โดยโครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่านห้วยขวาง ติดถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. เพียง 75 เมตร จาก MRT ห้วยขวาง 4 สถานี ถึง Asoke Interchange ล้อมรอบด้วยอาคารสำนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพียง 5 นาที ถึง Central พระราม 9 และ Fortune Tower พระราม 9
Lay Out มีหลายแบบและมีความแปลกใหม่ ให้เลือกได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยห้องตกแต่งให้แบบ Fully Fitted ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่เตรียมย้ายเข้าได้เลย
คอนโด XT ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
XT ห้วยขวาง
XT พญาไท
XT เอกมัย
ชื่อโครงการ
เอ็กซ์ที ห้วยขวาง XT Huaikhwang
เจ้าของโครงการ
แสนสิริ / Sansiri
เนื้อที่ทั้งหมด
ประมาณ 6 ไร่
จำนวนตึก
2 อาคาร
จำนวนชั้น
43 ชั้น และ 14 ชั้น
จำนวนห้อง
1,404 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
1 Bedroom 1 Bathroom 27.25-30.00 ตร.ม.
1 Bedroom 1 Bathroom 34.00-34.75 ตร.ม.
2 Bedrooms 1 Bathroom 50.00 ตร.ม.
2 Bedrooms 2 Bathroom 52.75-69.75 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด
41% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
จำนวนลิฟต์
อาคาร A ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว/ลิฟต์ขนของ 1 ตัว
อาคาร B ลิฟต์โดยสาร 2 ตัง/ลิฟต์ขนของ 1 ตัว
โซน
เขตดินแดง
เส้นทางคมนาคม
รถไฟฟ้า MRT ห้วยขวาง 75 เมตร
ถนนรัชดาภิเษก
ทางพิเศษศรีรัช
ที่ตั้ง
ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.
กำหนดการ
n/a
ปีที่สร้างเสร็จ
ปี 2564
ราคา
เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท*
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม
160,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้า
Mansion 7 : 140 ม.
The Street รัชดา : 2.5 กม.
Big C รัชดาภิเษก : 2.4 กม.
ตลาดเมืองไทยภัทร : 1.5 กม.
ศูนย์วัฒนธรรมไทย : 1.6 กม.
Esplanade รัชดาภิเษก : 2.1 กม.
ตลาดนัดรถไฟรัชดา : 2.1 กม.
บุญถาวร รัชดาภิเษก : 1.9 กม.
Central พระราม 9 : 2.8 กม.
Belle Rama 9 : 2.8 กม.
Fortune Town : 2.8 กม.
โรงแรม Grand Mercure : 3.0 กม.
ตลาดโชคชัย 4 : 5.4 กม.
สถานศึกษา
ร.ร.เซนต์ดอมินิก : 4.1 กม.
มศว.ประสานมิตร : 5.6 กม.
ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย : 6.2 กม.
ศูนย์การแพทย์
ร.พ.พระราม 9 : 3.9 กม.
ร.พ.บำรุงราษฎร์ : 5.2 กม.
ร.พ.กรุงเทพ : 6.6 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
สถานทูตจีน : 3.2 กม.
การรถไฟฟ้า : 4.6 กม.
สถานทูตกัมพูชา : 3.5 กม.
สถานทูตลาว : 3.5 กม.
กระทรวงแรงงาน : 4.3 กม.
CW Tower : 1.1 กม.
True Tower : 2.1 กม.
RS Tower : 2.3 กม.
อาคารไทยประกันชีวิต : 2.5 กม.
G Tower : 2.8 กม.
The Nine Tower : 2.8 กม.
Unilever : 3.1 กม.
AIA : 3.5 กม.
SET : 3.5 กม.
อื่น ๆ
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย : 1.6 กม.
สยามนิรมิต : 2.0 กม.
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ : 5.6 กม.
วัดพระราม 9 : 6.8 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
1st Floor : Co-Sharing Facilities*
Lobby Lounge
Outdoor Ozone Gym
Art & Craft Studio*
Photo Studio*
XT Club*
Cooking Studio*
6th Floor
14th Floor
Relaxing Sky Garden
Outdoor Theater
Pocket Step Garden
29th Floor : Glasshouse
Game Room
Tea Room
Laundry Room
Co-working Space
Rooftop : The Helix Rooftop
Olympic Swimming Pool
Fitness and Freestyle Exercise Studio
Hidden Sky Bar
ETC.
Parking Space and Bicycle Parking Space
Smart Locker and Rental Locker
Wireless Internet
Security 24 hr.
จุดเด่นของโครงการ
XT Huaikhwang / New Lifestyle Condo จาก แสนสิริ บนทำเลศักยภาพย่านห้วยขวาง เพียง 75 เมตร จาก MRT ห้วยขวาง 4 สถานี ถึง Asoke Interchange 5 นาที ถึง Central พระราม 9 พร้อม Co-Sharing Facilities* พื้นที่ส่วนกลางพิเศษ เชื่อมต่อความสนุก ด้วย Smart Solutions และ Virtual Activities
คอนโด MRT ห้วยขวาง / คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT ห้วยขวาง
คอนโด MRT ห้วยขวาง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ห่างจาก MRT ห้วยขวาง ประมาณ 75 เมตร
พิกัด : 13.780103, 100.573961
ทำเลที่ตั้ง จะขอเล่าให้ฟังก่อนว่า แบรนด์ “ XT” เป็นโครงการของ Sansiri ที่ร่วมกับ Tokyu Corporation เป็นแบรนด์ที่ออกแบบมาเอาใจคนยุค Millenial โดยเฉพาะ ด้วยการผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายในการคมนาคม และการใช้ชีวิต โดยเปิดตัวพร้อมกันถึง 3 ทำเล คือ XT เอกมัย, XT พญาไท และ XT ห้วยขวาง ที่เราพามาชมในวันนี้ค่ะ
ซึ่ง โครงการ XT ห้วยขวาง ตั้งอยู่ติดถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าแยกห้วยขวาง ตำแหน่งถัดมาจาก MRT ห้วยขวางประมาณ 75 เมตร ด้วยความที่อยู่ในย่านรัชดาจึงมีความคึกคักตลอด 24 ชม. ได้ในเรื่องของความสะดวกสบายไปเลยเต็ม ๆ แต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วย เพราะทางโครงการเขาวางผังให้ตัวอาคารขยับเข้าไปอยู่ด้านในที่ดิน ซึ่งห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 90 เมตรค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่วิ่งตัดถนนเส้นสำคัญ ๆ หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น ถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนพหลโยธิน, ถนนลาดพร้าว, ถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนพระราม 9 เป็นจุดที่เชื่อมต่อกับถนนดินแดง ใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อเข้า CBD ช่วงอโศก และยาวไปพระราม 4 ได้ แถมยังมีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกล ใช้วิ่งขึ้นไปช่วงลาดพร้าว หรือออกเมืองไปถนนพหลโยธินได้สบายค่ะ
พูดได้เลยว่าทำเลนี้เดินทางสะดวกมากเพราะอยู่ในจุดที่เชื่อมต่อ CBD แล้ว แต่ปริมาณรถก็หนาแน่นอย่างที่เรารู้ ๆ กันดีค่ะ โชคดีที่โซนนี้มีพวกถนนย่อยและทางลัดเยอะ เลี่ยงรถติดที่รัชดาภิเษกจากแยกพระราม 9 ไปทะลุตามซอยต่าง ๆ เอา หรือใช้ถนนประชาอุทิศไปออกเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์เพื่อขึ้นทางด่วนแทนได้ค่ะ
ทางด่วน นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชแถวแยกพระราม 9 ซึ่งเชื่อมต่อไปทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และทางด่วนเฉลิมมหานครได้ ใช้เข้า-ออกเมืองได้สะดวก โดยจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ห่างจากโครงการเป็นระยะทางประมาณ 7.1 กม. หรือระยะขับรถประมาณ 10-30 นาที
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
แยกห้วยขวาง 160 ม.
แยกสุทธิสาร 1.4 กม
แยกพระราม 9 2.9 กม.
แยกเพชรบุรี 7.7 กม.
ถนนประชาอุทิศ 850 ม.
ถนนสุทธิสารวินิจฉัย 1.4 กม.
ถนนวิภาวดีรังสิต 2.9 กม.
ถนนดินแดง 3 กม.
ถนนพระราม9 3.3 กม.
ถนนลาดพร้าว 3.3 กม.
ถนนเพชรบุรี 4.1 กม.
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ นับว่าเป็นจุดเด่นที่ใครหลาย ๆ คนสนใจที่โครงการนี้ ที่อยู่ใกล้กับ MRT ห้วยขวาง ทางออก 1 เพียง 75 เมตร เท่านั้น ไปไหนมาไหนสะดวกไม่ต้องรีบ เพราะเดินไม่เกิน 3 นาทีก็ถึงแล้ว ใครต้องเดินทางไปสนามบินบ่อยก็น่าจะชอบนะ เพราะนั่งต่อไปอีก 3 สถานีถึง MRT เพชรบุรี ซึ่งเชื่อมต่อกับ Airport Link มักกะสัน นั่งไปสุวรรณภูมิได้ในครึ่งชั่วโมง
ถ้าจะไปอโศก ให้นั่งไปแค่ 4 สถานีก็ถึง MRT สุขุมวิท สถานี Interchange กับ BTS อโศก หรือถ้าจะไป Central ลาดพร้าว ก็นั่งไปอีกฝั่งเพียง 4 สถานีเหมือนกันถึง MRT พหลโยธิน สถานี Interchange กับ BTS ห้าแยกลาดพร้าว เรียกว่าเป็นทำเลที่ใกล้จุดเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง 10 สาย ไม่ว่าจะเป็น BTS , MRT หรือ Airport Link
นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแล้วก็ยังมีตัวเลือกอื่นคือ พี่วิน ซึ่งจะมีคิวอยู่ใกล้ ๆ หน้าโครงการ กับหน้า MRT ห้วยขวาง ใครเป็นสายประหยัดสะดวกใช้รถเมล์ก็ได้เช่นกัน ให้เดินจากหน้าโครงการไปประมาณ 70 เมตรจะมีป้ายรถเมล์อยู่ค่ะ สายที่ผ่านก็จะมี 136, 137, 179, 185, 206, 514 และ 517
ความอุดมสมบูรณ์ ย่านรัชดาเป็นอีกย่านที่มีความคึกคักสูง เพราะเป็นย่านของอาคารสำนักงาน จึงมีพนักงานของบริษัทต่าง ๆ ทำงานอยู่ตรงนี้เยอะมาก ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์สูงรองรับ Demand ตามไปด้วย เรียกว่าอยู่ทำเลนี้สบายใจได้เลย มีร้านอาหารและแหล่ง Shopping ให้พึ่งพาเยอะ ตั้งแต่แบบพื้น ๆ สไตล์ตลาดนัดจนไปถึงห้างขนาดใหญ่ รวมถึงแบบที่เป็น Life Style เฉพาะตัวอย่าง The Street ภายในมีร้านค้าที่เปิดตลอด 24 ชม., Big C Extra เป็น Hypermarket เหมาะสำหรับซื้อของเข้าบ้าน, Esplanade และตลาดนัดรถไฟ ที่อยู่ตรง MRT ศูนย์วัฒนธรรม
ถ้าเป็นช่วงกลางวันจะมีตลาดเมืองไทยภัทร ติด MRT สุทธิสาร ห่างจากโครงการไป 2 สถานีเท่านั้น เลยไปตรงสถานีพระราม 9 จะมีทั้ง Fortune Tower, Central พระราม 9 และ Tesco Lotus พระราม 9 ไม่ไกลจากตรงนั้นก็มีห้าง Show DC อีกแห่ง ตรงทางแยกห้วยขวางจะมีตลาดตลาดห้วยขวาง เปิดตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ขายทั้งอาหาร, เสื้อผ้า, ของใช้ในชีวิตประจำวันต่าง ๆ ประกอบกับว่าในย่านนี้ก็มีโรงแรมอยู่เยอะ จึงมีบางร้านที่เปิดตลอด 24 ชม. เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
นอกจากนี้จากโครงการนั่งไป 4 สถานีถึง MRT สุขุมวิท ก็ถึงอโศกแล้วค่ะ มีห้าง Terminal 21 และ Robinson จะเปลี่ยนไปขึ้น BTS ไปห้างในโซนสยาม เช่น Siam Paragon, โซนชิดลม เช่น Central World และ Central Embassy, โซนพร้อมพงษ์ อย่าง Emquatier และโซนชิค ๆ อย่างทองหล่อ-เอกมัย ก็เชื่อมต่อกับ BTS ทั้งหมด และสามารถไปถึงจุดต่าง ๆ ได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จัดเป็นทำเลที่ได้ความสะดวกสบายมากทีเดียว
และในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่สีเขียวแปลงใหญ่บริเวณ แอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน 497 ไร่ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรียกว่าโครงการยักษ์ระดับประเทศที่เคยพับเอาไว้ได้ถูกรื้อกลับมาอีกครั้งกับโครงการ “มักกะสันคอมเพล็กซ์ ” ที่คราวนี้มาในเวอร์ชันของ คสช. (ซึ่งกลุ่มนายทุนมาริน่าเบย์แซนด์ที่ทำคาสิโนยักษ์ที่สิงคโปร์ก็อยากได้ที่ดินตรงนี้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ ที่นี่ ), ขอบคุณภาพประกอบจาก Realist
โดยจะแบ่งที่ดินมักกะสันเป็น พิพิธภัณฑ์ 30 ไร่ สวนสาธารณะ 150 ไร่ พื้นที่ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 140 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 177 ไร่ จะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในอนาคตนะคะ ก็คือยังไงฝั่งตรงข้ามนี่มีสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และอาคารเชิงพาณิชย์มากมายแน่นอน ก็ถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะจะเก็งกำไรในการขายและอยู่อาศัยเองที่มีศักยภาพและหาได้ยากทีเดียว เพราะที่ดินย่านนี้โดยรอบก็ถูกจับจองเกือบหมดแล้ว และราคาก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เพราะในอนาคตจะมีสวนสาธารณะมักกะสันซึ่งมีความน่าจะเป็นว่าเป็นแลนด์มาร์คอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ ในอนาคตอยู่นั่นเอง
อีกจุดนึงติดแยกเพชรบุรี ห่างโครงการไปประมาณ 1.1 กม. มีโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) ซึ่งเป็น Community Mall + Office Mix Use ขนาดยักษ์ที่มูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้าน บาท ภายในประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, พื้นที่คอนเสิร์ตฮอลล์, Shopping Mall, โรงแรม และ คอนโดมิเนียมภายในตัว
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
Mansion 7 : 140 ม.
The Street รัชดา : 2.5 กม.
Big C รัชดาภิเษก : 2.4 กม.
ตลาดเมืองไทยภัทร : 1.5 กม.
ศูนย์วัฒนธรรมไทย : 1.6 กม.
Esplanade รัชดาภิเษก : 2.1 กม.
ตลาดนัดรถไฟรัชดา : 2.1 กม.
บุญถาวร รัชดาภิเษก : 1.9 กม.
Central พระราม 9 : 2.8 กม.
Belle Rama 9 : 2.8 กม.
Fortune Town : 2.8 กม.
โรงแรม Grand Mercure : 3.0 กม.
ตลาดโชคชัย 4 : 5.4 กม.
สถานศึกษา
ร.ร.เซนต์ดอมินิก : 4.1 กม.
มศว.ประสานมิตร : 5.6 กม.
ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย : 6.2 กม.
ศูนย์การแพทย์
ร.พ.พระราม 9 : 3.9 กม.
ร.พ.บำรุงราษฎร์ : 5.2 กม.
ร.พ.กรุงเทพ : 6.6 กม.
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
สถานทูตจีน : 3.2 กม.
การรถไฟฟ้า : 4.6 กม.
สถานทูตกัมพูชา : 3.5 กม.
สถานทูตลาว : 3.5 กม.
กระทรวงแรงงาน : 4.3 กม.
CW Tower : 1.1 กม.
True Tower : 2.1 กม.
RS Tower : 2.3 กม.
อาคารไทยประกันชีวิต : 2.5 กม.
G Tower : 2.8 กม.
The Nine Tower : 2.8 กม.
Unilever : 3.1 กม.
AIA : 3.5 กม.
SET : 3.5 กม.
อื่น ๆ
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย : 1.6 กม.
สยามนิรมิต : 2.0 กม.
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ : 5.6 กม.
วัดพระราม 9 : 6.8 กม.
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนรัชดาภิเษก > แยกรัชดา-ลาดพร้าว > แยกรัชดา-สุทธิสาร > XT ห้วยขวาง
เราเริ่มการเดินทางกันบนถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้า หรือฝั่งมุ่งหน้าแยกห้วยขวาง ให้เรามุ่งหน้าไปทางสุทธิสารค่ะ
ให้เราชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าวไปเลย ตรงนี้เราจะเห็นสถานีรัชดาภิเษก (รถไฟฟ้าสายสีเหลือง) เป็น Interchange Station ระหว่าง MRT ลาดพร้าว
บนสะพานฝั่งขวามือของเราจะผ่านโรงแรมเดอะบาซาร์
ลงมาจากสะพานข้ามแยกตรงไปอีกไม่ไกล ที่ฝั่งซ้ายมือเราจะผ่าน MRT สถานีรัชดาภิเษก
และบุญถาวรค่ะ
จากนั้นให้เรามุ่งหน้าไปทางห้วยขวาง ข้างหน้าของเราจะมีอุโมงค์ข้ามแยก ให้เราขับลงไปได้เลย
พอขึ้นมาจากอุโมงค์แล้วเราจะผ่านอาคารสำนักงานหลายอาคารเลยค่ะ อย่างที่เห็นอยู่นี้ก็คือ CS Tower
พอเราผ่าน Mansion 7 ตรงซอยรัชดา 14 ให้เราชิดซ้าย
ตรงไปอีก 180 เมตรเราก็จะถึงโครงการ XT ห้วยขวาง แล้วค่ะ
ภาพบรรยากาศทางเข้าโครงการ XT ห้วยขวาง
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
สภาพแวดล้อมรอบ ๆ โครงการมีความหลากหลาย ถ้าเข้าไปด้านในซอยย่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของคนย่านนี้ พวกโรงแรม แมนชั่น อะพาร์ตเมนต์มีอยู่เยอะมาก ส่วนพื้นที่ติดถนนใหญ่รัชดาภิเษกจะเป็นพวกอาคารพาณิชย์, อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า เป็นทำเลที่มีความคึกคักดีทีเดียว ชาวต่างชาติก็มีเยอะค่ะ โดยส่วนมากจะเป็นชาวจีนที่ชอบมาอยู่ในโซนนี้กัน
จากภาพกราฟิกเราจะเห็นว่ารอบ ๆ โครงการมีคอนโดที่เป็นสูงหลายโครงการเลย ที่ใกล้ ๆ ในรัศมีที่ค่อนข้างมีผลกับวิวโครงการก็จะมี Centric ด้านหน้า กับ Life ข้าง ๆ ฝั่งด้านหลังที่ดินส่วนใหญ่เป็นอาคารแนวราบไม่มีผลอะไรค่ะ
ทิศเหนือ ช่วงด้านหน้าที่ดินของโครงการ ติดกับ คอนโด Centric ห้วยขวาง สเตชั่น สูง 31 ชั้น ส่วนครึ่งหลัง ติดกับแมนชั่น 10 ชั้น, อะพาร์ตเมนต์ 9 ชั้น และอาคารสูงไม่เกิน 5 ชั้น
ทิศใต้ ติดกับ โชว์รูมของ Honda และที่อยู่อาศัยแนวราบข้างเคียง
ทิศตะวันออก ติดกับ แมนชั่น สูง 8 ชั้น
ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนรัชดาภิเษก
เรามาเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ โครงการกันค่ะ หน้าโครงการติดถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงาน สูง 12 ชั้น และอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น
เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางแยกห้วยขวางก่อนนะคะ จะเห็นว่าฟุตบาทด้านหน้าโครงการกว้างขวางเดินสะดวกเลย
ติดกับทางเข้าโครงการเป็นโชว์รูมของ Honda
ถัดมาเป็นพื้นที่จอดรถของ MRT ห้วยขวาง
เราเดินมาแค่ 75 เมตรเท่านั้นก็ถึง MRT ห้วยขวางแล้วค่ะ ตรงนี้จะเป็นทางออกที่ 1 นะ เดินแบบเร็ว ๆ ไม่ถึง 2 นาที
ด้านหน้าทางออกจากสถานีมีลานกว้าง จะมีพวกเต็นท์อาหารมาเปิดช่วงบ่าย ๆ มาซื้อทานกันได้ค่ะ
ด้านหน้าของเราคือแยกห้วยขวางค่ะ ถนนที่ตัดด้านหน้าคือถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เข้าไปด้านในคือคึกคักมากทีเดียว
คราวนี้เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางแยกสุทธิสารกันบ้าง
ติดกับทางเข้าโครงการคือคอนโด Centric เพื่อนบ้านเราเอง
ถัดมามีร้านอาหาร เป็น Bar&Bistro บรรยากาศน่านั่ง มีดนตรีสดด้วย
ถัดมาเป็นร้านย่างเนย ปกติคนเยอะอยู่นะ, Masnsion 7 และสนามยิงปืนเลเซอร์ จะอยู่ตรงซอยรัชดา 14 ค่ะ
หน้าปากซอยรัชดา 14 มีสะพานลอย เผื่อใครจะข้ามถนนไปเดินเล่นฝั่งตรงข้าม
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ XT ห้วยขวาง เป็นหนึ่งในแบรนด์ XT ซึ่งเป็นแบรนด์ Life Style Condominium ใหม่ของ แสนสิริ ที่เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 โครงการ คือ XT เอกมัย, XT พญาไท และ XT ห้วยขวาง ซึ่งตัวแบรนด์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ยุค “Millenial” หรือ “Gen M” ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง และต้องการเป็นอิสระจากข้อจำกัดเดิม ๆ จึงเกิดเป็นแนวคิดการออกแบบที่ตอบรับความต้องการออกมาเป็น
Extend Your Style แนวคิดหลักที่เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ของการอยู่อาศัย ให้เราสามารถเลือกรูปแบบการอยู่อาศัยได้ตาม Life Style ของแต่ละคน ทั้งในเรื่องของทำเล พื้นที่ส่วนกลาง และรูปแบบของห้องพักที่ออกแบบมาให้เลือกหลากหลาย และภายใต้แนวคิดนี้ ก็จะเจาะลงไปอีก คือ
Explore your space มี Layout ห้องที่จัดมาให้เลือกถึง 6 แบบตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งจะสามารถเลือกได้ทั้งการจัดวางแปลนในห้องและเฟอร์นิเจอร์
Expand your lifestyle ในเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง จะมี Co-Sharing Spaces ซึ่งลูกบ้าน XT จะสามารถเข้าไปใช้ได้ในทุกโครงการของ XT ซึ่งก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละทำเล (แต่การใช้งานส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ) โดยการจองเข้าใช้งานจะสามารถจองผ่านระบบ Application ได้เลย สะดวกดีค่ะ
สำหรับโครงการ XT ห้วยขวาง เป็น High Rise Lifestyle Condominium มี 2 อาคาร อาคาร A 43 ชั้น และอาคาร B 14 ชั้น บนพื้นที่โครงการประมาณ 6 ไร่ โดยโครงการนี้แสนสิริร่วมกันพัฒนากับบริษัท โตคิว คอนสตรัคชัน จากญี่ปุ่น ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น โทนสีขาว-เทา-ส้ม เป็นเอกลักษณ์
Master Plan ของโครงการจะเป็นลักษณะของคอขวด ทำเป็นถนนและทางเท้าเข้ามาด้านในตัวโครงการ ซึ่งมีข้อดีตรงที่ทำให้ตัวอาคารมีระยะจากถนนใหญ่ประมาณนึง จึงได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น จากทางเข้าโครงการจะมีจุดรักษาความปลอดภัยด่านแรก ตรงเข้ามาเจอสวนหย่อมเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักคอยและเป็นจุดรับสายตา เข้ามาถึงด้านในจะมีการเดินรถตามเข็มนาฬิกา มีทางแยกอ้อมไปด้านหลังอาคารเพื่อวนออกจากโครงการ และทางลอดเข้าไปใต้อาคารเพื่อไปยังจุด Drop Off ของอาคาร B และอาคาร A และเข้าสู่อาคารจอดรถ ส่วนพื้นที่ด้านหลังโครงการจะจัดให้เป็นโซนสำหรับ Activities แบบ Outdoor ค่ะ
เรามาดูบรรยากาศภายในโครงการกันค่ะ เริ่มจากที่ทางเข้าโครงการถูกออกแบบมาอย่างร่มรื่น พื้นเป็น Stamped Concrete มีป้ายโครงการติดให้เห็นอย่างชัดเจน
มีทางเท้าแยกให้สามารถเดินเข้าไปถึงด้านในโครงการได้แบบยาว ๆ
สำหรับการเข้า-ออกโครงการจะใช้ระบบ Key Card Access มีป้อม รปภ. และกล้อง CCTV ดูแลตลอด 2 ชม.
ตรงเข้าไปด้านในโครงการ มีการปรับบรรยากาศด้วย Landscape สีเขียวดูสบายตา
ตรงเข้ามาด้านในพอถึงตัวตึกจะมีสวนรับสายตา ตรงนี้ให้เราขับวนตามเข็มนาฬิกาตามลูกศรบนพื้น
เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักคอยได้เลยนะคะ ภายในมีมุมม้านั่งจัดเอาไว้ให้ ตอนนี้โครงการเพิ่งสร้างเสร็จต้นไม้อาจจะยังไม่ฟูมาก แต่รออีกไม่นานเราจะได้ที่นั่งใต้ร่มไม้แน่นอน
จากนั้นจะมีทางแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายจะอ้อมตัวอาคารไปด้านหลัง ใช้วนออกจากโครงการ ถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าใต้อาคาร เป็นจุด Drop Off ของทั้งสองอาคาร และเป็นทางเข้าพื้นที่จอดรถใต้อาคารด้วย
เราวนมาด้านหลังอาคารกันก่อนค่ะ จะมีพื้นที่ส่วนกลางกลางแจ้งจัดเอาไว้ให้สำหรับสาย Outdoor
ส่วนแรกจะเป็น Education Playground โดยมีการออกแบบร่วมกับ รพ.สมิติเวช เพื่อให้ได้พื้นที่ในการพัฒนาทักษะของเด็ก รวมไปถึงได้ความปลอดภัยอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
ถัดมาเป็นในส่วนของ Outdoor Ozone Gym โซนออกกำลังกายกลางแจ้ง อุปกรณ์ครบ กระสอบทรายก็มีค่ะสำหรับคนที่ชอบต่อยมวย
ติดกันเป็นสนามเปตอง มีพื้นที่สำหรับนั่งชมเกมเป็นสเต็ปด้านข้าง พร้อมกระดานคะแนน
นอกจากนี้ก็ยังมี Sansiri Backyard เป็นแปลงปลูกผักสวนครัวให้ลูกบ้านมาทดลองปลูกและเก็บผักไปรับประทานได้
มาดูแปลนอาคารกันค่ะ เริ่มจากชั้น 1 อาคาร A ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Lobby เชื่อมต่อกับ Co-Sharing Facilities ไม่ว่าจะเป็น Art & Craft Studio, XT Club และ Photo Studio รวมไปถึง Mail Room และโถงทางเดินไปยัง Lift Lobby ส่วนอาคาร B จะเป็นพื้นที่ Lobby ที่ถูกออกแบบเป็นโถงขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ Co-Sharing Facilities ก็คือ Studio ทำอาหาร และเชื่อมต่อไปยัง Mail Room และ Lift Lobby ค่ะ
คราวนี้เข้ามาบริเวณใต้อาคารกันบ้าง ทางฝั่งซ้ายคือ Drop Off ของ Lobby อาคาร B ตรงไปข้างหน้าจะเข้าสู่พื้นที่จอดรถ และถ้าเลี้ยวขวาจะเป็น Drop Off ของ Lobby อาคาร A
สำหรับพื้นที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 5 รวมทั้งหมด 41% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
พอเลี้ยวขวามาทางฝั่งซ้ายคือ Drop Off ของ Lobby อาคาร A ถ้าตรงออกไปเลี้ยวขวาจะวนออกนอกโครงการ
เราเข้าไปดูภายใน Lobby อาคาร A กันก่อนค่ะ ตอนนี้ทางโครงการ XT เองก็มีมาตรการรองรับสถานการณ์ Covid 19 เป็นอย่างดี โดยจะมีเครื่องวัดอุณหภูมิก่อนเข้าตัวอาคาร และเครื่องจ่ายแอลกอฮอล์เจลระบบอัตโนมัติในทุกพื้นที่ รวมไปถึงประตูทางเข้าก็จะใช้เป็นประตูบานเลื่อนระบบอัตโนมัติ โดยระบบการเข้า-ออกจะใช้เป็นระบบ Key Card ร่วมกับระบบ Face Scan เพื่อลดการสัมผัสค่ะ
ภายใน Lobby อาคาร A ถูกออกแบบเป็นห้องที่มีลักษณะยาวเข้าไปด้านใน มีฝ้าเพดานสูงโปร่ง ตกแต่งในสไตล์ Mid-Century Modern ใช้พื้น Terrazzo ผนังและฝ้าเพดานใช้เส้นสายแบบ Organic ผนังตกแต่งด้วยการเดินเส้น Copper จัดชุดเฟอร์นิเจอร์ใช้สีสันสดใสได้ Mood ที่ดูสนุกสนาน
อีกฝั่งของ Lobby จะเป็นส่วนของ Co-Sharing Facilities ที่ลูกบ้านของแบรนด์ XT สามารถใช้ร่วมกันได้ สังเกตในโครงการเราจะเห็นการออกแบบกราฟิก Room Signage ในแต่ละฟังก์ชันเอาไว้น่ารักทีเดียวค่ะ
ส่วนแรกคือ Art & Craft Studio เป็นพื้นที่สำหรับสายงานฝีมือ เช่น พวกงานวาดรูประบายสีต่าง ๆ, งานตัดโมเดล เป็นต้น
ถัดมาเป็น XT Club มีประตูเชื่อมต่อกับ Art & Craft Studio ใช้เป็น Co-Working Space ก็ได้นะคะ
และอีกฟังก์ชันที่เรียกว่าจำเป็นต้องมีในยุคนี้ ก็คือ Photo Studio รองรับการถ่ายสินค้าและเสื้อผ้าแฟชั่น คนที่เปิดร้านขายของออนไลน์ใน IG น่าจะชอบนะคะ
ส่วนที่อยู่ติดกับประตูโถงทางเดินไปยัง Lift Lobby ก็คือ Mail Room ค่ะ
ภายในโถงมีห้องน้ำจัดเอาไว้ให้แยกชาย-หญิง และ Unisex
ห้องน้ำหญิงทั้งโครงการจะตกแต่งด้วยโทนสีชมพู-ขาวหวาน ๆ เป็นเอกลักษณ์
ห้องน้ำชายใช้โทนสีน้ำเงิน-ดำ ดูเท่ ๆ
ส่วนห้อง Unisex ตกแต่งด้วยโทนสีขาวดูสะอาดตา
เดินตรงเข้ามาด้านในจะเจอห้องนิติบุคคลอยู่หน้าทางเข้า Lift Lobby จะเป็นอีกด่านที่คัดกรองคนเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card และ Face Scan
ภายในโถงลิฟต์มีมุมสำหรับนั่งพักคอยจัดเอาไว้ให้
สำหรับอาคาร A จะมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 5 ตัวค่ะ
ภายในลิฟต์เองก็มีการตกแต่งอย่างสวยงามโดยล้อมาจากบริเวณ Lobby ลิฟต์ที่ใช้เป็นลิฟต์ระบบล็อกชั้นของ Kone รองรับได้ประมาณ 18 คน/เที่ยว
เราย้ายมาดู Lobby ของอาคาร B กันบ้างค่ะ
การออกแบบ Lobby ของอาคาร B จะได้บรรยากาศแบบห้องสมุดกว้าง ๆ โปร่ง ๆ มีฝ้าเพดานสูง ผนังกระจกเต็มบานเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวภายนอก จัด Lighting และบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายด้วยสี Warm Tone แบบไม้ เหมาะสำหรับการนั่งทำงานและพักผ่อนอ่านหนังสือเงียบ ๆ
มีโซฟาและชุดเก้าอี้จัดเอาไว้ให้หลายมุมเลยค่ะ เลือกหามุมนั่งได้ตามใจชอบ มีมุมนึงจัดเป็นลักษณะของ Sunken Seat เป็นการแบ่งโซนในพื้นที่เดียวกัน
ด้านข้างคือ Mail Room ออกแบบให้เป็น Pattern สูงขึ้นไปถึงบนฝ้า
เราเดินตรงเข้าไปด้านใน ทางฝั่งซ้ายคือ Cooking Studio เป็น 1 ใน Co-Sharing Facilities ส่วนฝั่งขวาคือโถงทางเดินไปยังห้องน้ำและ Lift Lobby
Cooking Studio อีกพื้นที่สำหรับบรรดา Home Cook ที่อยากมี Space ใหญ่ ๆ ในการเตรียมอาหารแบบจริง ๆ จัง ๆ หรือใครอยากจัด Chef Table เล็ก ๆ ก็ทำได้ค่ะ
ห้องน้ำของ Lobby ในอาคาร B ก็จัดแยกสัดส่วนให้ดีเหมือนกัน แยกห้องน้ำหญิง-ชาย และ Unisex
ส่วน Lift Lobby ของอาคาร B จะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวค่ะ
ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไป จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพักอาศัยค่ะ อาคาร A มีทั้งหมด 37 ยูนิต และอาคาร B มี 28 ยูนิต มีสวนตรงกลางเชื่อมต่อระหว่างทั้ง 2 อาคาร เรียกว่า Oasis Garden ที่น่าสนใจก็คือจะมีห้องพักอาศัยบางห้องที่เป็นแบบ Garden Access ด้วย
พื้นที่ที่เชื่อมระหว่างอาคาร A และอาคาร B เอาไว้ด้วยกันก็คือ Oasis Garden บนชั้น 6 นี้เองค่ะ จากโถงลิฟต์ของทั้ง 2 อาคารจะมีประตูที่สามารถเปิดออกมาที่สวนได้
ภายในสวนมีการจัดต้นไม้เอาไว้ให้ร่มรื่นทีเดียวค่ะ สมชื่อว่าเป็น Oasis บนตึกสูง มีการจัดมุมสำหรับนั่งพักผ่อนเอาไว้ให้หลายมุม แยกเป็นโซนเป็นมุมไปเพื่อความเป็นส่วนตัว
มีมุมม้านั่งพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้
ที่นอนแบบตาข่ายเอาไว้นอนเล่น ช่วงเย็น ๆ หรือหัวค่ำน่าจะสบายค่ะ
โซน Sunken Seat นั่งเล่นแบบกลางแจ้ง ใช้นั่งเล่นพูดคุยหรือทำกิจกรรมกลุ่มกันได้เลย
มีพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ และสเต็ปสำหรับนั่งเล่นเหมือนพวก Amphitheater
ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไป อาคาร A และ B จะถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ที่เห็นอยู่นี้คือแปลนอาคารชั้น 8-10 ค่ะ อาคาร A มีอยู่ 40 ยูนิต และอาคาร B มีอยู่ 28 ยูนิต
ชั้น 14 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร B ถูกจัดเป็น Relaxing Sky Garden ทั้งชั้นเลยค่ะ มีการจัดสวนเป็นพื้นที่นั่งเล่นออกเป็นหลายมุม มี Outdoor Theater และมีจุดที่น่าสนใจเป็น Pocket Step Garden หรือสวนไล่ระดับเชื่อมต่อไปยังชั้น 11, 12 และ 13 ซึ่งบริเวณนั้นก็จะมีห้องแบบ Garden Access อีกเช่นกัน (แปลนชั้น 11-13 จะไม่ต่างจากแปลนชั้น 8-10 มากนัก แต่จะมีพื้นที่ห้องบางส่วนที่หายไปกลายเป็น Pocket Garden ค่ะ) ส่วนอาคาร A มีการวางแปลนเหมือนเดิม
บรรยากาศของสวนชั้น 14 ดูดีทีเดียวค่ะ มีการจัดมุมสำหรับ Relax เอนกายพักผ่อนเพื่อชมวิวเมืองอยู่หลายมุมห่าง ๆ กันเพื่อความเป็นส่วนตัว
บางมุมจัดเป็นที่นอนตาข่ายพร้อมหมอนอิงน่าสบาย ช่วงกลางวันอาจจะไม่เหมาะ แต่ช่วงเย็น ๆ ไปคือดีค่ะ
มุม Day Bed ระยะใกล้กับขอบของอาคารเลย ราวกันตกใช้ Tempered Glass เป็นแผ่นต่อกัน ไม่มีราวเหล็กเชื่อม ได้ภาพวิวแบบคลีน ๆ
มุมพักผ่อนอีก 1 มุม แยกตัวออกมาเพื่อให้ได้ความสงบ
จากจุดนี้จะมีบันไดเดินลงไปยัง Pocket Step Garden เชื่อมต่อชั้น 12 และ 13
ในแต่ละชั้นก็จะมีมุมสวนเล็ก ๆ สำหรับพักผ่อน ซึ่งส่วนนี้เองค่ะที่จะมีห้องพักอาศัยแบบ Garden Access ใครชอบฟีลห้องติดสวนแบบนี้ต้องรีบจับจองกันหน่อยเพราะมีไม่เยอะค่ะ
และอีกมุมบนสวนชั้น 14 จะมี Outdoor Theater สำหรับนั่งดูภาพยนตร์หรือจะดูกีฬากับเพื่อน ๆ ได้ โดยการจัดมุมที่นั่งจะจัดแบบขั้นบันไดสลับกันเพื่อให้ไม่มีการบังจอกัน จอที่ใช้เป็นจอ LED ซึ่งมีความสว่างและความคมชัด ดูตอนกลางวันเวลาแดดจ้า ๆ ก็ยังสามารถดูได้ค่ะ
ชั้น 15-21 ตั้งแต่ชั้นที่ 15 เป็นต้นไปจะเหลือแต่อาคาร A แล้วค่ะ โดยแปลนจะไม่ต่างจากชั้น 14 เลย
ชั้น 23-27 จำนวนห้องจะลดลงมาเหลือ 36 ยูนิต
ชั้น 29 จะมีส่วนที่เรียกว่า Glass House มีการออกแบบเหมือนเป็น Terrace ขนาดใหญ่ พื้นที่การใช้งานมีทั้งแบบ Indoor และ Semi-Outdoor ประกอบด้วย Game Room, Tea Room, Laundry Room และ Co-working Space นอกจากนั้นจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 11 ยูนิต ถือเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดค่ะ
ส่วนแรกของ Glass House จะเป็นพื้นที่รับรองเหมือน Lobby สำหรับนั่งพักคอย ที่ใช้ชื่อว่า Glass House ก็เพราะว่าผนังโดยรอบของทั้งชั้นจะเป็นผนังกระจกรับแสงธรรมชาติทั้งหมด ฝ้าเพดานก็ออกแบบมาให้มีความสูงพอสมควร บรรยากาศดูโปร่งโล่งดีทีเดียวค่ะ
สังเกตเห็นว่าทางโครงการมีการจัด Terrace แทรกระหว่างแต่ละฟังก์ชัน เป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนรับลมแบบ Semi-Outdoor ตกแต่งด้วยสวนในกระถาง มีการจัดเฟอร์นิเจอร์หลายแบบ อย่างมุมนี้สำหรับนั่งเดี่ยว ๆ คนสองคนแบบเป็นส่วนตัว
ใครอยากเอนกายสบาย ๆ ก็มีเก้าอี้รังนกพร้อม Bean Bag สบาย ๆ
มากันหลายคนอยากนั่งคุยกันแบบเห็นหน้าก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้จัดเอาไว้ให้
หรือม้านั่งยาวก็มี ใครชอบมุมไหนเลือกนั่งกันได้เลยค่ะ
มาดูฟังก์ชันส่วนแรกกันค่ะ จะเป็น Laundry Room มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าจัดเอาไว้ให้เยอะมาก มีเก้าอี้สำหรับนั่งพักคอย นอกจากนี้ก็ยังมีตู้กดน้ำเอาไว้ให้บริการด้วย
ถัดมาคือ Game Room มีโต๊ะพูลจัดเอาไว้ให้กลางห้อง รอบ ๆ มีโซฟาและอาร์มแชร์สำหรับนั่งเชียร์เกม
ห้องที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นนี้ก็คือ Tea Room ค่ะ การจัดห้องจะเหมือนกับเป็น Cafe สามารถนำเครื่องดื่มและขนมมาทานกันได้
ในห้องจัดมุมสำหรับนั่งเล่นเอาไว้ให้หลายมุมเลยค่ะ มุมนั่งแบบหน้าเคาน์เตอร์ก็มี
มีมุมโต๊ะเก้าอี้เล็ก ๆ สำหรับนั่งกันคนสองคน หรือมุมโซฟาใหญ่เวลามากับเพื่อนหลาย ๆ คน
อีกพื้นที่ที่เรียกได้ว่าต้องมีในทุกโครงการก็คือห้อง Co-Working Space มีการจัดเฟอร์นิเจอร์ให้ดูค่อนข้างนิ่ง เหมาะสำหรับการนั่งทำงานแบบจริงจังหน่อย แต่บรรยากาศของห้องจะช่วยทำให้รู้สึกไม่เครียด นอกจากนี้ก็ยังมีหน้าจอทีวีติดตั้งมาให้สำหรับการคุยงานหรือการประชุม
และในชั้นนี้ก็มีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งานกันได้สะดวกเหมือนเดิมค่ะ
แปลนชั้น 32-41
ชั้น 42 หรือที่เรียกว่า The Helix Rooftop เป็นพื้นที่ส่วนกลางเด่น ๆ อีกส่วนของโครงการ โดยจะเน้น Activities ที่มีความ Active แบ่งเป็น Swimming Pool, Fitness Room และ Freestyle Exersice Studio โดยจะแยกห้องปีนผาจำลอง, ห้องโยคะ และห้องปั่นจักรยานให้เป็นสัดส่วน นอกจากนี้ก็จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงขนาดใหญ่ และมีบันไดวนขึ้นไปบนชั้น 43 ค่ะ
เรามาดูฝั่งสระว่ายน้ำกันก่อนค่ะ
ที่ว่าเป็นอีก 1 จุดเด่นก็เพราะว่าสระว่ายน้ำของที่นี่มีความยาวถึง 50 เมตร หรือก็คือระยะของสระ Olympic เลยค่ะ เป็นสระระบบเกลือแบบ Edgeless ว่ายน้ำไปได้วิวเมืองแบบเต็มสายตา สังเกตพื้นที่สระด้านหลัง Facade ที่เป็นริ้ว ๆ จะมีม้านั่งในสระหันหน้าออกไปทางวิวเมือง
ด้านข้างสระจะมี Sunken Seat ออกแบบบางส่วนเหมือนโต๊ะบาร์นั่งชมวิวเมืองได้อีกมุม
ภายในสระมีการแบ่งพื้นที่ให้เป็นสระเด็กด้วย พื้นตื้น ๆ เด็กเล็กลงเล่นน้ำได้
พื้นที่ข้างสระมีการจัด Pool Bed ขนาดใหญ่ให้แบบนี้สำหรับนอนพักผ่อนชมวิว
มองออกไปได้วิวเมืองเต็มสายตาแบบ 180 องศาแบบนี้เลยค่ะ
ที่พิเศษกว่าโครงการอื่นแบบชัด ๆ เลยก็คือทางโครงการยังมีสไลเดอร์จัดเอาไว้ให้ ไม่ค่อยเห็นโครงการไหนให้มานะคะ
บันไดทางขึ้นสไลเดอร์จะอยู่ด้านหลัง
ตรงนี้จัดมุม Shower สำหรับล้างตัวให้ด้วย
ส่วนพื้นที่ด้านหลังสระก็คือ Fitness Room ค่ะ
ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักคอย มีตู้กดน้ำและสเปรย์แอลกอฮอล์สำหรับเช็ดตามเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ให้บริการ
ฝั่งนึงจะเป็นมุม Cardio ค่ะ มีลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้า จัดเอาไว้ให้
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นมุม Weight Training นอกจากจะมีเครื่องออกกำลังกายแบบ Resistance Machine แล้ว ก็ยังมี Dumbbell, Weight Plate, Med Ball และ Kettle Bell ให้พร้อมใช้งาน
คราวนี้เรามาดูอีกฝั่งของชั้น 42 กันต่อค่ะ
ส่วนนี้จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงจัดเอาไว้ให้ เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่เลย
ภายในห้องน้ำหญิงตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ชมพูอย่างเป็นเอกลักษณ์ ส่วนแรกจะมีตู้ล็อกเกอร์, อ่างล้างมือ และห้องน้ำ
อยากจะบอกว่าพวกอุปกรณ์การใช้งานทุกอย่างในห้องน้ำจะใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดการสัมผัสทั้งหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำล้างมือ, ขวดสบู่, โถสุขภัณฑ์ รวมไปถึงถังขยะในแต่ละห้องด้วย
อีกส่วนนึงจะเป็นห้องอาบน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้อง Steam และมุมสำหรับแต่งหน้าเป่าผม
ห้อง Steam ของที่นี่ก็มีขนาดใหญ่กว่าโครงการทั่ว ๆ ไปที่เคยเห็นกัน
ส่วนห้องน้ำชายตกแต่งในโทนดำ-น้ำเงินค่ะ ภายในมีเหมือนกับห้องน้ำหญิงทุกประการ
แน่นอนว่ามีห้องน้ำแบบ Unisex จัดเอาไว้ให้เช่นเคย
มาถึงส่วน Freestyle Excercise Studio แบ่งเอาไว้ทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน
มีห้องสำหรับฝึกปีนหน้าผาจำลอง
ห้องสำหรับเล่นโยคะ
และห้องสำหรับปั่นจักรยาน โดยแต่ละห้องจะมีการจัด Lighting ที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการออกกำลังกาย เป็นไฟ LED สลับสีไปเรื่อย ๆ
ชั้น 43 เป็นชั้นบนสุดของอาคาร A จะเชื่อมต่อกับชั้น 42 อยู่ 2 ทางนะคะ ทางแรกคือบันไดวน และทางที่ 2 คือบันไดตรงสไลเดอร์ โดยพื้นที่บนชั้น 43 จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วน Indoor เป็น Hidden Sky Bar และส่วน Outdoor เป็น Sky Garden ซึ่งจะได้วิวบนชั้นสูงสุดของโครงการ
พอเราขึ้นบันไดวนมาบนชั้น 43 จะเจอโถงทางเดิน ฝั่งซ้ายคือ Hidden Sky Bar และตรงไปจนสุดโถงเป็นทางออกไปยัง Sky Garden ค่ะ
สำหรับ Hidden Sky Bar นั้นจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชม. เลยค่ะ ในห้องนี้ออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume มีผนังกระจกล้อมรอบห้องให้สามารถชมวิวเมืองได้แบบ 180 องศา และยังตกแต่งอย่างสวยงาม อย่างที่พื้นก็ปูด้วยหินอ่อนต่อลาย
ภายในห้องมีการจัดชุดเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้งานแบบกลุ่ม มีโต๊ะยาวรองรับได้ถึง 10 ที่นั่ง และมีมุมโซฟานั่งสบาย ๆ ติดกระจก
ที่เขาเรียกว่า Hidden Sky Bar ก็เพราะว่ามีการทำดีเทลประตูทางเข้าเหมือนประตูลับจากชั้นหนังสือนั่นเองค่ะ น่ารักดีนะเนี่ย
พื้นที่อีกฝั่งกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเป็น Pantry สำหรับการเตรียมเครื่องดื่มและขนมหรือกับแกล้มง่าย ๆ
เป็นพื้นที่ที่สามารถใช้รวมตัวปาร์ตี้สังสรรกับเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวได้เลยค่ะ
เราออกมาที่ Sky Garden เป็นอีกจุดที่เราสามารถดื่มด่ำกับวิวเมืองจากการอยู่อาศัยบนคอนโดสูงได้ มีมุมนั่งเล่นเอาไว้ให้หลายมุมเลยค่ะ
มีมุมม้านั่งชมวิวแบบไกล ๆ ไม่ติดขอบอาคารเผื่อกลัวความสูง
มุมที่นอนตาข่าย ตรงนี้จะเจาะช่องมองลงไปเห็นสระว่ายน้ำตรงชั้น 42 พอดี
มุมม้านั่งในสวนและโต๊ะบาร์ ราวกันตกใช้เป็นกระจก Tempered Glass แผ่นเปลือยไม่บังวิว
ในสวนจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังสไลเดอร์ค่ะ ตรงนี้มีบันไดอีกจุดที่เชื่อมต่อระหว่างชั้น 42 และ 43
ภาพบรรยากาศภายในสวน
มองออกไปได้วิวแบบนี้ จะเห็นว่ารอบ ๆ โครงการไม่ค่อยมีตึกสูงอยู่ใกล้ ๆ เลย เพราะฉะนั้นเราจะได้วิวแบบเต็ม ๆ ค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะเป็นห้อง 1 Bedroom และห้อง 2 Bedroom ตกแต่งให้แบบ Fully Fitted สามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบหลัก ๆ ได้ดังนี้ค่ะ
1 Bedroom 1 Bathroom 27.25-30.00 ตร.ม.
1 Bedroom 1 Bathroom 34.00-34.75 ตร.ม.
2 Bedrooms 1 Bathroom 50.00 ตร.ม.
2 Bedrooms 2 Bathroom 52.75-69.75 ตร.ม.
1 Bedroom Type 1Aa ขนาด 27.25-30.00 ตร.ม.
1 Bedroom Type 1A-1 ขนาด 27.25 ตร.ม.
1 Bedroom Type 1A-3 ขนาด 29.00 ตร.ม.
1 Bedroom Type 1Bb ขนาด 29.25 ตร.ม.
1 Bedroom Type 1Cc ขนาด 29.25 ตร.ม.
1 Bedroom Type 1D-1 ขนาด 34.75 ตร.ม.
1 Bedroom 1Dd ขนาด 34.00-34.75 ตร.ม.
1 Bedroom Type FMb ขนาด 34.75 ตร.ม.
2 Bedroom Type 2B ขนาด 52.75 ตร.ม.
2 Bedroom Type 2D ขนาด 53.00 ตร.ม.
2 Bedroom Type 2F ขนาด 58.50 ตร.ม.
2 Bedroom Type 2H ขนาด 68.25-69.75 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 2 ห้องเช่นเคยค่ะ เริ่มจาก 1 Bedroom Type 1Dd ขนาด 34.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom Type 2F ขนาด 58.5 ตร.ม. ไปชมกันเลย
::: 1 Bedroom Type 1Dd ขนาด 34.00 ตร.ม. :::
ห้อง Type 1Dd ขนาด 34.00 ตร.ม. เป็นห้องแบบ 1 Bed 1 Bath ที่มีจำนวนเยอะมากที่สุดในโครงการ จุดเด่นของห้องนี้ก็คือพื้นที่ Living Area ที่มีขนาดใหญ่ Balcony ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ Indoor ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยกั้นส่วนจาก Living Area ด้วยบานเลื่อนกระจกทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น และการแบ่งพื้นที่ห้องอย่างเป็นสัดส่วน ครัวได้เป็นครัวปิด ห้องนอนกั้นส่วนออกไปด้วยผนังทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า นอกจากนี้ห้องน้ำยังเป็นแบบ Jack and Jill เข้า-ออกได้ทั้งจากฝั่งห้องครัวและฝั่งห้องนอน เวลามีแขกมาต้องการใช้ห้องน้ำ ก็ไม่ต้องให้เดินผ่านเข้าไปด้านในห้องนอนค่ะ
ห้องของทางโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ได้ชุด Built-in เคาน์เตอร์ครัว, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศค่ะ
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องใช้ประตูบานทึบสีเข้มลายไม้ มีตาแมวติดมาให้ตรงกลางบาน
พร้อม Digital Door Lock ของ Igloohome
ส่วนแรกคือ Living Area ค่ะ เป็นพื้นที่ที่รวมระหว่างส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นเอาไว้ด้วยกัน ที่พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED ฝ้าสูง 2.55 เมตร
มองย้อนกลับไปที่ทางเข้าห้อง เป็นจุดที่สามารถวางพวกชั้นวางรองเท้าได้พอดี ประตูบานเลื่อนกระจกด้านข้างคือประตูห้องครัว เลยจัดส่วนรับประทานอาหารไว้มุมนี้จะได้สะดวกเวลายกอาหารมาเสิร์ฟ สำหรับชุดโต๊ะรับประทานอาหารที่วางกำลังพอดีจะเป็นโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งค่ะ
เราเข้าไปดูด้านในห้องครัวกันค่ะ ครัวที่ได้เป็นครัวปิดกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกกรอบอะลูมิเนียมแบ่งเป็น 3 ตอนเพื่อให้สามารถเปิดได้กว้างขึ้น
ภายในห้องครัวเราจะได้เคาน์เตอร์ครัว Built-in รูป L Shape มาแบบนี้เลย จะเหลือพื้นที่ให้วางตู้เย็นขนาดมาตรฐานได้ 1 ตู้พอดี ส่วนที่พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิโตขนาด 60 x 60 ซม. เพื่อจะได้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนประตูฝั่งขวาคือประตูบานเลื่อนเข้าห้องน้ำค่ะ
Top เคาน์เตอร์ครัวใช้เป็นหิน Terrazzo ผนังด้านหลังกรุกระเบื้องแกรนิโตให้เช่นกัน เพราะจะเช็ดล้างพวกคราบอาหารและน้ำมันได้ง่ายกว่า
บน Top เคาน์เตอร์ฝังอ่างล้างจานขนาด 1 หลุมมาให้
ใต้เคาน์เตอร์และบนตู้ลอยมีตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ในการทำครัวได้พอสมควร โดยจะแบ่งช่องเอาไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าให้
ส่วนอีกฝั่งฝังเตาเซรามิกของ Mex ให้ มี Hood ดูดควันติดตั้งไว้อยู่ข้างบน
ใต้ตู้มีลิ้นชักเก็บพวกจานชามช้อนส้อมและมีช่องสำหรับวางของและวางเตาไมโครเวฟได้
ภายในลิ้นชักเก็บของ
มาดูในส่วนนั่งเล่นกันต่อค่ะ ตรงนี้เราสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้พอดี
ผนังสำหรับแขวนทีวีจะอยู่กึ่งกลางระหว่างห้อง
ในส่วนของ Balcony จะกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนค่ะ
พื้นที่ Balcony ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ Indoor เพื่อให้เราสามารถใช้งานพื้นที่ได้เต็มประสิทธิ์ภาพมากขึ้น โดยเราจะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้ค่ะ ในส่วนนี้จะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเปิด 3 บานเรียงกัน
พื้นที่ห้องอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็พอจัดเป็นมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือ, มุมสวนกระถาง หรือจะใช้ตากผ้าก็ได้ ซึ่งถือว่าสะดวกนะคะ เพราะฝนไม่สาด และไม่มีนกมาทำรังแน่นอน
สังเกตตรงที่เหมือนเคาน์เตอร์จะเป็นจุดที่เราสามารถใช้ Maintainace ตัว Compressor ค่ะ เปิด-ปิดง่าย แต่ในเวลาปกติก็สามารถใช้วางของได้เลย
สำหรับห้องนอนก็มีขนาดกำลังดีค่ะ วางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าได้พอดี ภายในห้องมีความสว่างพอสมควรเพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง
พอวางเตียงแล้วจะยังพอมีที่เหลือให้สามารถเดินผ่านได้ ถ้าอยากทำชั้นวางของที่ฝั่งปลายเตียงนอน แนะนำให้ทำยกขึ้นไปสูงหน่อย ส่วนทีวีใช้ทีวีแบบแขวนผนังได้ค่ะ
เตียงวางชิดกับตู้จะเหลือพื้นที่ฝั่งขวาเล็กน้อยให้พอเปลี่ยนผ้าปูได้
อีกฝั่งเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ อย่างที่บอกค่ะว่าห้องน้ำเป็นแบบ Jack and Jill สามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ภายในห้องน้ำตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องแกรนิโต ใช้สุขภัณฑ์จาก Cotto, Kohler และ Englefield
อ่างล้างมือแบบวางบนเคาน์เตอร์หินลาย Terrazzo มีช่องเก็บของให้ใต้อ่าง และมีชั้นวางของพร้อมกระจกเงาติดตั้งมาให้
ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush
อีกฝั่งเป็นโซน Shower มีฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน Tempered Glass ติดตั้งมาให้แล้ว
ผนังด้านในติดตั้ง Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ, จานวางสบู่ และเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
ส่วนสวิตช์ไฟภายในห้องจะเป็นของ Somfy
::: 2 Bedroom Type 2F ขนาด 58.5 ตร.ม. :::
อีกห้องที่เราพามาชมเป็นห้อง Size ใหญ่ Type 2F ขนาด 58.5 ตร.ม. เป็นห้องแบบ 2 Bed 2 Bath มีจุดเด่นตรงที่มี Terrace ก่อนเข้าสู่พื้นที่ Living Area ด้านใน เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างจะอเนกประสงค์ เพราะสามารถใช้เก็บของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างจักรยาน, ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เก็บของ, เครื่องซักผ้า รวมถึงใช้ตากผ้าได้ด้วย จากนั้นเข้าสู่ Living Area เป็นโถงใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่ของส่วนนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัวกั้นส่วนออกไปด้วยประตูบานเลื่อน ห้องนอน 2 วางเตียง 5 ฟุตได้ และ Master Bedroom จะมีห้องน้ำให้ในตัว โดยพื้นที่ห้องวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลย
สำหรับประตูทางเข้าห้องจะมีขนาดใหญ่พิเศษกว่าห้องอื่น ๆ เป็นประตูบานเปิดคู่ ทำให้ขนของชิ้นใหญ่ ๆ เข้าห้องได้ง่าย
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกคือ Terrace ค่ะ เป็นพื้นที่ที่อเนกประสงค์มาก อย่างห้องตัวอย่างใช้เป็นจุดเก็บจักรยานและทำตู้ Built-in สำหรับเก็บของและวางเครื่องซักผ้า เป็นจุดที่สามารถเลอะเทอะได้พอสมควร เลยปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิโต
จาก Terrace จะกั้นส่วนจาก Living Area ด้วยประตูบานเลื่อน ทำให้พื้นที่ดูเชื่อมต่อกันและทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น
สำหรับ Living Area จะแบ่งเป็นส่วนนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารค่ะ ที่พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED มาให้ โดยมีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.55 เมตรเหมือนเดิม
ในส่วนของมุมนั่งเล่นจะจัดอยู่ข้างระเบียงห้องค่ะ ขนาดพื้นที่วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งจะกำลังพอดี
ส่วนมุมรับประทานอาหารรองรับโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้
ด้านหลังมุมรับประทานอาหารจะเป็นห้องครัวค่ะ เราได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว L Shape มาเหมือนเดิม
ถัดไปเป็นในส่วนของห้องน้ำและห้องนอน 2 ค่ะ
ภายในห้องน้ำมีการตกแต่งและใช้สุขภัณฑ์รุ่นเดิมเลย แต่บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก
อีกฝั่งกั้นประตูบานเลื่อนเป็นโซน Shower ค่ะ
ห้องตัวอย่างจัดห้องนอน 2 ให้เป็นห้องทำงานและพักผ่อน สไตล์คนทำงานที่ไม่ได้มีลูก
ไอเดียการตกแต่งห้องค่ะ
ถ้าวันไหนมีเพื่อนมาค้างก็จัดห้องนี้รองรับแขกได้เลย แต่ถ้าต้องการจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอนอีกห้อง พื้นที่นี้จะสามารถรองรับเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี
เราเข้าไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ
บริเวณโถงทางเข้าห้องจะมีผนัง Set เข้าไปทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ได้ และอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำในตัวค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ มีสุขภัณฑ์รองรับการใช้งานครบไล่จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก
เข้ามาด้านในเป็นโซนพักผ่อนค่ะ พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลย โดยรอบเตียงก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้สบาย ข้อดีอีกอย่างของ Master Bedroom ก็คือได้ช่องแสงมาถึง 2 ฝั่งเพราะเป็นห้องมุมค่ะ
ส่วนพื้นที่ข้างเตียงยังวางโต๊ะหัวเตียงได้ อีกฝั่งวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้อีก 1 ตัว
:::: ราคา (กันยายน 2564) ::::
ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย 160,000 บาท/ตร.ม.
เงินจอง n/a บาท
เงินทำสัญญา n/a บาท
เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
ฟรีผ่อน 3 ปี ฟรีส่วนกลาง 3 ปี ฟรีเฟอร์ฯ เริ่ม 3.99 ล้านบาท* คลิก https://www.sansiri.com
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ XT ห้วยขวาง ตั้งอยู่ติดถนนรัชดาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าแยกห้วยขวาง จาก MRT ห้วยขวางประมาณ 75 เมตร ด้วยความที่อยู่ในย่านรัชดาจึงมีความคึกคักตลอด 24 ชม. ได้ในเรื่องของความสะดวกสบาย เพราะล้อมรอบด้วยอาคารสำนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น Central พระราม 9, Esplanade, The Street, Big C Extra รวมไปถึงตลาดและร้านอาหารอีกมากมาย การใช้ชีวิตบนทำเลนี้จึงง่ายมาก
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สะดวกเพราะอยู่ติดถนนรัชดาภิเษกซึ่งเชื่อมต่อกับถนนหลักสายอื่น ๆ อีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนพหลโยธิน, ถนนลาดพร้าว, ถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนพระราม 9 เป็นจุดที่เชื่อมต่อกับถนนดินแดง ใช้เชื่อมต่อเข้า CBD ช่วงอโศกจนถึงพระราม 4 ได้สบาย อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ซึ่งเชื่อมไปยังทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และเฉลิมมหานครได้ ใช้เข้า-ออกเมืองสะดวกค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ นับเป็นจุดเด่นที่โครงการนี้อยู่ใกล้ MRT ห้วยขวางเพียง 75 เมตร เดิน 3 นาทีถึง ใช้เชื่อมต่อไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ง่าย นอกจากนี้ก็ยังเป็นจุดที่มีวินมอเตอร์ไซค์, รถแท็กซี่ และรถเมล์ผ่านตลอด ไม่ต้องขับรถก็ไปไหนมาไหนได้สบายค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ เป็นโครงการ High Rise Condominium ที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัย 1,404 ยูนิตด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 อาคารสูง 14 ชั้น และ 43 ชั้น พื้นที่โครงการจะเซ็ตเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 90 เมตร ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
สำหรับห้องพักอาศัยในโครงการก็มีให้เลือกหลายแบบมาก ทำให้สามารถเลือกห้องที่เหมาะหรือใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ของเราได้มากขึ้น โดยจะเป็นห้องขนาด 1 Bedroom-2 Bedroom ขนาด 27.25-69.75 ตร.ม. ตกแต่งห้องให้แบบ Fully Fitted มากพร้อมกับครัวและห้องน้ำ วัสดุที่ได้สวยดีนะคะ แต่ก็ยังเหลือห้องโล่ง ๆ บางส่วนให้เราสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ เพราะให้ส่วนกลางมาเยอะมาก ๆ และออกแบบมาได้ดีทีเดียว มีความสวยงามน่าใช้งาน รวมไปถึง Co-Sharing Facilities การแชร์ส่วนกลางกับ XT ทำเลอื่นได้ แต่จะใช้ได้แค่บางส่วนเท่านั้น (เฉพาะชั้น 1) ซึ่งเมื่อโครงการโอนครบ เข้าอยู่แล้วก็จะเป็นการบริหารงานของนิติบุคคล และเมื่อใช้งานไปนานๆถ้าลูกบ้านอยากมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถโหวตเพื่อยกเลิกการแชร์พื้นที่ส่วนกลางในแต่ละโครงการได้ค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะมีกระจายอยู่ในหลาย ๆ ชั้น ตั้งแต่ชั้น 1, 6, 14, 29, 42 และ 43 เช่น Lobby Lounge ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่นั่งทำงานและพักผ่อน, Outdoor Ozone Gym รองรับกิจกรรมกลางแจ้ง, 6th Oasis Garden สวนกลางโครงการที่เป็นเสมือนโอเอซิส เชื่อมต่อระหว่างอาคาร A และ B, 14th Relaxing Sky Garden with Outdoor Theater พร้อม Step Pocket Garden, 29th Glasshouse ออกแบบพื้นที่ในสไตล์ Indoor และ Semi Outdoor และ The Helix Rooftop ที่โดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร พร้อมห้องออกกำลังกายแยกส่วนครบครัน และ Hidden Sky Lounge สำหรับชมวิวบนชั้นสูงสุดของโครงการ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1685
WEBSITE : https://www.sansiri.com
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโดใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
คอนโด XT Huaikhwang ใกล้ MRT ห้วยขวาง เริ่ม 3.99 ล้าน*
คอนโด พาร์ค รามอินทรา แต่งครบพร้อมอยู่เริ่ม 1.59 ล้าน*
คอนโด Metris พัฒนาการ-เอกมัย พร้อมอยู่ เลี้ยงสัตว์ได้ เริ่ม 2.59 ล้าน*
คอนโด Life Ladprao Valley พร้อมอยู่ ติด BTS ห้าแยกลาดพร้าว เริ่ม 5.19 ล้านบาท*
Atmoz ลาดพร้าว 71 คอนโดพร้อมอยู่ พร้อมส่วนกลางกว่า 2 ไร่
Atmoz ลาดพร้าว 15 คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่
Brown Condo พหลฯ-สะพานใหม่ ใกล้ BTS สายหยุด เริ่ม 2.59 ล้านบาท*
Aspire อโศก-รัชดา คอนโดพร้อมอยู่ ใกล้ MRT พระราม 9
ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ คอนโดพร้อมอยู่ เริ่ม 1.79 ล้านบาท*
คอนโด Kave Town Space ส่วนกลางจัดเต็มกว่า 20 รายการ เริ่ม 1.79 ล้าน*
คอนโด ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู
คอนโด The Origin Plug & Play รามอินทรา เริ่ม 2.39 ล้าน*
แสดงความคิดเห็น