EP.1353 รีวิว ทาวน์โฮม และ บ้านแฝด แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 Grande Pleno Suksawat – Rama 3
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาทุกท่านมาชมโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด Grande Pleno สุขสวัสดิ์ – พระราม 3 จาก AP Thailand กันค่ะ โครงการตั้งอยู่ในซอยประชาอุทิศ 60 หรือซอยประชาอุทิศ 54 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. เดินทางสะดวกใกล้ถนนประชาอุทิศ ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ทั้งถนนสุขสวัสดิ์ ถนนประชาอุทิศ ถนนพุทธบูชา ถนนพระราม 2 และยังไม่ไกลจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้และทางด่วนเฉลิมมหานคร สามารถใช้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวก บริเวณรอบๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายและ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงในอนาคต
แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดสูง 2 ชั้น บนเนื้อที่โครงการ 37 – 3 – 75 ไร่ จำนวน 303 ยูนิต เนื้อที่ดินเริ่มต้นที่ 18 ตร.วา สำหรับทาวน์โฮม และ 36.0 ตร.วา สำหรับบ้านแฝด พื้นที่ใช้สอย 100 – 125 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 – 2 คัน ออกแบบมาในสไตล์ Modern Colonial คงความ Classic พื้นที่ภายในบ้านให้โปร่งโล่ง ปัจจุบันเฟสแรกสร้างเสร็จพร้อมอยู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าทั้งโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ได้รับออกแบบมาอย่างสวยงามและ Premium ให้มาแบบ Full Option เทียบเท่าโครงการบ้านเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นคลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สระเด็ก, สวนส่วนกลาง พร้อมสนามเด็กเล่น และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาจับต้องได้เริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาทสำหรับทาวน์โฮม และ 4.59 ล้านบาทสำหรับบ้านแฝดค่ะ
เชิญติดตามอ่านรายละเอียดของโครงการที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://www.apthai.com/th/
บ้านเอพี ทำเลอื่นๆ
พลีโน่ ชัยพฤกษ์
พลีโน่ เวสต์เกต
พลีโน่ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์
พลีโน่ สุขสวัสดิ์ 30
พลีโน่ รามอินทรา
บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์
บ้านกลางเมือง ราชพฤกษ์
บ้านกลางเมือง THE ERA (ดิ เอร่า) ปิ่นเกล้า-จรัญฯ
บ้านกลางเมือง พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา (ตัดใหม่)
บ้านกลางเมือง The Edition บางนา-วงแหวน
ชื่อโครงการ | แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 Grande Pleno Suksawat-Rama 3 |
เจ้าของโครงการ | เอพี ไทยแลนด์ / AP Thailand |
ลักษณะโครงการ | บ้านดีไซน์ใหม่ 2 ชั้น / พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น |
พื้นที่โครงการ | 37 – 3 – 75 ไร่ |
จำนวนบ้าน | 303 ยูนิต (ทาวน์โฮม 219 ยูนิต/บ้านแฝด 84 ยูนิต) |
เนื้อที่บ้าน |
|
พื้นที่ใช้สอย |
|
จำนวนห้อง | 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 คัน |
โซน | เขตทุ่งครุ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยประชาอุทิศ 54 / 60 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 2.89 ล้านบาท* (ราคาวันเปิดตัว) |
ค่าส่วนกลาง | 39 บาท/ตร.ม./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Grande Pleno สุขสวัสดิ์-พระราม 3 เตรียมพบบ้านดีไซน์ใหม่* บนสังคมเหนือระดับ พร้อมคลับเฮ้าส์หรู ติดถนนใหญ่หนึ่งเดียว เพียง 10นาที* ถึงทางด่วน |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยประชาอุทิศ 54 / 60 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม.
พิกัด : 13.636084, 100.493380
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยมิตรไมตรี 17 ที่สามารถเข้าจากทางซอยประชาอุทิศ 60 และ 54 ได้ หรือก็คือถนนประชาอุทิศตอนต้นใกล้แยกนาหลวง ที่เป็นจุดเชื่อมต่อถนนพุทธบูชานั่นเองค่ะ สภาพแวดล้อมของถนนประชาอุทิศนั้นจะมีความเป็นชุมชนค่อนข้างสูง คนอาศัยอยู่เยอะ เรียกว่าความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว อีกทั้งยังมีที่ดินเปล่าเหลือพอให้พัฒนา และด้วยจุดเด่นของทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญๆ และทางด่วนได้อีกหลายสาย ทางลัดเลาะก็มีให้เลือกใช้ได้เยอะ
รวมทั้งการมาถึงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงสู่พื้นที่กรุงเทพชั้นใน และโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายในอนาคตมายังย่านบางปู ทำให้ทำเลนี้เป็นที่สนใจจากเหล่า Developer หลายเจ้า สังเกตุจากโครงการหมู่บ้านใหม่ผุดขึ้นหลายโครงการ ทั้งที่สร้างเสร็จกำลังเปิดขายและเตรียมก่อสร้าง ทำเลนี้จึงถือเป็นทำเลชานเมืองที่สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้สะดวกรวดเร็ว เรียกว่าเหมาะกับคนทำงานในเมืองย่าน พระราม 3, ยานนาวา, คลองเตย, สาทร หรือโซนพระประแดง และราคาที่ดินยังสามารถหยิบจับได้ง่ายกว่าอีกด้วย
หลักๆ แล้วตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากทางซอยประชาอุทิศ 60 ที่ไม่นานมานี้ทาง AP ได้เข้ามาบุกเบิกทำเลและได้ทำทางสาธารณะเชื่อมต่อจากซอยประชาอุทิศ 60 ผ่านโครงการ The City สุขสวัสดิ์ และ Pleno สุขสวัสดิ์ เข้าไปถึงตัวโครงการได้ กลายเป็นเส้นทางใหม่ที่มีระยะประมาณ 950 เมตร นอกจากนี้ก็มีซอยประชาอุทิศ 54 ภายในคือชุมชนหมู่บ้านมิตรไมตรี วิ่งจากถนนประชาอุทิศต้องวิ่งเข้าไปประมาณ 1.5 กม.ค่ะ จากซอยประชาอุทิศ 54 ยังสามารถเชื่อมไปออกถนนพุทธบูชาที่ซอยพุทธบูชา 36 ได้อีกด้วย นับว่าเป็นทำเลที่มีทางหนีทีไล่อยู่พอสมควรเลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าสะดวกมากๆ เนื่องจากตัวโครงการจะเชื่อมอยู่กับถนนหลักคือ ถนนประชาอุทิศ เป็นถนนเส้นที่เริ่มต้นจากจุดตัดถนนสุขสวัสดิ์ที่แยกประชาอุทิศ ตัดกับถนนพุทธบูชาที่แยกนาหลวง และสิ้นสุดที่ถนนคลองสรรพสามิตร ซึ่งจากถนนเส้นนี้จะสามารถใช้ซอยลัดต่างๆ ของถนนประชาอุทิศฝั่งเลขคี่ได้ ทั้งซอยประชาอุทิศ 69 และซอยประชาอุทิศ 70 สามารถวิ่งไปออกที่ ถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อไปขึ้นทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก และวงแหวนอุตสาหกรรมได้ ไปโซน พระราม 3, ยานนาวา, คลองเตย, สาทร, สมุทรปราการ, บางนา – สุวรรณภูมิ หรือแจ้งวัฒนะก็ได้หมด อีกทั้งถนนสุขสวัสดิ์ยังเส้นทางหลักที่ใช้เดินทางจากโครงการไปยัง วงเวียนใหญ่ และ ป้อมพระจุลจอมเกล้าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ เส้นบางขุนเทียน – ชายทะเล เพื่อวิ่งออกพระราม 2 ไปยัง Central พระราม 2 หรือวิ่งข้ามสะพานไปถนนเอกชัยที่แยกบางขุนเทียนได้ หรือหากวิ่งไปทางทิศใต้ ออกถนนทางหลวงชนบท สค.4008 ไปชายทะเล หรือ พันท้ายนรสิงห์ได้ค่ะ
ทางด่วน ดังที่เกริ่นไปข้างต้นแล้วนะคะว่าจากตัวโครงการนั้นสามารถขึ้นทางด่วนได้ถึง 3 จุดด้วยกัน จุดแรกก็คือทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งวิ่งเข้าเมือง ไปขึ้นที่ด่านสุขสวัสดิ์ได้ในระยะทางประมาณ 5.9 กม. จะออกทางซอยประชาอุทิศ 54 หรือ 60 ก็ได้ค่ะ
จุดที่ 2 ก็คือทางด่วนกาญจนาภิเษก โดยจะไปขึ้นที่ด่านบางครุ 1 ใกล้ที่สุดคือให้ออกซอยประชาอุทิศ 60 นะ
และสุดท้ายก็คือไปขึ้นตรงวงแหวนอุตสาหกรรม สามารถใช้ข้ามไปฝั่งพระราม 3 ได้ค่ะ โดยแนะนำให้ออกซอยประชาอุทิศ 60 นะคะ จะได้สามารถเลี้ยวเข้าซอยประชาอุทิศ 69 ได้เลยโดยไม่ต้องไปกลับรถ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากซอยประชาอุทิศ 54 นั้นเป็นซอยหลักและมีชุมชนขนาดใหญ่ จึงมีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ รถกะป้อ รถแท็กซี่ อีกทั้งตรงหน้าปากซอยมิตรไมตรี 17 ก็ยังมีคิววินมอเตอร์ไซค์อยู่อีกคิวด้วย สามารถเรียกใช้บริการได้สะดวกเลยค่ะ และถ้าออกมาที่ถนนประชาอุทิศก็จะมีรถเมล์สาย 21 วิ่งผ่านด้วยนะ
ส่วนรถไฟฟ้าในอนาคตจะมี รถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน – ราษฏร์บูรณะ) โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดก็คือ สถานีพระประแดง ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 6 กม. คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2567 เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางเข้าเมืองสำหรับวันที่ไม่ต้องการขับรถเองและไม่อยากเปลืองค่าแท็กซี่ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นแหล่งชุมชน มีทั้งโรงเรียนและมหาลัยอยู่หลายแห่ง ที่เด่นๆ เช่น รร.สารสาสน์ประชาอุทิศ, รร.สารสาสน์วิเทศศึกษา และ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตบางขุนเทียน จุดที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น Tesco Lotus Market ขนาดกลางๆ ด้านในมีซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารหลายร้านเช่น MK สุกี้, ยาโยอิ ฝั่งตรงข้ามโลตัสก็จะมี Max Value สาขาใหญ่, ตลาดใหม่ทุ่งครุ 61, ตลาดสดทุ่งครุพลาซ่า และตลาดนัดทุกวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ อีกด้วย ซึ่งขอบอกก่อนนะว่าย่านนี้เป็นชุมชนของชาวมุสลิม ใครที่ชอบทานอาหารอิสลามนี่ถือว่าโชคดีเลยเพราะมีให้เลือกทานอย่างหลากหลายค่ะ
และอย่างที่รู้ๆ กันก็คือบริเวณที่ใกล้รั้วมหาลัยนั้นจะสมบูรณ์เอามากๆ สามารถหาอาหารอร่อยในราคาย่อมเยาได้ตรง ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพราะตรงนั้นเขาต้องรองรับความต้องการของนักศึกษาหลายพันชีวิต ข้างๆ มหาลัยก็จะมีสวนธนบุรีรมย์เป็นสวนสาธารณะสามารถไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้ และยังมี Bodybuilding Club กับ ศูนย์ฝึกกีฬาเฉลิมพระเกียรติ เป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกายค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร > ถนนสุขสวัสดิ์ > ซอยสุขสวัสดิ์ 50 > ถนนประชาอุทิศ > ซอยประชาอุทิศ 60 > ซอยมิตรไมตรี 13 > Grande Pleno สุขสวัสดิ์ – พระราม 3
และอีกเส้นทางก็คือ
ถนนประชาอุทิศ > ซอยประชาอุทิศ 54 > ซอยมิตรไมตรี 17 > Grande Pleno สุขสวัสดิ์ – พระราม 3
ในวันนี้เราจะเริ่มเดินทางไปสู่ตัวโครงการจากทางพิเศษเฉลิมมหานครข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากันนะคะ ทางฝั่งขวามือเราจะเห็นสำนักงานใหญ่ของธนาคารกสิกรไทยค่ะ
พอลงมาจากสะพานให้เราชิดซ้ายไปตามป้ายถนนสุขสวัสดิ์
ชิดซ้ายเพื่อไปออกที่ถนนสุขสวัสดิ์ค่ะ
พอเราเลี้ยวเข้าถนนสุขสวัสดิ์แล้ว ให้เราชิดขวาเอาไว้เพื่อที่จะไปกลับรถตรงแยกวัดสน
ชิดขวาและกลับรถที่แยกวัดสนค่ะ จุดนี้จะเป็นยูเทิร์นแรกเลยนะ
พอกลับรถแล้วให้เราชิดซ้ายเอาไว้เลย
เพื่อที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 50 ไปออกถนนประชาอุทิศค่ะ
จากนั้นให้เราขับตรงตามซอยสุขสวัสดิ์ 50 ไปเรื่อยๆ สังเกตป้ายประชาอุทิศเอาไว้
พอสุดทางแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาอุทิศเลยค่ะ
จากถนนประชาอุทิศให้เราวิ่งตรงไปทางแยกนาหลวงและสังเกตป้ายครุในเอาไว้นะ
พอถึงแยกนาหลวงแล้วให้เราเลี้ยวซ้ายไปทางครุในต่อเลย
ขับตรงไปเรื่อยๆ จนถึงซอยประชาอุทิศ 61 ทางฝั่งซ้ายมือก็คือตลาดใหม่ทุ่งครุ 61 นั่นเอง ถัดไปนิดเดียวข้างๆ กันเลยก็คือตลาดสดทุ่งครุพลาซ่าค่ะ
จากตลาดตรงไปไม่ไกลก็จะเห็นทางเข้าซอยประชาอุทิศ 54 ซึ่งทางนี้สามารถใช้เข้าสู่ตัวโครงการได้ แต่เราจะขอแนะนำการเดินทางเข้าซอยประชาอุทิศ 60 ตรงโครงการ The City สุขสวัสดิ์ก่อน ซึ่งต้องวิ่งตรงไปข้างหน้าอีกประมาณ 700 เมตรค่ะ
ทั่งฝั่งซ้ายและขวามือเราจะขับผ่าน Max Valu และ Tesco Lotus ประชาอุทิศ
ขับผ่าน Tesco Lotus ไปแล้วทางฝั่งขวามือเราจะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการให้เราชะลอรถและเลี้ยวขวาเข้าไปได้เลยค่ะ
ซึ่งซุ้มประตูทางเข้าที่ติดถนนใหญ่นี้เป็นทางเข้าของโครงการ AP ทั้งหมดที่อยู่ด้านใน ทั้งโครงการ Pleno สุขสวัสดิ์, The City สุขสวัสดิ์, บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ และ Grande Pleno สุขสวัสดิ์ – พระราม 3 ด้วยค่ะ
จากถนนประชาอุทิศผ่านซุ้มโครงการใหญ่เข้ามาแล้ว ให้เราขับตรงไปตามถนนสาธารณะที่ทาง AP ได้ตัดเอาไว้ให้ จากนั้นทางขวามือจะมีทางเชื่อมสู่ซอยมิตรไมตรี 13 และเลี้ยวซ้ายอีกทีจะมีถนนทางเชื่อมสู่หน้าโครงการเลยค่ะ
ขับตามถนนสาธารณะไปเรื่อยๆ เราจะผ่านหน้าโครงการ The City สุขสวัสดิ์ค่ะ ด้านหน้าของเราช่วงทางโค้งที่ 2 จะมีทางเชื่อมสู่ซอยมิตรไมตรี 13 ที่ฝั่งขวามือ
พอเราเลี้ยวเข้าซอยมิตรไมตรี 13 มาแล้ว ให้ตรงไปเรื่อยๆ และขับข้ามสะพานข้ามคลองสะพานควายไป ก็จะมีถนนทางเชื่อมสู่โครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือที่มีป้ายชื่อโครงการติดอยู่ข้างหน้า ให้เราเลี้ยวตามเข้าไปเลยค่ะ
ขับตรงออกมาเรื่อยๆ เราก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการอยู่ข้างหน้าเราแล้ว
คราวนี้เรามาดูเส้นทางจากถนนประชาอุทิศเลี้ยวเข้าซอย 54 กันบ้างค่ะ พอเลี้ยวเข้ามาแล้วให้เราตรงเข้าไปจนถึงซอยมิตรไมตรี 17 ตัวโครงการจะอยู่ในซอยนั้นเลย
เราเลี้ยวขวาเข้าซอยประชาอุทิศ 54 มาแล้ว บรรยากาศภายในซอยจะเป็นชุมชนหมู่บ้านมิตรไมตรี ช่วงต้นๆ ซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง ลึกเข้าไปในซอยก็จะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม
เราวิ่งเข้ามาถึงกลางซอยแล้วจะมีเซเว่นใหญ่อยู่ทางฝั่งขวามือ ให้เราขับเลยไปและเลี้ยวซ้ายข้างหน้าเพื่อวิ่งต่อเนื่องในซอยประชาอุทิศ 54
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยมิตรไมตรี 17 อีกที (จุดนี้จะเป็นจุดที่มีวินมอเตอร์ไซค์ประจำอยู่ค่ะ)
ตรงเข้ามาประมาณ 220 เมตร เราก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือของเราแล้ว
ภาพทางเข้าโครงการแบบชัดๆ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริบทโดยรอบโครงการเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยในแนวราบและที่ดินว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่ค่ะ รวมถึงมีพื้นที่ติดคลองหรือลำรางสาธารณะ
ภาพบริเวณหน้าซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
แกรนด์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์ – พระราม 3 เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดสูง 2 ชั้น บนเนื้อที่โครงการ 37 – 3 – 75 ไร่ จำนวน 303 ยูนิต ทาวน์โฮมมีจำนวน 219 ยูนิต เนื้อที่ดินเริ่มต้นที่ 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 1 ส่วนบ้านแฝดมีจำนวน 84 ยูนิต เนื้อที่ดินเริ่มต้นที่ 36.0 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบมาในสไตล์ Modern Colonial ดู Classic และหรูหรา แถมได้ Facilities มาแบบ Full Option เหมือนโครงการบ้านเดี่ยว ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ
ทางเข้า – ออกของโครงการจะอยู่ในซอยมิตรไมตรี 17 โดยจะต้องผ่าน Gate รักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย ป้อมรปภ., ระบบ Auto Access Card และกล้อง CCTV จาก Gate จะเชื่อมสู่ถนนหลักกว้าง 12 เมตร ตัดเข้าไปภายในโครงการ และเชื่อมต่อด้วยถนนซอยกว้าง 9 เมตร ตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง พื้นที่ภายในโครงการจะถูกแบบออกเป็น 2 โซนคือโซนทาวน์โฮมและโซนบ้านแฝดแยกออกจากกัน โดยมีการจัดผังให้หน้าบ้านหันตามแนวแกนทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงบ่ายๆ ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็จะแดดแรงหน่อย โดยโซนทาวน์โฮมจะมีจุดกลับรถให้ในทุกๆ ระยะ 40 เมตรตามกฎหมาย ซึ่งมีประโยชน์อีกด้านคือเป็นพื้นที่สวนระหว่างอาคารให้เป็นจุดนั่งพักผ่อนได้ค่ะ
นอกจากนี้ก็จะมี คลับเฮ้าส์ (ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ พื้นที่พักผ่อน และฟิตเนส), สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และ สนามเด็กเล่น เป็นปอดอยู่ตรงใจกลางโครงการเลยค่ะ ลูกบ้านทุกหลังสามารถเข้ามาใช้งานได้ง่ายเดินไม่ไกล และทั้งโครงการมีจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ของโครงการ ทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวสูงและไม่แออัด
:::: แบบบ้านของโครงการ ::::
บ้านของโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Colonial ที่ถอดเอกลักษณ์และกลิ่นอายของความเป็น Colonial ออกมาให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความ Classic และหรูหรา พื้นที่ภายในบ้านออกแบบให้โปร่ง เรียบง่าย ฝ้าเพดานสูงอยู่สบาย ฝ้าชั้น 1 สูง 2.6 เมตร และฝ้าชั้น 2 สูงเกือบ 3 เมตร จะมีด้วยกัน 2 แบบนั่นก็คือ
Prime พรีเมี่ยมทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น
Royal บ้านแฝดสูง 2 ชั้น
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เมื่อสักครู่เราได้ชมบรรยากาศรอบนอกและรายละเอียดของโครงการกันไปแล้ว เดี๋ยวเราไปชมภายในโครงการ, พื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงบ้านตัวอย่างกันค่ะ ซุ้มของโครงการถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Colonial ที่ถอดเอกลักษณ์และกลิ่นอายของความเป็น Colonial ออกมาให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความ Classic และหรูหราด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนและระแนงเหล็กสีดำ
ส่วน Security Gate จะต้องผ่าน ป้อมรปภ., รั้วเลื่อนอัตโนมัติ และกล้อง CCTV ทั้งช่องทางเข้า – ออก ด้วยระบบ RFID คือการใช้สัญญาณ Bluetooth แล้วเปิดให้อัตโนมัติเหมือน Easy Pass บนทางด่วน โดยไม่ต้องเปิดกระจกลงมาเพื่อแตะบัตร นับว่าสะดวกสำหรับลูกบ้านเลย
สำหรับ Resident ที่ถือ Key Card สามารถขับผ่านรั้วเข้าไปได้เลย ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ ซึ่งประตูรั้วเลื่อนนี่เรียกได้ว่าดีกว่ารั้วไม้กระดกนะ เพราะนอกจากจะมีความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังดูสวยงามมากกว่าด้วย
และออกแบบประตูทางเข้าคนเดินแยกต่างหากที่ด้านข้างของซุ้มให้คนสามารถเดินเข้า – ออกได้อย่างปลอดภัยแยกกับรถยนต์
เครื่องรับสัญญาณ Access Card และกล้อง CCTV จับภาพป้ายทะเบียนรถและหน้าคนขับค่ะ
ภาพมองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
จากซุ้มทางเข้าโครงการจะเชื่อมกับถนนหลักกว้าง 12 เมตรนำเข้าสู่ด้านในโครงการ 2 ข้างทางปลูกต้นไม้สร้างพื้นที่สีเขียวปรับอารมณ์ (ซึ่งในอนาคตพื้นที่ทางฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ขายของโซนบ้านแฝดนะคะ)
เมื่อเราตรงเข้ามาด้านในจะเจอทางแยกโดยมีสวนสาธารณะและคลับเฮ้าส์อยู่ตรงกลาง ถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายมือจะเป็นโซนบ้านแฝดนะคะ และถ้าเลี้ยวไปทางขวามือจะเป็นสำนักงานขาย บ้านตัวอย่าง และโซนของทาวน์โฮมค่ะ
และนี่ก็คือบ้านตัวอย่างของบ้านแฝดนั่นเอง อยู่ทางฝั่งขวามือของเรา
จากถนนหลักเราเลี้ยวซ้ายเข้าไปดูโซนบ้านแฝดก่อน
เข้าสู่ซอยย่อยกว้าง 9 เมตร ที่ด้านหน้าบ้านทุกหลังจะมีฟุตบาท ปูหญ้า และปลูกต้นไม้สร้างความร่มรื่นให้
กลับมาที่ถนนหลักเราเลี้ยวขวาเข้าสู่โซนของทาวน์โฮมกันบ้าง
ซึ่งหลังที่อยู่ด้านหน้าเลยจะเป็นบ้านตัวอย่างและพื้นที่สำนักงานขายค่ะ
::: สวนสาธารณะ และ คลับเฮ้าส์ :::
คราวนี้เราจะเดินเข้าไปสำรวจดูพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันบ้างค่ะ ซึ่งตำแหน่งจะตั้งอยู่ใจกลางโครงการเลย เริ่มจากพื้นที่สวนสาธารณะกันก่อน
สวนสาธารณะของโครงการมีการออกแบบมาเป็นอย่างดีเลยค่ะ ภายในสวนมีการปูพื้นหญ้า ปลูกต้นไม้คลุมดิน ไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นเพื่อให้ร่มเงาได้ในอนาคต บรรยากาศสวยงามเหมาะสำหรับมาเดินเล่นพักผ่อนในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น
ภายในสวนมีการทำพื้นทางเดินคอนกรีตโดยรอบให้ นอกจากจะใช้เดินเล่นแล้ว สำหรับสายรักสุขภาพแบบ Outdoor ยังสามารถใช้เป็น Jogging Track ได้อีกด้วยนะ
จากสวนด้านหน้าจะเชื่อมกับพื้นที่สนามหญ้าโล่งขนาดใหญ่ซึ่งเหมาะสำหรับกิจกรรมของครอบครัวและเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตีแบตมินตันด้วยกัน หรือนั่งปิกนิกด้วยกัน และเหมาะเป็นพื้นที่สำหรับเด็กๆ ให้มาวิ่งเล่นได้
โดยทางโครงการได้จัดม้านั่งพักผ่อนโดยรอบสวนให้ เป็นมุมนั่งเล่นที่ดูมีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยด้วยไม้ระแนงที่เสมือนเป็นตัวแบ่งเขตพื้นที่
ภาพบรรยากาศโดยรวมภายในสวนค่ะ
นอกจากนี้บริเวณด้านหลังคลับเฮ้าส์ก็จะมีสนามเด็กเล่นจัดเอาไว้ให้ด้วย ภายในมีเครื่องเล่นให้อยู่หลายชิ้น โดยพื้นสนามปูด้วยแผ่นกระเบื้องยาง ช่วยลดแรงกระแทกและการถลอกได้ ทำให้ปลอดภัยและเหมาะสำหรับเด็กเล็กมากๆ
จากสวนพักผ่อนจะมีทางเดินเชื่อมต่อมายังลานน้ำพุ ซึ่งจะเป็นชุดเชื่อมสู่คลับเฮ้าส์ด้วยค่ะ
และโดยรอบลานน้ำพุทางโครงการก็ได้จัดม้านั่งสำหรับนั่งพักผ่อนให้ เป็นมุมสงบอีก 1 มุม
เข้าไปดูในส่วนของคลับเฮ้าส์ของโครงการกันต่อที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Colonial ดูคลาสสิคไม่ตกยุค ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนดูหรู ตัดกับสีระแนงและกรอบประตูหน้าต่างสีดำ
ตัวคลับเฮ้าส์สามารถเข้าได้3 ทางนะคะ ทั้งจากฝั่งถนนหลักฝั่งทาวน์โฮม, จากลานจอดรถฝั่งขวามือ (ติดกับรั้วที่กั้นพื้นที่ก่อสร้างอยู่) และจากทางสวนสาธารณะตรงจุดเชื่อมกับลานน้ำพุฝั่งซ้ายมือ
เดินเข้ามาส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนแบบ Semi – Outdoor ค่ะ ซึ่งในอนาคตทางโครงการจะจัดชุดเก้าอี้พักผ่อนให้
เดินเข้ามาด้านในฝั่งซ้ายมือคือทางไปสระว่ายน้ำและห้องน้ำ ตรงกลางคือบันไดขึ้นชั้น 2 ไปยังฟิตเนส และฝั่งขวามือคือทางเข้าจากฝั่งลานจอดรถซึ่งจะเป็นทางลาดให้ผู้ที่ใช้รถเข็นสามารถ Access ได้
เริ่มจากสระว่ายน้ำกันก่อนค่ะ สระว่ายน้ำของโครงการเป็นสระระบบเกลือ มีขนาดใหญ่ถึง 5.5 x 13.5 เมตร เป็นขนาดที่เราสามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริง
โดยสระของที่นี่จะเป็นระบบน้ำล้น โดยน้ำจะล้นออกมาลงตะแกรงที่ถูกปิดด้วยหินกรวดแม่น้ำ ซึ่งตัวหินจะสามารถช่วยกรองเศษผม ฝุ่น หรือใบไม้ออกจากน้ำให้ก่อนได้ 1 ชั้น
ภายในสระจะแบ่งส่วนนึงเป็นพื้นที่สระเด็กและเป็นอ่างจากุซซี่ได้ในตัว
และพื้นที่ข้างสระก็ได้จัด Day Bed เอาไว้ให้สำหรับนอนพักผ่อนหย่อนใจ
ที่ด้านหลังของสระว่ายน้ำจะมีโซน Shower ให้สำหรับล้างเนื้อล้างตัวก่อนลงเล่นในสระน้ำ เราจะเห็นประตูอยู่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายคือห้องน้ำหญิง และฝั่งขวาคือห้องน้ำชายค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำหญิงกันค่ะ
ภายในห้องน้ำจะแบ่งเป็นส่วนอ่างล้างหน้าติดกระจกเงาให้พร้อมสำหรับเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำ
ด้านข้างมีตู้เก็บของเตรียมไว้ให้
และส่วนห้องน้ำกับห้องอาบน้ำค่ะ
นอกจากนี้ภายในคลับเฮ้าส์ยังมีห้องน้ำสำหรับคนชราหรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็นด้วยนะ
เราขึ้นไปดูฟิตเนสบนชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ (ประตูฝั่งขวามือที่เห็นคือห้องนิติบุคคลในอนาคต)
ขึ้นมาที่บนชั้น 2 แล้วเดินเข้าไปดูห้องฟิตเนสด้วยกันเลยค่ะ
พื้นที่ภายในห้องฟิตเนสมีขนาดค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว เครื่องออกกำลังกายแต่ละชิ้นจะถูกจัดวางอยู่ห่างๆ กันทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวกและไม่อันตราย โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันนั่นก็คือโซน Cardio และโซน Weight Training
ส่วน Weight Training ก็จะมีชุดดัมเบลพร้อมม้านั่งราบที่สามารถรับเบาะได้
และเครื่องออกกำลังกล้ามเนื้อช่วงอก ไหล่ แขน และขา
ส่วนโซน Cardio ก็จะมี ลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องเดินวงรี และจักรยานไฟฟ้าค่ะ
ภาพภายในฟิตเนสอีกมุมมองนึง
จากบนฟิตเนสเรามองลงไปได้วิวสวนและสระว่ายน้ำค่ะ
:::: บ้านตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านของเราไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็น ทาวน์โฮม Prime ขนาด 100 ตร.ม. และตามด้วย บ้านแฝด Royal ขนาด 125 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า ?
::: ทาวน์โฮม Prime ขนาด 100 ตร.ม. :::
ภาพหน้าบ้าน Prime เป็นพรีเมี่ยมทาวน์โฮมที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern แต่ยังคงความ Classic ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูด้วยตัวบ้านโทนสีเทาเข้มและเทาอ่อน เพิ่มดีเทลด้วยผนังลายอิฐ ตัดด้วยกรอบประตู – หน้าต่างสีดำ
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 1 คันค่ะ หน้าบ้านจะมีพื้นที่สนามเล็กๆ ให้ด้วย ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังส่วนรับประทานอาหาร และพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ หลังบ้านก็จะมีลานซักล้างขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถต่อเติมให้เป็นครัวไทยและห้องซักรีดเพิ่มเติมได้ ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 จะอยู่บริเวณพื้นที่ใต้บันได พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับ 3 – 4 คน เหมาะสมสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก – กลางค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน ห้องนอนใหญ่จะอยู่ส่วนด้านหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้านจึงมีขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ภายในห้องนอนเล็กจะสามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุต และวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างลงตัว ส่วนห้องน้ำชั้น 2 จะอยู่ตรงกลางโถงบันได จะเป็นห้องน้ำที่ใช้รวมระหว่างห้องนอนทุกห้องนะคะ
รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน
เรามาดูหน้าตาบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบภายกันก่อนค่ะ เราจะได้เห็นหน้าตาบ้าน, รั้วบ้าน และโรงจอดรถของจริงว่าเป็นอย่างไร หน้าตาบ้านก็จะเป็นสไตล์ Modern ดูคลาสสิคแบบนี้เลย
ประตูรั้วบ้านเป็นระแนงเหล็ก 4 ตอน สามารถพับเปิด – ปิดได้
ที่หน้าบ้านมีกริ่งออดและ Mail Box สกรีนป้ายเลขที่บ้านติดให้เรียบร้อย
เข้ามาภายในโรงจอดรถพื้นเป็น Slab on Ground ผิวซีเมนต์ปาดเรียบสามารถจอดได้ 1 คันพอดี ภายในมีตู้สำหรับเก็บของให้ ตรงฝ้าเพดานติดดวงโคมซาลาเปาเป็นไฟแสงสว่างให้ค่ะ
และบริเวณหน้าบ้านก็จะมีพื้นที่สวนขนาดย่อมปูหญ้าให้ตามมาตรฐานของโครงการ
แบบบ้านตัวอย่าง
คราวนี้เรากลับมาดูที่บ้านตัวอย่างกันต่อ
ทางโครงการจะติดหลังคากันสาดบริเวณเฉลียงทางเข้าบ้านมาให้ด้วยเลย ซึ่งตัวกันสาดสามารถพับเก็บได้ด้วยนะ
เดินเข้าไปถึงเฉลียงทางเข้าบ้าน ทำสเต็ปยกระดับขึ้นมาจากพื้นขึ้นมาประมาณ 15 ซม. ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนพื้นบ้านด้านในยกระดับขึ้นมาอีก 10 ซม. ช่วยกันน้ำไหลย้อนเข้าบ้าน บนฝ้าติดดวงโคมซาลาเปาให้ 1 ดวง เราจะเห็นช่องแสงของบ้านอย่างชัดเจน มองเข้าทะลุผ่านเข้าไปในตัวบ้านก็ดูสว่างดีค่ะ
ประตูบ้านได้เป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมพร้อมกระจกเขียวตัดแสง
มือจับประตูภายในและภายนอกค่ะ
พร้อมตัวล็อคท้ายบานประตูเพิ่มความหนาแน่น
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหาร, แพนทรี่ ทางขวามือจะเป็นโถงบันได, ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป Precast ฉาบเรียบทาสีเก็บงานด้วยบัวผนังไม้สำเร็จรูป
ฝ้าเพดานใช้ฝ้ายิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบค่ะ สูง 2.6 เมตร ติดดวงโคมซาลาเปาให้ทั้งหลัง
เรามาดูการจัดการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกันต่อ
ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟ และอาร์มแชร์ หรือจะวางเป็นโซฟาเบดก็มีที่พอ
ผนังฝั่งชั้นวางทีวีจะเป็นพื้นที่ตรงโรงจอดรถที่เซ็ทเข้ามา ระยะทีวีตรงนี้กว้างพอสมควรค่ะ ดูทีวีจอขนาด 50 – 55 ได้สบายๆ เราสามารถทำชั้นวางทีวีเพิ่มได้เพื่อเก็บของให้เป็นระเบียบ สังเกตบริเวณมุมกำแพงจะมีหน้าต่างบาน Fixed เป็นช่องแสงให้
ภาพภายในห้องนั่งเล่นอีก 1 มุม
จากห้องนั่งเล่นเรามองไปทางห้องน้ำ, ห้องรับประทานอาหาร และห้องอเนกประสงค์ค่ะ
พื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารก็ยังเหลือนะ ตรงนี้เราสามารถวางตู้เก็บของ, โต๊ะทำงาน หรืออาจจะวางโซฟาที่มีขนาดใหญ่กว่านี้แทนได้ค่ะ
มองย้อนกลับไปอีกฝั่งก็คือห้องน้ำและโถงบันได เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
พื้นโถงหน้าห้องน้ำจะลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม.
ส่วนพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปอีก 5 ซม.เพื่อกันน้ำไหลย้อน
พื้นที่ห้องน้ำจะเป็นทรง L Shape นะคะ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 20 x 40 ซม. และกระเบื้องตกแต่ง สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันค่ะ อ่างล้างมือจะเป็นแบบแขวนผนัง มีฝาครอบท่อดักกลิ่นให้เรียบร้อย ขนาดกำลังดี พร้อมกระจกเงา
อ่างเป็นทรงกลมมีขนาดกำลังดีค่ะ ขอบอ่างพอจะวางพวกขวดสบู่และของใช้กระจุกกระจิกได้บ้าง ติดตั้งก๊อกน้ำแบบก้านโยกซ้าย – ขวามาให้เรียบร้อย
ถัดจากอ่างล้างมือเป็นโซนอาบน้ำค่ะ ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำแบบสายอ่อนมาให้
เราเทียบขนาดฝักบัวให้ดูกับมือนะ มีขนาดกำลังดี
และติดตั้งจานวางสบู่มาให้ด้วย
อีกฝั่งนึงติดตั้งโถสุขภัณฑ์พร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน ระยะการติดตั้งกว้างรวม 90 ซม. ทำให้นั่งได้สบายไม่อึดอัด
ด้านหลังของโถสุขภัณฑ์ก่อ Lower Wall มาให้ สามารถใช้วางพวกหนังสืออ่านเล่นในห้องน้ำได้ ส่วนช่องแสงของห้องจะอยู่เหนือโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ดูระยะระหว่างโซนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ จะเห็นว่าเราไม่สามารถติดตั้ง Shower Box ตรงนี้ได้เพราะจะทำให้พื้นที่แคบจนเกินไปนะ
เราไปดูส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัวกันต่อ
พื้นที่ของห้องอาหารจะพอดีกับโต๊ะขนาด 6 ที่นั่ง ลองวางโต๊ะและเก้าอี้ดูแล้วระยะนั่งก็สบายๆ ไม่อึดอัด จะต่อเก้าอี้เพิ่มที่หัว – ท้ายโต๊ะในวันที่มีแขกก็ยังพอทำได้ค่ะ
พื้นที่ด้านหลังยังเหลือสามารถทำเป็นแพนทรี่เล็กๆ หรือครัวฝรั่งได้ แต่ถ้าจะปรุงอาหารตรงนี้ด้วยอาจจะต้องใช้โต๊ะรับประทานอาหารเป็นพื้นที่ในการช่วยเตรียมอาหารนะคะ
ซึ่งบริเวณกำแพงด้านหลังก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
ระยะระหว่างโต๊ะและเคาน์เตอร์ยังเหลือสามารถยืนเตรียมอาหารได้สะดวก ถ้าเราใช้โต๊ะเล็กกว่านี้ประมาณ 4 ที่นั่ง เราสามารถขยายขนาดเคาน์เตอร์ให้เป็นแบบ L Shape ได้เลยนะ
จากห้องรับประทานอาหารเรามองไปทางฝั่งขวามือก็คือห้องอเนกประสงค์นั่นเองค่ะ
ห้องอเนกประสงค์นับว่ามีพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ตรงนี้นับว่าเป็นส่วน Free Style ของผู้อยู่อาศัยที่จะจัดห้องนี้ได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองเลย ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนชมสวน, ห้องนั่งทำงาน, ห้องซ้อมดนตรี, ห้องนอนผู้สูงอายุ, ห้องเลี้ยงเด็ก หรือสำหรับคนที่ชอบทำขนมหรือทำอาหาร ก็สามารถปรับเปลี่ยนห้องนี้ให้กลายเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ได้เลย
โดยทางบ้านตัวอย่างได้จัดห้องนี้ให้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนจิบน้ำชาพร้อมชมสวนภายนอก ซึ่งจริงๆ แล้วบ้านมาตรฐานจะไม่มีประตูทางเชื่อมกับพื้นที่หลังบ้านแบบนี้นะคะ จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมแทน
กลับเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร เราจะออกไปดูพื้นที่ด้านหลังบ้านกันต่อ
พื้นที่ด้านหลังบ้านเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นครัวไทย, ห้องซักรีด หรือฟังก์ชั่นอื่นๆ ก็ได้หมดค่ะ โดยทางโครงการจะทำพื้น Slab on Ground ผิวซีเมนต์ปาดหน้าเรียบมาให้ ลดระดับลงจากพื้นบ้านประมาณ 10 ซม.
ภาพรวมพื้นที่ด้านหลังบ้านหรือลานซักล้าง จะมีไฟกิ่งมาให้เป็นไฟแสงสว่าง พร้อมปลั๊กไฟสำหรับเครื่องซักผ้าค่ะ
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน
เราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ด้วยกันต่อเลยค่ะ บริเวณโถงบันไดกว้าง 0.9 เมตร ตามมาตรฐาน โครงสร้างบันไดใช้โครงเหล็ก ลูกนอนใช้เป็นไม้ยางพาราเข้ากันกับราวจับบันได
ภาพมุมมองจากโถงบันไดขึ้นไปยังชั้น 2
ภาพมองย้อนกลับลงไปที่ชานพักบันไดค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นทั้งหมดจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. เก็บงานด้วยบัวผนังสำเร็จรูป MDF ขนาด 5 มม. โถงบันไดจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องต่างๆ ฝั่งซ้ายคือห้องนอนใหญ่ ตรงกลางคือห้องน้ำชั้น 2 ส่วนฝั่งขวาคือห้องนอนเล็ก 2 ห้องค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่ชั้น 2 นั้นดูโปร่งโล่งมากๆ นั่นก็เพราะว่ามีฝ้าเพดานที่สูงเกือบถึง 3 เมตรเลย
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
เราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนใหญ่กันก่อน
เข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือ โซนพักผ่อนฝั่งซ้าย และโซนแต่งตัวฝั่งขวา จะเห็นว่าห้องมีขนาดใหญ่เพราะกว้างเท่ากับหน้าบ้าน ทั้งยังสว่างและโปร่งโล่งเพราะมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่เป็นช่องแสงให้ 2 บาน
เรามาดูการจัดสรรพื้นที่ภายในห้องกันค่ะเริ่มจากโซนพักผ่อนกันก่อน
ภายในโซนพักผ่อนทางบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูระยะการใช้งานค่ะ
ยังมีที่เหลือพอสำหรับโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่งเลยนะ
ระยะปลายเตียงก็ยังเหลือค่ะ สามารถเดินผ่านได้สะดวก ถ้าจะวางทีวีสามารถใช้ได้ทั้งทีวีแบบตั้งโต๊ะ และถ้าอยากใช้ทีวีแบบแขวนผนังเราจะต้องทำผนังเบาเป็นผนังตกแต่งขึ้นมา ซึ่งจะช่วยกั้นส่วนระหว่างห้องได้เป็นอย่างดี
ส่วนโซนแต่งตัวอีกฝั่ง เราสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้แบบนี้ และอาจจะแบ่งส่วนสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งด้วยก็ได้นะ
ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built – in รูปตัว L ได้เลยค่ะ
บริเวณโซนแต่งตัวจะมีประตูบานเลื่อนเชื่อมสู่ระเบียงห้องนอนได้
ระเบียงห้องนอนมพื้นที่ไม่ใหญ่มากค่ะ แต่สามารถเดินออกไปยืนรับลมชมวิวได้อยู่ โดยพื้นระเบียงจะมีระดับต่ำกว่าพื้นห้องนอนเล็กน้อย ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนราวกันตกใช้กระจกยึดด้วยโครงเหล็กทาสีน้ำมัน
กลับออกมาที่โถงบันได เราเข้าไปดูห้องน้ำชั้นบนกันต่อค่ะ
พื้นห้องน้ำชั้นบนก็จะลดระดับลงจากพื้นโถงบันไดเล็กน้อย
ภายในใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทุกประการ คือใช้กระเบื้องเซรามิกปูพื้นและผนังพร้อมกระเบื้องตกแต่ง ใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard ทั้งหมด แต่ห้องนี้จะมีขนาดที่กว้างขวางมากกว่าทำให้สามารถแบ่งโซนเปียกโซนแห้งได้ดีมากขึ้น และเป็นห้องที่ไม่มีหน้าต่าง แต่จะมีพัดลมดูดอากาศที่ช่วยในการระบายอากาศติดมาให้เรียบร้อยแล้ว
สุขภัณฑ์ภายในห้องใช้แบรนด์เดิมรุ่นเดิมทุกประการ ตรงด้านหลังอ่างล้างหน้าก่อ Lower Wall มาให้เพื่อวางของใช้กระจุกกระจิกต่างๆ
โถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
ข้างๆ กันคือโซนอาบน้ำติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนพร้อมจานวางสบู่มาให้ พื้นที่ยืนอาบน้ำตรงนี้จะกว้างประมาณ 0.9 x 0.9 เมตร ซึ่งเราสามารถติดตั้ง Shower Box แบบบานเลื่อนเข้ามุมได้เลยค่ะ
คราวนี้เราเข้าไปดูห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องกันต่อ เริ่มจากฝั่งซ้ายไปขวาค่ะ
ห้องฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน 3 ขนาดเล็กที่สุดของบ้าน แต่เนื้อที่ภายในห้องก็ยังสามารถจัดให้เป็นห้องนอนพร้อมเฟอร์นิเจอร์หลักๆ อย่างครบครันได้ สำหรับบ้านที่มีสมาชิกไม่เยอะมากนักสามารถจัดห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้ค่ะ ทางบ้านตัวอย่างออกไอเดียแต่งห้องนี้ให้เป็นห้องนั่งพักผ่อนและทำงานแบบชิวๆ
โดยจัดวาง Day Bed เอาไว้ให้ริมหน้าต่างเหมือน Bay Window พร้อมโต๊ะกาแฟและอาร์มแชร์อีก 1 ตัว แต่ถ้าเราจะจัดห้องนี้ให้เป็นห้องนอนแล้วจะสามารถวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตได้ โดยให้วางในตำแหน่งเดียวกันกับ Day Bed ค่ะ ส่วนพวกตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดมาตรฐานสามารถวางได้ที่ผนังอีกฝั่งนึง
ห้องฝั่งขวาเป็นห้องนอน 2 มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน 3 เล็กน้อยค่ะ ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งมาเป็นห้องนอนเด็กให้ดูเป็นไอเดีย
โดยสามารถวางเตียงนอนขนาด 3 – 3.5 ฟุตได้ที่ฝั่งริมหน้าต่างแบบนี้
พื้นที่อีกฝั่งสามารถจัดวางเป็นตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานขนาดมาตรฐานได้อย่างลงตัว
::: บ้านแฝด Royal ขนาด 125 ตร.ม. :::
ภาพหน้าบ้านแฝด Royal ที่ออกแบบมาในสไตล์บ้านเดี่ยว ดู Modern แต่ยังคงความ Classic ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูด้วยตัวบ้านโทนสีเทาเข้มและเทาอ่อน เพิ่มดีเทลด้วยลายเซาะร่องที่ผนัง ตัดด้วยกรอบประตู – หน้าต่างสีดำ
แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 2 คัน แม้จะเป็นบ้านแฝดแต่ก็มีพื้นที่สวนให้โดยรอบบ้านเลย ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังส่วนรับประทานอาหาร และโถงหน้าบันไดเชื่อมกับห้องน้ำและครัวไทย โดยส่วนรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่สามารถเปิดเชื่อมกับสวนหลังบ้านและลานซักล้างได้ พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับ 4 คน เหมาะสมสำหรับครอบครัวขนาดกลางค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน ห้องนอนใหญ่จะอยู่ส่วนด้านหน้าบ้าน ใช้พื้นที่เต็มหน้าบ้านจึงมีขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ภายในห้องนอนเล็กจะสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต และวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างลงตัว ส่วนห้องน้ำชั้น 2 จะอยู่ตรงกลางโถงบันได จะเป็นห้องน้ำที่ใช้รวมระหว่างห้องนอนทุกห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าห้องนอนห้องอื่นตรงที่มีประตูเชื่อมสู่ห้องน้ำอยู่ภายในห้องด้วย
รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน
เรามาดูหน้าตาบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบภายกันก่อนค่ะ หน้าตาบ้านก็จะเป็นสไตล์ Modern ดูคลาสสิคแบบนี้เลย ออกแบบมาให้เหมือนเป็นบ้านเดี่ยว มีเนื้อที่ดินเหลือโดยรอบบ้าน แต่จริงๆ แล้วเป็นบ้านแฝดนะคะเพราะมีโครงสร้างของหลังคาโรงจอดรถที่เชื่อมกัน
ประตูรั้วบ้านเป็นรั้วเลื่อนแบบ 2 ตอน สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้งหมด
ที่หน้าบ้านมีกริ่งออดและกล่อง Mail Box สกรีนเลขที่บ้านติดให้เรียบร้อย
และมีช่องเก็บขยะที่รั้วบ้าน เป็นจุดที่ทำให้ลูกบ้านสะดวกมากขึ้น โดยลูกบ้านจะสามารถทิ้งขยะได้จากภายในตัวบ้านได้เลย ทางส่วนกลางของโครงการจะมาเก็บขยะไปจากช่องด้านหน้ารั้วเอง
เข้ามาภายในโรงจอดรถพื้นเป็น Slab on Ground ผิวซีเมนต์ปาดเรียบสามารถจอดได้ 2 คันในร่มพอดี ภายในมีตู้สำหรับเก็บของให้ ตรงฝ้าเพดานติดดวงโคมซาลาเปาเป็นไฟแสงสว่างให้ 2 ดวงค่ะ
โดยรอบตัวบ้านก็จะมีเนื้อที่สำหรับจัดสวนได้เหมือนกับบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะหลังนี้ที่เป็นแปลงมุมจะมีพื้นที่สวนข้างบ้านกว้างมากๆ
แบบบ้านตัวอย่าง
เรากลับมาดูที่บ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ จากโรงจอดรถจะมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนมาถึงเฉลียงทางเข้าบ้าน พร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง
พื้นเฉลียงยกระดับขึ้นไป 2 สเต็ปสูงจากพื้น 20 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. จะเห็นว่าพื้นเฉลียงนั้นมีความกว้างขวางอยู่พอสมควรเลยค่ะ จุดนี้เราสามารถวางม้านั่งหน้าบ้านเพื่อเป็นจุดนั่งพักคอยหรือนั่งใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้านได้
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณความร้อนและความเข้มของแสงแดดที่จะส่องเข้าสู่ภายในบ้าน
เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหารซึ่งสามารถเปิดเชื่อมกับพื้นที่สวนและลานซักล้างหลังบ้านได้ ทางขวามือจะเป็น พื้นที่โถงบันได, ห้องน้ำ และห้องครัว ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป Precast ฉาบเรียบทาสีเก็บงานด้วยบัวผนังไม้สำเร็จรูป
ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด
จะเห็นว่าพื้นที่ภายในโถงหลักค่อนข้างกว้างขวางและโปร่งโล่งดีทีเดียว เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ล้อมรอบถึง 3 ด้านเลย ทั้งฝั่งหน้าบ้าน ข้างบ้าน และหลังบ้าน
โดยทุกบานจะเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำติดกระจกเขียวตัดแสงทั้งหมดนะ
มาดูไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟและอาร์มแชร์ หรือเราจะวางเป็นโซฟาเบดก็ได้นะ
แถมพื้นที่ข้างๆ โซฟายังสามารถวางโต๊ะทำงานและโต๊ะข้างเพิ่มเติมได้ หรือจะวางเป็นตู้โชว์ของก็ได้ค่ะ
บริเวณชั้นวางทีวีสามารถทำเป็นชั้นแบบ Built – in เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของที่ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น หรือจะตกแต่งด้วยกระจกบนผนังบางส่วนก็จะช่วยทำให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นได้ค่ะ โดยมีระยะการดูทีวีกว่า 2.5 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสำหรับการดูทีวีขนาดจอ 55 – 60 นิ้วได้เลย
เราไปดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อ
พื้นที่ตรงนี้ทางบ้านตัวอย่างจัดวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่จริงๆ แล้วเรายังสามารถต่อเก้าอี้หัว – ท้ายเพิ่มเป็น 6 ที่เลยก็ยังไหว
จะเห็นว่าฝั่งทางขวามือจะมีช่องหน้าต่างจากฝั่งห้องครัวให้เราสามารถส่งอาหารออกมาได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินอ้อมออกมาให้เสียเวลา
ภายในห้องจะได้ช่องแสงมาทั้ง 2 ด้าน เป็นหน้าต่างบานเลื่อน + บานฟิกซ์และประตูบานเลื่อน
ซึ่งประตูบานเลื่อนจะสามารถเปิดเชื่อมกับสวนหลังบ้านและลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ
โดยจะทำพื้นเฉลียงปูกระเบื้องเซรามิกให้กว้าง 60 ซม.
บริเวณหลังบ้านนี้ถือเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวเลยนะคะ ถ้าจะทำเป็นลานซักล้างทั้งหมดคงเสียดายแย่ จัดม้านั่งสักตัวสองตัว ต่อเติมหลังคาระแนงไม้ จัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆ กับชุดโต๊ะน้ำชาได้บรรยากาศที่ดีเลย
หันไปอีกฝั่งนึงทางโครงการทำพื้นลานซักล้างเอาไว้ให้เป็นพื้น Slab on Ground ผิวซีเมนต์ปาดหน้าเรียบมาให้ พร้อมก๊อกสนามและเต้าเสียบสำหรับเครื่องซักผ้า ใครที่ชอบห้องซักรีดแบบ Indoor ก็สามารถทำการต่อเติมเองได้นะ
ภาพรวมพื้นที่หลังบ้านระหว่างพื้นที่สวนสำหรับพักผ่อนและลานซักล้างค่ะ
กลับเข้ามาภายในบ้านเราจะเข้าไปดูในส่วนของโถงบันไดกันต่อ
จากโถงบันไดจะเชื่อมสู่ 3 ฟังก์ชั่นด้วยกัน ฝั่งซ้ายคือห้องครัว, ตรงกลางคือบันไดขึ้นชั้น 2 และฝั่งขวาคือห้องน้ำชั้นล่างค่ะ ตรงนี้นับว่ามีการออกแบบมาได้ลงตัวมากๆ และมีความ Private มากขึ้น ด้วยการเซ็ทโถงทางเดินเข้าไปเป็นจุดเชื่อมต่อของฟังก์ชั่นที่ไม่อยากทำให้ดู Public จนเกินไป
เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันก่อนค่ะ ประตูห้องครัวใช้บานสำเร็จรูปพร้อมติดลูกฟักกระจกนะ
พื้นที่ภายในห้องถือว่ามีขนาดกำลังดีเลยนะ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน พื้นที่ภายในห้องสามารถวางตู้เย็นและเคาน์เตอร์ครัวแบบ I Shape หรือ L Shape ได้
พอเว้นพื้นที่สำหรับตู้เย็นไซส์มาตรฐานแล้ว (ขนาดพื้นที่ 60 x 60 ซม.ค่ะ) ก็ยังเหลือพื้นที่เคาน์เตอร์เพียงพอสำหรับการติดตั้งอ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหาร และพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารด้วย
พอวางเคาน์เตอร์ครัวแล้วบรรดาพ่อบ้านแม่บ้านก็ยังเหลือพื้นที่สำหรับยืนปรุงอาหารกว้างประมาณ 90 ซม. ถือว่าได้มาตรฐานแล้ว ไม่อึดอัดค่ะ
กลับออกมาจากห้องครัวเราเข้าไปดูภายในห้องน้ำชั้นล่างกันต่อ
วัสดุพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. และขนาด 20 x 30 ซม. ภายในติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้ของ Cotto และ Prema ค่ะ
ส่วนพื้นภายในห้องน้ำก็ทำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำไหลย้อน
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือเป็นอ่างแบบแขวนผนัง มีขนาดกระทัดรัดสามารถใช้งานได้สะดวกของ Cotto ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกของ Prema ด้านหลังอ่างล้างมือต่อเนื่องไปถึงโถสุขภัณฑ์ก่อ Lower Wall มาให้สามารถใช้วางของได้
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto มาพร้อมกับอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
ฝั่งตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ พร้อมเจาะช่องที่ผนังเป็นชั้นวางสบู่ – แชมพูได้
โดยพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์จะต้องใช้ร่วมกันแบบนี้นะ จะไม่สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำได้ค่ะ
คราวนี้เราขึ้นบันไดไปดูพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 2 กันต่อ ส่วนบันไดจะใช้โครงสร้างเป็นโครงเหล็กและใช้ลูกนอนไม้ยางพาราค่ะ
มุมมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 สูงโปร่งดีค่ะ มีช่องแสงขนาดใหญ่มาให้ทำให้บริเวณโถงดูสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟเลย
ภาพจากชั้น 2 มองย้อนกลับลงมาที่ชานพักบันได
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นทั้งหมดจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. เก็บงานด้วยบัวผนังสำเร็จรูป MDF ขนาด 5 มม. โถงบันไดจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างห้องต่างๆ ฝั่งซ้ายคือห้องนอนใหญ่ ตรงกลางคือห้องน้ำชั้น 2 ส่วนฝั่งขวาคือห้องนอนเล็ก 2 ห้องค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่ชั้น 2 นั้นดูโปร่งโล่งมากๆ นั่นก็เพราะว่ามีฝ้าเพดานที่สูงเกือบถึง 3 เมตรเลย นอกจากนี้พื้นที่ตรงโถงบันไดยังสามารถทำตู้ Built – in เพื่อเก็บของและซ่อนความไม่เรียบร้อยได้ดีตามแบบบ้านตัวอย่าง
ภาพมองย้อนกลับไปที่โถงบันได
เราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนใหญ่กันก่อน
เข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกันคือ โซนพักผ่อนฝั่งซ้าย และโซนแต่งตัวฝั่งขวา จะเห็นว่าห้องมีขนาดใหญ่เพราะกว้างเท่ากับหน้าบ้าน ทั้งยังสว่างและโปร่งโล่งเพราะมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่เป็นช่องแสงให้ 3 บาน
เรามาดูการจัดสรรพื้นที่ภายในห้องกันค่ะเริ่มจากโซนพักผ่อนกันก่อน
ภายในโซนพักผ่อนทางบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ดูระยะการใช้งานค่ะ และยังมีที่เหลือพอสำหรับโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่งเลยนะ
และยังเหลือพอสำหรับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกระทัดรัดได้อีก 1 ตัว
ระยะปลายเตียงก็ยังเหลือค่ะ สามารถเดินผ่านได้สะดวก แต่แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังแทนทีวีแบบตั้งโต๊ะนะ
ส่วนโซนแต่งตัวอีกฝั่ง เราสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ทั้ง 2 ฝั่งของประตูทางเชื่อมเข้าห้องน้ำค่ะ
ดูพื้นที่แล้วกำลังเหลือสามารถยืนแต่งตัวได้อย่างสบายๆ
บริเวณโซนแต่งตัวจะมีประตูบานเลื่อนเชื่อมสู่ระเบียงห้องนอนได้
ระเบียงห้องนอนมพื้นที่ไม่ใหญ่มากค่ะ แต่สามารถเดินออกไปยืนรับลมชมวิวได้อยู่ โดยพื้นระเบียงจะมีระดับต่ำกว่าพื้นห้องนอนเล็กน้อย ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนราวกันตกใช้กระจกยึดด้วยโครงเหล็กทาสีน้ำมัน
หันกลับเข้ามาภายในห้อง เราจะเข้าไปดูภายในห้องน้ำชั้นบนกันต่อ
ภายในใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างทุกประการ คือใช้กระเบื้องเซรามิกปูพื้นและผนังพร้อมกระเบื้องตกแต่ง ใช้สุขภัณฑ์จาก Cotto และ Prema ทั้งหมด แต่ห้องนี้จะมีขนาดที่กว้างขวางมากกว่าทำให้สามารถแบ่งโซนเปียกโซนแห้งได้ดีมากขึ้น
ตรงโซนอาบน้ำจะกว้างประมาณ 0.9 x 0.9 เมตร ซึ่งเราสามารถติดตั้ง Shower Box แบบบานเลื่อนเข้ามุมได้เลยค่ะ
หันกลับไปฝั่งซ้ายมือคือประตูทางเข้าห้องน้ำจากฝั่งโถงบันได เป็นทางเข้าสำหรับห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และฝั่งขวาคือประตูทางเชื่อมจากห้องนอนใหญ่ค่ะ
คราวนี้เราไปดูห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องกันต่อ เริ่มจากห้องนอน 3 ฝั่งขวาไปห้องนอน 2 ฝั่งซ้าย
เราจะเห็นว่าที่หน้าห้องนอน 3 จะมีพื้นที่มุมเหลือหน้าห้อง เป็นจุดที่เหมาะมากสำหรับวางหิ้งพระเล็กๆ ค่ะ
ห้องฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน 3 ขนาดเล็กที่สุดของบ้าน แต่เนื้อที่ภายในห้องก็ยังสามารถจัดให้เป็นห้องนอนพร้อมเฟอร์นิเจอร์หลักๆ อย่างครบครันได้ สำหรับบ้านที่มีสมาชิกไม่เยอะมากนักสามารถจัดห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้ค่ะ ทางบ้านตัวอย่างออกไอเดียแต่งห้องนี้ให้เป็นห้องนั่งพักผ่อนและทำงาน
มุมฝั่งนึงจัดเป็นมุมนั่งทำงานเงียบๆ
และอีกฝั่งนึงจัดเป็นโซฟาขนาดกำลังดี ดูแล้วพื้นที่ห้องนี้สามารถรองรับเตียงนอนไซส์ 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้อย่างสบายๆ
ตามด้วยห้องนอน 2 เป็นห้องสุดท้าย มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน 3 เล็กน้อยค่ะ ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งมาเป็นห้องแต่งตัวอีก 1 ห้องให้ดูเป็นไอเดีย
ตำแหน่งที่วางโซฟาสามารถวางเป็นเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตได้
ส่วนพื้นที่อีกฝั่งก็จัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ตามนี้เลย
ถ้าวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ก็จะยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินให้เดินผ่านไปเปิดตู้เสื้อผ้าและยืนแต่งตัวได้อยู่นะ
นอกจากนี้ทั้งสวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Bticino ค่ะ
:::: ราคา (มีนาคม 2562) ::::
แบบบ้านทาวน์โฮม Prime
พื้นที่ใช้สอย 100.71 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 1 ที่จอดรถ
แบบบ้านแฝด Royal
พื้นที่ใช้สอย 125.35 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย และ 2 ที่จอดรถ
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://www.apthai.com/th/
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยมิตรไมตรี 17 ที่สามารถเข้าจากทางซอยประชาอุทิศ 60 และ 54 ได้ สภาพแวดล้อมของถนนประชาอุทิศนั้นจะมีความเป็นชุมชนค่อนข้างสูง คนอาศัยอยู่เยอะ เรียกว่าความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว พวกอาหารการกินนั้นหาง่ายมากๆ เพราะมี Tesco Lotus Market, Max Valu, ตลาดอีก 2 ตลาด และอยู่ใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี ที่เป็นแหล่งของกินของใช้ของเหล่านักศึกษา อีกทั้งยังมีที่ดินเปล่าเหลือพอให้พัฒนา และด้วยจุดเด่นของทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญๆ และทางด่วนได้อีกหลายสาย ทางลัดเลาะก็มีให้เลือกใช้ได้เยอะ
รวมทั้งการมาถึงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงสู่พื้นที่กรุงเทพชั้นใน และโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายในอนาคตมายังย่านบางปู ทำเลนี้จึงถือเป็นทำเลชานเมืองที่สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้สะดวกรวดเร็ว เรียกว่าเหมาะกับคนทำงานในเมืองย่าน พระราม 3, ยานนาวา, คลองเตย, สาทร หรือพระประแดง ราคาที่ดินก็นับว่าค่อนข้างสูงแล้วเพราะเป็นทำเลคุณภาพแต่ว่าหยิบจับง่ายกว่าโซนในเมืองมากๆ หลายเท่าตัว
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกมากๆ เนื่องจากตัวโครงการจะเชื่อมอยู่กับถนนหลักคือ ถนนประชาอุทิศ เป็นถนนเส้นที่เริ่มต้นจากจุดตัดถนนสุขสวัสดิ์ที่แยกประชาอุทิศ ตัดกับถนนพุทธบูชาที่แยกนาหลวง และสิ้นสุดที่ถนนคลองสรรพสามิตร ซึ่งจากถนนเส้นนี้จะสามารถใช้ซอยลัดต่างๆ ของถนนประชาอุทิศฝั่งเลขคี่ได้ ทั้งซอยประชาอุทิศ 69 และซอยประชาอุทิศ 70 สามารถวิ่งไปออกที่ ถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อไปขึ้นทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก และวงแหวนอุตสาหกรรมได้ ไปโซน พระราม 3, ยานนาวา, คลองเตย, สาทร, สมุทรปราการ, บางนา – สุวรรณภูมิ หรือแจ้งวัฒนะก็ได้หมด
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ซอยประชาอุทิศ 54 นั้นเป็นซอยหลักและมีชุมชนขนาดใหญ่ จึงมีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ รถกะป้อ รถแท็กซี่ อีกทั้งตรงหน้าปากซอยมิตรไมตรี 17 ก็ยังมีคิววินมอเตอร์ไซค์อยู่อีกคิวด้วย สามารถเรียกใช้บริการได้สะดวกเลยค่ะ และถ้าออกมาที่ถนนประชาอุทิศก็จะมีรถเมล์สาย 21 วิ่งผ่านด้วย
ส่วนรถไฟฟ้าในอนาคตจะมี รถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน – ราษฏร์บูรณะ) โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดก็คือ สถานีพระประแดง ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 6 กม. คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2567 เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางเข้าเมืองค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการนี้ทำทาวน์โฮมและบ้านแฝดออกมาในแนว Modern Colonial ที่ถอดเอกลักษณ์และกลิ่นอายของความเป็น Colonial ออกมาให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความ Classic และหรูหรามีจำนวนทั้งหมดเพียง 303 ยูนิต บนพื้นที่ 37 ไร่ เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมาก จึงทำให้ไม่แออัด การจัดบรรยากาศของโครงการทำออกมาได้ดีน่าอยู่อาศัย และวางผังของโครงการได้ดี
โครงการมีแบบบ้านด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกคือแบบบ้าน Prime เป็นพรีเมี่ยมทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์ และ ที่จอดรถ ใช้สีเทาอ่อน – เข้มเป็นสีพื้น และระแนงเหล็กสีดำ ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติมากขึ้น พื้นที่ภายในบ้านออกแบบให้โปร่ง เรียบง่าย ฟังก์ชั่นสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจผู้อยู่อาศัย แถมยังมีห้องอเนกประสงค์มาให้ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบการต่อเติมครัวนอกบ้านให้ยุ่งยาก ก็สามารถใช้ห้องอเนกประสงค์เป็นครัวไทยได้เลยนะ หรือจะทำเป็นห้องทำงาน – ห้องนอนผู้สูงอายุก็ทำได้อย่างลงตัวเพราะพื้นที่ห้องค่อนข้างกว้างทีเดียว ส่วนบนชั้น 2 ห้องนอนใหญ่มีขนาดที่ดีมากๆ ทำให้สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัว แต่จะมี Traffic การใช้ห้องน้ำในช่วง Rush Hour ได้นะคะเพราะมีห้องอาบน้ำอยู่ 2 ห้อง
แบบที่ 2 คือแบบบ้าน Royal เป็นบ้านแฝดสูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม. ฟังก์ชั่นขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ และ ที่จอดรถ 2 คัน มีการดีไซน์ให้เหมือนบ้านเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปลักษณ์ พื้นที่สวนรอบบ้าน และพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านก็ครบครันไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลย มีการดีไซน์แปลนบ้านได้ลงตัวมากๆ โดยจุดที่ชอบมากๆ ก็คือการเซ็ทโถงบันไดเข้าไปเป็นจุดซ่อนฟังก์ชั่นครัวไทย, ห้องน้ำ และบันได ซึ่งเป็นส่วนที่ควรจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร แถมจากห้องครัวจะมีช่องสำหรับส่งอาหารออกมาให้ที่ห้องรับประทานอาหารเป็นจุดที่ทำให้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังเลือกจุดเชื่อมต่อสวนทางฝั่งหลังบ้านแทนฝั่งข้างบ้าน ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเราได้พื้นที่พักผ่อนแบบ Outdoor ที่เป็นส่วนตัวมากกว่าจริงๆ ส่วนชั้น 2 ก็ทำออกมาได้ลงตัวค่ะ ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางกำลังดีโดยมีอภิสิทธิ์ที่มีประตูทางเชื่อมห้องน้ำชั้นบนโดยตรง ห้องนอนเล็กก็สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวค่ะ แต่จะมี Traffic การใช้ห้องน้ำในช่วง Rush Hour เช่นกัน
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย มีคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ และสนามเด็กเล่น รวมขนาดประมาณ 2ไร่ เรียกว่าได้ Facilities มาอย่างครบครันและพรีเมี่ยมเหมือนโครงการบ้านเดี่ยวเลยค่ะ ถือว่าเป็นข้อดีของตัวแบรนด์ Grande Pleno ที่รวมบ้านแฝดกับทาวน์โฮมมาอยู่ในโครงการเดียวกันทำให้ลูกบ้านทาวน์โฮมสามารถใช้ Facilities แบบ Full Option ได้ นอกจากนี้ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการก็ได้มาตรฐาน ดูแลตลอด 24 ชม. ประกอบด้วย ระบบ Access Card เข้า – ออกผ่านประตูรั้วเลื่อน ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนค่ะ และมีกล้อง CCTV ติดไว้ให้ทั่วโครงการ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.2 | ตั้งอยู่ในซอยมิตรไมตรี 17 ที่สามารถเข้าจากทางซอยประชาอุทิศ 54 และ 60 ได้ สภาพแวดล้อมมีความเป็นชุมชนสูง จึงมีสาธารณูประโภครองรับครบถ้วน |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | สามารถเข้า – ออกได้หลายเส้นทาง ใกล้ถนนสายหลัก และใกล้ทางด่วนถึง 3 สาย |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.5 | แม้จะไม่มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการโดยตรง แต่ซอยประชาอุทิศ 54 ก็มีรถสาธารณะและวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีพระประแดงมากนัก |
บ้านและวัสดุ | 7.7 | บ้านสไตล์ Modern Colonial แบบคลาสสิค ฟังก์ชั่นลงตัวและสามารถปรับเปลี่ยนตามใจผู้อยู่ได้ ส่วนวัสดุได้ก็มาตรฐาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | สิ่งอำนวยความสะดวกได้มาแบบ Full Option เหมือนโครงการบ้านเดี่ยว จุดนี้นับว่าคุ้มมากๆ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.1 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3 – 4 คน ที่ทำงานในเมืองย่านพระราม 3, พระราม 4, คลองเตย, ยานนาวา หรือสาทร แม้ที่ตั้งโครงการจะเรียกว่าอยู่ออกมาทางชานเมืองหน่อยแต่ก็อยู่ไม่ไกล สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก รวดเร็ว ในราคาที่สามารถหยิบจับได้ง่ายมากกว่า |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.97 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1623
สำนักงานขาย : 02 059 0453
WEBSITE : https://www.apthai.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
EP.2510 รีวิว ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า / Thana Residence Borom-Pinklao บ้านเดี่ยวหรู ที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.ว. ทุกแบบ บนทำเลติดถนนใหญ่บรมราชชนนี ใกล้ทางคู่ขนานลอยฟ้าและทางด่วน เริ่ม 16.9 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Homenayoo วันนี้เราขอพาทุกท่านไปชมบ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ ที่ดินเริ่มต้น 100
EP.2509 รีวิว ศุภาลัย พาร์ควิลล์ แยกเขางู SUPALAI Park Ville Yaek Khao Ngu บ้านเดี่ยวฟังก์ชันใหญ่ กลางเมืองราชบุรี พร้อมระบบ Home Automation เริ่ม 5.19 ล้านบาท* Written by : THAnATH สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคน วันนี้ผมพามาชมโครงการ SUPALAI Park Ville
EP.2508 รีวิว ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ท ราชพฤกษ์ The Article North Ratchaphruek บ้านหรู 3.5 ชั้น ดีไซน์สวยฟังก์ชันใหญ่ พร้อม Double Volume Living ใกล้ Robinson ราชพฤกษ์ เพียง 200 ม.* เริ่ม 15.9-28 ล้านบาท* Written by :
EP.2507 รีวิว โกลเด้น นีโอ ศิริราช-ราชพฤกษ์ Golden Neo Siriraj-Ratchapruek บ้านหรูสไตล์อังกฤษ ฟังก์ชันครบ ทำเลต้นราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า 5 นาที* ถึงทางด่วน เริ่ม 9.59-25 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Golden Neo
EP.2506 รีวิว สราญสิริ รังสิต 2 Saransiri Rangsit 2 บ้านเดี่ยว 4 นอน สไตล์ Modern Farmhouse บรรยากาศริมน้ำ ใกล้จุดลงทางด่วนเพียง 1 กม.* และรถไฟฟ้าสถานีรังสิต ราคา 7.99-20 ล้านบาท* Written by : Nin Yanin สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมบ้านเดี่ยวโครงการใหม่กับ
EP.2505 รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก / Supalai Ville Ratchaphruek-Kanchanapisek บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด สไตล์ Tropical Modern เดินทางสะดวก เพียง 1 กม. จาก ถ.กาญจนาภิเษก เริ่ม 3.69-8.29 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดี เพื่อน ๆ
EP.2504 รีวิว อัลพีน่า พระราม 2 ALPINA Rama 2 คฤหาสน์หรู 6 นอน 6 น้ำ 4 จอด สไตล์ยุโรป บนที่ดิน 100 ตร.ว.* พร้อม Private Pool ติดถนนใหญ่พระราม 2 เริ่ม 19 ล้านบาท* Written by :
EP.2503 รีวิว ศุภาลัย พรีโม่ อนุสาวรีย์ฯ ภูเก็ต / Supalai Primo Thep Kasatri & Sri Sunthon Heroines Monument Phuket ทาวน์โฮมและบ้านแฝดดีไซน์ใหม่ วัสดุประหยัดพลังงาน บนทำเลศักยภาพ ถนนเทพกระษัตรี ใกล้ Robinson ถลาง เพียง 1.2 กม.* เริ่ม 3.39 ล้านบาท*
EP.2502 รีวิว บ้านลลิล รังสิต-คลอง 2 Baan Lalin Rangsit-Klong 2 บ้านหรู 5 ห้องนอน ดีไซน์ฝรั่งเศส ใกล้ Future Park ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 3.89-7 ล้านบาท* Written by : Nan Kanyaratthp สวัสดีเพื่อน ๆ
EP.2501 รีวิว ไซมิส บลอสซั่ม พหลฯ-วิภาวดี / Siamese Blossom Phahol-Vibhavadi บ้านแฝดและทาวน์โฮมอิสระ สไตล์ Modern Tropical ทำเลดี ติดถนนพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ Future Park รังสิต เริ่ม 2.99 ล้าน* Written by : Pure Thitapa สวัสดีค่ะ เพื่อน
แสดงความคิดเห็น