื่อมกับ Maid Plaza หลังบ้าน ซึ่งประกอบด้วยลานซักล้างขนาดใหญ่ พร้อมห้องนอนและห้องน้ำ Maid แยกให้ต่างหาก พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 5 – 6 คนค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องและ Family Area โดยห้องนอนขนาดกลางและขนาดใหญ่จะวางอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดตั้งแต่ 5 ฟุตขึ้นไปได้ และวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว
เข้ามาในส่วนของลานจอดรถจะสามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน โครงสร้างเป็นเสาเข็ม-คอนกรีตเสริมเหล็ก ลงเข็มแบบ On Beam ให้เพื่อกันทรุด ทำพื้น Stamped Concrete ให้อย่างสวยงาม
ส่วนที่ฝ้าเพดานติดดวงโคมดาวน์ไลน์มาให้ จะเห็นว่าติดมาให้ค่อนข้างถี่ทีเดียวนะคะ รับรองว่าตอนกลางคืนก็สว่าง
ในลานจอดรถก็จะมีตู้สำหรับเก็บของให้ สำหรับพวกอุปกรณ์ล้างรถหรืออุปกรณ์ทำสวนค่ะ
และมีประตูทางเข้าบ้านรองอีกทาง ถ้าซื้อของเครื่องใช้หรืออาหารเข้ามาในบ้าน ขนของจากรถเข้าทางนี้จะสะดวกกว่า เพราะสามารถเดินตรงเข้าสู่ห้องครัวหรือห้องเก็บของภายในบ้านได้เลย โดยไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น ซึ่งประตูเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสงของ Tostem
มือจับบานประตูแบบเซาะร่องภายนอก และตัวล็อคบานประตูภายในแบบก้นห้อย
ส่วนมือจับบานประตูด้านในจะเป็นดีเทลทำร่องตรงอลูมิเนียมแบบนี้ ทำให้งานดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น
คราวนี้เรามาดูที่เฉลียงทางเข้าบ้านกันต่อ
ทำพื้นยกระดับขึ้นไป 3 สเต็ป สูงราวๆ 30 ซม. ปูพื้นด้วย Artificial Stone ขนาด 60 x 60 ซม.
ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานเปิดคู่ขนาดใหญ่บานกรอบไม้สัก ติดกระจกสเตนกลาสลายหรูหราสวยงาม
มือจับประตูสีเงินแวววาวเลือกแบบที่เข้ากัน
เข้ามาภายในบ้าน เราจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนค่ะ ถัดเข้าไปด้านในคือห้องรับประทานอาหาร ส่วนฝั่งซ้ายมือจะมีโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์ และโถงบันได
ภาพรวมดูกว้างขวางแนว Open Plan มีหน้าต่างขนาดใหญ่มาให้รอบด้าน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงของ Tostem ส่วนวัสดุที่ใช้ พื้นบ้านปูด้วย Verona Artificial Stone ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังติดวอลเปเปอร์สีมาตรฐานของทางโครงการให้เรียบร้อย
ฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่ง สูงถึง 3 เมตร ใช้ฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง ฝ้าบางส่วนทำดรอปฝ้าตกแต่งมาให้เรียบร้อย
บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์และ Finishing มาให้เห็นความลงตัวในแง่ของการใช้งานและความสวยงามเพื่อเป็นไอเดีย เราจะเริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อนเลย
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง, โต๊ะข้าง, โต๊ะกาแฟ, อาร์มแชร์ และสตูล เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งกำลังพอดีกับพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ค่ะ
ส่วนชั้นวางทีวี ทางบ้านตัวอย่างจัดเอาไว้ให้อยู่ฝั่งผนังทึบ ด้านหลังผนังตกแต่งด้วยบานกรอบและลูกฟักกระจกเงา ซึ่งช่วยทำให้ภายในห้องดูสว่างและกว้างขวางมากขึ้น
ระยะดูทีวีของห้องนี้กว้างถึง 3 เมตรเลยค่ะ ดูทีวีจอขนาด 75 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ เลย
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร และส่วนพักผ่อนครอบครัว
บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะกลมและเก้าอี้ขนาด 5 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วพื้นที่ยังสามารถรองรับได้มากกว่านี้ด้วย ด้านหลังสามารถวางชั้นโชว์ของหรือบาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มเพิ่มได้
จากห้องรับประทานอาหารจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนครอบครัวเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้าน
ซึ่งมุมนี้จะติดกระจกบานเข้ามุม เปิดมุมมองได้ 180 องศา และมีประตูบานเลื่อนเปิดเชื่อมสู่สวนได้
สวนข้างบ้านที่บ้านตัวอย่างจัดเอาไว้ให้ดูค่ะ ซึ่งทางโครงการได้มีการจัดสวนสวยเอาไว้ให้ในบ้านมาตรฐานทุกหลังด้วยนะ โดยแต่ละแปลงจะทำแบบไม่ซ้ำกันเลยค่ะ
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน
เราไปดูที่โถงทางเดินฝั่งซ้ายของตัวบ้านกันต่อ
จากโถงทางเดินจะเชื่อมไปยังฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่าง ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์ และ โถงบันได
เริ่มจากห้องครัว อยู่ฝั่งขวามือห้องแรกสุดของโถง ได้เป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
พื้นห้องครัวลดระดับลงจากพื้นโถงทางเดินประมาณ 10 ซม.ค่ะ เผื่อการล้างทำความสะอาด น้ำจะได้ไม่ไหลย้อนออกไปที่อื่น พื้นปูด้วย Verona Artificial Stone เหมือนเดิม
บ้านตัวอย่างทำเคาน์เตอร์และตู้เก็บของ Built – in เอาไว้ให้ดูในแง่ของการใช้งานและความสวยงาม แต่จริงๆ แล้วทางโครงการจะเตรียมเคาน์เตอร์คสล. และกรุผิวด้วยหินแกรนิตสีดำมาให้แล้ว จะเห็นว่าพื้นที่ห้องครัวค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว สามารถใช้ทำอาหารหนักๆ อย่างอาหารไทยได้สบาย
ฝั่งริมหน้าต่างเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการวางอ่างล้างจาน เพื่อจะได้ระบายความชื้นออกไปได้ง่าย และเตาปรุงอาหารวางฝั่งผนังทึบ ไกลออกมาจากหน้าต่างหน่อย จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องลมตีเข้าเวลาปรุงอาหารค่ะ
อย่าลืมเผื่อเคาน์เตอร์เอาไว้วางตู้เย็นด้วยนะ สำหรับขนาดตู้เย็นมาตรฐานให้เตรียมพื้นที่เอาไว้ประมาณ 60 x 60 ซม.ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเป็นตู้เย็น 2 ประตูจะต้องเผื่อที่เยอะกว่านั้นอีก
จากห้องครัวจะมีประตูเปิดเชื่อมสู่ Maid Plaza ด้านหลัง
วัสดุประตูเป็นบานสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส
พื้นส่วน Maid Plaza จะลดระดับลงจากพื้นห้องครัวอีกประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน ขนาด 60 x 60 ซม.
Maid Plaza ด้านหลังจะประกอบด้วย พื้นที่ซักล้าง, ห้องนอน Maid และห้องน้ำแยกส่วนให้
ทางโครงการจะก่อเคาน์เตอร์คสล. กรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สำหรับซักล้างมาให้กับตัวบ้านเรียบร้อยเลยค่ะ
กลับเข้ามาภายในโถงทางเดิน ฝั่งขวามือถัดจากห้องครัวคือห้องน้ำชั้นล่าง, ตรงกลางคือห้องอเนกประสงค์ ซึ่งเราจะเห็นตู้เก็บของติดเกล็ดระบายอากาศอยู่ข้างๆ ส่วนประตูบานเลื่อนฝั่งซ้ายคือประตูทางเข้าจากทางลานจอดรถค่ะ
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันก่อน เป็นห้องน้ำสำหรับแขกหรือ Powder Room นั่นเอง
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นโถงประมาณ 10 ซม.
ส่วนวัสดุพื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 60 x 60 ซม. และตกแต่งด้วย หินอ่อน Light Emperador Marble
ภายใน Powder Room จะมีเฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือเท่านั้นนะคะ ไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย สุขภัณฑ์ภายในบ้านทุกชิ้นจะใช้ของ ROCA ทั้งหมด ซึ่งเป็นแบรนด์สุขภัณฑ์คุณภาพระดับโลกจากสเปนค่ะ
อ่างล้างมือได้เป็นแบบฝังบนเคาน์เตอร์แบบนี้ ใต้เคาน์เตอร์พอมีช่องเก็บของ สามารถเก็บพวกกระดาษชำระ, ผ้าเช็ดมือ หรือขวดสบู่สำรองได้ ด้านหลังเคาน์เตอร์ก่อ Lower Wall จะวางเทียน หรือของประดับตกแต่งเพิ่มเติมก็เหมาะ
ส่วนท็อปเคาน์เตอร์กรุด้วยหินสังเคราะห์สีดำ มีพื้นที่ขอบอ่างเหลือเยอะ สามารถวางผ้าเช็ดมือ, ขวดสบู่, กล่องกระดาษชำระ หรือของตกแต่งได้สบายๆ ที่ขอบอ่างติดตั้งก๊อกน้ำล้างมือมาให้เรียบร้อย ใช้ของ ROCA เช่นกัน
ก๊อกน้ำทรงมาตรฐานจาก ROCA ค่ะ
อีกฝั่งนึงติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบ Washlet มาพร้อมกับ Accessories ประกอบการใช้งาน ด้านข้างมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำเตรียมมาให้พร้อมใช้งานคู่กัน
สายฉีดชำระให้ใช้ประกอบการใช้งาน
และที่ใส่แกนกระดาษชำระ
แผงควบคุมฝารองนั่งอเนกปรงสงค์ค่ะ ติดเอาไว้ให้ข้างๆ
ตามด้วยตู้เก็บของหน้าห้องอเนกประสงค์ หน้าบานติดเกล็ดระบายอากาศ ภายในติดตั้งตู้ Load Center เอาไว้ให้เพื่อความเรียบร้อย ซึ่งพื้นที่ภายในก็ยังเหลือพอสามารถเก็บของพวกอุปกรณ์ช่างเพิ่มเติมได้
มือจับบานเปิดเป็นห่วงๆ แบบนี้
เข้าไปดูภายในห้องอเนกประสงค์กันต่อ
บ้านตัวอย่างจัดห้องอเนกประสงค์เป็นโฮมเธียเตอร์และห้องชิมไวน์ให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่จริงๆ แล้วเราสามารถทำห้องนี้เป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุเพิ่มเติมได้อีก 1 ห้อง เพราะมีห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อยแล้ว
จะเห็นว่าห้องมีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวาง สามารถวางโซฟาแบบ L Shape ได้อย่างสบายๆ ถ้าจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ อย่างเตียงขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ลงตัว
หันไปอีกฝั่งจะมีโถงทางเดินเข้าห้องน้ำ
บ้านตัวอย่างใช้วางตู้ Wine Cellar แต่ถ้าเราจัดเป็นห้องนอน ก็สามารถทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าแทนได้ค่ะ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
พื้นห้องน้ำทำลดระดับลงไปจากพื้นห้องประมาณ 10 ซม.
วัสดุพื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลน ผนังบางส่วนตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกและหินอ่อน Light Emperador Marble ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดใช้ของ ROCA ค่ะ
หน้าห้องวางอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์สีดำเหมือนเดิม
ถัดเข้ามาวางโถสุขภัณฑ์ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ แต่จะไม่ได้ Washlet มาเหมือนห้อง Powder Room นะ
ด้านในสุดเป็นโซน Shower ค่ะ ที่ผนังจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดกระจกฝ้ามาเป็นช่องแสงและช่องระบายอากาศให้
ส่วนพื้น Shower จะใช้กระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านแทน
ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ ด้านข้างเจาะผนังทำชั้นวางขวดสบู่แชมพูเพิ่มเติม
เราเทียบขนาดหัวฝักบัวให้ดูค่ะ มีขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวกเลย
ด้านข้างโซน Shower จะติดตั้งราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ด้วย อยู่ในระยะใช้งานสะดวก
ส่วนฝ้าเพดานในห้องน้ำใช้ฝ้าฉาบเรียบกันชื้น ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้เหมือนเดิม
จากห้องอเนกประสงค์มองย้อนกลับออกมาที่โถงทางเดิน
นอกจากนี้ที่โถงทางเดินก็จะมีห้องเก็บของใต้บันไดให้อีก 1 จุด
เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ด้วยกันเลย สำหรับโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรง ปิดผิวด้วยไม้มะค่า ราวบันไดเป็นราวเหล็กดัด ใช้ลวดลายที่ชดช้อย มือจับใช้ไม้จริงเลือกสีเข้ากับพื้นบันได เป็นดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวบ้าน
ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 มีหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องแสงทำให้โถงบันไดสว่างและโปร่งโล่งมาก ส่วนนี้จะทำให้บ้านดูหรูอลังการมากขึ้นเมื่อประดับด้วย Chandelier สวยๆ สักโคม
ภาพมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
พอขึ้นมาถึงโถงบันไดชั้น 2 จะมีทางแยกไป 2 ฝั่ง ฝั่งขวาคือห้องนอนใหญ่
ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน 2, ห้องนอน 3 และ Family Area ค่ะ
พื้นชั้น 2 ทั้งหมดจะปูด้วยพื้นปาร์เกต์ไม้มะค่า ให้สัมผัสเหมาะแก่การพักผ่อนอยู่อาศัย ผนังติดวอลล์เปเปอร์ ฝ้าเพดานสูง 3 เมตรเท่ากับชั้นล่าง เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหมด
เรามาดูรายละเอียดแต่ละส่วนบนชั้น 2 ด้วยกันเลยค่ะ เริ่มจาก Family Area
บ้านตัวอย่างจัดเป็นมุมพักผ่อนของครอบครัว มีโซฟา 3 ที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมชั้นวางหนังสือ ซึ่งจริงๆ แล้วฟังก์ชั่นตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องพระ, ห้องเล่นโยคะ หรือห้องสำหรับออกกำลังกาย ก็มีพื้นที่รองรับเพียงพอ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ เริ่มจากห้องนอน 2
ห้องนอน 2 เป็นห้องไซส์กลางของบ้าน แต่ก็มีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัวง่ายมากๆ ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ฝั่งซ้ายคือโซนพักผ่อนและฝั่งขวาคือโซนแต่งตัว
ฝั่งซ้ายติดระเบียง สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างได้สบายๆ
ดูระยะโดยรอบก็ยังเหลือเยอะนะคะ สามารถเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก
ฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้แบบนี้ ดีไซน์แล้วแต่ชอบค่ะ
แม้จะวางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินอีกเยอะ สามารถวางสตูลที่ปลายเตียงเพิ่มได้อีก
จากห้องนอนจะสามารถเชื่อมกับระเบียงผ่านทางประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่กว้างเต็มหน้าห้องแบบนี้
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาผิวกันลื่น
พื้นที่ระเบียงมีความยาวเต็มหน้าห้องเลยค่ะ แต่ไม่ถึงกับกว้างมาก พอจะวางม้านั่งสักตัวเพื่อรับลมชมวิวได้ตอนเช้าหรือตอนกลางคืนได้
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
อีกฝั่งนึงของห้องเราสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่, โต๊ะทำงาน และโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว
และบริเวณนี้จะเชื่อมกับห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ
ทั้งการจัดวางผัง, วัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้เหมือนห้องน้ำชั้นล่างทุกประการค่ะ
ภายในห้องใช้สุขภัณฑ์จาก ROCA รุ่นเดิมทั้งหมด ส่วนพื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลน, กระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน และตกแต่งด้วย หิน Light Emperador Marble เหมือนเดิม
ถัดจากห้องนอน 2 มาดูห้องนอน 3 ซึ่งเป็นห้องนอนไซส์เล็กของบ้านกันต่อ
ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องนอนไซส์เล็ก แต่ขนาดนี่ก็ใหญ่เท่ากับห้องนอนใหญ่ของบ้านบางโครงการเลยนะคะ ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนเหมือนกัน ฝั่งซ้ายคือโซนแต่งตัว และฝั่งขวาคือโซนพักผ่อน
เรามาดูในโซนพักผ่อนกันก่อน ตรงนี้เราสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ
พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่ง และยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินโดยรอบ
ฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีและชั้นวางของได้แบบนี้
พอวางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินอีกพอสมควรค่ะ
อีกฝั่งนึงของห้องเราสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และยังเหลือพื้นที่หน้าห้องน้ำสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานเพิ่มเติมได้
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อเลย
เนื่องจากประตูทางเข้าห้องน้ำถูกวางอยู่ในตำแหน่งกลางห้อง จึงเปลี่ยนการวางชุดสุขภัณฑ์เล็กน้อยโดยให้อ่างล้างมืออยู่กลางห้อง ฝั่งซ้ายวางโซน Shower และ ฝั่งขวาวางโถสุขภัณฑ์ ภายในห้องใช้สุขภัณฑ์จาก ROCA รุ่นเดิมทั้งหมด
ส่วนพื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลน, กระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค และหิน Light Emperador Marble สีสันอาจแตกต่างจากห้องที่แล้วไปบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมคือใช้วัสดุเดิมทั้งหมดค่ะ
เราชมห้องโซนฝั่งซ้ายของโถงบันไดกันไปหมดแล้ว คราวนี้เราเดินมาทางฝั่งขวาซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของบ้านนั่นเอง
แม้ว่าห้องนอน 2 ห้องจะมีขนาดที่ใหญ่แล้ว แต่ห้องนอนใหญ่ของบ้านมีขนาดที่กว้างขวางกว่าเยอะเลยค่ะ จึงทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์นั้นมีอิสระเป็นอย่างมาก ภายในห้องสามารถแบ่งออกเป็น 2 โซนเหมือนเดิม ฝั่งซ้ายคือโซนแต่งตัว และฝั่งขวาคือโซนพักผ่อน
โซนพักผ่อนเป็นฝั่งที่ติดระเบียง สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างได้สบายๆ
ดูระยะโดยรอบก็ยังเหลือเยอะนะคะ สามารถเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก
ฝั่งซ้ายมือของเตียงยังเหลือพื้นที่อีกเยอะทีเดียว เราสามารถจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนหรือมุมนั่งทำงานได้อีก 1 มุมเลยค่ะ
ฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีและชั้นเก็บของได้แบบนี้ ดีไซน์แล้วแต่ความชอบ
พอวางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินอีกเยอะ สามารถวางโซฟาหรือสตูลเพิ่มได้อีกตัวนึงเลยค่ะ
จากห้องนอนจะสามารถเชื่อมกับระเบียงผ่านทางประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่กว้างเต็มหน้าห้องแบบนี้
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาผิวกันลื่นแบบเดิม
พื้นที่ระเบียงมีความยาวเต็มหน้าห้องเลยค่ะ กว้างกว่าห้องนอนไซส์กลางนิดหน่อย พอจะวางม้านั่งสักตัวเพื่อรับลมชมวิวได้ตอนเช้าหรือตอนกลางคืนได้ ผนังก่อตรงระเบียงเราสามารถวางพวกต้นไม้ประดับเล็กๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในส่วนนี้ได้
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
อีกฝั่งนึงของห้องบ้านตัวอย่างจัดเป็น Walk – in Closet เชื่อมกับห้องน้ำ โดยเราสามารถทำประตูกระจกกั้นเพื่อกั้นส่วนห้องเพิ่มได้ค่ะ
ภายใน Walk – in Closet มีพื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควร สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built – in ขนาดใหญ่วางเป็นรูปตัว L ได้ตามภาพ ส่วนข้างๆ ประตูห้องน้ำยังสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก 1 ตัว
ห้องน้ำในตัวห้องนอนใหญ่จะมีความ Exclusive กว่าห้องอื่นๆ ด้วยพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ หรูหราด้วยวัสดุพื้นและผนังหินอ่อน Light Emperador Marble, Crema Marfil Marble และ Marisa Beige Marble ประดับทั้งหมด ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ MOCA และ Cristina ค่ะ
มาดูรายละเอียดกันเป็นส่วนๆ กันเลย เริ่มจากเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์สีดำเหมือนเดิม แต่จะมีขนาดใหญ่ให้มาถึง 2 อ่างแบบ His&Her
ใต้เคาน์เตอร์สามารถเก็บของได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กระดาษชำระ, ผ้าเช็ดมือ หรือขวดสบู่สำรองได้
ส่วนอ่างล้างมือและก๊อกน้ำใช้รุ่นเดิมเหมือนห้องอื่นๆ ของ MOCA ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามวางโถสุขภัณฑ์แบบ Washlet มาพร้อมกับ Accessories ประกอบการใช้งาน ด้านข้างมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำเตรียมมาให้พร้อมใช้งานคู่กัน
ความพิเศษอีกอย่างของห้องนี้ก็คือมีอ่างอาบน้ำเตรียมมาให้ด้วย ผนังด้านข้างเจาะช่องสำหรับวางผ้าเช็ดตัว, เทียนหอม, Bath bomb หรือขวดสบู่ได้
อ่างที่ใช้เป็นของ Cristina ฝังบนเคาน์เตอร์ ขนาดอ่างกำลังดี สามารถนอนอาบได้ 1 คน เป็นอ่างน้ำวน ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อก 2 หัว และฝักบัวสายอ่อน
นอกจากนี้โซน Shower ในห้องนี้จะติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้ด้วย
มือจับประตูสแตนเลสขนาดใหญ่ค่ะ ด้านนอกสามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้
เพิ่มเติมจากห้องอื่นก็คือเก้าอี้คสล.ที่ก่อมาให้ใช้นั่งอาบน้ำ ผนังเจาะช่องวางขวดสบู่และแชมพู ส่วนชุดฝักบัวจะไม่ต่างจากห้องอื่นๆ ค่ะ
นอกจากนี้ภายในบ้านจะติดสัญญาณกันขโมยให้ทั้งหลัง หน้าจอแบบ Smart touch ของ Bentel
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟภายในบ้านใช้ของ Schneider Electric ทั้งหมด
::: แบบบ้าน Versailles ขนาด 424 ตร.ม. :::
แบบบ้าน Versailles ขนาด 424 ตร.ม. เป็นแบบบ้านขนาดกลาง มีฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ถึง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ พร้อม Living – Working Area, Family Area, Prayer Area, Maid Plaza และห้องน้ำในตัวห้องนอนทุกห้อง
รูปลักษณ์หน้าตาของบ้านใช้พระราชวัง Le Palais Prin Cier de Monaco เป็นต้นแบบ ซึ่งเคยเป็นป้อมปราการเก่า ตัวบ้านจึงดึงจุดเด่นของพระราชวังทั้ง ซุ้มโค้ง และหอคอยของป้อมปราการมาประกอบ รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโบสถ์ Le Cathedrale De Monaco ในการออกแบบดีเทลบัวประดับรับใต้ฝ้า แต่ลดทอนรายละเอียดบางส่วนลงเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบันมากขึ้น
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 4 คันค่ะ และมีประตูทางเข้าบ้านรองสามารถเปิดเข้าบ้านได้เลย ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังส่วนรับประทานอาหาร จากส่วนโถงกลางจะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินนำไปสู่ ห้องครัว, ห้องน้ำชั้นล่าง, Working Area, ห้องอเนกประสงค์ และโถงบันได จากห้องครัวจะเชื่อมกับ Maid Plaza หลังบ้าน ซึ่งประกอบด้วยลานซักล้างขนาดใหญ่ พร้อมห้องนอนและห้องน้ำ Maid แยกให้ต่างหาก พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 5 – 8 คนค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง, Praying Area และ Family Area โดยห้องนอนขนาดกลางและขนาดใหญ่จะวางอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดตั้งแต่ 5 ฟุตขึ้นไปได้ และวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว
รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน
เรามาดูบ้านมาตรฐานกันก่อนค่ะ จะได้เห็นสภาพบ้าน รวมถึงรั้วบ้าน และสวนภายในบ้านที่ใช้ส่งมอบจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร
ประตูรั้วบ้านจะเป็นระแนงเหล็กแบบ 2 ตอน สามารถเลื่อนเปิด หรือจะติดตั้งระบบรีโมทคอนโทรลเปิดอัตโนมัติก็ได้
ที่หน้าบ้านจะมีช่องประตูรั้วเล็กๆ สำหรับคนเดินเข้าได้ด้วยค่ะ ที่รั้วบ้านจะติดเลขที่บ้าน, Mailbox, กริ่งออด, ไฟกิ่ง และช่องเก็บขยะมาให้แบบนี้เลย
ช่องเก็บขยะที่รั้งหน้าบ้านค่ะ ลูกบ้านสามารถทิ้งขยะในถังภายในรั้วบ้านได้เลย แล้วทางส่วนกลางจะเป็นคนมาเก็บขยะจากช่องประตูรั้วด้านหน้าเอง
เข้ามาในส่วนของลานจอดรถจะสามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน โครงสร้างเป็นเสาเข็ม-คอนกรีตเสริมเหล็ก ลงเข็มแบบ On Beam ให้เพื่อกันทรุด ทำพื้น Stamped Concrete ให้อย่างสวยงาม
ทางฝั่งขวาของลานจอดรถทำเป็นทางเดินสามารถทะลุไปด้านหลังบ้านส่วน Maid Plaza ได้
ส่วนทางฝั่งซ้าย มีการจัดแลนสเคปทำเป็นทางเดินเชื่อมสู่สวนข้างบ้านค่ะ
ขอบอกก่อนเลยว่า สวนของบ้านแต่ละแปลงจะมีการออกแบบและตกแต่งให้แตกต่างกันนะคะ
อย่างแปลงนี้เป็นบ้านแปลงมุม มีพื้นที่สวนเหลือเยอะ ทางโครงการจึงปูพื้นด้วยสนามหญ้า ลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้โดยรอบ ตกแต่งด้วยไม้พุ่มนานาพันธุ์
รวมถึงสร้าง Pavilion ลอยอยู่บนสระน้ำ สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนยามว่าง หรือใช้นั่งสมาธิ – เล่นโยคะได้ในตัว
มาที่สวนของบ้านอีกแปลง จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย แต่ก็สามารถจัดตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงาม
ที่พื้นทำทางเดินปูแผ่นหินเชื่อมไปยังเทอเรส
พื้นเทอเรสปูด้วยระแนงไม้เทียม บรรยากาศภายในสวนทำออกมาดูเขียวชอุ่มสวยงามน่านั่งเล่นมากๆ
และสวนตัวอย่างของบ้านมาตรฐานอีกแปลงค่ะ
ทำพื้นเทอเรสเชื่อมออกมาจากตัวบ้าน ลอยอยู่บนสระน้ำ อาจเลี้ยงปลาคาร์ฟเพื่อความสวยงามได้ จัดแลนสเคปออกมาได้สวยงามเข้ากันดีทีเดียว
แบบบ้านตัวอย่าง
กลับมาดูที่บ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ เริ่มจากบริเวณลานจอดรถจะมีประตูทางเข้าบ้านรองอีกทางค่ะ เวลาซื้อของเข้าบ้านจะสะดวกกว่า เพราะสามารถเดินตรงเข้าสู่ห้องครัวหรือห้องเก็บของภายในบ้านได้เลย โดยไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น ซึ่งประตูเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีขาวติดกระจกเขียวตัดแสงของ Tostem ด้านข้างประตูมีตู้สำหรับเก็บพวกอุปกรณ์ทำสวนหรืออุปกรณ์ล้างรถให้ด้วย
จากพื้นที่ลานจอดรถจะมีทางเดินเชื่อมสู่เฉลียงทางเข้าบ้านที่มีหลังคาคลุมตลอดทาง
เฉลียงทางเข้าบ้าน ทำพื้นยกระดับขึ้นไป 3 สเต็ป สูงราวๆ 30 ซม. ปูพื้นด้วย Artificial Stone ขนาด 60 x 60 ซม.
ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานเปิดคู่ขนาดใหญ่บานกรอบไม้สัก ติดกระจกสเตนกลาสลายหรูหราสวยงาม ติดมือจับประตูสีเงินแวววาวเลือกแบบที่เข้ากัน
เข้ามาภายในบ้าน เราจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนค่ะ ถัดเข้าไปด้านในคือห้องรับประทานอาหาร ส่วนฝั่งขวามือจะมีโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์, ห้องทำงาน และโถงบันได
ภาพรวมภายในบ้านดูกว้างขวางกว่าบ้านหลังที่แล้วอยู่พอสมควร โปร่งและสว่างเพราะมีหน้าต่างขนาดใหญ่มาให้รอบด้าน เป็นหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงของ Tostem
ส่วนวัสดุที่ใช้ พื้นบ้านปูด้วย Verona Artificial Stone ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังติดวอลเปเปอร์สีมาตรฐานของทางโครงการให้เรียบร้อย ฝ้าเพดานภายในบ้านก็สูงโปร่งถึง 3 เมตร ใช้ฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง ฝ้าบางส่วนทำดรอปฝ้าตกแต่งมาให้
บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์และ Finishing มาให้เห็นความลงตัวในแง่ของการใช้งานและความสวยงามเพื่อเป็นไอเดีย เราจะเริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อนเลย
ทางบ้านตัวอย่างได้จัดวางชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง, โต๊ะข้าง, โต๊ะกาแฟ, อาร์มแชร์ 2 ตัว และสตูลอีก 2 ตัว เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งกำลังพอดีกับพื้นที่ห้องที่ใหญ่ค่ะ
ส่วนชั้นวางทีวี ทางบ้านตัวอย่างจัดเอาไว้ให้อยู่ฝั่งผนังทึบ ด้านหลังผนังตกแต่งด้วยหินธรรมชาติตัดกับอลูมิเนียมสีทองให้ดูเป็นตัวอย่าง ช่วยเพิ่มความหรูหราได้เป็นอย่างดี
ระยะดูทีวีของห้องนี้กว้างกว่า 3 เมตรอีกค่ะ ดูทีวีจอขนาด 75 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ เลย
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร และสวนพักผ่อนภายนอกบ้าน
บ้านตัวอย่างจัดวางโต๊ะและเก้าอี้ขนาด 8 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ขนาดกำลังเหมาะสมกับพื้นที่ของห้องค่ะ
และผนังด้านข้างยังสามารถทำแพนทรี่หรือบาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มเพิ่มได้
จากห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมสู่สวนข้างบ้านผ่านทางประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่
สวนข้างบ้านที่บ้านตัวอย่างจัดเอาไว้ให้ดู ซึ่งทางโครงการได้มีการจัดสวนสวยเอาไว้ให้ในบ้านมาตรฐานทุกหลังแล้ว ที่น่าสนใจก็คือแต่ละหลังจะได้แบบที่ไม่ซ้ำกันเลยตามที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นค่ะ
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน
เราไปดูที่โถงทางเดินฝั่งขวาของตัวบ้านกันต่อ
จากโถงทางเดินจะเชื่อมไปยังฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่าง ห้องทำงาน, ห้องอเนกประสงค์, ห้องครัว, ห้องน้ำ และ โถงบันได
ห้องแรกสุดฝั่งขวามือจะเป็นห้อง Living – Working Space ค่ะ ก็เหมือนเป็นห้องอเนกประสงค์อีก 1 ห้องที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน หรือห้องชิมไวน์ได้ตามใจผู้อยู่อาศัยเลย โดยเราสามารถทำประตูกั้นส่วนห้องเพิ่มเติมได้
บ้านตัวอย่างตกแต่งให้ห้องนี้เป็นห้องชิมไวน์ค่ะ สองฝั่งของห้องวางตู้ Wine Cellar ตรงกลางห้องวางชุดโต๊ะ – เก้าอี้บาร์ เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างทั้งในแง่ของความสวยงามและความลงตัวของฟังก์ชั่น
ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นห้องอเนกประสงค์ ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานเลื่อนกระจก
บ้านตัวอย่างจัดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนวด – สปาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่จริงๆ แล้วเราสามารถทำห้องนี้เป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุเพิ่มเติมได้อีก 1 ห้อง เพราะมีห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อยแล้ว
พื้นที่ห้องมีขนาดกำลังดี ถ้าจัดเป็นห้องนอนก็จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะทำงานได้อย่างลงตัว
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
พื้นห้องน้ำทำลดระดับลงไปจากพื้นห้องประมาณ 10 ซม.
เนื่องจากประตูทางเข้าห้องน้ำถูกวางอยู่ในตำแหน่งกลางห้อง จึงวางอ่างล้างมืออยู่กลางห้อง ฝั่งขวาวางโซน Shower และ ฝั่งซ้ายวางโถสุขภัณฑ์ ภายในห้องใช้สุขภัณฑ์จาก ROCA รุ่นเดิมทั้งหมด
ส่วนพื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลน, กระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน ตกแต่งด้วยหิน Light Emperador Marble สีสันอาจแตกต่างจากบ้านหลังที่แล้วบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมคือใช้วัสดุเดิมทั้งหมดค่ะ
ส่วนข้างๆ ห้องอเนกประสงค์ก็คือห้องน้ำแขก หรือ Powder Room
ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในใช้เหมือนบ้านหลังที่แล้วทุกประการ
ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำเป็นตู้เก็บของอเนกประสงค์
ตู้ฝั่งซ้ายคือตู้เก็บ Load Center ส่วนฝั่งขวาคือตู้เก็บของอเนกประสงค์ บ้านตัวอย่างทำเป็นชั้นวางรองเท้าให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันต่อ เป็นห้องที่อยู่ท้ายสุดของโถง
พื้นห้องครัวลดระดับลงจากพื้นโถงทางเดินประมาณ 10 ซม.ค่ะ เผื่อการล้างทำความสะอาด น้ำจะได้ไม่ไหลย้อนออกไปที่อื่น ส่วนพื้นปูด้วย Verona Artificial Stone เหมือนเดิม
บ้านตัวอย่างทำเคาน์เตอร์และตู้เก็บของ Built-in เอาไว้ให้ดูในแง่ของการใช้งานและความสวยงาม แต่จริงๆ แล้วทางโครงการจะเตรียมเคาน์เตอร์คสล. และกรุผิวด้วยหินแกรนิตสีดำมาให้ จะเห็นว่าพื้นที่ห้องครัวค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว สามารถใช้ทำอาหารหนักๆ อย่างอาหารไทยได้สบาย
จะเห็นว่าบ้านตัวอย่างเผื่อเคาน์เตอร์เอาไว้วางตู้เย็นด้วยนะ สำหรับขนาดตู้เย็นมาตรฐานให้เตรียมพื้นที่เอาไว้ประมาณ 60 x 60 ซม.ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเป็นตู้เย็น 2 ประตูจะต้องเผื่อที่เยอะกว่านั้นอีก
จากห้องครัวจะมีประตูเปิดเชื่อมสู่ Maid Plaza ด้านหลัง วัสดุประตูเป็นบานสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส
พื้นส่วน Maid Plaza จะลดระดับลงจากพื้นห้องครัวอีกประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน ขนาด 60 x 60 ซม.
Maid Plaza ด้านหลังจะประกอบด้วย พื้นที่ซักล้าง, ห้องนอน Maid และห้องน้ำแยกส่วนให้ ทางโครงการจะก่อเคาน์เตอร์คสล. กรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สำหรับซักล้างมาให้กับตัวบ้านเรียบร้อยเลยค่ะ
ภาพจากในครัวมองย้อนกลับเข้ามาในโถงทางเดิน
นอกจากนี้ที่โถงทางเดินก็จะมีห้องเก็บของใต้บันไดให้อีก 1 จุด
เราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ด้วยกันเลย สำหรับโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรง ปิดผิวด้วยไม้มะค่า ราวบันไดเป็นราวเหล็กดัด ใช้ลวดลายที่ชดช้อย มือจับใช้ไม้จริงเลือกสีเข้ากับพื้นบันได
ภาพมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 มีหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องแสงทำให้โถงบันไดสว่างและโปร่งโล่งมาก แนะนำให้ประดับฝ้าส่วนนี้ด้วย Chandelier สวยๆ สักโคม จะทำให้บ้านดูมีระดับมากยิ่งขึ้น
ภาพมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันได
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
พื้นชั้น 2 ทั้งหมดจะปูด้วยพื้นปาร์เกต์ไม้มะค่า ให้สัมผัสเหมาะแก่การพักผ่อนอยู่อาศัย ผนังติดวอลล์เปเปอร์ ฝ้าเพดานสูง 3 เมตรเท่ากับชั้นล่าง เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหมด
จากโถงบันไดจะมีทางแยกไป 2 ฝั่ง ฝั่งขวาคือห้องนอนใหญ่, ตรงกลางโถงตรงกับบันไดคือ Praying Area หรือห้องพระ
ส่วนโถงฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน 2, ห้องนอน 3 และ Family Area ค่ะ
เรามาดูรายละเอียดแต่ละส่วนบนชั้น 2 ด้วยกันเลยค่ะ เริ่มจากห้องพระ จริงๆ แล้วในบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งๆ ไม่มีผนังหรือประตูมากั้นนะ เราสามารถทำ Built-in ต่อเติมที่หลังได้ไม่ยาก
ภายในห้องพระจะเป็นส่วนของหอคอยของป้อมปราการนั่นเองค่ะ ฝ้าเพดานในห้องนี้จะสูงกว่าห้องอื่นๆ ทำให้ห้องดูสูงชะลูดขึ้น ขนาดพื้นที่ของห้องไม่กว้างขวางมากนัก จึงเหมาะสำหรับจัดเป็นห้องพระที่ไม่มีฟังก์ชั่นอะไรมาก
หลักๆ คือใช้วางโต๊ะหมู่บูชา และพื้นที่สำหรับการนั่งสมาธิก็เพียงพอแล้ว
ถัดมาดู Family Area กันต่อ
บ้านตัวอย่างจัดเป็นมุมพักผ่อนของครอบครัว มีโซฟา 3 ที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวี ซึ่งจริงๆ แล้วฟังก์ชั่นตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องเล่นโยคะ หรือห้องสำหรับออกกำลังกาย ก็มีพื้นที่รองรับเพียงพอ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ เริ่มจากห้องนอน 2 ตามด้วยห้องนอน 3 ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ
ห้องนอน 2 เป็นห้องไซส์กลางของบ้าน แต่ก็มีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัวง่ายมากๆ ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ฝั่งขวาคือโซนพักผ่อนและฝั่งซ้ายคือโซนแต่งตัว
โซนพักผ่อนจะอยู่ติดระเบียง สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างได้สบายๆ
ดูระยะโดยรอบก็ยังเหลือเยอะ สามารถเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก
ฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้แบบนี้
พอวางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินอีกเยอะ สามารถวางสตูลที่ปลายเตียงเพิ่มได้อีก 1 ตัว
จากห้องนอนจะสามารถเชื่อมกับระเบียงผ่านทางประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่กว้างเต็มหน้าห้องแบบนี้
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาผิวกันลื่น มีความยาวเต็มหน้าห้อง พอจะวางม้านั่งสักตัวเพื่อรับลมชมวิวได้ตอนเช้าหรือตอนกลางคืนได้
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
อีกฝั่งนึงของห้องเราสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างลงตัว เราสามารถทำผนังกั้นส่วนเพื่อแบ่งพื้นที่ห้องเพิ่มเติมได้อีกค่ะ
และบริเวณนี้จะเชื่อมกับห้องน้ำในตัว
ภายในห้องใช้สุขภัณฑ์จาก ROCA รุ่นเดิมทั้งหมด ส่วนพื้นและผนังใช้กระเบื้องพอร์ซเลน, กระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน ตกแต่งด้วย กระเบื้องโมเสค และหิน Light Emperador Marble เหมือนเดิม
มาดูห้องนอน 3 ซึ่งเป็นห้องนอนไซส์เล็กของบ้านกันต่อ
ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องนอนไซส์เล็ก แต่ขนาดนี่ก็ใหญ่เท่ากับห้องนอนใหญ่ของบ้านบางโครงการเลยนะคะ ภายในห้องแบ่งออกเป็น 2 โซนเหมือนกัน ฝั่งขวาคือโซนแต่งตัว และฝั่งซ้ายคือโซนพักผ่อน
เรามาดูในโซนพักผ่อนกันก่อน ตรงนี้เราสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตและโต๊ะเครื่องแป้งคู่กันได้สบายๆ
โดยจะต้องวางเตียงชิดกับผนังแบบนี้นะคะ ถึงจะพอวางโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้
พอวางชั้นวางของแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินอีกพอสมควรค่ะ
มองไปที่อีกฝั่งนึงของห้อง
ยังเหลือพื้นที่บางส่วน สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนเพิ่มเติมได้
เราสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ข้างๆ ประตูห้องน้ำได้แบบนี้
ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้แบบเดิมรุ่นเดิมทุกประการค่ะ จะขอข้ามไปเลยนะ
เราชมห้องโซนฝั่งซ้ายของโถงบันไดกันไปหมดแล้ว คราวนี้เราเดินมาทางฝั่งขวาซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ของบ้านนั่นเอง
ห้องนอนใหญ่ของบ้านมีขนาดที่กว้างขวางกว่าห้องอื่นๆ เกือบเท่าตัวเลยนะ จึงทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์นั้นมีอิสระเป็นอย่างมาก ภายในห้องสามารถแบ่งออกเป็น 2 โซนเหมือนเดิม ฝั่งขวาคือโซนแต่งตัว และฝั่งซ้ายคือโซนพักผ่อน
โซนพักผ่อนเป็นฝั่งที่ติดระเบียง สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างได้สบายๆ
จะวางเตียงแบบ Oversize ก็ยังไหวนะคะ เพราะว่ามีพื้นที่ห้องเหลือเยอะมากๆ
ฝั่งขวามือของเตียงเราสามารถตั้งโต๊ะทำงานได้อีก ตัว รวมถึงตู้เก็บกระเป๋าและรองเท้าแบรนด์เนมคู่โปรดแบบนี้
ฝั่งปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีและชั้นเก็บของได้แล้วแต่ชอบเลย พอติดกระจกเงาเพิ่มเข้าไปแล้วยิ่งทำให้ห้องดูกว้างขวางกว่าเดิมอีกค่ะ
พอวางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินอีกเยอะ สามารถวางโซฟา, สตูล และโต๊ะกาแฟเพิ่มได้สบาย
จากห้องนอนจะสามารถเชื่อมกับระเบียงผ่านทางประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่กว้างเต็มหน้าห้องแบบนี้
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสีเทาผิวกันลื่นแบบเดิม
พื้นที่ระเบียงมีความยาวเต็มหน้าห้อง พอจะวางม้านั่งสักตัวเพื่อรับลมชมวิวได้ตอนเช้าหรือตอนกลางคืนได้ ผนังก่อตรงระเบียงเราสามารถวางพวกต้นไม้ประดับเล็กๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในส่วนนี้ได้
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
อีกฝั่งนึงของห้อง บ้านตัวอย่างจัดเป็น Walk-in Closet เชื่อมกับห้องน้ำ โดยเราสามารถทำประตูกระจกกั้นเพื่อกั้นส่วนห้องเพิ่มได้ค่ะ
ภายใน Walk-in Closet มีพื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควร สามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่วางได้ทั้ง 2 ฝั่งตามภาพ ส่วนข้างๆ ประตูห้องน้ำยังสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก 1 ตัวค่ะ
ห้องน้ำในตัวห้องนอนใหญ่จะมีความ Exclusive กว่าห้องอื่นๆ ด้วยพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ หรูหราด้วยวัสดุพื้นและผนังหินอ่อน Light Emperador Marble, Crema Marfil Marble และ Marisa Beige Marble ประดับทั้งหมด ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ MOCA และ Cristina ค่ะ
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์สีดำเหมือนเดิม แต่จะมีขนาดใหญ่ให้มาถึง 2 อ่างแบบ His&Her
ที่ฝั่งซ้ายมือของห้องวางอ่างอาบน้ำ อยู่ตรงกับช่องแสงพอดี
อ่างที่ใช้เป็นของ Cristina ฝังบนเคาน์เตอร์ ขนาดอ่างกำลังดี สามารถนอนอาบได้ 1 คน เป็นอ่างน้ำวน ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อก 2 หัว และฝักบัวสายอ่อน ผนังด้านข้างเจาะช่องสำหรับวางผ้าเช็ดตัว, เทียนหอม, Bath bomb หรือขวดสบู่ได้
ส่วนฝั่งขวาวางโถสุขภัณฑ์แบบ Washlet และโซน Shower
โซน Shower ในห้องนี้จะติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย พร้อมมือจับประตูสแตนเลสขนาดใหญ่ สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย
เพิ่มเติมจากห้องอื่นก็คือเก้าอี้คสล.ที่ก่อมาให้ใช้นั่งอาบน้ำ ผนังเจาะช่องวางขวดสบู่และแชมพู ส่วนชุดฝักบัวจะไม่ต่างจากห้องอื่นๆ ค่ะ
:::: ราคา (กรกฎาคม 2561) ::::
แบบบ้าน Ambroise
- บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น
- ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา
- ขนาด 343 ตร.ม.
- 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ, พื้นที่อเนกประสงค์, Family Area และ Maid Plaza
- ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท
แบบบ้าน Versailles
- บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น
- ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา
- ขนาด 424 ตร.ม.
- 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, พื้นที่อเนกประสงค์, Family Area, Working Area, Prayer Area และ Maid Plaza
- ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
แบบบ้าน Palais de Prince
- บ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น
- ที่ดินเริ่มต้น 150 ตร.วา
- ขนาด 602 ตร.ม.
- 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 4 ที่จอดรถ, พื้นที่อเนกประสงค์, ห้องเก็บรองเท้า และ Maid Plaza
- ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท
- เงินจอง 500,000 บาท
- เงินทำสัญญา 1.5 ล้านบาท
- ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 40 บาท/เดือน
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ TWO GRANDE MONACO บางนา – วงแหวน ตั้งอยู่ติดกับ ถ.เลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะเชื่อมกับถนนหลายสาย สามารถเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองได้สะดวก เพราะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถี
ทำเลนี้ล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, โรงพยาบาล และ สถานศึกษา มีระบบขนส่งสาธารณะคอยรองรับอย่าง Airport Link ซึ่งในอนาคตยังจะมีโครงการ Airport Link ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ กับ สนามบินดอนเมือง และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นอีกเฟส ทำให้ทำเลนี้มีความคึกคักมากขึ้นเป็นพิเศษ
ที่เส้นบางนาถือว่า Peak ที่สุดในย่านนี้ มีทั้ง MEGA และ IKEA บางนา, เซ็นทรัลบางนา, Index Living Mall, Tesco Lotus, HomePro และ Makro ส่วนบนศรีนครินทร์ก็มีทั้ง Seacon Square และ Paradise Park อยู่ใกล้ๆ และก็ยังมี The Paseo เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ ตรงเส้นลาดกระบัง เป็นจุดศูนย์รวมของคนในย่านนี้ รวมทั้งพนักงานของสายการบินต่างๆ และเจ้าหน้าที่ของสนามบินสุวรรณภูมิ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกพอวมควร เพราะจากถนนหน้าโครงการ สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้หลายสาย ถ้าวิ่งขึ้นไปทิศทางเหนือ ฝั่งขาเข้าเมืองจะเชื่อมต่อกับ ถ.อ่อนนุช ซึ่งจะสามารถเข้าสู่ ถ.พัฒนาการ, ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.สุขุมวิท ใกล้จุดขึ้นมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) เชื่อมต่อ ถ.พระราม 9 และทางพิเศษศรีรัช หรือจะลัดเลาะไป ถ.เฉลิมพระเกียรติมหานคร ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมกับ ถ.พัฒนาการ และ ถ.ศรีนครินทร์ก็ได้ ส่วนฝั่งขาออกเมืองจะเชื่อมต่อกับ ถ.ลาดกระบัง สามารถตรงไปยังฉะเชิงเทรา หรือไปเชื่อมกับ ถ.หลวงแพ่ง และ ถ.เทพราช-ลาดกระบัง มุ่งสู่ชลบุรีได้ โดยไปยังเส้นทางกรุงเทพ-ชลบุรีค่ะ
และถ้าวิ่งลงไปทางทิศใต้ จะเชื่อมต่อกับ ถ.บางนา-ตราด ใกล้จุดขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถี สามารถออกไปทางบางพลี, สมุทรปราการ, ชลบุรี หรือไปทางพระราม 2 ถือว่าเป็นทำเลชานเมืองที่อยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อการเดินทาง สะดวกในการเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางด่วน การวิ่งเข้าหรือออกเมืองนั้นถือว่าไม่ยุ่งยากค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถนนโครงการนั้นจะเป็นเส้นที่มีรถโดยสารสาธารณะวิ่งผ่านน้อย จึงไม่ค่อยสะดวกนัก ต้องพึ่งแท็กซี่ค่ะ หากไม่มีรถส่วนตัว สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการก็จะเป็น Airport Rail Link โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีบ้านทับช้าง สำหรับ Airport Rail Link นั้นสามารถเชื่อมกับทั้ง BTS สายสีเขียวตรงสถานีพญาไท และ MRT สายสีน้ำเงินตรงสถานีมักกะสัน
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคฤหาสน์หรู สูง 2 ชั้น มีทั้งหมด 77 ยูนิตบนพื้นที่ 43-1-90 ไร่ นับว่าเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียวค่ะ ซึ่งภาพรวมของโครงการออกแบบมาให้มีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมจากฝรั่งเศส สไตล์ Monaco ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความหรูหราและสง่างาม ตอนนี้ทางโครงการมีแบบบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ 3 ไซส์ด้วยกัน ทั้ง Ambroise, Versailles และ Palais de Prince
ตัวบ้านออกแบบมาให้มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ จึงสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย ช่องประตู – หน้าต่างขนาดใหญ่มากๆ รอบบ้านทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง, ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร สามารถจัดฟังก์ชั่นได้ตามใจชอบ ห้องนอนใหญ่มีจุดเด่นที่ขนาด ที่สามารถจัดห้องได้อย่างอิสระ และห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำ ห้องนอนรองๆ ลงมาก็มีขนาดใหญ่ค่ะ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบและมีพื้นที่เหลือ อีกทั้งห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ทั้งหมดทุกห้องค่ะ
วัสดุของบ้านรวมถึงสุขภัณฑ์ที่ได้มาก็เหมาะสมกับราคา มีความสวยงาม, ดูหรูหรา และคุณภาพดี ได้ระบบกันขโมยทั้งหลัง พร้อมหน้าจอ Smart Touch ของ Bentel, ประตูทางเข้าบ้านบานไม้สักติดกระจกสเตนกลาส, ชุดประตูอลูมิเนียมจาก Tostem, ใช้ Verona Artificial Stone ปูพื้นชั้นล่าง, ชั้นบนปูด้วยปาร์เกต์ไม้มะค่า, ผนังติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง
ห้องน้ำปูพื้นและผนังด้วย กระเบื้องพอร์ซเลน ตกแต่งด้วยหินอ่อน Light Emperador Marble, ส่วนห้องน้ำห้องนอนใหญ่ จะใช้หินอ่อนทั้งหมด ทั้ง Light Emperador Marble, Crema Marfil Marble และ Marisa Beige Marble, ได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ พร้อมฝารองนั่งอเนกประสงค์ (ที่ห้องน้ำแขกชั้นล่าง และห้องนอนใหญ่) และอ่างอาบน้ำ (ในห้องนอนใหญ่) โดยสุขภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมดเป็นของ MOCA ซึ่งเป็นแบรนด์คุณภาพระดับโลกจากสเปน, ในห้องครัวได้เคาน์เตอร์ครัวคสล.กรุผิวด้วยหินแกรนิตสีดำ ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลังค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน หรูหราด้วยคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Baroque ภายในมีสระว่ายน้ำ, จากุซซี่, ห้องรับรอง, ฟิตเนส, สระน้ำล้อมรอบด้วยสวนสวย, สนามพัดกอล์ฟ และสวนสวยโดยรอบโครงการ บรรยากาศถือว่าทำออกมาได้ดูดีมีระดับ ขนาดส่วนกลางของโครงการเมื่อเทียบกับปริมาณยูนิตแล้วถือว่าดีเลยนะ ไม่แออัดอย่างแน่นอน
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ถือว่าสมบูรณ์ดีค่ะ มีตลอด 24 ชม. จากซุ้มทางเข้าหลักจะต้องผ่านป้อมรปภ. ประตูรั้วไฟฟ้าอัตโนมัติ และรั้วไม้กระดก โดยใช้ระบบ Access Card Control ในการเปิดเพื่อเข้า – ออกตัวโครงการ และติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้ภายในบ้านอีกชั้น ติดตั้ง CCTV ทุกซอย และทุกจุดสำคัญทั่วโครงการ ถือว่าดีมากค่ะ
:::: คะแนน ::::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ |
7.5 |
ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกกาญจนา เชื่อมต่อกับถนนบางนา-ตราดและลาดกระบัง ไม่ไกลจากเมกะบางนา, เซ็นทรัลบางนาและสถานศึกษา |
| การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว |
7.75 |
สามารถวิ่งเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ ได้สะดวก ไม่ไกลจากวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก ลัดเลาะได้หลายเส้นทาง |
| การเดินทางโดยรถสาธารณะ |
6.8 |
มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ต้องพึ่งแท็กซี่ อยู่ไม่ไกลจาก Airport Link |
| บ้านและวัสดุ |
8.7 |
บ้านหลังใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะมาก ตัวบ้านมีการแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานมาได้ดี มีช่องแสงโดยรอบบ้าน วัสดุที่ได้มาสวยงามและคุณภาพดีตามราคา |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
8.0 |
สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้พอสมควร หรูหราสวยงามน่าใช้งาน พื้นที่สีเขียวเยอะ แลนสเคปและบรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นสวยงาม |
| ความคุ้มค่ากับราคา |
8.0 |
เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่อาจจะมีผู้สูงอายุเป็นสมาชิกในครอบครัวอยู่แล้ว หรือวางแผนเผื่อในอนาคต ที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัว และมีอิสระทางการเงินพอสมควร เน้นการใช้รถยนต์เป็นหลัก |
| คะแนนรวมเฉลี่ย |
7.79 |
ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
สำนักงานขาย : 097-963-5551
WEBSITE : http://www.goldenland.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น