EP.2108 รีวิว Venue ID ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้านเดี่ยวคุณภาพ สำหรับคนรุ่นใหม่ ในบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหมู่บ้านญี่ปุ่น SHIRAKAWA-GO ในราคาเริ่ม 6-12 ลบ.*

สวัสดีผู้อ่าน HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราพามาชมโครงการ VENUE ID ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้านเดี่ยวโครงการใหม่จาก SC Asset ตั้งอยู่บนถนนสำเร็จพัฒนา ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย นนทบุรี 11130

เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี, วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก

รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย ใกล้ ม.มหิดล ศาลายา เพียง 5.3 กม. หรือประมาณ 10 นาที และ สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งตลาด, ห้างสรรพสินค้า และ Hypermarket เช่น ตลาดนัดลุงออม, The Salaya Leisure Park, Makro ศาลายา, Lotus’s ศาลายา, Design Village และ Central ศาลายา เป็นต้น

เวนิว ไอดี ปิ่นเกล้า-ศาลายา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Minimal พื้นที่โครงการขนาด ประมาณ 45 ไร่ จำนวนบ้าน 174 หลัง มีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบบ้าน ที่ดินเริ่มต้น 50-62.7 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 190-296 ตร.ม.

ฟังก์ชันบ้าน 3-5 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 2-3 คัน พร้อมติดตั้ง Magnetic sensor, Smoke & Heat Detector มาให้ในบ้านทุกหลัง โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่บางส่วน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ คลับเฮาส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก, สวนส่วนกลาง ขนาดประมาณ 1 ไร่, Kids zone, Guest Lobby, Co-Working Space

พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย Premium Security ตลอด 24 ชม., พร้อมกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ รวม 44 จุด, รั้วพร้อมเหล็กแหลมสูง 2.8 ม., ติดตั้งสัญญาณกันขโมยในตัวบ้านระบบ Magnetic Sensor ทั้งหลัง, ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass เริ่มต้น 6-12 ล้านบาท* (ส.ค.65)

ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูล ข่าวสาร และโปรโมชันพิเศษได้ที่นี่ คลิก : https://m.scasset.com/84Rr

ที่ตั้งโครงการ Venue ID ปิ่นเกล้า-ศาลายา อยู่ติดถนนสำเร็จพัฒนา เข้า-ออก โครงการได้ 2 ทาง คือจาก ถนนอัจฉริยะพัฒนา และถนนบ้านปลายบาง-บ้านคลองมหาสวัสดิ์ หรือถนนเลียบคลองมหาสวัสดิ์ 

จุดเด่นของทำเลโครงการนี้คือจะอยู่ใกล้ ม.มหิดลเพียงแค่ 5.3 กม. เท่านั้น และใกล้กับห้างสรรพสินค้าและ Hypermarket เช่น Central ศาลายา, Makro ศาลายา, Lotus’s’ ศาลายา, The Salaya Leisure Park เป็นต้น

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางในโซนนี้เองได้สะดวก เชื่อมต่อทั้ง ถนนศาลาธรรมสพน์ที่ใช้วิ่งตรงเข้าถนนบรมราชชนนี, ถนนกรุงนนท์-จงถนอมเป็นเส้นที่ไปเชื่อมกับถนนศาลายา-นครชัยศรีได้, ถนนศาลายา-นครชัยศรีและถนนศาลาธรรมสพน์ เชื่อมกับถนนบรมราชชนนีและถนนพุทธมณฑลสายต่างๆได้ เส้นนี้ตรงไปยังนครปฐม, สามพรานได้

และยังสามารถเชื่อมกับซอยวัดส้มเกลี้ยงซึ่งปากซอยคือถนนกาญจนาภิเษก ทำให้ตรงไปยังบางใหญ่, นครอินทร์, นนทบุรี, แคราย หรือถ้ามุ่งหน้าลงทางใต้ก็จะเป็นย่านพระราม 2 ได้ง่าย

และจากที่ตั้งโครงการยังสามารถวิ่งเชื่อมต่อเข้าออกตัวเมืองได้ง่าย เลือกใช้ได้ถึง 3 เส้นทางหลัก คือ ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ที่มีระยะทางจากโครงการประมาณ 6 กม., วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก จากโครงการประมาณ 8.2 กม. และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก จากโครงการประมาณ 11 กม. สะดวกต่อการเดินทางเข้า-ออก ตัวเมืองกรุงเทพและปริมณฑล จะตรงไปยังต่างจังหวัดไม่ว่าจะเป็นปทุมธานีและสมุทรปราการก็ได้เช่นกัน

จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 11 กม. ทำให้เดินทางเข้า-ออกตัวเมืองกรุงเทพและพื้นที่โดยรอบได้ง่าย เส้นนี้วิ่งตรงเข้าจตุจักรได้โดยในเวลาที่การจราจรไม่หนาแน่นแค่ 10-15 นาที เท่านั้นค่ะ

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ถนนศาลาธรรมสพน์ : 2 กม.
• ถนนกรุงนนท์-จงถนอม : 2.4 กม.
• ถนนพุทธมณฑลสาย 3 : 3 กม.
• ถนนพุทธมณฑลสาย 4 : 5 กม.
• ถนนบรมราชชนนี : 6 กม.
• ซอยวัดส้มเกลี้ยง : 6.3 กม.
• ถนนพุทธมณฑลสาย 2 : 6.6 กม.
• ถนนกาญจนาภิเษก : 8.1 กม.
• ถนนนครอินทร์ : 9.7 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เราสามารถเรียก Taxi ที่วิ่งผ่านหน้าโครงการได้ หรือจะใช้ Application ต่าง ๆ ก้ช่วยอำนวยความสะดวกในช่วงเวลาที่เร่งรีบได้ แต่ในส่วนของรถสาธารณะถ้าให้สะดวกจะอยู่บนเส้นบรมราชชนนีค่ะ ซึ่งจะมีทั้งรถตู้หลายสายวิ่งผ่าน สามารถเดินทางไปยังปิ่นเกล้า, หมอชิต หรืออนุสาวรีย์ได้ค่ะ

ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ถ้าจะเดินทางขึ้นไปทางฝั่งตอนเหนือของกรุงเทพฯ สามารถใช้งานรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีตลิ่งชัน ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 13.2 กม. ส่วนถ้าจะเดินทางเข้าใจกลางเมืองหรือวิ่งมาทางฝั่งตะวันออกก็สามารถเลือกใช้ MRT หลักสองได้ค่ะ จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 18.2 กม. โดยเส้นนี้จะเชื่อมกับ BTS ที่สถานีบางหว้า ใช้วิ่งเข้าสู่โซนสาทร-สีลม ตรงยาวได้เลย

ส่วนในอนาคตจะมีสถานี ศาลาธรรมสพน์ ที่จะมีระยะใกล้โครงการมากที่สุด ประมาณ 2-3 กม. เท่านั้น เป็นส่วนของรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ก็จะทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวกและใกล้บ้านมากขึ้นค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ โดยหลักแล้วทำเลนี้จะเน้นการใช้รถส่วนตัวค่ะ ร้านอาหารใกล้โครงการจะป็นแนว Local ทานง่าย ๆ บนถนนสำเร็จพัฒนาสองข้างทางจะมีร้านค้า และร้านอาหารมากมายเพราะเป็นย่านชุมชนที่ใกล้สถานที่ราชการ, สถานศึกษา สำหรับตลาดสดก็จะมีตลาดลุงออมบนถนนสำเร็จพัฒนาและตลาดสดศาลายาบนเส้นศาลายา-นครชัยศรี หรือเส้นศาลาธรรมสพน์จะมี Food Market

ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลักจะอยู่ทางฝั่ง บรมราชชนนี และศาลายา ซึ่งจะมีทั้ง Community Mall, Hypermarket, ตลาด และห้างใหญ่ อย่าง ตลาดศาลายา, Foodland, Brio Mall, The Salaya, Lotus’s, Central ศาลายา เป็นต้น และที่สำคัญคืออยู่ใกล้สถานศึกษาขนาดใหญ่นั่นก็คือ ม.มหิดล ศาลายา และสถานศึกษาในเครือ ซึ่งถือว่าใกล้โครงการมาก ๆ แค่ประมาณ 5.3 กม. หรือใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

อีกโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการคือโซนบ้านหรู ถนนราชพฤกษ์นั่นเองค่ะ  จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบตั้งแต่ Hypermarket ร้านอาหาร และ Community Mall อย่าง The Paseo Park ราชพฤกษ์, Pure Place, The Crystal PTT, The Walk, The Circle, HomePro, Chic Republic และโครงการที่กำลังจะเข้ามาเปิดในอนาคตอันใกล้นี้ คือ Central WestVille ราชพฤกษ์ (คาดว่าสร้างเสร็จพร้อมเปิดตัวในปี 2567)

ส่วนโรงพยาบาล และ โรงเรียนโซนรอบ ๆ นอกจาก ม.มหิดล ศาลายาแล้ว ก็จะมีอีกหลายแห่ง เช่น รร.เพลินพัฒนา, รร.สาธิตนานาชาติ ม.มหิดล, รร.รัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา, รร.อัสสัมชัญ ธนบุรี, รร.อนุบาลเด่นหล้า, รร.เลิศหล้า กาญจนาภิเษก, รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม, รพ.ศาลายา, รพ.มหาชัย 2, รพ.ธนบุรี 2, รพ.มิตรประชา, รพ.เกษมราษฎร์ บางแค เป็นต้นค่ะ

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ตลาดและห้างสรรพสินค้า

• The Salaya Leisure Park 3.8 กม.
• ตลาดนัดลุงออม : 5.2 กม.
• Makro ศาลายา : 5.7 กม.
• Design Village 6.8 กม.
• The Fourth 9.6 กม.
• Brio Mall : 10.2 กม.
• The Paseo Park กาญจนาภิเษก : 11.6 กม.
• Central ศาลายา : 11.9 กม.
• HomePro เพชรเกษม : 13.8 กม.
• Big C Extra เพชรเกษม : 14.1 กม.
• Victoria Gardens : 14.4 กม.
• ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ปากคลองตลาดใหม่ : 17.6 กม.
• The Mall บางแค : 17.9 กม.
• The Circle ราชพฤกษ์ : 18.1 กม.
• Central ปิ่นเกล้า : 18.9 กม.
• Lotus’s บางแค : 19.2 กม.
• Seacon บางแค : 22.8 กม.

สถานศึกษา

• รร.มหิดลวิทยานุสรณ์ : 4.1 กม.
• ม.มหิดล ศาลายา : 5.3 กม.
• รร.รัตนโกสินทร์สมโภชบวรนิเวศศาลายา : 6.4 กม.
• รร.เพลินพัฒนา : 8.6 กม.
• รร.สารสาสน์วิเทศธนบุรี : 10.6 กม.
• รร.เด่นหล้า : 11.5 กม.
• รร.อัสสัมชัญ ธนบุรี : 11.7 กม.
• รร.วัฒนารักษ์ : 12.7 กม.
• ม.ธนบุรี : 16.2 กม.
• รร.เลิศหล้า กาญจนาภิเษก : 22.6 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.ราชพิพัฒน์ : 11.3 กม.
• รพ.ธนบุรี 2 : 12.7 กม.
• รพ.มหาชัย 2 : 16.7 กม.
• รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม : 16.9 กม.
• รพ.เกษมราษฎร์ บางแค : 16.9 กม.
• รพ.ศิริราช : 20.3 กม.
• รพ.พญาไท 3 : 20.9 กม.
• รพ.มิตรประชา : 23 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่น ๆ

• พุทธมณฑล : 7.3 กม.
• สนามหลวง 2 : 10.1 กม.

---

การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นจาก ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี > ถนนบรมราชชนนี > ถนนพุทธมณฑล สาย 3 > ถนนศาลาธรรมสพน์ > ซอยศาลาธรรมสพน์ 48 > ถนนสำเร็จพัฒนา > โครงการ Venue ID ปิ่นเกล้า-ศาลายา

เราเริ่มต้นการเดินทางกันบนถนนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีค่ะ เส้นทางนี้จะช่วยเลี่ยงรถติดให้เราวิ่งตรงถึงบ้านได้รวดเร็วมากขึ้น โดยในระหว่างทางเราก็จะขับผ่านทั้ง PATA ปิ่นเกล้า และ Central ปิ่นเกล้า

เราขับตรงกันมาเรื่อย ๆ ตามป้ายพุทธมณฑลไปเลยค่ะ

เจอป้ายทางออกพุทธมณฑลเตรียมชิดซ้าย

ลงทางคู่ขนานมาแล้วเราจะเจอบุญถาวร

และ Design Village พุทธมณฑล

ขับต่อกันมาเรื่อย ๆ จนถึงพุทธมณฑล สาย 3

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑล สาย 3

เห็นป้ายเตรียมกลับรถแรก ให้เราชิดขวา

กลับรถค่ะ

จากนั้นขับต่อมาเข้าถนนศาลาธรรมสพน์

จากถนนศาลาธรรมสพน์เราจะเลี้ยวเข้าซอยศาลาธรรมสพน์ 48 ซึ่งจะมีจุดสังเกตคือ 7-11 บริเวณหน้าปากซอย จากนั้นเราขับตรงเชื่อมเข้าสู่ถนนสำเร็จพัฒนา แล้วเลี้ยวซ้าย ขับตรงต่อไปประมาณ 750 ม. ที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศาลาธรรมสพน์กันแล้วก็ขับตรงต่อกันมาเรื่อย ๆ เลยค่ะ

ถึงซอยศาลาธรรมสพน์ 48 เราเลี้ยวขวา

ขับตามเส้นทางมาเรื่อย ๆ เราก็จะเข้าสู่ถนนสำเร็จพัฒนา ถ้าใครไม่มั่นใจระหว่างทางก็จะมีป้ายโครงการบอกเส้นทางอยู่เป็นระยะ ๆ ค่ะ

เลี้ยวซ้ายออกมาสู่ถนนสำเร็จพัฒนาแล้วเราขับตรงต่อกันมาค่ะ

ขับตรงต่อมาประมาณ 750 ม. ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ Venue ID ปิ่นเกล้า-ศาลายา แล้วค่ะ

---

รอบ ๆ โครงการ 

โดยรวมของพื้นที่ใกล้เคียงโครงการจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบของคนในชุมชนตั้งเดิมนี้ค่ะ บรรยากาศจะยังค่อนข้างสงบ การอยู่อาศัยไม่หนาแน่นมาก เราจะเห็นที่ดินเปล่าแทรกอยู่เป็นระยะ ๆ สลับกับบ้านพักอาศัย, โกดัง, โครงการจัดสรร และบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล

• ทิศเหนือ ติดกับถนนสำเร็จพัฒนา
• ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันตก ติดกับที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลข้างเคียง
• ทิศใต้ ติดกับถนนบ้านปลายบาง-บ้านคลองมหาสวัสดิ์

ออกมาหน้าโครงการจะเป็นถนนสำเร็จพัฒนาค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นโกดังรับซื้อเศษเหล็ก/เศษกระดาษ

ฝั่งซ้ายมือติดกับที่ดินเปล่า

มองไปจะเห็นบ้านพักอาศัยสลับกับที่ดินเปล่า

---

ตัวโครงการ

โครงการ Venue ID ปิ่นเกล้า-ศาลายา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวเพียง 174 ครอบครัวเท่านั้น บนที่ดินขนาดประมาณ 45 ไร่ ซึ่งตัวบ้านในแบรนด์ Venue ID เป็นบ้านแบรนด์ใหม่ใน Segment ที่ทำราคาออกมาให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้มากขึ้น ในช่วงราคารประมาณ 6-12 ลบ. โดยแต่ละโครงการก็ยังคงจุดเด่นของ SC Asset ก็คืองานดีไซน์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละโครงการค่ะ

สำหรับที่ Venue ID ปิ่นเกล้า-ศาลายา ก็จะมาในสไตล์ญี่ปุ่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านที่สวยเป็นมรดกโลก โดยงานสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์คือลักษณะหลังคาที่เหมือนคนพนมมือ และงานโชว์โครงสร้างเสาคาน ด้วยวัสดุเลียนแบบไม้ ได้บรรยากาศบ้านญี่ปุ่นแบบ Traditional ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ Main Gate หน้าโครงการที่จะทำเป็นซุ้มหลังคาทรงจั่วโชว์โครงสร้างและใช้โทนสีที่ดูสว่างอบอุ่น อย่างโทนไม้และสีขาว

โดยระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณ Main Gate ใช้รั้วไฟฟ้าอัตโนมัติ ลูกบ้านเข้า-ออก ด้วยระบบ Easy Pass และ Visitor แลกบัตรก่อนเข้าโครงการ, มีเจ้าหน้าที่ รปภ. และกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ให้บริเวณหน้าโครงการและภายในโครงการ รวม 44 จุด และรั้วรอบโครงการสูง 2.8 ม.

พื้นที่ข้าง Main Gate ตกแต่งบรรยากาศให้ดูน่ารักและร่มรื่นด้วยพุ่มไม้ดอกสีขาวเล็ก ๆ ที่กำลังออกดอกกระจายตัวกันอยู่ทั้งสวน พร้อมป้ายชื่อโครงการที่มองเห็นได้ชัดเจน

เราผ่าน Main Gate เข้ามาก็จะเจอกับบรรยากาศที่ดูมีความร่มรื่น และเปิดโล่ง โดยถนนโซนด้านหน้าจะปูด้วยคอนกรีตสแตมป์ เรียบร้อยสวยงาม ความกว้างถนนหลัก 12 ม. และถนนซอย 9 ม. 

พื้นที่ส่วนแรกจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลัก เป็นอาคารคลับเฮาส์หน้าตาเหมือนบ้านญี่ปุ่นเลยค่ะ ให้ความรู้สึกสงบ เรียบร้อย ล้อมรอบด้วยสวนที่ลงต้นไม้มาให้ร่มรื่น 

บริเวณคลับเฮาส์จะแบ่งเป็นโซน Outdoor เป็นพื้นที่สวนและ พื้นที่นั่งพักผ่อน Sunken ลงไปจากระดับพื้นได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานขึ้นอีกหน่อย 

เชื่อมต่อจากพื้นที่ส่วนเข้าสู่ตัวอาคารคลับเฮาส์ด้วยบันไดที่มีสเต็ปกว้าง เดินง่าย

บนอาคารคลับเฮาส์มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25×5 ม. โดยสระผู้ใหญ่จะมีความลึก 1.2 ม. พร้อมแยกสระเด็ก ลึก 60 ซม. 

และพื้นที่รอบ ๆ สระจัดเป็น Pool Terrace กลางแจ้ง ลง Sunbed มาให้ 

ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นห้อง Co-Working Space ตำแหน่งห้องนี้จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งจะมีการออกแบบเชื่อมโยงเข้ามาด้วยสวนสไตล์ Zen และใช้ Slope ให้เดินเข้ามาใช้งานได้อย่างลื่นไหล

ที่นี่เค้าให้ความสำคัญกับห้อง Co-Working Space พอสมควรเลยทีเดียวค่ะ ทั้งตำแหน่งที่จัดวางไว้ติดกับสระว่ายน้ำ และแยกออกมาจากตัวอาคารหลัก ให้สมาธิในการทำงานมากขึ้น เหมาะกับวัยทำงานมาก ๆ 

ด้านในแบ่งมุมโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ดีไซน์เป็นรูปทรง Freeform แต่ละคนก็สามารถมีมุมนั่งใช้งานได้เป็นของตัวเอง

และแยกมุมนั่ง Meeting เป็นเหมือนโต๊ะนั่งห้อยขาแบบญี่ปุ่น

ถัดเข้ามาจะเป็นห้องน้ำรองรับชาย-หญิง พร้อมห้องอาบน้ำ และห้องน้ำสำหรับ Disabled

ด้านหน้ามีจุดล้างตัวก่อนลงสระ

ภายในห้องน้ำ Disabled กว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์ช่วยจับและอุปกรณ์เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก

ภายในห้องน้ำแบ่งสัดส่วนมาให้กว้างขวาง แยกมุมอ่างล้างมือ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

ออกแบบอ่างล้างมือสำหรับเด็กมาให้ด้วยค่ะ น้อง ๆ ใช้งานได้ง่ายเลย

โซนภายในห้องน้ำหญิงแบ่งเป็นห้องน้ำ 7 ห้อง และห้องอาบน้ำ 2 ห้อง

ภายในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้พร้อมใช้งาน พร้อมกระดาษชำระ

ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวมาแล้วเช่นกันค่ะ

ภายในห้องน้ำชายตกแต่งมาในสไตล์เดียวกันค่ะ เพิ่มในส่วนโถปัสสาวะ 6 โถ

ถัดเข้ามาจะเป็น Guest Lobby

ด้านหน้ามี Ramp ทางเข้าสู่ตัวอาคารที่ทำไว้รองรับผู้สูงอายุที่ใช้งานวีลแชร์หรือไม้เท้า

ภายใน Guest Lobby เป็นโถงรับรองขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูงโปร่ง

มีพื้นที่นั่งพักผ่อนหลายมุม จะไว้รับรองแขกก็ได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานอีกหนึ่งมุมก็ได้ค่ะ

ดูส่วนกลางที่ชั้น 1 กันครบแล้ว เราขึ้นไปบนชั้น 2 กันต่อค่ะ

ขึ้นมาเราจะเห็นความสวยงามของงานตกแต่งแบบโชว์โครงสร้างได้บรรยากาศญี่ปุ่นมาก ๆ

ฟังก์ชันบนชั้น 2 จะมีห้อง Kid’s Room และฟังก์ชันห้องฟิตเนส มีทั้งส่วน Cardio และ Weight Training ขนาดในห้องฟิตเนสจะกำลังดีค่ะ ดูโปร่งด้วยช่องแสงรอบห้อง 

อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้จะมีทั้งลู่วิ่ง

Elliptical 2 เครื่อง

จักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง

และโซน Weight Training ที่มีทั้งดัมเบลและ Cable Machine

และจากห้องนี้จะเชื่อมออกไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านนอก เป็นลานอเนกประสงค์ที่มองลงไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ด้วยค่ะ

---

แบบบ้าน

โครงการนี้ใช้แบบบ้าน Everyday Series เป็นซีรี่ส์ใหม่ล่าสุด มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ คือ

• HAGI พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 50.0 ตร.วา 
  • ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• YURI พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 55.1 ตร.วา 
  • ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• KAWAZU พื้นที่ใช้สอย 242 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 57.9 ตร.วา 
  • ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• TSUBAKI พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 62.7 ตร.วา
  • ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

แบบบ้าน HAGI

• พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 50.0 ตร.วา 
• ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

แบบบ้าน YURI

• พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 55.1 ตร.วา 
• ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

แบบบ้าน KAWAZU

• พื้นที่ใช้สอย 242 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 57.9 ตร.วา 
• ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

แบบบ้าน TSUBAKI

• พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 62.7 ตร.วา
• ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1 และชั้น 2

---

บ้านตัวอย่าง

วันนี้เราจะพาชมบ้านตัวอย่าง 2 แบบ คือ

• KAWAZU พื้นที่ใช้สอย 242 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 57.9 ตร.วา 
  • ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• TSUBAKI พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 62.7 ตร.วา
  • ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

บ้านตัวอย่างแบบแรก เป็นแบบบ้าน KAWAZU พื้นที่ใช้สอย 242 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 57.9 ตร.วา ตัวบ้านจะออกแบบในสไตล์ Minimal เน้นโทนสีเรียบ ๆ ขาว ไม้ และเทา

โดยตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน แต่ยังได้สวนหน้าบ้านที่จัดเป็นสวนญี่ปุ่นแบบมาตรฐานมาให้ค่ะ โครงสร้างบ้านมาตรฐานใช้ระบบ Precast พร้อมติดตั้งติดตั้งระบบ Magnetic Sensor, Smoke Detector และ Heat Detector มาให้เพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัยที่มากขึ้น

แปลนชั้น 1 พื้นที่ส่วนหน้าบ้านแบ่งเป็นที่จอดรถ 2 จอด เชื่อมต่อกับ Terrace มายังพื้นที่อเนกประสงค์บริเวณหน้าบ้าน ส่วนประตูทางเข้าตัวบ้านจะมี 2 จุด คือจากทางเข้าหลักหน้าบ้าน และประตูทางเข้ารองจากที่จอดรถ

เมื่อเข้าสู่ตัวบ้านจะเจอ Common Area เชื่อมต่อห้องนั่งเล่นเข้าไปยังห้องทานอาหารขนาดใหญ่ และส่วน Double Living และจะแบ่งโซน Privacy เชื่อมจาก Common Area เข้ามาด้วยโถงทางเดินเชื่อมไปยังห้องนอน 4, ห้องน้ำ และห้องครัวไทย

แปลนชั้น 2 แบ่งฟังก์ชันเป็น 3 ห้องนอน และ 1 Family Area โดยการแบ่งส่วนห้องนอนจะแบ่งเป็นเหมือน 2 ปีกของตัวบ้าน ในส่วนห้อง Master Bedroom จะอยู่ทางฝั่งขวา มีฟังก์ชันห้องน้ำในตัว

ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะแบ่งพื้นที่ทางฝั่งซ้ายของบ้านพร้อมห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน 1 ห้อง

ในบ้านมาตรฐานได้รั้วบ้านเป็นรั้วเหล็กรางเลื่อนสีดำ (ในภาพเป็นความกว้างของรั้วแบบบ้าน TSUBAKI) พร้อมอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้หน้าบ้านคือกริ่งหน้าบ้าน, กล่องจดหมายพร้อมเลขที่บ้าน และช่องเก็บขยะหน้าบ้าน

เราเข้ามาดูด้านในพื้นที่ตัวบ้าน ส่วนแรกเป็นที่จอดรถ 2 จอด โครงสร้างโรงจอดรถจะแบ่งเป็นส่วนในร่มที่จะลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน พื้นคอนกรีตเทพื้นคอนกรีต ส่วนสโลปด้านนอกเป็น Appoach slap 

บริเวณที่จอดรถมีประตูทางเข้ารองที่เชื่อมเข้าไปใกล้ส่วนครัว และถ้าวันไหนฝนตกก็เข้าบ้านทางนี้ได้เลย โดยตัวประตูจะติด Digital Door Lock มาให้ในแบบบ้าน KAWAZU และ TSUBAKI และรองรับ Ev Charger ด้วย 

จากที่จอดรถจะเชื่อมมายัง Terrace ขนาดใหญ่หน้าบ้าน ซึ่งจะเชื่อมโยงอยุ่กับประตูทางเข้าหลักของตัวบ้านด้วย

ตัว Terrace เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่จะช่วยให้การอยู่อาศัยภายในตัวบ้านสามารถเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบนอกของตัวบ้านได้ดี โดยจะมีขนาดพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง วางชุดโต๊ะพักผ่อนได้ ถ้าใครอยากต่อชายคาเพิ่มเป็นระแน่งไม้ออกมาช่วยบังแดด บังฝนก็สามารถทำได้เองไม่ยากค่ะ

สำหรับประตูทางเข้าหลักสู่ภายในบ้านใช้เป็นบานสไลด์ กรอบอลูมิเนียมสีเทาเข้ม กระจกเขียวตัดแสง

เข้ามาสู่พื้นที่ภายในตัวบ้าน ความสูงฝ้าเพดาน ที่ชั้น 1 สูง 2.6 ม. พื้นในบ้านมาตรฐานปูกระเบื้องแกรนิตโต้ สีครีม พื้นที่ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อไปยังโถงห้องทานข้าวด้านใน

พื้นที่ในห้องนั่งเล่นวางโซฟา 4-5 ที่นั่ง ได้สบาย ๆ

มีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 3.6 ม. วางโต๊ะรับแขก และติดทีวีไซซ์ใหญ่ขนาด 60-70 นิ้ว ได้สบาย ๆ 

ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วนห้องทานอาหารที่เน้นเป็นลักษณะห้องหน้ากว้าง เราสามารถแบ่งพื้นที่ห้องทานอาหาร วางโต๊ะทานข้าว 6-8 ที่นั่งได้

โซนด้านในอาจจะเพิ่มเป็นพื้นที่นั่งทำงาน หรือมุมห้องอเนกประสงค์ที่สามารถเปิดเชื่อม Terrace หน้าบ้านเพิ่ม โดยไอเดียที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูก็น่าสนใจ เป็นการใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวขนาดใหญชิ้นเดียวแล้วแบ่งส่วนการใช้งาน ทำให้เกิดความเชื่อมโยงของพื้นที่ในห้อง แต่ก็ยังได้ฟังก์ชันที่หลากหลาย

นอกจากขนาดที่กว้างแล้วจะเห้นว่ามีการใส่ช่องแสงขนาดใหญ่มาให้เต็มพื้นที่ ทำให้บ้านสว่าง และช่วยระบายอากาศรวมถึงกลิ่นอาหารในบ้านได้เป็นอย่างดี

ขยับมาที่อีกฝั่งของตัวบ้าน เป็นโซนห้องอเนกประสงค์ หรือห้องนอน 4, ห้องครัว และห้องน้ำชั้นล่าง

ในมุมห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอน 4 จะมีการเจาะผนังเพิ่มช่องแสงในตัวบ้านเพื่อทำให้พืน้ที่ทั้งในห้อง และบรรยากาศโดยรวมดูโปร่งสบายขึ้นด้วย

ถ้ามองออกมาจากในห้องจะมีช่องแสงแบบนี้ค่ะ เป็นมุมที่ได้รับแสงเข้ามาอีก 1 ช่องทาง

สำหรับห้องนี้เหมาะที่จะทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นพักผ่อน Home Theatre หรือถ้ามีคุณพ่อคุณแม่ ผู้สูงอายุก็สามารถปรับเป็นห้องนอนชั้นล่าง เพื่อให้เค้าใช้งานกันได้สะดวกก็ได้นะคะ โดยพื้นห้องจะเปลี่ยนเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ 8 มม. ทำให้หารใช้งานได้ความสบายเท้า เหมาะเป็นห้องพักผ่อนมากขึ้น

ขยับเข้ามาเป็นพื้นที่โถงทางเดินเชื่อมมายังโซน Service ของตัวบ้าน

ส่วนแรกเป็นห้องน้ำชั้น 1 พื้นที่การใช้งานของห้องน้ำทุกห้องจะมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างขวางค่ะ และมีการแบ่งโซนแห้ง โซนเปียกมาให้เรียบร้อย พร้อมพื้นที่อาบน้ำ โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ COTTO

อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้จะมีอ่างล้างมือขนาดใหญ่ เป็นอ่างแบบลอยตัวพร้อมก๊อกน้ำเย็น

โถสุขภัณฑ์ใช้แบบ Dual Flush ติดตั้งมาพร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ

ในมุมห้องอาบน้ำติดตั้งเป็นฝักบัว Hand Shower ปรับระดับความสูงได้ พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย ส่วนการระบายอากาศในห้องน้ำมีหน้าต่างบานกระทุ้ง กระจกฝ้า บานใหญ่ ช่วยระบายอากาศในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลย้อนมายังพื้นที่โซนแห้ง ตรงนี้เราสามารถติด Shower Screen เพิ่มเองได้ หรือถ้าอยากให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวกก็อาจจะเพิ่มอุปกรณ์ช่วยจับต่าง ๆ แทนได้ค่ะ

ถัดเข้ามาที่ห้องครัวไทย ที่มีการกั้นแยกมาให้เป็นสัดส่วน ใช้ประตูบานสไลด์ที่ช่วยกันกลิ่นควัน พร้อมให้ความโปร่งสบายกับตัวบ้าน

ขนาดห้องครัวถือว่ากำลังดี ใช้งานได้จริงค่ะ มีพื้นที่สำหรับทำเคาน์เตอร์ครัว และวางตู้เย็น และพื้นที่ยืนทำครัวได้สะดวก

ช่องแสงในห้องเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งฝั่งหน้าบ้าน เราเปิดช่วยระบายอากาศในห้องได้

หรือจะเปิดในส่วนของประตูลานซักล้างหลังบ้านช่วยระบายอากาศเพิ่มด้วยก็ได้ค่ะ

ลานซักล้างเทพื้นคอนกรีต ลงเข็ม 6 ม. ต่อเติมหลังคาได้ พร้อมติดตั้งปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำมาให้เรียบร้อย เราสามารถปรับเป็นพื้นที่ Laundry ต่อเติมหลังคาได้

บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนไม้จริง แน่น เดินไม่มีเสียง

ส่วนชานพักเป็นสี่เหลี่ยมเต็มขั้นพร้อมราวจับตั้งแต่ขั้นแรก ทำให้สมาชิกในบ้านเดินขึ้น-ลง ได้อย่างปลอดภัย

ด้านข้างมีห้องเก็บห้องใต้บันได

ช่องแสงโถงบันไดดีไซน์ออกมาเป็นบานใหญ่มาก ๆ เลยค่ะ มีแบ่งส่วนที่เป็นบานกระทุ้งซึ่งสามารถเปิดระบายอากาศกลางบ้านได้ดีอีกด้วย

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะปรับความสูงฝ้าเป็น 2.8 ม. สูงโปร่งขึ้น และพื้นจะปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น

พื้นที่ส่วนแรกเป็น Common Area บนชั้น 2 ถือเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เราจะใช้เป็น Family Area หรือเป็นพื้นที่ออกกำลังกายแบบเป็นส่วนตัวในบ้านก็ได้ อย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างที่เราใช้งานเล่นโยคะพร้อมกัน 2 คนได้สบาย

ติดกับส่วนโถงอเนกประสงค์ก็จะเชื่อมไปยังห้องนอนทั้ง 3ห้อง เราจะไปดูในห้อง Master Bedroom กันก่อนค่ะ

เข้ามาในห้องจะเจอพื้นที่กว้างขวาง มีมุมต่าง ๆ ให้เราจัดฟังก์ชันได้ทั้งพื้นที่พักผ่อน, Walk-in Closet และมุมนั่งทำงาน

ในพื้นที่พักผ่อน เราสามารถวางเตียงคิงส์ไซซ์ได้สบาย ๆ พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีปลายเตียง

จากห้องนอนจะมีช่องแสงบานใหญ่ เชื่อมออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน

ขนาดระเบียงสามารถวางไม้กระถางสำหรับการจัดสวนส่วนตัวของเจ้าของห้องได้ค่ะ

โดยตัวระเบียงจะยาวมาจนถึงบริเวณโถงบันไดเลย

อีกฝั่งของตัวห้องในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งนะ แต่เค้าลองจัดมาให้ดูว่าแบ่งได้ถึง 2 ฟังก์ชัน

ซ้ายมือเป็นมุมที่แปลนจัดออกมาได้ขนาดเหมือนเป็นห้องเล็ก ๆ อีกห้องนึง ที่เราสามารถทำเป็นห้องทำงานได้ และห้องนี้จะมีความโปร่งด้วยช่องแสงบานใหญ่ด้วย ทำให้บรรยากาศค่อนข้างน่านั่งทำงานหรือนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือเลยทีเดียว

และอีกห้องนึงจะกั้นเป็น Walk-in Closet

ขนาดที่ลองกั้นมาก็มองว่ากำลังดีค่ะ ได้ตู้เสื้อผ้า 2 ชุดใหญ่ ใช้งาน 2 คนได้พอดี ๆ แต่ถ้าไม่พอก็ขยับไปเพิ่มในมุมห้องทำงานด้วยก็ได้

จาก Walk-in Closet ก็จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ แยกโซนแห้ง โซนเปียกมาให้เรียบร้อย พร้อมสุขภัณฑ์ Cotto โดยในห้องนี้จะได้มาพร้อมตู้เก็บของใต้อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบกึ่ง Auto คือจะมีสาย Flush ติดตั้งมาให้ด้วยนั่นเองค่ะ

มาทางฝั่งห้องนอนรองกันบ้างค่ะ สำหรับห้องนอนรองจะใช้ห้องน้ำกลางร่วมกันนะคะ

ภายในห้องน้ำมีขนาดกว้างพร้อมช่องแสงบานใหญ่ และแบ่งแยกโซนแห้ง โซนเปียกมาให้เรียบร้อย

เข้ามาดูในห้องนอนรองห้องที่ 1 ห้องนี้จะเป็นห้องทางฝั่งหลังบ้านนะคะ มีช่องแสงหลัก 2 บาน ช่วยเปิดระบายอากาศในห้องได้ดี

ขนาดพื้นที่ในห้องเหมาะที่วางเตียงควีนไซซ์ หรือเตียงเดี่ยว พร้อมชุดตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำการบ้านได้

ส่วนห้องนอนรองทางฝั่งหน้าบ้านจะมีขนาดที่กว้างกว่าค่ะ

พื้นที่ในห้องดูโปร่งสบาย สามารถวางเตียงคิงส์ไซซ์ได้สบาย ๆ พร้อมตู้เสื้อผ้าไซซ์ใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงาน โดยห้องนี้จะมีช่องแสงติดตั้งมา 3 จุด เราสามารถปรับมุมวางเฟอร์นิเจอร์ให้แตกต่างจากบ้านตัวอย่างได้ เพราะขนาดห้องค่อนข้างกว้าง ยืดหยุ่นในการจัดวางค่ะ

บ้านตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นบ้านแบบ TSUBAKI พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 62.7 ตร.วา

แปลนบ้านชั้น 1 ส่วนแรกเป็นที่จอดรถ 3 จอด แบ่งเป็นที่จอดในร่ม 2 คัน และภายนอก 1 คัน จากที่จอดรถเชื่อมต่อมายังพื้นที่ Terrace ขนาดใหญ่ ที่จะแบ่งเป็นประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน และพื้นที่อเนกประสงค์ Semi Outdoor

ภายในตัวบ้านจะเจอพื้นที่ Common Area ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังห้องทานอาหาร และแยกเป็นห้องนอน 5 ฝั่งขวามือของตัวบ้าน ส่วนทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นโซน Service คือห้องครัว, ห้องน้ำ และ ห้องนอน 4 ที่เหมาะสำหรับการปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ

แปลนชั้น 2 แบ่งฟังก์ชัน 3 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง โดยที่โถงกลางจะจัดเป็น Family Area เป็นจุดศูนย์กลางบนชั้น 2

สไตล์การออกแบบภายนอกก็จะมาในโทนเดียวกันทุกแบบบ้านค่ะ แต่หลังนี้จะเป็นบานไซซ์ใหญ่สุด หน้าบ้านจะกว้างเป็นพิเศษที่ระยะถึง 19.3 ม. กว้างมาก ๆ จากหน้าบ้านเราจะเห็นว่าเค้าแบ่งบริเวณหน้าบ้านเป็น 3 ส่วน

ส่วนแรกเป็นที่จอดรถ 3 จอด โครงสร้างลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน พื้นคอนกรีต ส่วนสโลปด้านนอกเป็น Appoach slap บริเวณที่จอดรถมีห้องเก็บของทรงสูง วางพวกไม้ม็อบได้ และมีประตูทางเข้ารองที่เชื่อมเข้าไปใกล้ส่วนครัว และถ้าวันไหนฝนตกก็เข้าบ้านทางนี้ได้เลย โดยตัวประตูจะติด Digital Door Lock มาให้ในบ้านทุกหลังค่ะ และรองรับ Ev Charger ด้วย 

บริเวณ Terrace หน้าบ้าน จะมีพื้นที่ Semi Outdoor ขนาดใหญ่หน้าบ้านที่เชื่อมโยงกับสวนหน้าบ้านได้ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ Semi Outdoor มีชายคาคลุมเรียบร้อยไม่ต้องทำเพิ่ม เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในการอยู่อาศัยในบ้านได้ดี ปรับเป็นพื้นที่ปาร์ตี้ข้างบ้านได้ด้วย

พอเข้ามาภายในตัวบ้านจะรู้สึกเลยว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ ความลึกตัวบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 13 ม. มีช่องแสงโดยรอบเลย ทำให้บ้านดูโปร่งและใหญ่มากขึ้น ความสูงฝ้าเพดาน 2.6 ม. พื้นในบ้านมาตรฐานปูกระเบื้องแกรนิตโต้ สีครีม

พื้นที่ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นวางโซฟา 4-5 ที่นั่ง ได้สบาย ๆ มีระยะดูทีวีกว้าง วางโต๊ะรับแขก และติดทีวีไซซ์ใหญ่ได้

ช่องแสงบริเวณฝั่งหน้าบ้านจะมีทั้งประตูหน้าบ้าน และฝั่งข้างบ้านที่เชื่อมกับ Terrace ได้

ถัดเข้ามาที่ส่วนห้องทานอาหาร 

โดยพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารนี้จะมีประตูที่เปิดออกไปเชื่อมสวนหลังบ้าน เป็นประตูที่สูงถึงฝ้า เปิดระบายอากาศกลิ่นอาหารได้ดี หรือจะไว้ทำเฉลียงยืดพื้นที่ใช้สอยออกมาเป็นมุมพักผ่อนเล็ก ๆ ในบ้านได้อีก 1 จุด

จากส่วน Common Area ก็จะเช่ือมมาที่ห้องนอน 5 หรือห้องอเนกประสงค์

ห้องนี้จะมีความโปร่งด้วยประตูบานสไลด์ 2 ฝั่ง มองเห็นวิวสวนได้ และเชื่อมกับ Terrace หน้าบ้านได้ด้วย

โดยห้องนี้ถ้ามีผู้สูงอายุก็ปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้เลย โดยพื้นจะปูเป็นลามิเนต 8 มม. ที่ให้สัมผัสที่เหมาะกับการพักผ่อนมากขึ้น พื้นที่ในห้องเหมาะที่จะวางเป็นเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต และอาจจะมีตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่มากได้ หรือถ้าไม่ทำเป็นห้องนอน เราจะปรับเป็นห้องทำงาน, ห้องพักผ่อน หรือทำ Home Theatre ก็ได้โดยการติดม่านกันแสงแบบหนาที่สามารถกันแสงได้เกือบ 100% ก็จะทำให้บรรยากาศเหมาะเป็นห้องดูหนังฟังเพลงเลยทีเดียว

มาที่อีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นฟังก์ชัน ห้องครัว ห้องน้ำชั้นล่างและห้องนอน 4

ส่วนนี้เชื่อมเข้ามาด้วยโถงทางเดินเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้เป็นโซน Privacy มากขึ้น

ห้องนอน 4 ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ แต่ตำแหน่งของห้องจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนี้ก็เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุเหมือนกันนะคะ เพราะห้องนี้จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นด้วย ส่วนขนาดห้องก็จะเหมาะวางเตียงเดี่ยวกับชุดเฟอร์นิเจอร์ตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งตัวเล็ก ๆ ได้ค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในบริเวณที่ติดกับประตูทางเข้าจากที่จอดรถจะมีมุมที่เค้าเตรียมให้สำหรับทำตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ ทรงสูง

ตัวอย่างที่ Built-in มาให้ดูนะคะ จะทำเป็นตู้อเนกประสงค์ก็ได้ จะได้มีพื้นที่เก็บของให้บ้านเรียบร้อยขึ้นอีก 1 จุด

ถัดเข้ามาเป็นส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนที่ผู้สูงอายุมีโอกาสเข้ามาใช้งานด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นเค้าทำออกมาให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่ให้สมาชิกในบ้านใช้งานได้ง่าย โดยฟังก์ชันด้านในแบ่งแยกโซนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายความชื้นภายในห้องน้ำ ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto ทั้งหมดค่ะ

อีกฝั่งเป็นห้องครัวไทย กั้นแยกพื้นที่มาให้แล้วเป็นสัดส่วน ขนาดพื้นที่ในห้องครัวนี้กำลังดีนะคะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวทรงแล้วยังมีระยะยืนทำครัวได้สะดวก ส่วนกระเบื้องห้องครัว เป็น แกรนิตโต้ 60 x 60 ซม.

ส่วนการระบายอากาศภายในห้องครัวจะได้หน้าต่างบานสไลด์ 2 ฝั่ง เปิดระบายอากาศได้เต็มที่ และถ้าทำอาหารกลิ่นแรงมาก ๆ ก็เปิดประตูลานซักล้างออกไปช่วยระบายอากาศเพิ่มได้อีก

สำหรับพื้นที่ลานซักล้างเทพื้นคอนกรีต ลงเสาเข็ม 6 ม. พร้อมรองรับการต่อเติมหลังคาเพิ่ม พร้อมติดตั้งปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำมาให้เรียบร้อย

โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนไม้จริง แน่น ด้านข้างมีห้องเก็บห้องใต้บันได ที่มีฝ้าค่อนข้างสูง ทำให้เราเดินเข้า-ออก เก็บของหรือหาของได้สะดวก

ส่วนชานพักเป็นสี่เหลี่ยมเต็มขั้น 

ช่องแสงบริเวณโถงบันไดใช้เป็นบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ พร้อมบานกระทุ้งที่ช่วยระบายอากาศกลางบ้านได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกเราจะเจอพื้นที่ Family Area บนชั้น 2 ความสูงฝ้าเพดาน 2.8 ม. มีช่องแสงที่รับแสงเข้ามาให้กลางบ้านระบายอากาศได้ดี

เราสามารถทำเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือเป็นห้องพักผ่อนชั้น 2 สำหรับสมาชิกในครอบครัวที่อาจจะอยากมานั่งรวมตัวกันในเวลาที่มีแขกมาเยี่ยมแล้วนั่งอยู่ชั้นล่าง หรือจะทำเป็นห้องออกกำลังกายก็ได้นะ

เรามาดูที่ห้อง Master Bedroom กันก่อนค่ะ

เข้ามาที่ห้อง Master Bedroom การจัดฟังก์ชันในห้องนี้ สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลาย เพราะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ ค่ะ 

ทั้งมุมพักผ่อน ที่เราสามารถวางเตียงคิงส์ไซซ์ได้ พร้อมโต๊ะหัวเตียง และยังได้ความโปร่งสบายและความสว่างของห้องค่ะ เพราะห้องนี้เปิดช่องแสงขนาดใหญ่เปิดออกไปเชื่อมระเบียงภายนอกได้

ซึ่งตัวบ้านในซีรี่ส์ใหม่จะมีการปรับเพิ่ม Semi Outdoor ให้มากขึ้น ในระเบียงของห้อง Master Bedroom เป็นระเบียงกว้าง และมีส่วนที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ทำมุมนั่งพักผ่อนส่วนตัวไว้นั่งจิบกาแฟ จิบไวน์แบบนั่งกินลมชมวิวในบ้านตัวเองได้เลย ซึ่งเรามองว่าเค้าแอบคล้าย ๆ กับแบบบ้าน Lanai Series ในแบรนด์ Bangkok Boulevard เหมือนกันนะ น่าสนใจทีเดียวกับบ้านใน Segment 6-12 ล้านบาท

ตัวระเบียงจะเป็นหน้ากว้างตามขนาดบ้านเลย ถ้าซื้อแปลงติดถนน Main อย่างหลังนี้ก็มีที่ดินประมาณ 108.8 ตร.วา ได้วิวที่เป็นส่วนตัว ไม่ต้องหันหน้าเจอหลังตรงข้ามเลย

อีกส่วนเป็นห้อง Walk-in Closet ด้วยการวางแปลนของห้องมาเป็นสัดส่วนเหมือนกั้นห้อง Walk-in Closet มาให้แล้ว เหลือแค่เราตกแต่งด้วยใน ส่วนประตูก็เลือกได้เลยว่าจะกั้นเพิ่มหรือไม่

ขนาดด้านในก็กว้าง ใช้งานเก็บเสื้อผ้า 2 คน ได้เต็ม ๆ มีช่องแสงขนาดใหญ่ฝั่งหน้าบ้าน ซึ่งถ้าเราอยากเปิดช่องแสงให้ห้องสว่างหน่อยก็อาจจะต้องเว้นช่องตู้เสื้อผ้าไว้ค่ะ

จาก Walk-in Closet เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำ Master Bedroom ขนาดใหญ่พิเศษ มีช่องแสงขนาดใหญ่เต็มที่มาก ๆ ส่วนสเปกก็จะพิเศษขึ้นมาอีก ได้โถสุขภัณฑ์มีสาย Flush ติดตั้งมาให้ด้วย และมีโซน Shower พร้อม Rain Shower และ Hand Shower เดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นและติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนได้เลย

รวมถึงมีโซนอ่างอาบน้ำแบบฝัง ขนาดสามารถนอนแช่ได้ค่ะ

ไปที่อีกฝั่งของตัวบ้าน เป็นห้องนอนรอง 2 ห้อง โดยทั้ง 2 ห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานกันได้สะดวก เป็นส่วนตัว

เข้ามาที่ห้องแรก เป็นห้องนอนฝั่งหลังบ้าน พื้นที่ด้านในเราสามารถจัดเป็นส่วนห้องนอน จะวางเตียงคิงส์ หรือควีนไซซ์ก็ได้ 

ช่องแสงในห้องเป็นบานใหญ่มาก รับแสงธรรมชาติเข้าห้องได้แบบเต็มที่ ช่วยให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่ง

พื้นที่ในห้องอีกฝั่งสามารถวางโต๊ะทำงานและมีพื้นที่เชื่อมโยงเข้ามาหน้าห้องน้ำ ที่เราสามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้

ห้องน้ำในตัวแยกโซนแห้ง โซนเปียกมาให้เรียบร้อยค่ะ โดยห้องนี้โซน Shower จะเป็นแบบเข้ามุม ถ้าจะกั้นแบ่งโซนอาบน้ำเพิ่มก็อาจจะใช้เป็นตัว Shower Box เข้ามาติดตั้งได้ไม่ยากค่ะ

เข้ามาที่ห้องนอนรองอีก 1 ห้อง ห้องนี้ก็มีขนาดถือว่ากว้าง เราวางเตียงควีนไซซ์ ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ เต็มพื้นที่ โดยถ้าเราวางเตียงตามแบบมาตรฐานก็จะทำให้มีพื้นที่ใช้งานได้มากขึ้น

อีกฝั่งสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้

ส่วนห้องน้ำในตัวก็มีพื้นที่กว้างเหมือนกันนะคะ ใช้งานได้ง่ายเลย แยกโซนแห้ง โซนเปียกมาให้เรียบร้อย พร้อมช่องแสงบานใหญ่ที่เปิดระบายอากาศได้

---

ราคา (ส.ค.65)

• HAGI พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 50.0 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 6 ลบ.
• TSUBAKI พื้นที่ใช้สอย 296 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 62.7 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 8.99 ลบ.
  

  ---

• ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน

ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูล ข่าวสาร และโปรโมชันพิเศษได้ที่นี่ คลิก : https://m.scasset.com/84Rr

---

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ : ทำเลที่ตั้งโครงการก็จะเหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตในโซน ศาลายา ปิ่นเกล้า เพราะอยู่บนทำเลที่เดินทางสะดวก เช่ือมต่อกับถนนที่ใช้สัญจรในโซนนี้ได้หลายเส้น ทั้งถนนกรุงนนท์-จงถนอม, ถนนศาลาธรรมสพน์, ถนนศาลายา หรืออาจจะเป็นบุคคลากรที่ ม.มหิดล หรือผู้ปกครองที่วางแผนจะส่งบุตรหลานเรียนที่สถาบันนี้ก็ได้ เพราะอยู่ใกล้มาก ๆ เดินทางสะดวก แค่ประมาณ 10 นาที เท่านั้นค่ะ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกรอบ ๆ จะเน้นในระยะขับรถหน่อย ใกล้โครงการพอมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อรวมถึงตลาดลุงออมให้พึ่งพาใกล้บ้าน ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลัก ๆ ที่ใกล้บ้านจะไปอยู่บนเสนศาลายา และบรมราชชนนีค่ะ ซึ่งก็จะมีทั้งตลาด, ห้างสรรพสินค้า และ Hypermarket อย่าง Central ศาลายา, Makro ศาลายา, Lotus’s ศาลายา และยังมีตลาดใกล้ ม.มหิดลที่เราไปหาของทานได้หลากหลาย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งการใช้ชีวิตในโซนนี้เอง หรือการเดินทางเข้าออกเมืองค่ะ เพราะนอกจากจะเชื่อมต่อกับถนนที่วิ่งในโซนนี้แล้วยังมีตัวเลือกที่ช่วยให้วิ่งเข้าเมืองเร็วขึ้น ทั้งทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี, วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ซึ่งทั้ง 3 เส้นทาง มีระยะที่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : หากต้องการใช้รถสาธารณะทั่วไปอย่างรถเมล์ หรือรถตู้จะต้องออกมาบนถนนเส้นหลักอย่างถนนบรมราชชนนีจะมีตัวเลือกให้ใช้เดินทางหลายสายค่ะ แต่ถ้าจากที่ตั้งโครงการเลยอาจจะเรียก Taxi ผ่าน Application ต่าง ๆ สะดวกที่สุด แต่ในอนาคตทำเลที่ตั้งตรงนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยาย ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ก็จะมีสถานีศาลาธรรมสพน์ ที่อยู่ใกล้โครงการแค่ 2-3 กม. มาเป็นตัวเลือกให้การเดินทางเข้าเมืองกรุงเทพฯ ด้วยรถสาธารณะสะดวกและประหยัดเวลามากขึ้น

การออกแบบบ้านและวัสดุ : โครงการในแบรนด์ Venue ID เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ SC Asset ทำแบรนด์ออกมาให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Y ที่มีงบประมาณช่วง 6-12 ลบ. เริ่มมีความมั่นคง อยากจะซื้อบ้านใหม่เพื่อเริ่มต้นครอบครัว หรืออยากขยับขยายพาคุณพ่อคุณแม่มาอยู่มาบ้านที่หลังใหญ่ขึ้น และมองหาบ้านที่เน้นความคุ้มค่า พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่

โดยบ้านที่นี่จะเป็นสไตล์ Minimal ผสม Modern เน้นพื้นที่ Semi-Outdoor ขนาดใหญ่ในตัวบ้าน ทั้งตัว Terrace ที่ชั้น 1 และระเบียงบนชั้น 2 เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งสบาย และยืดหยุ่นในการอยู่อาศัย โดยที่นี่มีฟังก์ชันให้เลือกตั้งแต่แบบบ้านที่เหมาะกับคนเริ่มต้นครอบครัว 3 ห้องนอน จนถึงสูงสุด 5 ห้องนอน เอาไว้ทำห้องนอนผู้สูงอายุได้เลยค่ะ 

รวมถึงในบ้านยังมีติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor และตัว Smoke Detector และ Heat Detector มาให้ในบ้านทุกหลัง

สิ่งอำนวยความสะดวก : Facilities เค้าทำออกมาให้มีความเป็นญี่ปุ่นแบบกำลังดี เข้าถึงได้ทุกวัย เน้นบรรยากาศให้มีความความสงบ เรียบง่าย ใส่ฟังก์ชันครบโดยจะมีทั้งส่วนเหมาะทั้งเด็ก ๆ และผู้ใหญ่วัยทำงานเข้ามาใช้งาน มีพื้นที่สวนเปิดโล่งให้ได้ออกมายืดเส้นยืดสายได้ทุกวัน หรือวันทำงานสำหรับคนที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็มีพื้นที่ Co-Working Space ให้ใช้งาน รวมถึงมีจำนวนยูนิตพักอาศัยที่ไม่เยอะมากนัก 174 ยูนิต เท่านั้นเองค่ะ

---

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1749

Website :  https://m.scasset.com/84Rr

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ