EP.1861 รีวิว บ้านเดี่ยว วีเว่ รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ VIVE Rattanathibet-Ratchapruek
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพสุด Exclusive VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ จาก Land & Houses กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยบางรักน้อย 11 จากถนนรัตนาธิเบศร์เพียง 11 เมตร ใน ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เดินทางสะดวกเพราะอยู่ใกล้ ทางพิเศษศรีรัช, วงแหวนกาญจนาฯ ฝั่งตะวันตก และรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ เพียง 200 เมตร
อีกทั้งยังอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, สถานที่ราชการ และแหล่งงาน เช่น Central รัตนาธิเบศร์, Central Westgate, Ikea บางใหญ่, รร.นานาชาติเด่นหล้า และ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์
วีเว่ รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ เป็นบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น ระดับ Super Luxury บนพื้นที่โครงการขนาด 20-1-88 ไร่ เอกสิทธิ์เฉพาะ 34 ครอบครัวเพียง 34 ยูนิต มีเอกลักษณ์จากโครงการหมู่บ้านอื่น ๆ ด้วยสไตล์ Modern Minimal สีขาวสะดุดตา เน้นการออกแบบให้บ้านมีความเป็นส่วนตัวสูง พื้นที่ภายในบ้านเชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่โถงขนาดใหญ่ และเชื่อมต่อกับธรรมชาติด้วย Double Courtyard
กับแบบบ้าน 2 แบบ VERVE พื้นที่ใช้สอย 325 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ และ VIBE พื้นที่ใช้สอย 354 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีให้ครบครัน ทั้ง คลับเฮาส์ 2 ชั้น พร้อม Swimming Pool แบบ Free Form พร้อมสระเด็ก, Lounge, Meeting Room, Fitness Room, สวนส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ, Access Card Control, CCTV, รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | วีเว่ รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ VIVE Rattanathibet-Ratchapruek |
เจ้าของโครงการ | แลนด์แอนด์เฮ้าส์ / Land & Houses |
ลักษณะโครงการ | บ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 20-1-88 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 34 ยูนิต |
เนื้อที่บ้าน | เริ่มต้น 100 ตร.ว. ขึ้นไป |
พื้นที่ใช้สอย | ตั้งแต่ 325-354 ตร.ม. |
จำนวนห้อง | 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 3 คัน |
โซน | บางนา |
การคมนาคม |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยบางรักน้อย 11 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000 |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน |
ปีที่สร้างเสร็จ | รอข้อมูลจากทางโครงการ |
ราคา | เริ่มต้น 30 ล้านบาท* มี.ค. 64 |
ค่าส่วนกลาง | 60 บาท/ตร.ว./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | สิ่งอำนวยความสะดวก
ระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน
|
จุดเด่นของโครงการ | VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ ชีวิต…ที่ไม่ซ้ำใคร กับบ้านแนวคิดใหม่ ถ้าความแตกต่าง คือสิ่งเดียวที่คุณศรัทธา และความธรรมดา คือสิ่งที่คุณไม่เคยมองหามาตลอด ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท* |
โครงการใกล้เคียง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยบางรักน้อย 11 ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000
พิกัด : https://g.page/VIVE-Rattanathibet-Ratchapruek?share
ทำเลที่ตั้ง โครงการ VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในซอยบางรักน้อย 11 จากถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกเพียง 180 เมตร เป็นทำเลในตัวเมืองนนทบุรี ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างนนทบุรี – กรุงเทพฯ ค่ะ จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อเมืองได้สะดวก ใกล้จุดตัดถนนราชพฤกษ์ ซึ่งบนเส้นรัตนาธิเบศร์มีความคึกคักและอุดมสมบูรณ์มาก เพราะอยู่ใกล้กับพื้นที่ชุมชนที่เป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบดั้งเดิม และที่สำคัญเลยก็คือเป็นทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางรักน้อยท่าอิฐ เพียง 200 เมตรอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าสะดวกมากเพราะตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ถนนรัตนาธิเบศร์เพียง 180 เมตร ซึ่งถือเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างนนทบุรี-กรุงเทพฯ จากถนนรัตนาธิเบศร์จะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักเส้นอื่น ๆ ได้อีกหลายสาย หากวิ่งไปทางแยกแครายก็จะเชื่อมต่อกับถนนงามวงศ์วาน ตัดกับเส้นติวานนท์, ประชาชื่น, วิภาวดี-รังสิต และถนนพหลโยธิน เข้าสู่แยกเกษตรฯ ล้วนแล้วแต่เป็นถนนที่ใช้วิ่งเข้าเมืองได้ทั้งหมด ซึ่งบริเวณถนนงามวงศ์วานช่วงใกล้แยกแครายก็มีจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช เป็นตัวช่วยในการเดินทางได้ดี
หากวิ่งไปทางบางใหญ่ก็จะผ่านจุดตัดถนนราชพฤกษ์ ที่ใช้วิ่งลงไปแถววงเวียนใหญ่เชื่อมกับสาทรได้, ถนนบางกรวย-ไทรน้อย และเชื่อมไปถึงวงแหวนกาญจนาฯ ใช้วิ่งลงไปทางพระราม 2 หรือขึ้นไปทางปทุมธานีได้สะดวกค่ะ
ทางด่วน ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชบริเวณใกล้แยกแครายค่ะ สำหรับใช้ตอนขาเข้าเมือง
ขากลับออกมาจากเมืองก็สามารถใช้จุดลงทางด่วนศรีรัชกลับเข้ามาที่ตัวโครงการได้สะดวก
ขอบคุณภาพจากและข้อมูลจาก http://www.doh-motorway.com/motorway-project/central-western-and-eastern-route/m81/
และยังมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีระยะทางรวมประมาณ 96 กม. ขนาด 4 – 6 ช่องจราจร โดยออกแบบให้มีการควบคุมการเข้าออกอย่างสมบูรณ์ มีเริ่มต้นที่จุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ด้านตะวันตกกับถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณทางแยกต่างระดับบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี-อ.พนมทวน) อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ มีที่พักริมทาง (Rest Area) เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้เส้นทางโดยตรงจำนวน 3 แห่ง เป็น Service Area ที่อำเภอนครชัยศรี และอำเภอเมืองนครปฐม และขุดพักรถ Rest Stop อำเภอท่ามะกา
ซึ่งโครงการนี้จะช่วยทำให้การเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ-ปริมณฑลเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น และยังถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการเชื่อมต่อฐานการผลิตและส่งออกของประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันตกอีกด้วยค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ด้วยระดับของโครงการนั้นเป็นบ้านระดับ Super Luxury ซึ่งคนในโครงการน่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัวกันอยู่แล้ว แต่ทำเลโครงการนี้ก็เหมาะสำหรับคนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเช่นกัน เพราะโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางรักน้อยท่าอิฐเพียง 200 เมตร จากโครงการสามารถเดินไปถึงได้สะดวกมาก ถือว่าเป็นตัวเลือกในการเดินทางที่ดีในวันที่รถติดมาก หรือเด็ก ๆ ในครอบครัวอยากเดินทางเข้าเมืองเองเพื่อไปเที่ยวหรือไปเรียนพิเศษก็สะดวกค่ะ
ดูระยะเดินจากหน้าโครงการไปที่ทางขึ้นสถานี มีระยะอยู่ที่ 200 เมตรเท่านั้นเอง ตรงนี้จะใกล้ทางออกที่ 2 มากที่สุด
ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลนี้ตั้งอยู่เกือบจะติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอตัวอยู่แล้ว โดยบนถนนเส้นนี้มีทั้ง Central รัตนาธิเบศร์, Esplanade, Big C รัตนาธิเบศร์, Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์, พันทิพย์พลาซ่า และ The Mall งามวงศ์วาน หรือไปตรงเส้นกาญจนาภิเษกจะมี Central Westgate, Ikea บางใหญ่ และ Big C บางใหญ่ ครบทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และไฮเปอร์มาร์เก็ตเลยค่ะ
(ที่มาภาพ : https://www.cpn.co.th, https://www.edtguide.com, https://thai-ins.com)
ส่วนเส้นราชพฤกษ์ก็สามารถเดินทางไปได้สะดวกนะคะ มีทั้ง The Crystal SB ราชพฤกษ์, HomePro ราชพฤกษ์ และ The Walk ราชพฤกษ์ นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับโรงเรียนอีกหลายแห่งค่ะ ทั้ง รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี, รร.นานาชาติเด่นหล้า และ Intertaional School Bangkok ส่วนโรงพยาบาลก็มีทั้ง รพ.บางกรวย 2, รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ และ รพ.พระนั่งเกล้า ค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนรัตนาธิเบศร์ > สะพานพระนั่งเกล้า > ถนนรัตนาธิเบศร์ > ซอยบางรักน้อย 11 > VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์
เราเริ่มต้นการเดินทางจากถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปทางบางใหญ่ ซึ่งเราจะผ่าน MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี เป็นสถานีแรกค่ะ
ถัดมาเป็น MRT บางกระสอ ทางฝั่งซ้ายมือจะมี Big C Supercenter รัตนาธิเบศร์ 2
เลยไปไม่ไกลทางฝั่งขวามือเราจะผ่าน Central รัตนาธิเบศร์ และ Index Living Mall ค่ะ
ตามด้วย MRT แยกนนทบุรี 1
จากนั้นให้เราตรงตามป้ายบางบัวทอง-กาญจนาภิเษกแล้วข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปค่ะ
พอเราข้ามสะพานมาแล้วให้เราชิดซ้ายออกทางคู่ขนานไปตามป้ายไทรม้า-ท่าอิฐ
ให้เราออกทางคู่ขนานเพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าซอยบางรักน้อย 11 ค่ะ
ก่อนถึงซอยเราจะขับผ่าน MRT สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ให้เราเตรียมชิดซ้ายได้เลย
เลยไปนิดเดียวให้เราเลี้ยวเข้าซอยบางรักน้อย 11 ค่ะ
จากถนนรัตนาธิเบศร์ตรงเข้าซอยบางรักน้อย 11 เพียง 180 เมตร ก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ
เราจะเห็นทางเข้าโครงการ VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ ที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้ว
ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โครงการ VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury เพียง 34 ยูนิต บนที่ดินขนาด 20-1-88 ไร่ อยู่เข้ามาด้านในซอยบางรักน้อย 11 จากถนนรัตนาธิเบศร์เพียง 180 เมตร แต่ก็ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้นมากเพราะในซอยคนไม่พลุกพล่าน มีความเงียบสงบ มีโครงการหมู่บ้านและบ้านพักอาศัยขึ้นอยู่แต่ไม่แออัด และพื้นที่รอบโครงการบางส่วนก็ยังคงเป็นที่ดินเปล่าด้วยค่ะ
เรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับซุ้มทางเข้าโครงการก็คือเนื้อที่ของหมู่บ้านลดาวัลย์
มองไปทางฝั่งซ้ายมือตรงเข้าไปด้านในซอยบางรักน้อย 11 ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถใช้ทะลุออกเส้นราชพฤกษ์ได้ด้วยนะคะ
ภายในซอยมีความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราส่วนใหญ่นอกจากจะมีบ้านพักอาศัยส่วนตัวแล้วก็ยังคงเหลือที่ดินเปล่าอยู่อีก
คราวนี้เราจะเดินย้อนออกไปทางฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์กันบ้าง
ติดกับทางเข้าโครงการเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
เราเดินออกมาที่ถนนรัตนาธิเบศร์ ข้างหน้าของเรานี้เองก็คือตัวสถานีบางรักน้อยท่าอิฐ
ติดกับซอยบางรักน้อยทางฝั่งซ้ายคือทางเข้าหมูบ้านลดาวัลย์
หันไปทางฝั่งขวามือเราเดินตรงไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็จะถึงทางขึ้นสถานีแล้วนะคะ ซึ่งตรงนี้จะเป็นทางออกหมายเลย 2
:::: ตัวโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
โครงการถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Minimal ที่ได้ความสวยงามจาก Material สีขาวดูเรียบสะอาดตา รูปทรงสถาปัตยกรรมที่น้อยแต่มาก เริ่มตั้งแต่ทางเข้าโครงการออกแบบเป็นซุ้มที่ดูโอ่อ่าเรียบคมด้วยสีขาวตัดกับกระจกสีดำ พื้นทางเข้าใช้ Stamped Concrete ทั้งหมด โดยทางโครงการได้ทำซุ้มทางเข้าร่นเข้าไปด้านในที่ดินโครงการเพื่อให้มีระยะที่ง่ายต่อการสัญจร
ทางเข้าแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก มีป้อม รปภ. ขั้นอยู่ตรงกลางพร้อมกล้อง CCTV
สำหรับลูกบ้านของโครงการจะใช้ระบบ Keycard Access แบบระยะไกล หรือระบบ RFID ที่เหมือนกับการใช้ Easy Pass บนทางด่วนในการผ่านประตูเลื่อนอัตโนมัติ ส่วน Visitor จะต้องทำการแลกบัตรและตรวจสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานของโครงการก่อนทุกครั้ง โดยทั้ง 2 ฝั่งของซุ้มก็จะมีทางเท้าสำหรับคนเดินยกระดับขึ้นมาจากพื้นถนนให้ด้วย
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
จากซุ้มทางเข้าโครงการจะเชื่อมต่อกับถนนหลักขนาด 16 เมตร ตัดตรงเข้าไปด้านในโครงการ เชื่อมต่อกับถนนรองขนาด 12 เมตร และถนนซอยขนาด 9 เมตร ลักษณะของพื้นถนนเป็นถนนลาดยาง และที่สำคัญเลยก็คือทางโครงการนำระบบไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมด รวมไปถึงติดตั้ง Optic Fiber ให้เรียบร้อย ทำให้ทัศนียภาพภายในโครงการดูเรียบร้อยและสวยงาม
ตั้งแต่เข้ามาภายในโครงการเราจะเห็นว่าบรรยากาศดูร่มรื่นมีพื้นที่สีเขียวอยู่เต็มไปหมด ด้วยคอนเซปต์ที่ต้องการสอดแทรกธรรมชาติให้ผสานกับการอยู่อาศัยของลูกบ้านในโครงการ จึงได้ให้พื้นที่สีเขียวในโครงการมามากถึง 41% เลยค่ะ ตั้งแต่บริเวณข้างซุ้มทางเข้าก็มีมุมสำหรับนั่งพักผ่อนในสวน
ตามแนวถนนและรั้วบ้านปลูกต้นใหญ่ ไม้พุ่มแต่งทรง และหญ้าคลุมดิน ให้ตลอดทาง ดูมีลูกเล่นที่น่าสนใจจากการเล่นระดับของพื้น ด้วยแนวคิดของความเป็นชั้นดินและการเคลื่อนไหวของธรรมชาติ
ตรงไปภายในโครงการจะมีสะพานข้ามคลองบางรักน้อยค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณถนนภายในโครงการตัดผ่านหน้าบ้านทั้ง 34 ยูนิต ดูมีความสงบและเป็นส่วนตัวมากทีเดียว ด้วยเนื้อที่ดินของบ้านที่มีขนาดใหญ่ ทำให้บ้านแต่ละหลังมีระยะห่างจากกัน รวมถึงการออกแบบแปลนและทิศทางของบ้านที่ช่วยซ่อนกิจกรรมของคนภายในบ้านเอง
ข้ามสะพานมาแล้วตรงไปอีกเล็กน้อยจะเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางของโครงการค่ะ ส่วนแรกก็คือสวนสาธารณะ
เป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ของโครงการ ตกแต่งด้วย ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ไม้พุ่มตัดแต่ง และสนามหญ้า ทำทางเดินไปยังส่วนต่าง ๆ สำหรับใช้เดินเล่นพักผ่อน
รวมถึงมีการทำม้านั่งตามจุดต่าง ๆ ให้สามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจและสัมผัสธรรมชาติได้
ถัดจากสวนสาธารณะเข้าไปด้านในคือคลับเฮาส์ เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ถูกออกแบบให้เหมือนเป็นกล่องซ้อนอยู่แบบเฉียงบนสระว่ายน้ำในรูปแบบ Free Form
โดยอาคารชั้น 1 ใช้ผนังสีขาวทั้งชั้น มีการเจาะช่องแสงสลับไปมาแบบ Random ส่วนชั้น 2 ใช้โทนสีเทาเข้ม ลักษณะเหมือนกล่องลอยอยู่กลางอากาศ
เราเข้าไปดูรายละเอียดภายในคลับเฮาส์กันค่ะ
เริ่มจากมุมแรกเป็นสระว่ายน้ำเด็ก เป็นพื้นที่สระที่อยู่ในร่มที่มี Deck พร้อมพื้นที่พักคอยให้ผู้ปกครองสามารถเฝ้าเด็ก ๆ เวลาลงเล่นน้ำได้
ถัดมาเป็นส่วนของสระใหญ่ เป็นสระระบบเกลือที่ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Swimming Lake หรือทะเลสาบ สระจึงออกมาในรูปแบบ Free From ล้อมด้วย Landscape เป็นไม้ใหญ่ ได้บรรยากาศแบบรีสอร์ต มีความยาวต่อเนื่องอยู่ที่ 50 เมตร ทำให้สามารถใช้ว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายได้ดี
พื้นที่ในสระบางส่วนออกแบบให้มีพื้นสระตื้นและวาง Sunbed ให้ สามารถนอนเอนกาย ผ่อนคลาย ชมบรรยากาศได้
ข้างสระก็มีพื้นที่ Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงเล่นน้ำ
พื้นที่ข้างสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนของห้องน้ำแยกชาย-หญิง
ภายในห้องน้ำมีการออกแบบอย่างสวยงามที่ยังคุมโทนแบบ Minimal เน้นความสวยงามจากพื้นผิวของ Material และรูปทรงของ Object อย่างอ่างล้างมือที่นี่ออกแบบได้เก๋ดีค่ะ เป็นส่วนเดียวในห้องที่ออกแบบให้มีเหลี่ยมมุมออกมาและใช้สีที่ตัดกับภาพรวมของห้องทำให้โดดเด่น
ภาพบรรยากาศภายในห้องอาบน้ำ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ ที่นี่ให้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติในพื้นที่ส่วนกลางค่ะ
คราวนี้เรามาดูพื้นที่ในโซน Indoor กันบ้างเริ่มจาก Lounge
Lounge เป็นห้องกระจกที่มีผนังกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า ถูกออกแบบให้ยื่นออกไปในสระว่ายน้ำ เวลานั่งพักผ่อนอยู่ภายในห้องจึงรู้สึกเหมือนห้องนี้กำลังลอยอยู่เหนือน้ำ
ภายในห้องมีการจัดชุดเก้าอี้และโซฟาขนาดใหญ่ให้สามารถนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจแบบสบาย ๆ ได้ นอกจากนี้ลูกบ้านยังสามารถใช้รองรับ Visitor ที่ไม่ต้องการต้อนรับพาเข้าบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ
คราวนี้เราขึ้นไปบนชั้น 2 กันต่อค่ะ ทางฝั่งซ้ายคือ Meeting Room
Meeting Room ก็เป็นห้องที่ถูกล้อมด้วยกระจกจากพื้นถึงฝ้าเช่นกัน รองรับการนับพบปะพูดคุยงานอย่างไม่เป็นทางการได้ หรือจะใช้นั่งเล่น อ่านหนังสือ ชมวิวสบาย ๆ ก็ได้ ภายในห้องจะได้วิวสวนและสระว่ายน้ำแบบเต็มสายตาเลยค่ะ
ภาพวิวจากห้อง Meeting Room มองลงไปที่สระว่ายน้ำ
และทางฝั่งขวาคือ Fitness Room
ภายใน Fitness Room จัดอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายมาให้อย่างครบครันเลยค่ะ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 โซน
โซน Weight Training เป็นเครื่องออกกำลังกล้ามเนื้อในแต่ละส่วน
พร้อมชุดดัมเบลแบบคละน้ำหนัก ม้านั่งราบ ยิมบอล และเสื่อโยคะ
โซนคาร์ดิโอ มีลู่วิ่งไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า และเครื่องเดินวงรี ดูแล้ว Facilities ทั้งหมดเพียงพอสำหรับการใช้งานของทั้ง 34 ครอบครัวค่ะ
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
แบบบ้านภายในโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Minimal 2 แบบ เป็นบ้านดีไซน์ใหม่ ที่มีหัวใจการออกแบบก็คือ Design + Space บ้านใช้สีขาวล้วน ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครทั้งรูปลักษณ์ภายนอกบ้าน รวมถึงการออกแบบ Layout ภายในบ้าน ผ่านแนวคิดการออกแบบ 5 อย่างดังนี้ค่ะ
Identity Room : ฟังก์ชันอเนกประสงค์ ที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามใจชอบ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้เราพามาดูบ้านตัวอย่างทั้ง 2 แบบเลยค่ะ เริ่มจาก VERVE ขนาด 325 ตร.ม. และ VIBE ขนาด 354 ตร.ม.
::: VERVE ขนาด 325 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 จากทางเข้าบ้านส่วนแรกคือ Active Court ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่จอดรถและ Porch หรือ Connecting Court เป็นจุดเชื่อมกับ Green Private Court เข้าสู่พื้นที่ภายในบ้านมีโถง Foyer เป็นจุดพักก่อนเข้าสู่ Living Area ที่เชื่อมต่อกับ Dining และ Pantry เป็นโถง Double Volume ขนาดใหญ่แบบ Open Plan จากส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับ ห้องน้ำชั้นล่าง, Identity Room และห้องครัว ที่เปิดเชื่อมกับพื้นที่หลังบ้านได้ ส่วน Maid Area จะถูกออกแบบให้อยู่แยกส่วนกับพื้นที่ภายในบ้านค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้องที่ Connect กันทั้งหมดด้วยโถงทางเดิน
บ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Minimal ใช้สีขาวล้วนทั้งหมด รั้วบ้านเป็นรั้วกำแพงทึบ มีลูกเล่นโดยการทำเว้นช่องไว้เป็นดีเทลที่เรียบสวยดี ประตูหน้าบ้านได้เป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ สามารถเปิด-ปิดผ่าน Application หรือจะกดเปิดจากสวิตช์ในบ้านส่วน Foyer ได้ ประตูรั้วเป็นแบบรางเลื่อน บานประตูเป็นแบบกึ่งทึบกึ่งโปร่ง ทำให้ภายในบ้านได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ดูทึบเกินไป
นอกจากนี้ยังมีประตูทางเข้าคนเดินแยกมาให้ด้านข้าง พร้อมติดตั้งช่องเก็บขยะและกล่องจดหมายมาให้เรียบร้อย
เข้ามาส่วนแรกจะเป็น Active Court ถือเป็นลานกิจกรรมอเนกประสงค์ของคนในครอบครัว สามารถใช้เป็นสนามบาส หรือ Court แบตมินตันได้เลย ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ยังถือเป็น Buffer ระหว่างพื้นที่ภายนอกกับตัวบ้านอีกด้วย โดยพื้นที่ส่วนนี้ ทางโครงการเลือกใช้โครงสร้างพื้นแบบลงเสาเข็มสั้นปูพรมทุก ๆ ระยะ 1 เมตร ถือว่าแข็งแรงพอสำหรับลานกิจกรรมค่ะ
สำหรับพื้นที่จอดรถนั้นจะซ่อนอยู่ด้านใน ทำให้คนจากภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้ว่าในบ้านมีรถจอดอยู่หรือเปล่า ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวได้ดี
เรามองขึ้นไปด้านบนจะเห็น Facade ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของบ้านในโครงการ VIVE ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของการควบคุมทิศทางของแดดแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัวของคนที่อยู่ในห้องนอนชั้นบนได้เป็นอย่างดี
จากส่วน Active Court และที่จอดรถจะเชื่อมต่อกับ Porch เป็น Connecting Court เพื่อเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน และเชื่อมกับ Green Private Court ที่อยู่ฝั่งด้านในค่ะ
สำหรับ Green Private Court เป็นสวนอีกส่วนที่ทางโครงการได้จัดมาให้เป็นมาตรฐานทั้ง Hardscape และ Softscape เลยค่ะ เป็นสวนสำหรับการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว และเป็นวิวเวลาอยู่อาศัยภายในบ้านด้วย
คราวนี้เราเข้าไปดูพื้นที่ภายในบ้านกันค่ะ ประตูทางเข้าบ้านใช้ประตูของ Tostem ซึ่งเป็นประตูที่มีน้ำหนักเบา มือจับประตูอยู่ในระยะแบบ Universal Design ใช้งานได้ง่าย แถมยังช่วยกันเสียงได้ด้วย ที่เพิ่มเติมมาคือด้านล่างมีตัวล็อคสำหรับ Constuction คือเป็นกุญแจสำหรับทีมก่อสร้าง ใช้ไขเข้า-ออกได้ แต่เมื่อประตูมีการใช้งานจริงแล้วก็จะถูกล็อก ใช้งานไม่ได้ทันที และหน้าประตูทางเข้าจะมีตู้เก็บของบานสูงติดตั้งมาให้ ไว้เก็บอุปกรณ์ล้างรถหรืออุปกรณ์ทำสวนได้
เข้ามาในบ้านส่วนแรกจะเป็น Foyer หรือโถงรับก่อนเข้าบ้าน โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นจุดที่เราใส่และถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ออกแบบให้มีความโปร่งโล่งด้วยผนังกระจกแบบเข้ามุม
เป็นส่วนที่มีสวิตช์สำหรับไฟในบ้าน, ไฟรั้วหน้าบ้าน พร้อมหน้าจอควบคุม Home Automation ภายในตัวบ้าน รวมถึงระบบกันขโมยทั้ง Magnetic Sensor และ Motion Detector ค่ะ
จาก Foyer เชื่อมต่อเข้ามาภายใน Living Area ออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume สูงถึง 6.5 เมตร เชื่อมต่อกับ Dining Area และ Pantry ด้วย (ฝ้าสูง 2.9 เมตร) ถือเป็น Highlight ของบ้านในโครงการนี้เลยค่ะ เพราะสามารถเปิดรับแสงขึ้นไปถึงบนชั้น 2 และยังดูเชื่อมต่อกับพื้นที่ Private Court ได้อย่างลงตัว
การจัดฟังก์ชันภายในบ้าน สามารถจัดได้ตาม Lifestyle ของแต่ละครอบครัวเลยค่ะ เพราะพื้นที่จะเป็นโถงกว้าง ๆ ที่สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ
ติดกับห้องนั่งเล่นจะมีโถงฝั่งซ้าย
เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำและห้องเก็บของ ทำให้บ้านเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น
ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นแบบ Powder Room คือมีเฉพาะส่วนแห้งไว้รับแขก มีหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องแสงและทางระบายอากาศ
สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ค่ะ มีอ่างล้างมือแบบแขวนผนังพร้อมกระจกเงาบานใหญ่
และโถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ พร้อมรีโมตควบคุมติดตั้งเอาไว้ให้ที่ผนังด้านข้าง
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นห้องเก็บของใต้บันไดและเป็นพื้นที่ที่ติดตั้งตู้ไฟมาให้ มีไฟติดมาให้ 1 ดวง
ถัดมาจาก Living Area จะเป็น Dining Area และ Pantry ค่ะ
เราสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารตัวใหญ่ขนาด 6-8 ที่นั่งได้เลย ระยะการใช้งานกว้างขวางสบาย ๆ
ติดกับ Dining Area ทางโครงการจัด Pantry มาให้เป็นมาตรฐานเลยค่ะ ทั้งชุดเคาน์เตอร์ครัวและ Island โดยของจริงจะใกล้เคียงกับแบบในบ้านตัวอย่าง อาจจะมีวัสดุบางตัวที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานจริง โดยเราจะได้ Built-in Microwave + Oven จาก Kuppersbusch มาด้วย ด้านบนก็มีการทำช่องเก็บปลั๊กไฟไว้ ซึ่งเหมาะและสะดวกสำหรับการใช้งานปัจจุบัน
เคาน์เตอร์ด้านหลังได้มาแบบนี้เลยค่ะ Top เป็นหิน Quartz พร้อมอ่างล้างจานของ Teka เคาน์เตอร์กว้างมาก รวมส่วน Island เข้าไปแล้วยิ่งทำอาหารได้สนุก ใต้เคาน์เตอร์และบนตู้ลอยก็มีช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ครัวต่าง ๆ ได้เยอะมาก ซึ่งทางโครงการได้คิดมาให้หมดแล้ว
ติดกับส่วน Dining และ Pantry Area ก็คือครัวไทยค่ะ เป็นครัวแบบโชว์ดูเชื่อมต่อกับพื้นที่โถงข้างนอกด้วยผนังกระจกเข้ามุมสูงถึงฝ้า แต่ก็ยังสามารถกันกลิ่นจากการปรุงอาหารแรง ๆ ได้ดี
นอกจากจะดูเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในบ้านเพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวได้แล้ว ในครัวก็ยังได้วิวจากสวนอีกด้วย ถือว่าดีมากเลยเพราะงานในครัวเป็นงานที่ต้องใช้เวลา เมื่อได้ทำอยู่ในบรรยากาศที่ดีก็ทำให้เพลิดเพลินและมีความสุขได้ โดยห้องครัวของบ้านในโครงการนี้ยังมีระบบ Heat Detector ติดตั้งมาให้เพื่อความปลอดภัยด้วยอีกชั้น
เราจะได้ครัวมาเหมือนกับได้บ้านตัวอย่างเลย ครบทั้ง Hob, Hood และ Sink ของ Teka ถูกออกแบบใน Theme เดียวกับ Pantry ทำให้ดูเชื่อมต่อกัน
ทางโครงการออกแบบให้ประตูห้องครัวสามารถระบายอากาศได้เหมือนหน้าต่าง พร้อมติดมุ้งลวดกันแมลงให้ เหนือประตูติดพัดลมดูดอากาศช่วยอีก 1 ตัวค่ะ
จากห้องครัวเชื่อมต่อกับลานหลังบ้านสำหรับการตากผ้าและการซักล้างโดยเฉพาะ
ซึ่งส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับโซนของแม่บ้าน มีทั้งห้องนอนและห้องน้ำแยกให้อย่างเป็นสัดส่วน และยังมีพื้นที่สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าอีกด้วยค่ะ
จาก Living Area จะเชื่อมต่อกับ Identity Room ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัวพอดี ซึ่งในห้องนี้ก็จะมีห้องน้ำให้ในตัว
ภายในห้องน้ำคลุมโทนด้วยสีเทาที่ดูดิบ ๆ แบบโมเดิร์น ทางโครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากแบรนด์ต่าง ๆ โดยเลือกรุ่นที่เข้ากัน
อ่างล้างมือแบบแขวนผนังของ American Standard
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ขแง Cotto
โซนอาบน้ำกั้นส่วนด้วยกระจก Tempered Glass ให้เพื่อการใช้งานที่เป็นสัดส่วน ภายในมีม้านั่งก่อเอาไว้ให้สำหรับนั่งอาบน้ำ ติดตั้ง Hand Shower ของ American Standard พร้อมราวปรับระดับและทำชั้นวางของให้ โดยส่วนนี้จะมีหน้าต่างเป็นกระจกฝ้าเพื่อรับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้ด้วย
ห้อง Identity Room เป็นห้องสำหรับรองรับกิจกรรมส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัว สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามต้องการเลยค่ะ โดยจุดเด่นของห้องนี้ก็คือเป็นห้องที่ได้วิวสวนแบบเต็ม ๆ สามารถเปิดม่านได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนบ้านหรือคนจากภายนอกจะมองเข้ามาเห็น
จากบริเวณโถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับโถงบันไดขึ้นไปบนชั้น 2 ค่ะ
หน้าต่างตรงโถงบันไดเป็นจุดที่เราสามารถเห็นดีเทล Air Intake ได้ชัดเจน ซึ่งจะมีอยู่ที่หน้าต่างทุกบานเลยค่ะ ซึ่งช่องนี้จะเป็นนวัตกรรมทางระบายอากาศของบ้าน Land&House ที่ทำงานร่วมกับระบบ Airplus ทำให้บ้านมีการ Flow ของอากาศที่ดี ไม่อับ แม้จะปิดบ้านเอาไว้เป็นเวลานาน
โถงบันไดทางขึ้นถูกออกแบบให้มีความกว้างพิเศษถึง 1.35 เมตร เดินได้สบายและพอสวนกันได้ ไม่รู้สึกบีบอัด ใช้ผิวลูกตั้งลูกนอนบันไดเป็นไม้สักสีโอ๊คอ่อน ๆ ดูสบายตา อยู่สบาย ที่ผนังติดราวจับบันไดแบบฝังผนังให้ เป็นกล่องเหล็กพ่นสีขาวซ่อนไฟให้
จากโถงบันไดเดินขึ้นมาเราจะเจอ Pocket Garden ซึ่งเป็นวิวพื้นที่สีเขียวที่ทางโครงการใส่เอาไว้กลางบ้านชั้น 2
จากบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง
และมีพื้นที่ที่จัดเป็น Mini Bar โดยทางโครงการได้ทำ Built-in เอาไว้ให้ตามนี้เลย สามารถวางตู้เย็นเล็กหรือ Wine Cellar ไว้ใต้เคาน์เตอร์ได้ค่ะ
ติดกับส่วน Mini Bar จะมีอีกนวัตกรรมที่ได้เป็นมาตรฐานของบ้านทุกยูนิตที่นี่ นั่นก็คือระบบ Airplus ที่ช่วยระบายอากาศและความร้อนภายในห้อง และปรับสมดุลอุณหภูมิที่เราต้องการได้ โดยทำงานร่วมกับพัดลมดูดอากาศ โดยระบบ Airplus นี้จะจ่ายไฟด้วยพลังงาน Solar Cell ที่ทางโครงการให้มา จึงช่วยประหยัดค่าไฟได้ดี
และนี่ก็คือหน้าตาของพัดลมดูดอากาศที่ติดตั้งเอาไว้ให้ในห้องนอนแต่ละห้อง รวมถึงห้อง Identity Room ด้วยค่ะ
สำหรับประตูห้องนอนทุกห้องก็จะใช้ประตูที่สามารถระบายอากาศได้ เรียกว่า Air Post ค่ะ
เราเข้ามาดูห้องนอน 2 ที่อยู่บริเวณหน้า Mini Bar กันก่อนค่ะ ถือว่าเป็นพื้นที่ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่และโอ่อ่าดีทีเดียว โดยฝ้าเพดานบนชั้น 2 นี้จะมีความสูงอยู่ที่ 2.9 เมตร
พื้นที่ภายในห้องสว่างและโปร่งโล่งด้วยหน้าต่างขนาดใหญ่ สามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และมี Facade ที่สามารถปรับทิศทางของแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ผ่านทาง Application มองลงไปก็จะได้วิวจาก Active Court
จากส่วนพักผ่อนจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวและพื้นที่อเนกประสงค์
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยสีเทาดูโมเดิร์นแบบดิบ ๆ รวมถึงใช้สุขภัณฑ์แบบเดียวกับ Identity Room แต่จะมี Pocket Garden ให้ในตัว ช่วยสร้างบรรยากาศในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี
ถัดมาเป็นส่วนของพื้นที่อเนกประสงค์ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามต้องการ โดยบ้านตัวอย่างจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและ Walk-in Closet
จุดเด่นของพื้นที่ตรงนี้ก็คือการมีฝ้าเพดานที่สูงถึง 3.5 เมตร และติดหน้าต่างแบบ Full Height มาให้ ซึ่งเหมาะสำหรับการจัดเป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน อ่านหนังสือ มองออกไปก็ชมวิวจากภายนอกได้
ถัดมาคือห้องนอน 3 มีขนาดเล็กกว่าห้องนอน 2 แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพ วางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ลงตัว โดยข้างเตียงนอนจะมีกระจกใสที่สามารถมองลงไปยัง Living Area ที่เป็นส่วน Double Volume ได้
บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนขนาด Queen Size ซึ่งทำให้ยังเหลือระยะพื้นที่ใช้สอยรอบ ๆ แบบกำลังดี ผนังด้านข้างก็ยังสามารถทำตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเปิดได้
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงนอนยังสามารถวางชั้นวางทีวีได้ หรือจะจัดเป็นมุมสำหรับทำงาน-อ่านหนังสือได้
ภายในห้องนอน 3 ก็มีห้องน้ำในตัวให้เช่นกัน ซึ่งจะตกแต่งเหมือนกับห้องน้ำใน Identity Room ทุกประการ แต่จะมีประตูกระจกฝ้าเปิดออกไปรับแสงธรรมชาติและชมวิวสวนได้ โดยจะมีระแนงกั้นเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยค่ะ
เราเดินมาที่โถงทางเดินอีกฝั่งกันบ้าง
บริเวณหน้าห้อง Master Bedroom จะมีมุมอเนกประสงค์เล็ก ๆ ที่ดูโปร่งพอสมควร สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวอีกมุมก็ได้ หรือจะจัดเป็นหิ้งพระแทนก็ได้เช่นกัน
โดยมุมนี้จะได้หน้าต่างทั้ง 2 ด้านเลยนะคะ ทั้งหน้าต่างภายนอกมองออกไปได้วิวสวน และหน้าต่างภายในตรงโถงบันไดพอดี แม้มีพื้นที่ไม่กว้างมากก็ยังดูโปร่ง
เราเข้ามาภายใน Master Bedroom กันต่อค่ะ ส่วนแรกของห้องจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวที่ทางโครงการกั้นส่วนด้วยกระจกสีดำเข้ามุม ถัดเข้าไปคือส่วนพักผ่อน
ภายในเราจะได้ Built-in มาเหมือนบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ซึ่งจะเป็นลักษณะแบบ Built-in เปิด ไม่มีหน้าบาน
แน่นอนว่าห้องน้ำของ Master Bedroom จะใหญ่และหรูกว่าห้องน้ำห้องอื่น ๆ
อ่างล้างมือมีดีไซน์ที่เก๋และมีขนาดใหญ่มากขึ้นของ Kasch
ได้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวของ Kasch เช่นกัน โดยวางติดกับ Pocket Garden
ส่วนอีกด้านเป็นพื้นที่ของโถสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำ กั้นส่วนออกจากกันเป็นสัดส่วน สำหรับโถสุขภัณฑ์จะได้รุ่นอัตโนมัติเหมือน Powder Room ที่ชั้นล่าง และโซน Shower ก็จะได้ Rain Shower เพิ่มขึ้นมา พร้อมต่อระบบทำน้ำร้อนเรียบร้อยค่ะ
ถัดมาในโซนพักผ่อนที่รองรับเตียงนอนขนาด King Size และโต๊ะข้างได้สบาย
ด้านข้างยังสามารถจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนริมระเบียงได้ หรือจะจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานก็รองรับได้เช่นกัน
โดยห้อง Master Bedroom จะมีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับพื้นที่ในห้องด้วยกระจกเข้ามุมที่สูงถึงฝ้าเพดานพร้อมประตูบานเลื่อน
พื้นที่ระเบียงส่วนนี้มีหลังคาคลุมทั้งหมด และมีขนาดใหญ่จึงสามารถวางชุดโซฟาได้สบาย สังเกตช่องเปิดที่ผนังด้านหลังโซฟา ทางโครงการจะทำระแนงบังสายตาเพื่อความเป็นส่วนตัวให้ ซึ่งระแนงนี้จะได้เฉพาะลูกบ้านที่ตำแหน่งบ้านอยู่ติดกับขอบเขตรั้วโครงการ ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ข้างเคียงนะคะ
มองลงไปก็จะได้วิวสวนแบบนี้ค่ะ โดยมุมที่เราอยู่นี้เองก็จะไม่มีสายตารบกวนจากเพื่อนบ้านด้วย
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
::: VIBE ขนาด 354 ตร.ม. :::
แปลนชั้น 1 จากทางเข้าบ้านส่วนแรกคือ Active Court ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่จอดรถและ Porch หรือ Connecting Court ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เชื่อมกับ Green Private Court เข้าสู่พื้นที่ภายในบ้านมีโถง Foyer เป็นจุดพักก่อนเข้าสู่ Living Area ที่เชื่อมต่อกับ Dining และ Pantry เป็นโถง Double Volume ขนาดใหญ่แบบ Open Plan จากส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับ ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องครัว ส่วนที่ต่างกันก็คือ Identity Room ที่ถูกออกแบบให้อยู่แยกออกมาอีกเรือนหนึ่ง
แปลนชั้น 2 เป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้องที่ Connect กันทั้งหมดด้วยโถงทางเดิน วิธีคิดไม่ต่างไปจากแบบบ้าน VERVE เลยค่ะ
การดีไซน์รั้วและประตูทางเข้าบ้านเป็นไปตามแบบเดียวกันกับบ้าน VERVE ที่เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังมีความโปร่งทำให้ไม่ทึบ
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกเป็น Active Court มีขนาดใหญ่ขึ้นมาจาก VERVE พอสมควรเลย
ที่จอดรถสามารถจอดรถเรียงกันได้ 3 คันในร่ม
จากส่วน Active Court และที่จอดรถจะเชื่อมต่อกับ Porch เป็น Connecting Court เพื่อเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน และเชื่อมกับ Green Private Court รวมถึง Identity Room ที่แยกเรือนออกมาฝั่งขวาค่ะ ซึ่งในส่วนของ Connecting Court นี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Semi-outdoor ได้เลย
บรรยากาศในส่วน Green Private Court พร้อม Hardscape และ Softscape ในสไตล์ Sunken มีการเล่นระดับพื้น
จากมุมสวนเราจะเห็นว่าฝั่งด้านในของบ้านเป็นด้านเปิดโล่ง ทั้ง 2 ฝั่งมีกระจกแบบ Full Height เพื่อชมวิวสวนได้เต็มที่
เราเข้าไปชมในส่วน Identity Room กันก่อนค่ะ
ห้องนี้ก็ได้วิวสวนแบบเต็ม ๆ เลยค่ะ การแยกเรือนออกมาแบบนี้ก็มีข้อดีในแง่ของฟังก์ชันที่ต้องการการใช้สมาธิและความสร้างสรรค์สูง ไม่ต้องการการรบกวนจากคนอื่น รวมถึงการแยกความวุ่นวายออกมาจากตัวบ้านหลักด้วยเช่นกัน เช่นการจัดปาร์ตี้ เป็นต้น
ซึ่งภายในห้องก็จะมีห้องน้ำให้ในตัวค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ มีสุขภัณฑ์และการตกแต่งแบบเดิมใช้ Theme เดิมเลยค่ะ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในตัวบ้านหลักกันต่อ
เข้ามาในบ้านส่วนแรกคือ Foyer หรือโถงรับก่อนเข้าบ้าน ซึ่งเป็นส่วนที่มีหน้าจอควบคุม Home Automation และระบบกันขโมยทั้ง Magnetic Sensor และ Motion Detector ติดให้ค่ะ
จาก Foyer เชื่อมต่อเข้ามาภายใน Living Area ออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume สูงถึง 6.5 เมตร เชื่อมต่อกับ Dining Area และ Pantry ซึ่งโซนอื่น ๆ ของบ้านจะมีฝ้าสูง 2.9 เมตร
พื้นที่ภายในบ้านเชื่อมต่อกันแบบ Open Plan รวมกับฝ้าสูงทำให้ดูโปร่งโล่งมาก สามารถจัดฟังก์ชันได้ตามความชอบเลยนะคะ ที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงไอเดียนึงจากทางโครงการเท่านั้น
แต่ก็จะเห็นพื้นที่ใช้สอยเลยว่ามีความกว้างบ้านที่เพิ่มมากขึ้น สามารถรองรับเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟาตัวใหญ่ ๆ ได้
ติดกับห้องนั่งเล่นจะมีโถงไปยังห้องน้ำและห้องเก็บของ
ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะเป็นแบบ Powder Room มาพร้อมกับสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ
ถัดมาจาก Living Area จะเป็น Dining Area และ Pantry ค่ะ เนื่องจากบ้านมีความกว้างมากขึ้นจึงสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารตัวใหญ่แบบแนวขวางได้
มองออกไปทางหน้าต่างได้วิวสวนดูสวยเลยค่ะ
และนี่ก็คือ Pantry ที่ได้เป็นมาตรฐานค่ะ ทั้งชุดเคาน์เตอร์ครัวและ Island ดูหรูและสวยมาก และยังมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจาก VERVE อีก โดยเราจะได้ Built-in Microwave + Oven จาก Kuppersbusch และอ่างล้างจานจาก Teka มาด้วย
ภาพบรรยากาศบริเวณส่วน Pantry เชื่อมต่อกับ Dining Area และ Living Area และการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในบ้านและพื้นที่สวน
ติดกับส่วน Dining และ Pantry Area ก็คือครัวไทย เชื่อมต่อกับพื้นที่โถงข้างนอกด้วยผนังกระจกเข้ามุมสูงถึงฝ้า เราได้ชุดครัวมาตามแบบบ้านตัวอย่างเลยค่ะ
จากห้องครัวเชื่อมต่อกับลานหลังบ้านสำหรับการตากผ้าและการซักล้าง
ซึ่งส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับโซนของแม่บ้าน มีทั้งห้องนอนและห้องน้ำแยกให้อย่างเป็นสัดส่วน พร้อมพื้นที่วางเครื่องซักผ้า
จากบริเวณโถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับโถงบันไดขึ้นไปบนชั้น 2 ค่ะ มีชานพักให้ช่วงต้น ๆ
โถงบันไดทางขึ้นถูกออกแบบให้มีความกว้างพิเศษเดินได้สบาย ที่ผนังติดราวจับบันไดแบบฝังผนังให้ เป็นกล่องเหล็กพ่นสีขาวซ่อนไฟ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 เราจะเจอมุมอเนกประสงค์ก่อนค่ะ เป็นมุมที่อยู่ติดกับ Pocket Garden สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ มุมนั่งเล่นทำการบ้านของเด็ก ๆ หรือจะเป็นมุมเล่นโยคะ ติดกระจกเงาไว้ฝั่งนึงก็ดีทีเดียวค่ะ
จากโถงบันไดจะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินแบบโปร่งเพื่อไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง กั้นด้วยกระจก Tempered Glass ซ้อน 2 ชั้น
เราเข้ามาดูภายในห้องนอน 3 กันก่อนเลยค่ะ ห้องนอนนี้หันไปทางหน้าบ้านจึงเน้นวิวจากฝั่งหน้าบ้านเป็นหลัก ซึ่งก็จะมี Facade ที่สามารถปรับองศาเองได้จาก Application
พื้นที่ภายในห้องกำลังลงตัวกับเตียงนอนขนาด Queen Size
พื้นที่อีกฝั่งของห้องสามารถวางโต๊ะทำงาน ทำตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งเป็นโซนแต่งตัวหน้าห้องน้ำได้
ภายในห้องน้ำถูกออกแบบอย่างเป็นสัดส่วน แยกส่วนเปียก-แห้งให้เรียบร้อย โดยห้องน้ำก็จะมีประตูกระจกฝ้าเปิดออกไปรับแสงธรรมชาติและชมวิวสวนได้ แต่ก็จะมีระแนงกั้นเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยค่ะ
ตามด้วยห้อง Master Bedroom ซึ่ง Highlight ของห้องนี้ก็คือ พื้นที่พักผ่อนจะได้ Double View จาก Courtyard ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่าการที่เราได้หน้าต่างบานใหญ่มาทั้ง 2 ด้านแบบนี้ก็ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นอีกเยอะ โดยที่ฝั่ง Green Private Court จะมีระเบียงมาให้ด้วย
ภาพบรรยากาศบริเวณระเบียง มองลงไปก็ได้วิวสวนสวย ๆ
ถัดเข้าไปโซนด้านในคือ Walk-in Closet พร้อม Built-in ที่ทางโครงการทำมาให้จบแล้ว โดยส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัวค่ะ
สำหรับห้องน้ำมีความโอ่โถงกว่า VERVE อีกระดับเลยค่ะ ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่มากขึ้น ทำให้การวางผังของห้องน้ำดูแกรนด์มากขึ้น
รวมถึงจุดเด่นตรงอ่างอาบน้ำแบบ Free Form ที่มี Skylight ติดมาให้ พร้อมวิวจาก Pocket Garden
นอกจากนี้บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างมือก็มีความใหญ่และแกรนด์มากขึ้น
ส่วนโซนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ก็ถูกกั้นออกไปอย่างเป็นสัดส่วน เวลาอาบน้ำหรือนั่งทำธุระก็ยังได้วิวจาก Pocket Garden ด้วยค่ะ
สุดท้ายแล้วเป็นห้องนอนรองค่ะ มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องไม่แพ้ Master Bedroom ในบ้านหรูโครงการอื่น ๆ เลย
พื้นที่ห้องสามารถรองรับเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้ ถ้าเปิดม่านออกไปก็จะได้วิวสวน Green Private Garden ซึ่งก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ ไม่จำเป็นต้องปิดม่านเพื่อกันคนมองผ่านเข้ามา
อีกฝั่งของห้องเป็นโซน Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
ทางโครงการจัดชุด Built-in มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ตรงนี้เราสามารถเปลี่ยนแบบได้ตามใจชอบค่ะ
ตามคอนเซปต์ของห้องน้ำทุกห้องที่จะมีวิวสวนหรือ Pocket Garden มาให้ และมีการจัดฟังก์ชันการใช้งานอย่างเป็นสัดส่วนแล้ว
:::: ราคา (มีนาคม 2564) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ VIVE รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในซอยบางรักน้อย 11 จากถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออกเพียง 180 เมตร เป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้าที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะอยู่ในพื้นที่ชุมชนที่เป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ พอออกมาที่เส้นรัตนาธิเบศร์ก็มีความคึกคักและอุดมสมบูรณ์ มีทั้ง Central รัตนาธิเบศร์, Esplanade, Big C รัตนาธิเบศร์, Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์, พันทิพย์พลาซ่า และ The Mall งามวงศ์วาน หรือไปตรงเส้นอื่น ๆ อย่างราชพฤกษ์หรือกาญจนาฯ ฝั่งตะวันตก ก็ยังมีห้างใหญ่ ๆ ให้เลือกเดินได้อีกเยอะค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เพราะว่าตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้กับถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ใกล้จุดตัดถนนราชพฤกษ์ ไม่ไกลจากสะพานพระนั่งเกล้า อีกทั้งยังอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างนนทบุรี-กรุงเทพ จึงนับว่าการเดินทางนั้นค่อนข้างสะดวกทีเดียว สำหรับคนที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัชตรงถนนงามวงศ์วานได้ค่ะ และสำหรับขากลับมาที่ตัวโครงการก็ให้ลงทางด่วนที่จุดเดิมเลย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ สะดวกมากค่ะ เพราะโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางรักน้อยท่าอิฐเพียง 200 เมตร จากโครงการสามารถเดินไปถึงได้สะดวกมาก ถือว่าเป็นตัวเลือกในการเดินทางที่ดีเลย
การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการระดับ Super Luxury โครงการหนึ่งที่ไม่ได้ตีความหมายของความ Luxury ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา ฟุ้งเฟื้อ แต่เป็นการหยิบจับสไตล์อย่าง Modern Minimal ที่ต้องการการออกแบบที่ละเอียดและเนี้ยบในระดับดีเทลเล็ก ๆ จึงได้ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง รวมถึงการตีความหมายของการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพจริง ๆ
เริ่มตั้งแต่การวางผังโครงการให้มีจำนวนยูนิตเพียง 34 ยูนิต ไปจนถึงการออกแบบรั้วบ้าน ที่จอดรถ ทิศทางการวางบ้าน และ Facade ที่ให้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย หลบมุมจากการมองเห็นจากภายนอก แต่ก็ยังคงความโปร่งโล่ง มีความเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในบ้านและพื้นที่สวนทุกส่วน แม้แต่ในมุมเล็ก ๆ ที่ต้องปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวอย่างในห้องน้ำก็ยังทำ Pocket Garden แทรกไว้ให้ด้วย รวมถึงการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้านเองทั้งในแนวราบและในแนวสูง
และเป็นที่รู้กันดีว่าทางแบรนด์ได้เลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพอยู่แล้ว มีดีเทลต่าง ๆ ที่ทำให้บ้านอยู่จริงแล้วสบาย ซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็เข้าอยู่ได้เลยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้วค่ะ อย่างงานมุ้งลวด ฉากกั้นอาบน้ำ ห้องครัว ก็ทำมาให้หมดแล้ว มีครัวไทย + Pantry + Island รวมไปถึงระบบ Airplus ระบายอากาศในตัวบ้าน, ระบบ Home Automation ที่ควบคุมผ่านรีโมต, ระบบ Heat Detector และระบบป้องกันขโมยทั้ง Magnetic Sensor, Motion Detector และ CCTV 2 จุด (หน้าบ้านและหลังบ้าน)
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ถือว่าให้มาใช้งานได้สบายเลยสำหรับ 34 ครอบครัว ซึ่งทางโครงการจเน้นพื้นที่สีเขียวเป็นพิเศษโดยให้มากถึง 41% ของพื้นที่ในโครงการ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นน่าอยู่จริง ๆ ระบบไฟฟ้าก็เอาลงใต้ดินทั้งหมด สำหรับคลับเฮาส์ถูกออกแบบมาให้เหมือนตั้งอยู่บน Lake ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำแบบ Free Form ที่มีความยาวต่อเนื่องถึง 50 เมตร
มีมุมพักผ่อนรอบสระ มี Lounge และ Meeting Room สำหรับการนั่งพักผ่อนหรือพบปะพูดคุยนัดหมายกันได้ และมี Fitness Room พร้อมเครื่องออกกำลังกายตามมาตรฐาน นอกจากนี้ทางโครงการยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ล้อมโครงการด้วยรั้วสูง 2.8 เมตร และรั้วโปร่งต่อเพิ่มอีก 1.8 เมตรค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1198
WEBSITE : https://www.lh.co.th
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
EP.2500 รีวิว ศุภาลัย ไพร์ด วงแหวน-พระราม 2 / Supalai Pride Wongwaen-Rama 2 บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern ทำเลดี ใกล้ถนนพระราม 2 และทางด่วนใหม่ เริ่ม 2.29-6 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่า คุณผู้อ่านทุกคน
EP.2499 รีวิว นารา โบทานิค ราชพฤกษ์-345 Nara Botanic Ratchaphruek-345 บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Luxury ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ราคาเริ่ม 6.9 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พามาชมโครงการ Nara Botanic ราชพฤกษ์-345 จาก Narai Property ที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนราชพฤกษ์
EP.2498 รีวิว เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน Setthasiri Ngamwongwan บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Georgian ใกล้ทางด่วน เพียง 2 นาที* และ The Mall งามวงศ์วาน เริ่มต้น 18-40 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ เศรษฐสิริ งามวงศ์วาน บ้านเดี่ยวหรู
EP.2497 รีวิว ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ Supalai Grand Essence Arun-Amarin บ้านหรูกลางเมือง 3.5 ชั้น พร้อม Double Space เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว ใกล้ ICONSIAM ทางด่วน และรถไฟฟ้า 3 สาย เริ่ม 22.9-40 ล้านบาท* Written by
EP.2496 รีวิว เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-วงแหวนกาญจนา The Grand Pinklao-Wongwaen Kanchana บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Modern European พร้อม Pool Villa สระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง เพียง 39 ครอบครัวเท่านั้น ทำเลดีติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า MRT ราคาเริ่มต้น 30-70 ล้าน* Written by : Nan
EP.2495 รีวิว บารานี บลิซ รังสิต-วงแหวน / Baranee Bliss Rangsit-Wongwaen บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern British Luxury ทำเลศักยภาพ ติด ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก เอกสิทธิ์เพียง 87 ครอบครัว เริ่ม 8-17 ล้านบาท* Written by : Pure Thitapa สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ วันนี้
EP.2494 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ กาญจนาภิเษก-ซ.กันตนา Supalai Park Ville Kanchanapisek-Soi Kantana บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical ใกล้ Central Westgate เริ่ม 5.69 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo พาคุณผู้อ่านมาชมโครงการ Supalai Park
แสดงความคิดเห็น